ตลาดหลักทรัพย์เล็งปรับปรุงเกณฑ์ดูแลการซื้อขายหุ้นร้อนหวังสกัดการปั่นหุ้น

กระทู้ข่าว
ตลาดหลักทรัพย์เล็งปรับปรุงเกณฑ์ดูแลการซื้อขายหุ้นร้อนหวังสกัดการปั่นหุ้น
ให้ปั่นราคาได้ยากขึ้น หลังมูลค่าการซื้อขายในตลาดตั้งแต่ต้นปีเพิ่มขึ้นมาก...

เมื่อวันที่ 12 ก.พ. นายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์  เปิดเผยว่า
ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำลังพิจารณาทบทวนเกณฑ์ดูแลการซื้อขายหุ้นที่มีความร้อนแรงหรือมีการเก็งกำไรเกินควร
เพื่อให้การกำกับดูแลมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งยังต้องการป้องกันไม่ให้มีกลุ่มคนเข้ามาสร้างราคาหรือปั่นหุ้นได้ง่าย
เพราะยอมรับว่าเกณฑ์ที่ใช้อยู่ปัจจุบัน เช่น การสั่งให้หุ้นที่มีการเก็งกำไรร้อนแรงเกินควรซื้อขายด้วยบัญชีเงินสดหรือบัญชีแคชบาลานซ์นั้น
แม้จะได้ผลทำให้สามารถลดปริมาณการซื้อขายหุ้นตัวนั้นๆ ลงได้ แต่ไม่สามารถสกัดความร้อนแรงของราคาได้ โดยหุ้นหลายตัวราคายังปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง

"ขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์กำลังทำงานร่วมกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อให้การออกมาตรการต่างๆ เป็นไปด้วยความรอบคอบ
และไม่ให้ผลของมาตรการกระทบบรรยากาศการลงทุน เพราะการเก็งกำไรไม่ใช่เป็นสิ่งที่ไม่ดี เพียงแต่ตลาดหลักทรัพย์และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นห่วงการเก็งกำไรที่เกินควร หรืออาจเข้าข่ายหรือเอื้อให้มีการเข้ามาสร้างราคาหรือปั่นหุ้น ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงของนักลงทุนรายย่อย"

นายภากร  กล่าวต่อว่า ปัจจุบันพบว่ามูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นตั้งแต่ต้นปีเพิ่มขึ้นมากและมีการเก็งกำไรกันสูงมากในหุ้นขนาดกลางและเล็ก
ที่สำคัญมีนักลงทุนรายย่อยเข้ามาซื้อขายมากขึ้น โดยพบว่าเดือน ม.ค.-ก.พ. ปริมาณการซื้อขายต่อวันอยู่ที่ 5-6 หมื่นล้านบาทต่อวัน เพิ่มขึ้น 60-80% จากเฉลี่ยปี 55 อยู่ที่ 32,000 ล้านบาท นอกจากนี้ สัดส่วนของผู้ลงทุนรายย่อยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 62% จากก่อนหน้านี้อยู่ที่ 52%

“ตลาดหลักทรัพย์คงไม่ใช้วิธีรุนแรง เพราะไม่ต้องการให้นักลงทุนที่เข้ามาซื้อขายโดยสุจริตได้รับผลกระทบโดยการทบทวนกฎเกณฑ์จะเป็นไปในเชิงที่ทำให้การสร้างราคาหรือการปั่นหุ้นทำได้ยากกว่าเดิมเพราะการเก็งกำไรไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดี แต่ไม่ต้องการให้เก็งกำไรเกินควร
อยากให้อยู่ในจุดที่สมเหตุผล”

นายภากร  กล่าวถึงแผนกลยุทธ์ระยะยาวของตลาดหลักทรัพย์ ว่า ต้องการให้ตลาดหลักทรัพย์เป็นประตูสู่การลงทุนประเทศลุ่มน้ำโขง (CLMV) ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว พม่าและเวียดนาม ที่เศรษฐกิตมีโอกาสเติบโตในระดับสูงและมีความต้องการการระดมทุนอีกเป็นจำนวนมาก
และยังมีกลุ่มผู้ลงทุนที่ต้องการออกไปลงทุนในกลุ่มประเทศเหล่านี้ ตลาดหลักทรัพย์เห็นโอกาสในการเป็นตัวกลางหรือศูนย์กลางการเชื่อมโยงของผู้ที่ต้องการลงทุนแและการระดมทุน โดยต้องสร้างให้ประเทศไทยเป็นฐาน ซึ่งสามารถทำได้ 3 แนวทางด้วยกัน

1.การใช้เครื่องมือตราสารแสดงสิทธิ์ในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิง (TDR) โดยเป็นการนำหุ้นจากประเทศต่างๆ มาให้นักลงทุนไทยสามารถได้ซื้อขาย
2. การจดทะเบียน สองตลาด ( Duo listing และ Cross listing)
3. การเปิดให้บริษัทที่เข้าไปร่วมลงทุน ในกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง เข้าระดมทุนจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย โดยใช้เกณฑ์ของโฮลดิ้งคอมพานี.

ไทยรัฐออนไลน์
  โดย ไทยรัฐออนไลน์
  12 กุมภาพันธ์ 2556, 21:33 น.

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่