คู่หยุดโลก!ผีบุกฟัดชุดขาว,โรบินวัดคมโด้:ชปล.
เกมการแข่งขันที่ทั่วทุกมุมโลกรอคอย ''ปีศาจแดง'' แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมแห่งเกาะอังกฤษ เตรียมจัดทัพเต็มอัตราศึกนำแผงระเบิดสกอร์โดย โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กับ เวย์น รูนี่ย์ เกมเคลื่อนพลออกเยือน ''ราชันชุดขาว'' เรอัล มาดริด โคตรทีมแห่งเมืองกระทิงดุ ที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงติดจรวดจะได้ปะะทะแข้งและพร้อมสังหารประตูทีมเก่าของตน ลุ้นระทึกได้ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก คืนวันพุธที่ 13 ก.พ. ศกนี้
ปรีวิว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556
เรอัล มาดริด (สเปน) - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)
สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
บิ๊กแมตช์รอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นการดวลกันระหว่าง ราชันชุดขาว เจ้าของแชมป์ยุโรป 9 สมัย พบกับ ปีศาจแดง ยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ
โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์ ราชันชุดขาว สิ้นหวังกับการลุ้นแชมป์ลีกฤดูกาลนี้แล้ว เพราะตามหลัง บาร์เซโลน่า มากถึง 16 คะแนน แถมยังตาม แอต.มาดริด รองจ่าฝูงอีก 4 แต้มด้วย
อย่างไรก็ตาม เกมลีกล่าสุดพวกเขาเอาฤกษ์เอาชัย ด้วยการเปิดบ้านถล่ม เซบีย่า 4-1 เมื่อวันเสาร์ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กดแฮตทริก และอีกประตูจาก คาริม เบนเซม่า
สภาพทีมมีปัญหารบกวนพอสมควร อิเกร์ กาซิยาส ประตูมือ 1 และกัปตันทีม กระดูกมือแตก ต้องพักยาวประมาณ 2 เดือน แถมยังต้องเช็กความฟิตของ ชาบี อลอนโซ่, เปเป้ และ ราฟาเอล วาราน
อลอนโซ่ มีปัญหาเจ็บที่กระดูกหัวหน่าว ลงซ้อมได้ไม่จบเซสชั่นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ต้องได้รับความดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์ เช่นเดียวกับ เปเป้ ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมา แต่คาดว่าจะพร้อมลงเล่นทั้งคู่
ข่าวดีคือ อัลบาโร่ อาร์เบลัว แบ็กขวาพ้นโทษแบนเกมยุโรป 1 นัดกลับมาแล้ว แต่ที่ต้องระวังโดนใบเหลืองเพิ่ม เพราะคาดโทษอยู่มี เซร์คิโอ รามอส กับ ชาบี อลอนโซ่
จากเกมลีกเมื่อวันเสาร์ มูรินโญ่ ตัดสินใจพัก เมซุต โอซิล กับ ซามี เคดิร่า นั่งสำรองทั้งคู่ ทำให้สดเต็มที่สำหรับเกมวันพุธนี้ เช่นเดียวกับ อังเกล ดิ มาเรีย ที่กลับมาฟิตสมบูรณ์
การจัดทัพ ดิเอโก้ โลเปซ เฝ้าเสา แผงหลัง อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, ฟาบิโอ โกเอนเตรา คู่กลาง ซามี เคดิร่า กับ ชาบี อลอนโซ่ ทำหน้าที่ตัวตัดเกม
แนวรุก อังเกล ดิ มาเรีย ประสานงานกับ เมซุต โอซิล และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ลงเจอทีมเก่าของตัวเอง ส่วนหน้าเป้า คาริม เบนเซม่า จะได้ลงก่อน กอนซาโล่ อิกวาอิน
ทางฝั่ง ปีศาจแดง จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ที่โอกาสกลับมาคว้าแชมป์ลีกสดใส หลังจากเกมล่าสุดเปิดบ้านชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 ทำให้ทิ้งห่างรองจ่าฝูง แมนฯ ซิตี้ เป็น 12 คะแนนแล้ว
ผลงานในลีกลูกทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่แพ้มา 14 นัดติดต่อกันแล้ว โดยเก็บชัยชนะถึง 12 นัด และเสมอ 2 นัด
สภาพทีมสมบูรณ์ขึ้น เมื่อแนวรุกได้ แอชลี่ย์ ยัง ปีกตัวจี๊ด หายเจ็บเข่ากลับมาเป็นตัวเลือก ขณะที่ ไมเคิ่ล แคร์ริค กองกลางตัวรับก็หายเจ็บสะโพก ลงสำรองเกมเมื่อวันอาทิตย์เรียบร้อย
ที่บาดเจ็บอยู่มีเพียง พอล สโคลส์ กองกลางตัวเก๋าที่เจ็บเข่า และ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ มิดฟิลด์อีกคนที่ผ่าตัดพักยาวถึงซีซั่นหน้า แต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับทีม
