การแข่งขันฟุตบอลเอเชี่ยนคัพ 2015 รอบคัดเลือกนัดแรกของไทยผ่านไปแล้วนะครับ ผลเป็นอย่างไรคงทราบกันดี รูปเกมดีหรือไม่ดีก็แล้วแต่จะวิจารณ์กันไป
ส่วนตัวผมขออนุญาตไม่แสดงความคิดเห็น เพราะเกรงว่าจะถูกมิตรรักแฟนคลับยกให้เป็น "คอลัมนิสต์โปรไลเซ่น" เดี๋ยวลากเอาชื่อผมไปละเลงกันอีก ผมเบื่อ...ผมจะไม่ทน..555
แต่มีสิ่งที่ติดอยู่ในใจของผมหลังจบเกมที่พ่ายคูเวตแบบไร้กระบวนท่า นั้นคือ "คำถาม" ที่มีมากมายเหลือเกิน และคงไม่มีใครจะไขข้อข้องใจได้ดีไปกว่า "สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ"...เริ่มเลยแล้วกันนะครับ
ผมอยากจะถามสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ว่า... ก่อนศึกเอเชี่ยนคัพรอบคัดเลือกที่ต้องเจอกับ "คูเวต" ทำไมไม่เห็นถึงความสำคัญในการดึงทีมจากตะวันออกกลางมาลับแข้งให้เกิดความคุ้นเคยกับทรงบอลสไตล์นี้สักหน่อย เพราะก็ทราบกันดีมิใช่หรือว่าไทยแลนด์แพ้ทางบอลทีมจากดินแดนทะเลทรายเป็นยิ่งนัก...??
หากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยย้อนถามผมว่า "ก็ยูเออีที่นัดเราอุ่นเครื่องมายกเลิกแมตช์กระทันหัน"...ผมอยากจะถามสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ว่า...หากจะอ้างประเด็นนี้คงไม่ถูกนัก เพราะเขาเป็นคนเชิญเราไป หาใช่เราไปชวนเขาไม่ นั้นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่มีการวางโปรแกรมอุ่นแข้งไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ใช่หรือไม่...??
หากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยย้อนถามผมว่า "การไม่มีทีมจากตะวันออกกลางอุ่นเครื่องด้วย ก็เพราะหลายทีมต้องเล่นเป็นทีมเหย้าในเกมแรกของเอเชี่ยนคัพรอบคัดเลือก จึงไม่มีทีมไหนอยากเดินทางมาเล่นที่ประเทศไทย"...ผมอยากจะถามสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ว่า...หากรู้ตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าไม่มีทีมตะวันออกกลางมาอุ่นเครื่องด้วย เหตุใดถึงไม่ใช้ตัวผู้เล่นชุดใหญ่ในการลงทำศึกคิงส์คัพ ครั้งที่42 เพื่อให้การเตรียมทีมมีเวลาเพิ่มมากขึ้น จะได้ทราบปัญหาและจุดอ่อนที่ต้องแก้ไขก่อนเกมกับคูเวต ซึ่งมานับนิ้วดูหากเรียกตัวหลักที่จะใช้งานในเอเชี่ยนคัพมาเก็บตัวร่วมกันตั้งแต่ทัวร์นาเม้นต์ที่เชียงใหม่ ทีมชาติไทยจะมีเวลาเตรียมความพร้อมถึง 3สัปดาห์เลยทีเดียว...??
หากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยย้อนถามผมว่า "อยากจะให้นักเตะชุดซูซูกิคัพ ได้พักหลังจากกรำศึกหนักมาจากเกมชิงแชมป์อาเซียนเมื่อปลายปีที่แล้ว"...ผมอยากจะถามสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ว่า... นักเตะจากชุดซูซูกิคัพที่ไม่ติดทีมไปลุยคิงส์คัพก็ใช่ว่าจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เพราะเวลานั้นคือช่วงกลางเดือนมกราคมแล้ว หลายสโมสรเริ่มกลับมาฝึกซ้อมกันอย่างเข้มข้นเพื่อรับฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเปิดตอนต้นเดือนมีนาคม สโมสรต่างๆบ้างก็มีเกมอุ่นเครื่อง บ้างก็มีทัวร์นาเม้นต์พิเศษ ดูแล้วมันคงหมดเวลาของการพักผ่อนไปแล้วไม่ใช่หรือ...??
หากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยย้อนถามผมว่า "ทัวร์นาเม้นต์คิงส์คัพไม่ใช่รายการที่สามารถเรียกผู้เล่นจากสโมสรมาติดทีมได้ตามกฎของฟีฟ่า หากเรียกตัวหลักจากทีมใหญ่ๆ หลายสโมสรคงไม่ปล่อยตัวผู้เล่นมาให้ทีมชาติใช้งาน"...ผมอยากจะถามสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ว่า... ที่นี่คือประเทศไทย ประเทศที่เต็มไปด้วยความเอื้ออาทร หากสมาคมฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกสโมสร มีหรือที่ทุกทีมจะไม่ให้ความร่วมมือ ผมยังเชื่อว่าทุกคนอยากจะทำเพื่อชาติกันทั้งนั้น เว้นเสียแต่ว่าสมาคมฯ ไปทำร้ายจิตใจสโมสรไหนไว้หรือเปล่า...??
หากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยย้อนถามผมว่า "คิงส์คัพเป็นรายการที่ให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งและผู้เล่นตัวสำรองได้โชว์ฟอร์ม เพื่อขึ้นมาเป็นตัวเลือกในเกมเอเชี่ยนคัพกับคูเวต"...ผมอยากจะถามสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ว่า... 11คนแรกของไทยในเกมคูเวตทำไมยังเป็นตัวหลักจากซูซูกิคัพ แล้วเหตุใดนักเตะหน้าใหม่ๆในชุดคิงส์คัพอย่าง นฤบดินทร์ วีรวัฒน์โนดม , อาทิตย์ ดาวสว่าง , ธนา ชะนะบุตร , ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ หรือแม้กระทั่ง สุรชาติ สารีพิมพ์ (รายนี้หนักถึงขนาดไม่ได้เล่นคิงส์คัพและหลุดออกจากทีมในเอเชี่ยนคัพ) ถึงไม่มีโอกาสลงสนามแม้แต่นาทีเดียว...??
หากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยย้อนถามผมว่า "เกมกับคูเวตเป็นเกมสำคัญจึงต้องส่งผู้เล่นตัวที่ดีที่สุดลงสนาม"...ผมอยากจะถามสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ว่า... แล้วทำไมจึงไม่มีความมั่นใจเอาเสียเลยว่านักเตะตัวหลักอย่าง ธีรเทพ วิโนทัย และ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ติดโทษแบนหรือไม่ กว่าจะทราบได้อย่างแน่ชัดก็เหลือเวลาไม่กี่วันก็จะต้องลงแข่งในแมตช์สำคัญอยู่แล้ว...??
หากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยย้อนถามผมว่า "อย่างน้อยแฟนบอลทั้งประเทศก็ให้กำลังใจทีมชาติไทยชุดนี้ ทั้งในสนามและที่ชมเกมถ่ายทอดสดอยู่ที่บ้าน"...ผมอยากจะถามสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ว่า... เลยตอบแทนแฟนบอลที่ค่อยให้กำลังใจด้วยการโชว์พื้นสนามที่สุดแสนจะน่าขายหน้า ขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อเหมือนกับเตะอยู่บนดวงจันทร์ให้แฟนบอลทั่วประเทศได้เห็นอย่างนั้นหรือ...??
?????...หลังจบเกมการแข่งขันมันแต่เครื่องหมายคำถามแบบนี้อยู่เต็มหัวของผมไปหมด...
สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ อดีตนักเตะทีมชาติไทยพูดหลังจบเกมนั้นไว้ได้อย่างน่าฟังว่า "ผมไม่สามารถประเมินการเล่นของทีมชาติไทยได้ เพราะเราไม่มีความพร้อมอะไรเลย การเล่นของคูเวตไม่ได้เก่งหรือเหนือไปกว่าเรา แต่สิ่งที่ทีมผู้มาเยือนดีกว่าเราคือ เขาพร้อมมากกว่าเราในทุกด้าน"...
ชัดเจนมากครับกับคำพูดของพี่ง้วน ซึ่งมันน่าจะเป็นคำตอบให้กับคำถามทั้งหมดข้างต้นที่อยู่ในหัวสมองของผมได้เป็นอย่างดีว่า "เราแพ้เพราะไม่มีความพร้อมใดๆเลย"
แบบนี้คงต้องกลับไปย้อนมองการทำงานของสมาคมฟุตบอลฯ แล้วครับ ว่าขาดตกบกพร่องในเรื่องใด และจะแก้ไขปัญหาอย่างไร หรือจะปล่อยให้บทเรียนเหล่านี้ ทั้งการเตรียมทีม การเรียกผู้เล่นติดทีมชาติ การหาแมตช์อุ่นเครื่องกับทีมที่แข็งแกร่ง หรือแม้กระทั่งการเตรียมสนามแข่งให้มีมาตรฐาน เป็นเรื่องเดิมๆ ที่ไม่ได้รับการแก้ไขต่อไป
หากเป็นเช่นนั้นเชื่อได้เลยว่าแฟนบอลไทยคงเดินคอตกกลับบ้านเหมือนหลายๆ ครั้งที่ผ่านมาแน่นอน...
ก่อนลากันไปผมมีอีกหนึ่งคำถามครับ แต่คราวนี้จะถามหมู่มวลสมาชิกของสมาคมลูกหนังเมืองไทย...ผมอยากจะถามว่า "เห็นปัญหามากมายแบบนี้ รอบหน้าคุณจะเลือกใครเป็นนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯครับ"...??
เครดิต :
http://www.hikicker.com/footballthai/news/columnists/6273.html
ผมอยากจะถามสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ว่า..?? by สุรเดช มั่นวิมล
การแข่งขันฟุตบอลเอเชี่ยนคัพ 2015 รอบคัดเลือกนัดแรกของไทยผ่านไปแล้วนะครับ ผลเป็นอย่างไรคงทราบกันดี รูปเกมดีหรือไม่ดีก็แล้วแต่จะวิจารณ์กันไป
ส่วนตัวผมขออนุญาตไม่แสดงความคิดเห็น เพราะเกรงว่าจะถูกมิตรรักแฟนคลับยกให้เป็น "คอลัมนิสต์โปรไลเซ่น" เดี๋ยวลากเอาชื่อผมไปละเลงกันอีก ผมเบื่อ...ผมจะไม่ทน..555
แต่มีสิ่งที่ติดอยู่ในใจของผมหลังจบเกมที่พ่ายคูเวตแบบไร้กระบวนท่า นั้นคือ "คำถาม" ที่มีมากมายเหลือเกิน และคงไม่มีใครจะไขข้อข้องใจได้ดีไปกว่า "สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ"...เริ่มเลยแล้วกันนะครับ
ผมอยากจะถามสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ว่า... ก่อนศึกเอเชี่ยนคัพรอบคัดเลือกที่ต้องเจอกับ "คูเวต" ทำไมไม่เห็นถึงความสำคัญในการดึงทีมจากตะวันออกกลางมาลับแข้งให้เกิดความคุ้นเคยกับทรงบอลสไตล์นี้สักหน่อย เพราะก็ทราบกันดีมิใช่หรือว่าไทยแลนด์แพ้ทางบอลทีมจากดินแดนทะเลทรายเป็นยิ่งนัก...??
หากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยย้อนถามผมว่า "ก็ยูเออีที่นัดเราอุ่นเครื่องมายกเลิกแมตช์กระทันหัน"...ผมอยากจะถามสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ว่า...หากจะอ้างประเด็นนี้คงไม่ถูกนัก เพราะเขาเป็นคนเชิญเราไป หาใช่เราไปชวนเขาไม่ นั้นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่มีการวางโปรแกรมอุ่นแข้งไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ใช่หรือไม่...??
หากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยย้อนถามผมว่า "การไม่มีทีมจากตะวันออกกลางอุ่นเครื่องด้วย ก็เพราะหลายทีมต้องเล่นเป็นทีมเหย้าในเกมแรกของเอเชี่ยนคัพรอบคัดเลือก จึงไม่มีทีมไหนอยากเดินทางมาเล่นที่ประเทศไทย"...ผมอยากจะถามสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ว่า...หากรู้ตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าไม่มีทีมตะวันออกกลางมาอุ่นเครื่องด้วย เหตุใดถึงไม่ใช้ตัวผู้เล่นชุดใหญ่ในการลงทำศึกคิงส์คัพ ครั้งที่42 เพื่อให้การเตรียมทีมมีเวลาเพิ่มมากขึ้น จะได้ทราบปัญหาและจุดอ่อนที่ต้องแก้ไขก่อนเกมกับคูเวต ซึ่งมานับนิ้วดูหากเรียกตัวหลักที่จะใช้งานในเอเชี่ยนคัพมาเก็บตัวร่วมกันตั้งแต่ทัวร์นาเม้นต์ที่เชียงใหม่ ทีมชาติไทยจะมีเวลาเตรียมความพร้อมถึง 3สัปดาห์เลยทีเดียว...??
หากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยย้อนถามผมว่า "อยากจะให้นักเตะชุดซูซูกิคัพ ได้พักหลังจากกรำศึกหนักมาจากเกมชิงแชมป์อาเซียนเมื่อปลายปีที่แล้ว"...ผมอยากจะถามสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ว่า... นักเตะจากชุดซูซูกิคัพที่ไม่ติดทีมไปลุยคิงส์คัพก็ใช่ว่าจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เพราะเวลานั้นคือช่วงกลางเดือนมกราคมแล้ว หลายสโมสรเริ่มกลับมาฝึกซ้อมกันอย่างเข้มข้นเพื่อรับฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเปิดตอนต้นเดือนมีนาคม สโมสรต่างๆบ้างก็มีเกมอุ่นเครื่อง บ้างก็มีทัวร์นาเม้นต์พิเศษ ดูแล้วมันคงหมดเวลาของการพักผ่อนไปแล้วไม่ใช่หรือ...??
หากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยย้อนถามผมว่า "ทัวร์นาเม้นต์คิงส์คัพไม่ใช่รายการที่สามารถเรียกผู้เล่นจากสโมสรมาติดทีมได้ตามกฎของฟีฟ่า หากเรียกตัวหลักจากทีมใหญ่ๆ หลายสโมสรคงไม่ปล่อยตัวผู้เล่นมาให้ทีมชาติใช้งาน"...ผมอยากจะถามสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ว่า... ที่นี่คือประเทศไทย ประเทศที่เต็มไปด้วยความเอื้ออาทร หากสมาคมฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกสโมสร มีหรือที่ทุกทีมจะไม่ให้ความร่วมมือ ผมยังเชื่อว่าทุกคนอยากจะทำเพื่อชาติกันทั้งนั้น เว้นเสียแต่ว่าสมาคมฯ ไปทำร้ายจิตใจสโมสรไหนไว้หรือเปล่า...??
หากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยย้อนถามผมว่า "คิงส์คัพเป็นรายการที่ให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งและผู้เล่นตัวสำรองได้โชว์ฟอร์ม เพื่อขึ้นมาเป็นตัวเลือกในเกมเอเชี่ยนคัพกับคูเวต"...ผมอยากจะถามสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ว่า... 11คนแรกของไทยในเกมคูเวตทำไมยังเป็นตัวหลักจากซูซูกิคัพ แล้วเหตุใดนักเตะหน้าใหม่ๆในชุดคิงส์คัพอย่าง นฤบดินทร์ วีรวัฒน์โนดม , อาทิตย์ ดาวสว่าง , ธนา ชะนะบุตร , ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ หรือแม้กระทั่ง สุรชาติ สารีพิมพ์ (รายนี้หนักถึงขนาดไม่ได้เล่นคิงส์คัพและหลุดออกจากทีมในเอเชี่ยนคัพ) ถึงไม่มีโอกาสลงสนามแม้แต่นาทีเดียว...??
หากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยย้อนถามผมว่า "เกมกับคูเวตเป็นเกมสำคัญจึงต้องส่งผู้เล่นตัวที่ดีที่สุดลงสนาม"...ผมอยากจะถามสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ว่า... แล้วทำไมจึงไม่มีความมั่นใจเอาเสียเลยว่านักเตะตัวหลักอย่าง ธีรเทพ วิโนทัย และ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ติดโทษแบนหรือไม่ กว่าจะทราบได้อย่างแน่ชัดก็เหลือเวลาไม่กี่วันก็จะต้องลงแข่งในแมตช์สำคัญอยู่แล้ว...??
หากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยย้อนถามผมว่า "อย่างน้อยแฟนบอลทั้งประเทศก็ให้กำลังใจทีมชาติไทยชุดนี้ ทั้งในสนามและที่ชมเกมถ่ายทอดสดอยู่ที่บ้าน"...ผมอยากจะถามสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ว่า... เลยตอบแทนแฟนบอลที่ค่อยให้กำลังใจด้วยการโชว์พื้นสนามที่สุดแสนจะน่าขายหน้า ขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อเหมือนกับเตะอยู่บนดวงจันทร์ให้แฟนบอลทั่วประเทศได้เห็นอย่างนั้นหรือ...??
?????...หลังจบเกมการแข่งขันมันแต่เครื่องหมายคำถามแบบนี้อยู่เต็มหัวของผมไปหมด...
สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ อดีตนักเตะทีมชาติไทยพูดหลังจบเกมนั้นไว้ได้อย่างน่าฟังว่า "ผมไม่สามารถประเมินการเล่นของทีมชาติไทยได้ เพราะเราไม่มีความพร้อมอะไรเลย การเล่นของคูเวตไม่ได้เก่งหรือเหนือไปกว่าเรา แต่สิ่งที่ทีมผู้มาเยือนดีกว่าเราคือ เขาพร้อมมากกว่าเราในทุกด้าน"...
ชัดเจนมากครับกับคำพูดของพี่ง้วน ซึ่งมันน่าจะเป็นคำตอบให้กับคำถามทั้งหมดข้างต้นที่อยู่ในหัวสมองของผมได้เป็นอย่างดีว่า "เราแพ้เพราะไม่มีความพร้อมใดๆเลย"
แบบนี้คงต้องกลับไปย้อนมองการทำงานของสมาคมฟุตบอลฯ แล้วครับ ว่าขาดตกบกพร่องในเรื่องใด และจะแก้ไขปัญหาอย่างไร หรือจะปล่อยให้บทเรียนเหล่านี้ ทั้งการเตรียมทีม การเรียกผู้เล่นติดทีมชาติ การหาแมตช์อุ่นเครื่องกับทีมที่แข็งแกร่ง หรือแม้กระทั่งการเตรียมสนามแข่งให้มีมาตรฐาน เป็นเรื่องเดิมๆ ที่ไม่ได้รับการแก้ไขต่อไป
หากเป็นเช่นนั้นเชื่อได้เลยว่าแฟนบอลไทยคงเดินคอตกกลับบ้านเหมือนหลายๆ ครั้งที่ผ่านมาแน่นอน...
ก่อนลากันไปผมมีอีกหนึ่งคำถามครับ แต่คราวนี้จะถามหมู่มวลสมาชิกของสมาคมลูกหนังเมืองไทย...ผมอยากจะถามว่า "เห็นปัญหามากมายแบบนี้ รอบหน้าคุณจะเลือกใครเป็นนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯครับ"...??
เครดิต : http://www.hikicker.com/footballthai/news/columnists/6273.html