ดูชื่อก็พอจะเดาความหมายได้ว่า อยู่ที่ชายทะเลตะวันออก เริ่มจากระยอง ผ่านจันทบุรี ไปถึงตราด
ถนนสายนี้เริ่มสร้างก็คง 5-6 ปีมาแล้วมั้ง เพราะเมื่อ 5 ปีก่อนตอนผมแข่งไตรกีฬาระดับ Half Ironman จากตราดมาจบที่อ่าวคุ้งกะเบน ทางก็เป็นรูปเป็นร่างแล้ว แต่ยังไม่สมบูรณ์
ปีนี้มาเยี่ยมพักกับน้องชายที่ อ บางกะไชย ไม่ห่างจากปากน้ำแคมหนู ชายหาดแหลมสเด็จ จันทบุรี อีกเช่นเคย แต่ก่อนจะมาปีละครั้ง เพราะยังทำงานอยู่ ตอนนี้ สว ตกงานแล้ว คิดว่า ปีนี้จะมาอยู่อย่างน้อย 4-5 ครั้งต่อปี
ที่สนใจจะสำรวจเส้นทางนี้เพราะทางจันทบุรีปลายสัปดาห์นี้ก็จะมีแข่ง 100km ใจเกินร้อยถนนสายนี้
ผมถึงเมื่อคืนเกือบเที่ยงคืน มากลับน้องชายเจ้าของบ้านทำนากุ้ง เขามาตรวจร่างกายที่ศิริราช แต่ก็ไม่ง่วงนอน นอนราวๆ ตี 2 กว่า ตื่น 7.15 เข้าห้องน้ำ ออกมาเปลียนเสือผ้าจักรยาน ถุงแขน โม่งคลุมหน้าจาก SDL Design ที่ซื้อในงานเมืองทองวันแรกเลย ทานกาแฟ และขนมหนึ่งชิ้น พกน้ำ ๑ กระบอก เงิน มือถือ ออกจากฟาร์ม ๗.๔๕ น ปั่นไปตามถนน เลี้ยวซ้ายเพื่อไปปากน้ำแขมหนูก็เข้าถนน เฉลิมบูรพาชลทิตเลียบชายทะเลผ่านสะพานข้ามปากน้ำแขมหนูก็เจอเนินสั้นๆ ชันพอควร ระดับจาน 2-3 ก็ผ่านได้ ทางบนเนินสำหรับจักรยานแคบมาก ราวๆ 1 ฟุตเท่านั้น แต่พอลงมาถึงชายหาด ทางจักรยานก็กว้างระดับ 1 เมตรโดยทั่วไป
ผมก็ปั่นไปเรื่อยๆ จนถึงวงกลมปลาพะยูน ปีก่อนๆ ผมตรงไปอ่าวคุ้งกะเบน แต่ปีนี้ ผมไม่เข้าแต่ไปตามถนน เฉลิมบูรพาชลทิต ทางจักรยานก็ยังมีอยู่เรื่อยๆ แต่บางทีก็ต้องออกมาปั่นในเลนถนน เพราะมีรถจอดหรือมีเศษแก้วบ้างแต่ไม่มากนัก
ระ
ใกล้ถึงก็มีเนินชันดูวิวที่มีพระยืนอยู่ด้วย ชันมากแต่สั้น แค่เกียร์ 1-3 ก็ผ่านได้สบาย มือใหม่อาจต้องจูง วิวจากจุดนี้มองไปอ่าวคุ้งวิมานสวยมาก แล้วปั่นมาชมอ่าวคุ้งวิมาน สวยที่สุดเมื่อเทียบกับ อ่าวกระทิง ปากน้ำแขมหนู อ่าวคุ้งกะเบน หรือแหลมสเด็จ พักชมวิว ราว ๕ นาทีก็ปั่นกลับ แวะซื้อขนมครกนั่งกิน 20 บาท ถึงบ้าน 10.45 ได้ระยะทางไปกลับราวๆ 60 ครับ
ขากลับแดดออกแล้ว โม่ง SDL กันแดดได้ดี หายใจสะดวกเพราะมีรู แต่ไม่ดีตรงที่เจอรถปิกอัพควันดำเร่งแซงไป กลิ่นเข้าจมูกเต็มที่เลย กันกลิ่นสูผ้าบัฟไม่ได้ แต่ก็หายใจได้สดวกกว่ามาก ได้อย่างก็เสียอย่างครับ ดีกว่าโม่งมอเตอร์ไซค์ 100 บาทที่ผมใช้มาหลายรุ่นในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา คุ้มราคา 100 บาทจากราคาปกติ 150 ครับ ถุงแขนไม่ต้องกล่าว ของเขาดีอยู่แล้ว ใช้มาก่อนหน้า 2 คู่
สรุป เป็นเส้นทางที่น่าปั่นมากในวันเสาร์เช้านี้ รถน้อย ร่มรื่น วิวดี มีเนินให้หัวใจเต้นแรงๆ พอควร
ข้อเสียคือ มีเศษแก้วสองสามแห่ง ต้องระวังให้ดีๆ และมีรถจอดในทางชั่วคราว เจอ 3 หนครับ
ปั่นเส้นทางนี้มีความสุขมากครับ แม้ว่าจะได้ระยะทางน้อยไปนิดแค่ 60 กม เอง
ปล รูปจาก Google ดู คห ล่างครับ ขออนุญาตด้วยครับ
