คนเสื้อแดงชอบข้อมูลบิดเบือน โบกกรักก็ชอบบิดเบือนข้อมูล น่ารังเกียจที่สุด(กรณีมหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร)

กระทู้สนทนา
อ้างอิงถึง
http://ppantip.com/topic/30139980

จากกรณีที่โบกกรักได้ตั้งกระทู้โจมตีคุณสุขุมพันธุ์ โดยอ้างถึงการริเริ่มมหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานครในปี 2553 นั้น
ได้หยิบเอาข้อมูลการร้องเรียนจากคณะแพทย์กรณีผอ.รพ.วชิรพยาบาล แต่กลับบิดเบือนข้อมูลข้อเท็จจริงดังกล่าว
เนื่องจากมูลเหตุเกิดขึ้นมากว่า 8 ปีแล้ว ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ถือว่าน่ารังเกียจมากในการกล่าวหาใส่ร้าย

ได้รับเป็นกระทู้แนะนำเสียด้วย แถมกล้าตั้งกระทู้ว่า ข้อเท็จจริงว่าด้วยการกำเนิดของ "มหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร" ที่คนบางคนอาจจะไม่รู้

หากโบกกเอาข้อมูลมาจากที่อื่น
ผมขอตำหนิว่าไม่มีความรอบคอบในการกลั่นกรองข้อมูล

แต่หากโบกกรักนั่งเทียนเอง
ผมขอประณามว่าน่ารังเกียจ

และขอถามคนในสังคมราชดำเนินแห่งนี้ ว่าคุณเห็นสมควรพิจารณาคนแบบนี้อย่างไร???

มาดูกัน

http://ppantip.com/topic/30139980/comment37

จากข้อมูลของโบกกรัก

22 กุมภาพันธ์ 2555 มหาวิทยาลัยแห่งนี้ มีข่าวฉาวโฉ่เรื่องการทุจริต จัดซื้อเครื่องซักผ้า มูลค่า 43 ล้านบาท ทั้งลดสเป็คเงื่อนไขการประกวดราคา  ทั้งแก้ไขทีโออาร์  ทั้งผิดระเบียบเรื่องการพัสดุ ที่หากมีโครงการใดจัดซื้อมีวงเงินสูงกว่า 1 ล้านบาท ต้องให้สำนักงานการแพทย์กรุงเทพมหานครเป็นผู้อนุมัติ  และทั้งแอบเปลี่ยนชื่อ “เครื่องซักผ้า” เป็น “เครื่องจักร” โดยเขียนว่า “การประกวดราคาเครื่องจักร 1 ระบบ” โดยผู้เข้าร่วมประมูลทั่วไปย่อมไม่ทราบว่า “เครื่องจักร 1 ระบบ” นั้นหมายถึงอะไร แต่มีเฉพาะคนในที่รู้ว่าเขาต้องการซื้อ “เครื่องซักผ้า” เท่านั้นที่ทราบสำหรับกรณีการจัดซื้อเครื่องจักร 1 ระบบ เป็นการใช้คำที่เจตนาให้ผู้ประกอบการรายอื่น ไม่ทราบว่า เป็นเครื่องจักรประเภทใด ทั้งที่จริงเป็นการประกวดราคาเครื่องซักผ้า สลัดผ้าอัตโนมัติ เครื่องอบผ้าระบบอุโมงค์ และเครื่องกำเนิดไอน้ำ

