D.I.Y. เปลี่ยนไส้กรองอากาศ และไส้กรองแอร์ รถยนต์ ISUZU ทุกๆ 20,000 Km. by Yai6000
วันนี้จะมานำเสนอ การตรวจเช็ค และเปลี่ยนอะไหล่สิ้นเปลือง ทำเองได้ไม่ยากครับ
ส่วนระยะในการตรวจเช็ค หรือเปลี่ยนอะไหล่ อาจจะยืดออกไปได้ ตามแต่ความสะดวก
และตังค์ในกระเป๋าของน้าๆ แต่ละท่านนะครับ ข้อดีของการที่เราทำเองได้ก็คือ ประหยัด
ตังค์เรื่องค่าแรงช่างในการซ่อมบำรุง และจะทำเองเมื่อไรก็ได้ครับ
1. ก่อนอื่นต้องเตรียมอะไหล่สิ้นเปลืองที่เราต้องการเปลี่ยนกันก่อน ตามคู่มือประจำรถ
ระบุว่าควรเปลี่ยน ไส้กรองอากาศทุกๆ 40,000 Km. ในกรณีใช้งานปกติ ส่วนไส้กรองแอร์
ไม่มีระบุในคู่มือ เนื่องจากมันไม่มีติดรถออกมาแต่แรก เราต้องหาทางติดตั้งเอาเอง
2. รถคันนี้ทำการเปิดถ้ำมาครับ สังเกตที่วงกลมสีเหลือง มีการเอาท่อที่ดูดจากข้างแก้มออกไป
ส่วนวงกลม สีแดง คือ ตัวล็อคฝาปิดหม้อกรองอากาศของเครื่องยนต์ VGS ครับ
ข้อดี ของการเปิดถ้ำ
2.1 รอบเครื่องยนต์มาไวกว่าเดิม เนื่องจากดูดอากาศดีกว่าเดิม
2.2 เสียงดูดอากาศ จากเทอร์โบดังชัดขึ้น (บางคนอาจจะไม่ชอบ)
2.3 ลองติดเครื่องยนต์แล้ว เอามือมาบัง ทดสอบแรงดูดได้
ข้อเสีย ของการเปิดถ้ำ
2.1 ไส้กรองอากาศ จะมีฝุ่นมากกว่าเดิม เนื่องจากเราทำการตัดตัวกรองหยาบ ข้างแก้ม ออกไป
2.2 ระวังน้ำเข้า ในกรณีลุยน้ำท่วมสูงมากๆ อาจจะงานเข้าน้ำเข้าเครื่อง
2.3 ต้องหมั่นถอดไส้กรองอากาศ ออกมาเป่าให้บ่อย หรืออาจจะเปลี่ยนให้ไวขึ้นกว่าเดิม
2.4 ความประหยัดจะลดลง เนื่องจากว่าเหยียบมันส์กว่าเดิม
3. เอาไส้กรองอากาศอันเก่าออกมาแล้วครับ สังเกตว่าจะมีฝุ่นผงบ้าง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ฝุ่นผงนี้ อยู่ในฝั่งที่ก่อนจะผ่านไส้กรองอากาศ ค่อยๆ ใช้ผ้าเปียกเช็ดถูทำความสะอาด
4. รูปเปรียบเทียบด้านบน ไส้กรองอากาศ VGS ซ้ายมืออันใหม่ ขวามืออันเก่า
ราคาไส้กรองอากาศเบิกแท้ ประมาณ 600 บาท
5. รูปเปรียบเทียบด้านล่าง ไส้กรองอากาศ ISUZU 3.0 VGS ซ้ายมืออันใหม่ ขวามืออันเก่า
ราคาไส้กรองอากาศเบิกแท้ ประมาณ 600 บาท
6. ถ่ายให้ดูด้านล่างใกล้ๆ ชัดๆ กันไปเลย ขวามือสภาพไส้กรองอากาศ ระยะทาง 20,000 Km.