เฟอร์กี้ จะจัดตัวหลักลงเล่นต่อเนื่อง เริ่มจาก ดาบิด เด เคอา เป็นผู้รักษาประตู แผงหลัง ราฟาเอล ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า
แดนกลาง ไมเคิ่ล แคร์ริค จับคู่ตรงกลางกับ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ แนวรุก นานี่ กับ ชินจิ คางาวะ กลับมาประจำการ โดยมี เวย์น รูนี่ย์ เป็นหน้าต่ำ และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เป็นหน้าเป้า
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เรอัล มาดริด : ดิเอโก้ โลเปซ - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, ฟาบิโอ โกเอนเตรา - ซามี เคดิร่า, ชาบี อลอนโซ่ - อังเกล ดิ มาเรีย, เมซุต โอซิล, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - คาริม เบนเซม่า
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา - ราฟาเอล ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - ไมเคิ่ล แคร์ริค, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ - นานี่, เวย์น รูนี่ย์, ชินจิ คางาวะ - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ ไบรช์ (เยอรมัน)
เกร็ดความรู้คู่หยุดโลก เรอัล มาดริด - แมนฯ ยูไนเต็ด
- 8 ครั้งที่เรอัล มาดริด พบ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมยุโรป มีประตูเกิดขึ้นถึง 31 ประตู (3.9 ประตูต่อเกม)
- แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เคยบุกไปชนะเรอัล มาดริด ที่สเปน (เสมอ 2 แพ้ 2)
- "ปีศาจแดง" บุกเยือนเรอัล มาดริด ที่ซานติเอโก้ เบอร์นาเบว 4 ครั้ง มีถึง 3 ครั้งที่โดนยิงถึง 3 ประตู
- ทั้งสองทีมเจอกันครั้งล่าสุดต้องย้อนไป 10 ปีที่แล้ว โดยเรอัล มาดริด เอาชนะไปด้วยสกอร์รวมสองนัด 6-5
- แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปเยือนสเปน ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 13 เกม สามารถเอาชนะได้ 2 นัดเท่านั้น (เสมอ 7 แพ้ 4)
- "ราชันชุดขาว" ยิงประตูในถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก ไม่ได้ นัดเดียวจาก 31 เกมหลังสุด โดยเกิดในเกมพบบาร์เซโลน่า ที่เบอร์นาเบว เมื่อเดือนเมษายน 2011
- และนับตั้งแต่เกมนั้น "ทีมชุดขาว" ยิงประตูได้ถึง 33 ประตู จาก 9 เกมที่เล่นในเบอร์นาเบว
- เรอัล มาดริด ไม่สามารถรักษาคลีนชีตได้เลยในชปล. ซีซั่นนี้ โดยเสียถึง 9 ประตู นับว่ามากที่สุดของบรรดาทุกทีมที่ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์
- ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก 5 เกมหลังสุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียประตูให้คู่แข่งก่อนทุกนัด
- "ราชันชุดขาว" เป็นเจ้าของสถิติมีโอกาสยิงประตูมากที่สุด (126 ครั้ง) ร่วมกับยูเวนตุส นอกจากนั้นยังเป็นเจ้าของสถิติทำประตูจากนอกกรอบเขตโทษมากที่สุด (6 ประตู)
- ส่วน "ปีศาจแดง" เป็นเจ้าของสถิติยิงชนะเสา ชนคาน มากที่สุด ในชปล รอบแบ่งกลุ่ม
- คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ครองดาวซัลโวชปล. ซีซั่นนี้ ร่วมกับยูรัค ยิลมาซ ดาวยิงของกาลาตาซาราย ที่ 6 ประตู
- โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และฮาเวียร์ เอร์นานเดซ "ชิชาริโต้" ยิงประตูให้แมนฯ ยูไนเต็ด ในศึกชปล. 6 ประตูจาก 9 ประตูของทีมในซีซั่นนี้ โดยทั้งสองคนยิงได้คนละ 3 ลูก และ 3 ประตูของฟาน เพอร์ซี่ เกิดขึ้นในการเล่นเป็นทีมเยือน
- เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สามารถคุมทีมเอาชนะลูกทีมของโชเซ่ มูรินโญ่ ได้แค่ 2 ครั้งจาก 14 ครั้งที่พบกัน (เสมอ 6 แพ้ 6)
credit : www.siamsport.co.th
