เซเว่นฯแตกไลน์ร้านกาแฟพรีเมี่ยม ส่ง"เบลลินี่"เจาะไฮเอนด์-ขยาย " คัดสรร" 500สาขา

14 ก.พ. 2556 เวลา 19:34:05 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

        



ซี พี ออลล์ ปั้นร้านกาแฟพรีเมี่ยมแบรนด์ "เบลลินี่" สยายปีกนอกร้านเซเว่นฯเป็นครั้งแรก รองรับตลาดกาแฟบูม ชูคอนเซ็ปต์อิตาเลียนสไตล์ จุดขายกาแฟสดนำเข้า-เบเกอรี่อบ พร้อมเดินหน้าเปิดคัดสรรเพิ่ม 2 เท่า สิ้นปีแตะ 500 สาขา

ธุรกิจ ร้านกาแฟสดหรือกาแฟคั่วบดมูลค่าไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท เป็นตลาดที่มีแบรนด์ใหม่ ๆ กระโดดเข้ามาในสมรภูมินี้อยู่ตลอดเวลา ท่ามกลางความนิยมดื่มกาแฟที่สูงขึ้นต่อเนื่อง โดยอัตราการบริโภคกาแฟของคนไทยปัจจุบันอยู่ที่ 130 แก้วต่อคนต่อปี ซึ่งยังเป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับญี่ปุ่นและสหรัฐที่มีปริมาณการดื่ม คนละ 500 และ 700 แก้ว/ปี จึงเป็นโอกาสอีกมหาศาลในการขยายฐานลูกค้า

ราย ล่าสุดที่น่าจับตาเป็นพิเศษคือ "ซีพี ออลล์" ผู้บริหารร้าน "เซเว่นอีเลฟเว่น" ที่ได้เข้าสู่ธุรกิจกาแฟคั่วบดอย่างจริงจัง หลังจากได้แตกแบรนด์ "เบลลินี่" ร้านเบเกอรี่ คาเฟ่ ระดับพรีเมี่ยมเข้ามาทดลองตลาดเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ถือเป็นโมเดลใหม่ที่ต่อยอดมาจากร้านเบเกอรี่-กาแฟแบรนด์ "คัดสรร" ที่เปิดบริการอยู่ในร้านเซเว่นฯที่เปิดตัวเมื่อหลายปีก่อน

แตกแบรนด์ร้านกาแฟพรีเมี่ยม

นาย ปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่นอีเลฟเว่น กล่าวถึงการพัฒนาร้านกาแฟและเบเกอรี่ ภายใต้แบรนด์เบลลินี่ เบค แอนด์ บรู (Bellinee"s Bake&Brew By CPAll) ว่าเป็นโครงการทดลองตอบโจทย์ตลาดระดับบน อยู่ระหว่างศึกษาตลาด โดยวางโพซิชันนิ่งเป็นร้านกาแฟระดับไฮเอนด์ เปิดให้บริการตามศูนย์การค้า หากสำเร็จก็วางแผนขยายสาขาต่อไป ขณะที่ร้านกาแฟคัดสรรที่อยู่ในร้านเซเว่นฯ บริษัทยังไม่มีนโยบายขยายสาขานอกร้าน เพราะต้องการตอบโจทย์ความเป็นวันสต็อปเซอร์วิส

นายชรัส ลิขิตคุณวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และผู้บริหารกิจการคัดสรรและเบลลินี่ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปัจจุบันแม้ธุรกิจร้านกาแฟคั่วบดจะมีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ตลาดยังมีช่องว่างที่จะสอดแทรกเข้าไป สำหรับ "เบลลินี่" วางโพซิชันนิ่งเป็นร้านเบเกอรี่ คาเฟ่ ที่มีจุดเด่นเรื่องคุณภาพของกาแฟและเบเกอรี่อบสด เป็นการขยับขึ้นไปจับกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ หรือระดับบีถึงบีบวก ขณะที่แบรนด์ "คัดสรร" จะเจาะกลุ่มผู้บริโภคระดับแมสที่เข้ามาใช้บริการในร้านเซเว่นฯ