ไม่เคยเป่าทำความสะอาดเลย เนื่องจากตามปั้ม เดี๋ยวนี้ไม่มีสายลมให้เป่าไส้กรองอากาศแล้ว
ถ้าไปล้างรถ แล้วให้เขาเป่าให้ จากท่าทาง และลักษณะในการถอดออกมา กลัวขาล็อคมันจะหัก
สู้ทำเองดีกว่า
7. ใส่ไส้กรองอากาศ เข้าไปในหม้อกรองอากาศแล้ว ดังรูป ทิศทางที่อากาศโดนเทอร์โบดูดเข้าไป
จากด้านล่าง ผ่านไส้กรองอากาศ แล้วขึ้นด้านบน ไปที่ท่อดูดอากาศเทอร์โบ
8. ตรวจสอบอีกครั้ง ก่อนที่จะปิดฝาหม้อกรองอากาศ ว่าไม่มีฝุ่นผง หรือว่าใบไม้ ตกหล่นอยู่
ไม่อย่างนั้น โดนเทอร์โบดูดเข้าไปตีเข้ากับใบเทอร์โบ งานเข้าแน่นอน
9. อุ๊ย.........ขอจับหม้อกรองอากาศหน่อย ล้วงเข้าไปแล้ว เจอแว้ว.........ไส้กรองอากาศ
คือ รถผมเอาท่อดูดข้างแก้มออกไปครับ ก็เลยเหลือแค่ท่อสั้นๆ ดังรูป
10. ตรวจหม้อ (กรองอากาศ) กันแล้ว มาตรวจหอย (เทอร์โบ) กันต่อ ไล่ตรวจเช็คดูตาม
ข้อต่อ ท่อยาง ไม่รั่ว ไม่ซึม ไม่เยิ้ม ไม่แฉะ ใช้ต่อกันไปโลด
11. เสร็จจากด้านนอกแล้ว มาทำการเปลี่ยนไส้กรองแอร์ด้านในครับ จากรูป
ใช้ไขควงปลายแฉก ทำการถอดสกรูที่ล็อคอยู่ออกมา
12. จากนั้น ใช้ประแจ ตัวทีเบอร์ 10 ทำการขันน็อตล็อค ทั้งสี่ตัวออกมา
13. ทำการเปิดฝาปิดไส้กรองแอร์ออกมา จะเห็นไส้กรองแอร์อันเก่า ดังรูป
14. ค่อยๆ ดึงไส้กรองแอร์อันเก่าออกมา สังเกตว่า สีเปลี่ยนเป็นสีดำเนื่องจากมันทำหน้าที่กรองฝุ่น ผง
ไม่ให้ไปเกาะที่แผงคอยด์เย็น เป็นการยืดอายุการใช้งานคอยด์เย็น และรักษาสุขภาพคนขับ อีกทางนึงด้วย
15. เปรียบเทียบกันหน่อย ซ้ายมือไส้กรองแอร์อันใหม่ ขวามือไส้กรองแอร์อันเก่า ใช้งานมา
20,000 Km. แล้วครับ ราคาไม่แพงครับ ประมาณ 200 บาท ต่อชิ้นครับ
16. มาดูกันใกล้ๆ ฝุ่น ผง ซากแมลง ที่ติดอยู่กับไส้กรองแอร์ ดีกว่าให้มันไปติดที่คอยด์เย็น
ใครที่บอกว่ากรองแอร์ ไม่มีประโยชน์ ทำให้แรงดันพัดลมไม่เย็น ขอให้คิดใหม่ครับ
17. มาล้างคอยด์เย็นกันเลยครับ เอาน้ำประปามาล้างกันแบบเห็นๆ รับรองไม่มีสารตกค้าง ประหยัดตังค์
ทำเองได้ บ่อยแค่ไหนก็ได้ รถรุ่นไหนล้างแอร์แบบถอดคอนโซล ราคา 3,000 บาท ของเราเอาน้ำมาฉีดใส่เลย
ไม่ต้องรื้อให้มันยุ่งยาก อย่าใช้น้ำแรงดันสูงฉีดใส่ เดี๋ยวจะกระเด็นไปโดนตรงส่วนอื่น ค่อยๆ เอาน้ำฉีด
เอาแปรงลงขัดๆ ถูๆ ไปเรื่อยๆ ถ้าใส่กรองแอร์มานานแล้ว แถบจะไม่มีฝุ่นให้เห็น
18. เมื่อใส่ไส้กรองแอร์ และล้างคอยด์เย็นบ้าง แล้วแต่โอกาส จะพบว่าฝุ่นผงที่คอยด์เย็นจะไม่ค่อยมี
ออกมาให้เห็นแล้ว แต่ถ้าใครยังไม่เคยล้าง ลองเอาไปทำดูครับ ผมทำมาหลายรอบแล้ว ว่างมาก....