หลังจากนำคณะแพทย์ศาสตรวชิรพยาบาล มารวมกับมหาวิทยาลัยตามความต้องการของสุขุมพันธุ์แล้ว การบริหารที่ดีขึ้นกลับแย่ลงกล่าวคือ มีคดีที่อาจารย์หมอ นพ.ไวกูรฐ์ สถาปนาวัตร ตำแหน่งศัลยแพทย์วชิรพยาบาล ต้องมาร้องเรียนกับดีเอสไอ แฉให้ฟังว่า ตั้งแต่ผู้บริหารของคณะแพทย์ศาสตรวชิรพยาบาล กรุงเทพมหานครมาดูแลนั้น ปรากฏว่ามีการทุจริตอย่างมากมายอีก  นพ.ไวกูรฐ์กล่าวต่อว่า ผู้บริหารได้นำเงินงบประมาณ ที่ปกติควรจะใช้ซื้อหยูกยาดูแลคนไข้ แต่ปรากฏว่าผู้บริหารนำเงินไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่มีราคาสูงกว่าราคาตลาดถึง 3 เท่ามาใช้  ห้องผ่าตัดใหม่ที่สร้าง มาใหม่แพงมหาศาล ใช้เงินมากกว่า 100 ล้านบาท จนถึงวันนี้ก็ยังไม่สามารถเปิดใช้งาน   กรุงเทพมหานครไม่เคยดูแลคนทำงานในองค์กร แต่กลับนำเงินไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย จนทำให้การบริหารงานภายในโรงพยาบาลนั้นเป็นอุปสรรคต่อแพทย์และพยาบาล ส่งผลให้แพทย์ และพยาบาลทยอยลาออก โดยเฉพาะแพทย์ห้องผ่าตัด เอกซเรย์ ลาออกไปเหลือแค่ 4 คน และกำลังทยอยลาออกตอนสิ้นเดือนทั้งหมด  ซึ่งตอนนี้ห้องผ่าตัดกลายเป็นห้องร้างไปแล้ว

ข้อเท็จจริง

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/politics/20120210/435250/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%A7%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%9C%E0%B8%AD.%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A5.html

ประเด็นที่ 2. การจัดซื้อเครื่องจักร 1 ระบบ โดยในปี 2547-2548 มีการประกวดราคาจัดซื้อเครื่องจักร 1 ระบบ วงเงิน 34 ล้านบาท ทั้งนี้ การใช้คำว่าเครื่องจักรจำนวน 1 ระบบ ถือเป็นคำที่ส่อเจตนาให้ผู้ประกอบการไม่ทราบว่าเป็นเครื่องจักรประเภทใด ทั้งที่จริงคือการประกวดราคาจัดซื้อเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า และเครื่องกำเนิดไอน้ำ เท่านั้น เรื่องดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการแข่งขันราคาอย่างไม่เป็นธรรม ต่อมาสำนักการแพทย์ตรวจสอบพบว่า การประกวดราคาดังกล่าวมีการใช้เอกสารรับรองการเป็นตัวแทนจำหน่ายอันเป็นเท็จ จึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่สน.พลับพลาไชย รวมทั้งได้ร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สมัยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน แต่ยังไม่มีการสอบสวนหรือดำเนินการทางวินัยใด ๆ นอกจากนี้ยังพบว่าบริษัทที่ชนะการประมูล เป็นบริษัทที่เข้าผูกขาดการทำสัญญาจัดซื้อเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า อีกหลายเครื่องและผูกขาดการทำสัญญาจ้างเหมา การซ่อมบำรุง เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า และเครื่องกำเนิดไอน้ำมาจนถึงปัจจุบัน

นพ.ทวีวงษ์ จุลกมนตรี นพ.อนันต์ มโนมัยพิบูลย์ และนพ.อนวัช เสริมสวรรค์ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ให้เข้าตรวจสอบการกระทำที่น่าเชื่อได้ว่ามีการทุจริตในรพ.วชิรพยาบาลและมหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์กรุงเทพมหานคร โดยหนังสือร้องเรียนระบุว่าคณะแพทย์ตรวจสอบพบการกระทำที่น่าเชื่อว่าเข้าข่ายความผิดต่อหน้าที่ของนพ.ชัยวัน เจริญโชคทวี ผอ.วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล ในหลายประเด็น ประกอบด้วย โครงการสร้างห้องผ่าตัดบริเวณชั้น 5 อาคารเพชรรัตน์ ซึ่งได้รับงบประมาณปี 2545-2546 เป็นเงิน 100 ล้านบาท โดยนพ.ชัยวัน เป็นผู้รับผิดชอบการจัดซื้อครุภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ชั้น 5 ยังไม่เคยเปิดให้บริการกับผู้ป่วย และมีการล็อคกุญแจอย่างแน่นหนาทุกประตู
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่