ผนึกพันธมิตรเล็งโกอินเตอร์

นาย ชรัสกล่าวว่า เบลลินี่วางคอนเซ็ปต์เป็นร้านกาแฟสไตล์อิตาเลียน ทั้งชื่อและบรรยากาศภายในร้านที่เน้นความคลาสสิก ให้ความรู้สึกเป็นกันเองและอบอุ่น มุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายครอบครัว นอกจากนี้ยังมีการนำเมล็ดกาแฟชื่อดังจากอิตาลีแบรนด์ "illy" เข้ามาให้บริการเพื่อสร้างความแตกต่างและยกระดับแบรนด์ให้พรีเมี่ยมขึ้น รวมถึงนำเข้ากาแฟขี้ชะมดจากอินโดนีเซียเข้ามาให้บริการอีกด้วย โดยระดับราคาวางไม่สูงจนเกินไป เพื่อให้แข่งขันได้ อยู่ในระดับ 40-65 บาท หากเป็นกาแฟ illy จะสูงขึ้นอยู่ที่ 70-120 บาท

สำหรับสาขาแรกตั้ง อยู่ที่แมกซ์ แวลู ในโครงการพลาซ่า ลากูน วังหิน พื้นที่ร้าน 64 ตร.ม. ใช้งบฯลงทุน 3 ล้านบาท เปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2555

คาด ว่าจะใช้เวลาทดลองตลาด 6 เดือนก่อนจะสรุปโมเดลที่ลงตัวในการขยายสาขาหลังจากนี้ อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ไม่ได้ปิดโอกาสในการเปิดสาขาใหม่ หากมีทำเลที่เหมาะสม โดยพื้นที่ร้านจะไม่เน้นขนาดใหญ่จนเกินไป เฉลี่ยอยู่ที่ 60-90 ตร.ม. เน้นทำเลใกล้ชุมชน โดยบริษัทเปิดกว้างสำหรับความร่วมมือกับพันธมิตรในศูนย์การค้าต่าง ๆ และในอนาคตยังมองโอกาสขยายไปต่างประเทศ ด้วยชื่อที่เป็นภาษาอิตาเลียน แต่เติมคำว่าบาย ซีพี ออลล์ เพื่อให้รับรู้ว่าเป็นบริษัทของคนไทย

"กลุ่ม ซีพีมีร้านกาแฟอยู่แล้ว ทั้งทรูคอฟฟี่ เชสเตอร์กริลล์ แต่สำหรับซีพี ออลล์ ถือเป็นครั้งแรกที่พัฒนาแบรนด์แยกออกมาเปิดนอกร้านเซเว่นฯ ถือเป็นการรุกธุรกิจกาแฟคั่วบดเต็มตัว ซึ่งเราพยายามสร้างความแตกต่างด้วยคอนเซ็ปต์ที่ไม่เหมือนเชนร้านกาแฟแบรนด์ อื่น บางแบรนด์มีแค่กาแฟ แต่เรารวมกาแฟสดคุณภาพเยี่ยม กับเบเกอรี่อบสด ๆ ที่ร้าน ทั้งนั่งทานในร้านและซื้อกลับบ้านได้"

ปูพรมร้านคัดสรร

ใน ส่วนร้านคัดสรร นายชรัสกล่าวว่า ถึงสิ้นปีมีแผนเปิดให้ถึง 500 สาขา เพิ่มขึ้น 2 เท่า จากปัจจุบันมี 245 สาขา ซึ่ง 2-3 ปีที่ผ่านมามีการดำเนินธุรกิจเชิงรุก ทั้งในแง่ของการปรับภาพลักษณ์ให้มีความ

ทันสมัย โลโก้ ฯลฯ เพื่อสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์และตัวผลิตภัณฑ์ให้มีความชัดเจน เฉพาะปีที่ผ่านมามีการเปิดถึง 100 สาขา

"โจทย์ หลักในการขยายสาขาไม่ได้เร็ว ก็คือบุคลากรที่ต้องมีความชำนาญในเรื่องกาแฟ ถ้าไม่ติดเรื่องคน เซเว่นฯมีเท่าไหร่ก็ไปได้เท่านั้น แต่เราไม่รีบร้อน ถ้าคนไม่พร้อม ไม่ได้มาตรฐาน เราก็จะไปอย่างช้าๆ"

ลุยเพิ่มเครื่องชงกาแฟในเซเว่นฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันการให้บริการกาแฟภายในร้านเซเว่นฯ แบ่งเป็น 3 โมเดล ได้แก่ ร้านคัดสรร, มุมกาแฟสำเร็จรูปชงน้ำร้อน, และล่าสุดคือการติดตั้งเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ที่เริ่มมาตั้งแต่ปีที่แล้ว 2 สาขา ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อเติมเต็มช่องว่างด้านราคา ระหว่างมุมกาแฟสำเร็จรูปกับร้านคัดสรร เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า ซึ่งภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้จะขยายอีก 10 สาขา