19. ท่อน้ำทิ้งแอร์ ด้านล่างครับ โดยต่อสายยางจากท่อเดิมให้มันยาวขึ้น เพราะว่าไม่อยากให้มันหยด
ลงบนแชสซีรถนะครับ อันนี้เห็นคนอื่นเขาทำ ก็เลยทำบ้างครับ ทำมานานแล้วใช้งานได้ดีครับ ลองทำดู
ไม่ยากครับ ท่อยางน้ำประปา ที่ใช้งานทั่วไปครับ ตัดให้สายพอเหมาะ แล้วใช้เคเบิ้ลไทล์รัดให้แน่นครับ
20. หลังจาก สตาร์ทรถ เปิดพัดลมในรถ ทำการเป่าคอยด์เย็นจนแห้งแล้ว มาทำการใส่ไส้กรองแอร์กันต่อ
โดยให้หันหัวลูกศรตามลักษระ ดังรูป แล้วทำการประกอบคืนย้อนกลับขั้นตอน เป็นอันเรียบร้อย
D.I.Y. เปลี่ยนไส้กรองอากาศ และไส้กรองแอร์ รถยนต์ ISUZU ทุกๆ 20,000 Km. by Yai6000
วันนี้จะมานำเสนอ การตรวจเช็ค และเปลี่ยนอะไหล่สิ้นเปลือง ทำเองได้ไม่ยากครับ
ส่วนระยะในการตรวจเช็ค หรือเปลี่ยนอะไหล่ อาจจะยืดออกไปได้ ตามแต่ความสะดวก
และตังค์ในกระเป๋าของน้าๆ แต่ละท่านนะครับ ข้อดีของการที่เราทำเองได้ก็คือ ประหยัด
ตังค์เรื่องค่าแรงช่างในการซ่อมบำรุง และจะทำเองเมื่อไรก็ได้ครับ
1. ก่อนอื่นต้องเตรียมอะไหล่สิ้นเปลืองที่เราต้องการเปลี่ยนกันก่อน ตามคู่มือประจำรถ
ระบุว่าควรเปลี่ยน ไส้กรองอากาศทุกๆ 40,000 Km. ในกรณีใช้งานปกติ ส่วนไส้กรองแอร์
ไม่มีระบุในคู่มือ เนื่องจากมันไม่มีติดรถออกมาแต่แรก เราต้องหาทางติดตั้งเอาเอง
2. รถคันนี้ทำการเปิดถ้ำมาครับ สังเกตที่วงกลมสีเหลือง มีการเอาท่อที่ดูดจากข้างแก้มออกไป
ส่วนวงกลม สีแดง คือ ตัวล็อคฝาปิดหม้อกรองอากาศของเครื่องยนต์ VGS ครับ
ข้อดี ของการเปิดถ้ำ
2.1 รอบเครื่องยนต์มาไวกว่าเดิม เนื่องจากดูดอากาศดีกว่าเดิม
2.2 เสียงดูดอากาศ จากเทอร์โบดังชัดขึ้น (บางคนอาจจะไม่ชอบ)
2.3 ลองติดเครื่องยนต์แล้ว เอามือมาบัง ทดสอบแรงดูดได้
ข้อเสีย ของการเปิดถ้ำ
2.1 ไส้กรองอากาศ จะมีฝุ่นมากกว่าเดิม เนื่องจากเราทำการตัดตัวกรองหยาบ ข้างแก้ม ออกไป
2.2 ระวังน้ำเข้า ในกรณีลุยน้ำท่วมสูงมากๆ อาจจะงานเข้าน้ำเข้าเครื่อง