Review เส้นทางจักรยานที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เฉลิมบูรพาชลทิต
ดูชื่อก็พอจะเดาความหมายได้ว่า อยู่ที่ชายทะเลตะวันออก เริ่มจากระยอง ผ่านจันทบุรี ไปถึงตราด
ถนนสายนี้เริ่มสร้างก็คง 5-6 ปีมาแล้วมั้ง เพราะเมื่อ 5 ปีก่อนตอนผมแข่งไตรกีฬาระดับ Half Ironman จากตราดมาจบที่อ่าวคุ้งกะเบน ทางก็เป็นรูปเป็นร่างแล้ว แต่ยังไม่สมบูรณ์
ปีนี้มาเยี่ยมพักกับน้องชายที่ อ บางกะไชย ไม่ห่างจากปากน้ำแคมหนู ชายหาดแหลมสเด็จ จันทบุรี อีกเช่นเคย แต่ก่อนจะมาปีละครั้ง เพราะยังทำงานอยู่ ตอนนี้ สว ตกงานแล้ว คิดว่า ปีนี้จะมาอยู่อย่างน้อย 4-5 ครั้งต่อปี
ที่สนใจจะสำรวจเส้นทางนี้เพราะทางจันทบุรีปลายสัปดาห์นี้ก็จะมีแข่ง 100km ใจเกินร้อยถนนสายนี้
ผมถึงเมื่อคืนเกือบเที่ยงคืน มากลับน้องชายเจ้าของบ้านทำนากุ้ง เขามาตรวจร่างกายที่ศิริราช แต่ก็ไม่ง่วงนอน นอนราวๆ ตี 2 กว่า ตื่น 7.15 เข้าห้องน้ำ ออกมาเปลียนเสือผ้าจักรยาน ถุงแขน โม่งคลุมหน้าจาก SDL Design ที่ซื้อในงานเมืองทองวันแรกเลย ทานกาแฟ และขนมหนึ่งชิ้น พกน้ำ ๑ กระบอก เงิน มือถือ ออกจากฟาร์ม ๗.๔๕ น ปั่นไปตามถนน เลี้ยวซ้ายเพื่อไปปากน้ำแขมหนูก็เข้าถนน เฉลิมบูรพาชลทิตเลียบชายทะเลผ่านสะพานข้ามปากน้ำแขมหนูก็เจอเนินสั้นๆ ชันพอควร ระดับจาน 2-3 ก็ผ่านได้ ทางบนเนินสำหรับจักรยานแคบมาก ราวๆ 1 ฟุตเท่านั้น แต่พอลงมาถึงชายหาด ทางจักรยานก็กว้างระดับ 1 เมตรโดยทั่วไป
ผมก็ปั่นไปเรื่อยๆ จนถึงวงกลมปลาพะยูน ปีก่อนๆ ผมตรงไปอ่าวคุ้งกะเบน แต่ปีนี้ ผมไม่เข้าแต่ไปตามถนน เฉลิมบูรพาชลทิต ทางจักรยานก็ยังมีอยู่เรื่อยๆ แต่บางทีก็ต้องออกมาปั่นในเลนถนน เพราะมีรถจอดหรือมีเศษแก้วบ้างแต่ไม่มากนัก
ระ
ใกล้ถึงก็มีเนินชันดูวิวที่มีพระยืนอยู่ด้วย ชันมากแต่สั้น แค่เกียร์ 1-3 ก็ผ่านได้สบาย มือใหม่อาจต้องจูง วิวจากจุดนี้มองไปอ่าวคุ้งวิมานสวยมาก แล้วปั่นมาชมอ่าวคุ้งวิมาน สวยที่สุดเมื่อเทียบกับ อ่าวกระทิง ปากน้ำแขมหนู อ่าวคุ้งกะเบน หรือแหลมสเด็จ พักชมวิว ราว ๕ นาทีก็ปั่นกลับ แวะซื้อขนมครกนั่งกิน 20 บาท ถึงบ้าน 10.45 ได้ระยะทางไปกลับราวๆ 60 ครับ
ขากลับแดดออกแล้ว โม่ง SDL กันแดดได้ดี หายใจสะดวกเพราะมีรู แต่ไม่ดีตรงที่เจอรถปิกอัพควันดำเร่งแซงไป กลิ่นเข้าจมูกเต็มที่เลย กันกลิ่นสูผ้าบัฟไม่ได้ แต่ก็หายใจได้สดวกกว่ามาก ได้อย่างก็เสียอย่างครับ ดีกว่าโม่งมอเตอร์ไซค์ 100 บาทที่ผมใช้มาหลายรุ่นในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา คุ้มราคา 100 บาทจากราคาปกติ 150 ครับ ถุงแขนไม่ต้องกล่าว ของเขาดีอยู่แล้ว ใช้มาก่อนหน้า 2 คู่
สรุป เป็นเส้นทางที่น่าปั่นมากในวันเสาร์เช้านี้ รถน้อย ร่มรื่น วิวดี มีเนินให้หัวใจเต้นแรงๆ พอควร
ข้อเสียคือ มีเศษแก้วสองสามแห่ง ต้องระวังให้ดีๆ และมีรถจอดในทางชั่วคราว เจอ 3 หนครับ
ปั่นเส้นทางนี้มีความสุขมากครับ แม้ว่าจะได้ระยะทางน้อยไปนิดแค่ 60 กม เอง
ปล รูปจาก Google ดู คห ล่างครับ ขออนุญาตด้วยครับ