[กระทู้ผีแดง 2013-02-13] Preview รีลมาดริคvแมนฯยู & นานาทรรศนะแมทช์หยุดโลก & โซลชาอาสาสืบทอดเก้าอี้เฟอร์กี้
เกมการแข่งขันที่ทั่วทุกมุมโลกรอคอย ''ปีศาจแดง'' แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมแห่งเกาะอังกฤษ เตรียมจัดทัพเต็มอัตราศึกนำแผงระเบิดสกอร์โดย โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กับ เวย์น รูนี่ย์ เกมเคลื่อนพลออกเยือน ''ราชันชุดขาว'' เรอัล มาดริด โคตรทีมแห่งเมืองกระทิงดุ ที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงติดจรวดจะได้ปะะทะแข้งและพร้อมสังหารประตูทีมเก่าของตน ลุ้นระทึกได้ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก คืนวันพุธที่ 13 ก.พ. ศกนี้
ปรีวิว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556
เรอัล มาดริด (สเปน) - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)
สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
บิ๊กแมตช์รอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นการดวลกันระหว่าง ราชันชุดขาว เจ้าของแชมป์ยุโรป 9 สมัย พบกับ ปีศาจแดง ยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ
โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์ ราชันชุดขาว สิ้นหวังกับการลุ้นแชมป์ลีกฤดูกาลนี้แล้ว เพราะตามหลัง บาร์เซโลน่า มากถึง 16 คะแนน แถมยังตาม แอต.มาดริด รองจ่าฝูงอีก 4 แต้มด้วย
อย่างไรก็ตาม เกมลีกล่าสุดพวกเขาเอาฤกษ์เอาชัย ด้วยการเปิดบ้านถล่ม เซบีย่า 4-1 เมื่อวันเสาร์ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กดแฮตทริก และอีกประตูจาก คาริม เบนเซม่า
สภาพทีมมีปัญหารบกวนพอสมควร อิเกร์ กาซิยาส ประตูมือ 1 และกัปตันทีม กระดูกมือแตก ต้องพักยาวประมาณ 2 เดือน แถมยังต้องเช็กความฟิตของ ชาบี อลอนโซ่, เปเป้ และ ราฟาเอล วาราน
อลอนโซ่ มีปัญหาเจ็บที่กระดูกหัวหน่าว ลงซ้อมได้ไม่จบเซสชั่นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ต้องได้รับความดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์ เช่นเดียวกับ เปเป้ ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมา แต่คาดว่าจะพร้อมลงเล่นทั้งคู่
ข่าวดีคือ อัลบาโร่ อาร์เบลัว แบ็กขวาพ้นโทษแบนเกมยุโรป 1 นัดกลับมาแล้ว แต่ที่ต้องระวังโดนใบเหลืองเพิ่ม เพราะคาดโทษอยู่มี เซร์คิโอ รามอส กับ ชาบี อลอนโซ่
จากเกมลีกเมื่อวันเสาร์ มูรินโญ่ ตัดสินใจพัก เมซุต โอซิล กับ ซามี เคดิร่า นั่งสำรองทั้งคู่ ทำให้สดเต็มที่สำหรับเกมวันพุธนี้ เช่นเดียวกับ อังเกล ดิ มาเรีย ที่กลับมาฟิตสมบูรณ์
การจัดทัพ ดิเอโก้ โลเปซ เฝ้าเสา แผงหลัง อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, ฟาบิโอ โกเอนเตรา คู่กลาง ซามี เคดิร่า กับ ชาบี อลอนโซ่ ทำหน้าที่ตัวตัดเกม
แนวรุก อังเกล ดิ มาเรีย ประสานงานกับ เมซุต โอซิล และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ลงเจอทีมเก่าของตัวเอง ส่วนหน้าเป้า คาริม เบนเซม่า จะได้ลงก่อน กอนซาโล่ อิกวาอิน
ทางฝั่ง ปีศาจแดง จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ที่โอกาสกลับมาคว้าแชมป์ลีกสดใส หลังจากเกมล่าสุดเปิดบ้านชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 ทำให้ทิ้งห่างรองจ่าฝูง แมนฯ ซิตี้ เป็น 12 คะแนนแล้ว
ผลงานในลีกลูกทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่แพ้มา 14 นัดติดต่อกันแล้ว โดยเก็บชัยชนะถึง 12 นัด และเสมอ 2 นัด
สภาพทีมสมบูรณ์ขึ้น เมื่อแนวรุกได้ แอชลี่ย์ ยัง ปีกตัวจี๊ด หายเจ็บเข่ากลับมาเป็นตัวเลือก ขณะที่ ไมเคิ่ล แคร์ริค กองกลางตัวรับก็หายเจ็บสะโพก ลงสำรองเกมเมื่อวันอาทิตย์เรียบร้อย