2.3 ต้องหมั่นถอดไส้กรองอากาศ ออกมาเป่าให้บ่อย หรืออาจจะเปลี่ยนให้ไวขึ้นกว่าเดิม
2.4 ความประหยัดจะลดลง เนื่องจากว่าเหยียบมันส์กว่าเดิม
3. เอาไส้กรองอากาศอันเก่าออกมาแล้วครับ สังเกตว่าจะมีฝุ่นผงบ้าง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ฝุ่นผงนี้ อยู่ในฝั่งที่ก่อนจะผ่านไส้กรองอากาศ ค่อยๆ ใช้ผ้าเปียกเช็ดถูทำความสะอาด
4. รูปเปรียบเทียบด้านบน ไส้กรองอากาศ VGS ซ้ายมืออันใหม่ ขวามืออันเก่า
ราคาไส้กรองอากาศเบิกแท้ ประมาณ 600 บาท
5. รูปเปรียบเทียบด้านล่าง ไส้กรองอากาศ ISUZU 3.0 VGS ซ้ายมืออันใหม่ ขวามืออันเก่า
ราคาไส้กรองอากาศเบิกแท้ ประมาณ 600 บาท
6. ถ่ายให้ดูด้านล่างใกล้ๆ ชัดๆ กันไปเลย ขวามือสภาพไส้กรองอากาศ ระยะทาง 20,000 Km.
ไม่เคยเป่าทำความสะอาดเลย เนื่องจากตามปั้ม เดี๋ยวนี้ไม่มีสายลมให้เป่าไส้กรองอากาศแล้ว
ถ้าไปล้างรถ แล้วให้เขาเป่าให้ จากท่าทาง และลักษณะในการถอดออกมา กลัวขาล็อคมันจะหัก
สู้ทำเองดีกว่า
7. ใส่ไส้กรองอากาศ เข้าไปในหม้อกรองอากาศแล้ว ดังรูป ทิศทางที่อากาศโดนเทอร์โบดูดเข้าไป
จากด้านล่าง ผ่านไส้กรองอากาศ แล้วขึ้นด้านบน ไปที่ท่อดูดอากาศเทอร์โบ
8. ตรวจสอบอีกครั้ง ก่อนที่จะปิดฝาหม้อกรองอากาศ ว่าไม่มีฝุ่นผง หรือว่าใบไม้ ตกหล่นอยู่
ไม่อย่างนั้น โดนเทอร์โบดูดเข้าไปตีเข้ากับใบเทอร์โบ งานเข้าแน่นอน
9. อุ๊ย.........ขอจับหม้อกรองอากาศหน่อย ล้วงเข้าไปแล้ว เจอแว้ว.........ไส้กรองอากาศ
คือ รถผมเอาท่อดูดข้างแก้มออกไปครับ ก็เลยเหลือแค่ท่อสั้นๆ ดังรูป
10. ตรวจหม้อ (กรองอากาศ) กันแล้ว มาตรวจหอย (เทอร์โบ) กันต่อ ไล่ตรวจเช็คดูตาม
ข้อต่อ ท่อยาง ไม่รั่ว ไม่ซึม ไม่เยิ้ม ไม่แฉะ ใช้ต่อกันไปโลด
11. เสร็จจากด้านนอกแล้ว มาทำการเปลี่ยนไส้กรองแอร์ด้านในครับ จากรูป
ใช้ไขควงปลายแฉก ทำการถอดสกรูที่ล็อคอยู่ออกมา
12. จากนั้น ใช้ประแจ ตัวทีเบอร์ 10 ทำการขันน็อตล็อค ทั้งสี่ตัวออกมา
13. ทำการเปิดฝาปิดไส้กรองแอร์ออกมา จะเห็นไส้กรองแอร์อันเก่า ดังรูป
14. ค่อยๆ ดึงไส้กรองแอร์อันเก่าออกมา สังเกตว่า สีเปลี่ยนเป็นสีดำเนื่องจากมันทำหน้าที่กรองฝุ่น ผง
ไม่ให้ไปเกาะที่แผงคอยด์เย็น เป็นการยืดอายุการใช้งานคอยด์เย็น และรักษาสุขภาพคนขับ อีกทางนึงด้วย
15. เปรียบเทียบกันหน่อย ซ้ายมือไส้กรองแอร์อันใหม่ ขวามือไส้กรองแอร์อันเก่า ใช้งานมา
20,000 Km. แล้วครับ ราคาไม่แพงครับ ประมาณ 200 บาท ต่อชิ้นครับ
16. มาดูกันใกล้ๆ ฝุ่น ผง ซากแมลง ที่ติดอยู่กับไส้กรองแอร์ ดีกว่าให้มันไปติดที่คอยด์เย็น
ใครที่บอกว่ากรองแอร์ ไม่มีประโยชน์ ทำให้แรงดันพัดลมไม่เย็น ขอให้คิดใหม่ครับ
17. มาล้างคอยด์เย็นกันเลยครับ เอาน้ำประปามาล้างกันแบบเห็นๆ รับรองไม่มีสารตกค้าง ประหยัดตังค์
ทำเองได้ บ่อยแค่ไหนก็ได้ รถรุ่นไหนล้างแอร์แบบถอดคอนโซล ราคา 3,000 บาท ของเราเอาน้ำมาฉีดใส่เลย
ไม่ต้องรื้อให้มันยุ่งยาก อย่าใช้น้ำแรงดันสูงฉีดใส่ เดี๋ยวจะกระเด็นไปโดนตรงส่วนอื่น ค่อยๆ เอาน้ำฉีด
เอาแปรงลงขัดๆ ถูๆ ไปเรื่อยๆ ถ้าใส่กรองแอร์มานานแล้ว แถบจะไม่มีฝุ่นให้เห็น
18. เมื่อใส่ไส้กรองแอร์ และล้างคอยด์เย็นบ้าง แล้วแต่โอกาส จะพบว่าฝุ่นผงที่คอยด์เย็นจะไม่ค่อยมี
ออกมาให้เห็นแล้ว แต่ถ้าใครยังไม่เคยล้าง ลองเอาไปทำดูครับ ผมทำมาหลายรอบแล้ว ว่างมาก....
19. ท่อน้ำทิ้งแอร์ ด้านล่างครับ โดยต่อสายยางจากท่อเดิมให้มันยาวขึ้น เพราะว่าไม่อยากให้มันหยด
ลงบนแชสซีรถนะครับ อันนี้เห็นคนอื่นเขาทำ ก็เลยทำบ้างครับ ทำมานานแล้วใช้งานได้ดีครับ ลองทำดู
ไม่ยากครับ ท่อยางน้ำประปา ที่ใช้งานทั่วไปครับ ตัดให้สายพอเหมาะ แล้วใช้เคเบิ้ลไทล์รัดให้แน่นครับ
20. หลังจาก สตาร์ทรถ เปิดพัดลมในรถ ทำการเป่าคอยด์เย็นจนแห้งแล้ว มาทำการใส่ไส้กรองแอร์กันต่อ
โดยให้หันหัวลูกศรตามลักษระ ดังรูป แล้วทำการประกอบคืนย้อนกลับขั้นตอน เป็นอันเรียบร้อย