ที่บาดเจ็บอยู่มีเพียง พอล สโคลส์ กองกลางตัวเก๋าที่เจ็บเข่า และ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ มิดฟิลด์อีกคนที่ผ่าตัดพักยาวถึงซีซั่นหน้า แต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับทีม
เฟอร์กี้ จะจัดตัวหลักลงเล่นต่อเนื่อง เริ่มจาก ดาบิด เด เคอา เป็นผู้รักษาประตู แผงหลัง ราฟาเอล ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า
แดนกลาง ไมเคิ่ล แคร์ริค จับคู่ตรงกลางกับ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ แนวรุก นานี่ กับ ชินจิ คางาวะ กลับมาประจำการ โดยมี เวย์น รูนี่ย์ เป็นหน้าต่ำ และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เป็นหน้าเป้า
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เรอัล มาดริด : ดิเอโก้ โลเปซ - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, ฟาบิโอ โกเอนเตรา - ซามี เคดิร่า, ชาบี อลอนโซ่ - อังเกล ดิ มาเรีย, เมซุต โอซิล, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - คาริม เบนเซม่า
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา - ราฟาเอล ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - ไมเคิ่ล แคร์ริค, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ - นานี่, เวย์น รูนี่ย์, ชินจิ คางาวะ - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ ไบรช์ (เยอรมัน)
เกร็ดความรู้คู่หยุดโลก เรอัล มาดริด - แมนฯ ยูไนเต็ด
- 8 ครั้งที่เรอัล มาดริด พบ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมยุโรป มีประตูเกิดขึ้นถึง 31 ประตู (3.9 ประตูต่อเกม)
- แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เคยบุกไปชนะเรอัล มาดริด ที่สเปน (เสมอ 2 แพ้ 2)
- "ปีศาจแดง" บุกเยือนเรอัล มาดริด ที่ซานติเอโก้ เบอร์นาเบว 4 ครั้ง มีถึง 3 ครั้งที่โดนยิงถึง 3 ประตู
- ทั้งสองทีมเจอกันครั้งล่าสุดต้องย้อนไป 10 ปีที่แล้ว โดยเรอัล มาดริด เอาชนะไปด้วยสกอร์รวมสองนัด 6-5
- แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปเยือนสเปน ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 13 เกม สามารถเอาชนะได้ 2 นัดเท่านั้น (เสมอ 7 แพ้ 4)
- "ราชันชุดขาว" ยิงประตูในถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก ไม่ได้ นัดเดียวจาก 31 เกมหลังสุด โดยเกิดในเกมพบบาร์เซโลน่า ที่เบอร์นาเบว เมื่อเดือนเมษายน 2011
- และนับตั้งแต่เกมนั้น "ทีมชุดขาว" ยิงประตูได้ถึง 33 ประตู จาก 9 เกมที่เล่นในเบอร์นาเบว
- เรอัล มาดริด ไม่สามารถรักษาคลีนชีตได้เลยในชปล. ซีซั่นนี้ โดยเสียถึง 9 ประตู นับว่ามากที่สุดของบรรดาทุกทีมที่ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์
- ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก 5 เกมหลังสุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียประตูให้คู่แข่งก่อนทุกนัด
- "ราชันชุดขาว" เป็นเจ้าของสถิติมีโอกาสยิงประตูมากที่สุด (126 ครั้ง) ร่วมกับยูเวนตุส นอกจากนั้นยังเป็นเจ้าของสถิติทำประตูจากนอกกรอบเขตโทษมากที่สุด (6 ประตู)
- ส่วน "ปีศาจแดง" เป็นเจ้าของสถิติยิงชนะเสา ชนคาน มากที่สุด ในชปล รอบแบ่งกลุ่ม
- คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ครองดาวซัลโวชปล. ซีซั่นนี้ ร่วมกับยูรัค ยิลมาซ ดาวยิงของกาลาตาซาราย ที่ 6 ประตู
- โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และฮาเวียร์ เอร์นานเดซ "ชิชาริโต้" ยิงประตูให้แมนฯ ยูไนเต็ด ในศึกชปล. 6 ประตูจาก 9 ประตูของทีมในซีซั่นนี้ โดยทั้งสองคนยิงได้คนละ 3 ลูก และ 3 ประตูของฟาน เพอร์ซี่ เกิดขึ้นในการเล่นเป็นทีมเยือน
- เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สามารถคุมทีมเอาชนะลูกทีมของโชเซ่ มูรินโญ่ ได้แค่ 2 ครั้งจาก 14 ครั้งที่พบกัน (เสมอ 6 แพ้ 6)
credit : www.siamsport.co.th