สมมติว่า... "ชาวบ้านวอนให้คุณปลอดประสพเสียสละ ไม่สร้างเขื่อน 16 แห่ง" ข่าวไหนจะดูน่าสงสารกว่ากันครับ

สืบเนื่องจากข่าวนี้...

“ปลอดประสพ"วอนชาวบ้านเสียสละใช้พื้นที่ป่าสร้างเขื่อน 16 แห่ง

วันนี้ (9 ก.พ.) นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ถึงความคืบหน้าในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศว่า ครม.ได้เห็นชอบและให้มีการประกาศรายชื่อ 6 บริษัทที่จะมีส่วนในการบริหารจัดการน้ำของประเทศ การเดินหน้าต่อไปยึดโจทย์ที่ 1 มาจากพระราชดำรัส คำแนะนำที่ทรงพระราชทานมาตลอดระยะเวลา 10 – 20 ปี ที่ทรงทำเรื่องเรื่องน้ำมา โดยแผนบูรณาการน้ำทั้งหมดมี 10 เรื่อง มี 2 พื้นที่ใหญ่ คือ พื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ต้นน้ำ จะใช้เวลาอีก 3 เดือน เป็นขั้นตอนในการจัดการจัดจ้าง 1. แสดงทางเทคนิค 2. ราคา ไม่สูงกว่านี้ Maximum Guaranteed Price 3. เวลา ว่าจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่  เมื่อคัดเลือกบริษัทได้เราจะใช้ระบบที่เขาเรียกว่า design-build คือออกแบบและก่อสร้างไปพร้อมกัน ไม่ได้ออกแบบวันนี้เพราะฉะนั้นราคาจะถูกกำหนดไว้เลยไม่มีเลยไปกว่านี้


รองนายกฯกล่าวว่า ที่ผ่านมาสิ่งแรกรัฐบาลทำการฟื้นฟูป่า ต่อไปเป็นการสร้างอ่างเก็บน้ำ 16 แห่ง ที่ไหนบ้างในนี้ก็จะบอกหมด อย่างแรกต้องทำ 3 โครงการเช่น เขื่อนแม่กวง เขื่อนแม่วงก์ เขื่อนแก่งเสือเต้น ขนาดกลางก็มีมากมายอย่างเช่น คลองวังชมพู น้ำปาด แต่ในวันนี้ยังไม่สุดท้ายแต่บอกให้รู้ว่าขณะนี้อะไรที่เราคิดว่าอะไรควรจะต้องมี และพื้นที่ที่จะต้องได้รับการปกป้องเป็นอย่างไรมี 25 แห่ง เป็นชุมชนใหญ่ 33 แห่ง เป็นพืชเกษตรกรรม 4 แห่ง พื้นที่ชลประทาน จะต้องมีการพัฒนาปรับปรุง เหนือนครสวรรค์ขึ้นไป 500,000 กว่าไร่ เหนืออยุธยาล้านกว่าไร่ จะต้องมีการผันน้ำ คือถ้าไม่ผันน้ำบ้างแม่น้ำเจ้าพระยาก็จะล้น น้ำก็จะท่วมอย่างที่เห็น เพราะฉะนั้นจะต้องมีฟลัดเวย์หรือฟลัดไดเวอร์ชั่นแน่นอน มีการปรับปรุงข้อมูล การพยากรณ์ การเตือนภัย เป็นต้น เช่นเดียวกันกับในลุ่มน้ำอื่น ๆ


“พื้นที่แก้มลิงเหนือ จ.นครสวรรค์และลงมาล่าง จ.ชัยนาทจนถึง จ.พระครศรีอยุธยาตอนบน รับน้ำหลาก ต่อมาเป็นแนวฟลัดเวย์ อาจจะทั้ง 2 ข้างฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก หรืออาจจะอย่างหนึ่งอย่างใด อาจจะเริ่มจากนครสวรรค์ อาจจะเริ่ม จ.ชัยนาท หรืออาจะเริ่มจาก จ.พระนครศรีอยุธยาวินาทีนี้ยังไม่ทราบ แต่เมื่อเขียน ทีโออาร์ ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าจะรู้ เพราะถ้าเราไม่กำหนดจะไม่สามารถแข่งขันกันได้ เดือนเมษายน เราคงจะเซ็นต์สัญญาได้ทั้งหมด” รองนายกฯกล่าว


นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่าขนาดของโครงการใหญ่มากงบถึง 3.5 แสนล้านบาท มีความยากง่าย ในการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม แต่เราจะดำเนินการทุกอย่างให้เป็นไปตามระเบียบและเงื่อนไขของทางราชการ ไม่มีอะไรยกเว้นเป็นไปตามกฎระเบียบที่ใช้กันอยู่  แต่บางอย่างไม่ต้องทำก็ไม่ต้องทำ อันไหนที่ระบุว่าต้องทำก็ต้องทำ บางโครงการเสร็จภายใน 1 ปี และภายใน 5 ปี จะเสร็จสมบูรณ์ซึ่งโครงการใหญ่มากๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องยาก เพราะฉะนั้นความร่วมมือของหน่วยราชการ ความเข้าใจของประชาชน ความเสียสละของประชาชน มีความจำเป็นอย่างยิ่ง


“การคัดค้านมีให้เห็นอยู่เพราะมีความเดือดร้อน ต้องมีการย้ายผู้คน แต่เมื่อ 2 ปี น้ำท่วมประเทศอยู่ 4 -5 เดือน น้ำท่วมประเทศอยู่ 1 ใน 5 ของประเทศ มีประชาชนไร้ที่อยู่เป็นล้านครัวเรือน ความเสียหาย 1.4 ล้านล้านบาท ถ้าเกิดแก้ไขสิ่งเหล่านี้ให้เบ็ดเสร็จจำเป็นต้องมีความเข้าใจและเสียสละ เหมือนกับว่าทุกท่านนั่งรถยนต์ไปถนนสายไหน ถนนเหล่านั้นในอดีตล้วนแต่จะต้องมีบ้านคนอยู่ ซึ่งเขาได้รับความกรุณาจากบุคคลเหล่านั้นที่ย้ายไป แม้แต่โรงเรียนหลายแห่งก็ต้องเป็นอย่างนั้น แม้แต่สงครามก็ต้องมีทหารที่ต้องเสียสละชีวิตและร่างกาย ในกรณีนี้เช่นกันในเมื่อบ้านเมืองเกิดความเสียหายอย่างนี้ คนส่วนใหญ่เกิดความเสียหายขนาดนี้ต้องขอความกรุณา รัฐบาลเข้าใจและเห็นใจ ยืนยันที่จะให้ความช่วยเหลือจนถึงที่สุด ซึ่งขอความกรุณามีอะไรมาหารือกัน รัฐบาลไม่หักหาญน้ำใจใคร”นายปลอดประสพ กล่าวและว่า ในส่วนผลกระทบที่มีต่อธรรมชาติ เช่น ป่าหายไป ก็สร้างขึ้นมาใหม่ ให้มากกว่าเดิม 3 เท่า ซึ่งโครงการเหล่านี้ไม่ได้เป็นการเพิ่มพื้นที่เกษตร ถ้าเราพูดแบบนั้น อาจเกิดการเสียเปรียบได้เปรียบซึ่งเขื่อนบางแห่งอาจใช้งานเพียง 3-6 เดือนในการป้องกันอุทกภัย แต่ที่รัฐบาลคิดตอนนี้มีแต่สร้างความปลอดภัย ทุกคนได้ประโยชน์หมด ทำทีเดียวครั้งใหญ่ เรียกว่าทำครั้งเดียวเสร็จภายใน 100 ปี และยืนยันว่าสามารถพูดได้บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ โอกาสจะเป็นเหมือน 2 ปี ที่แล้วไม่มีอีกเด็ดขาด

ที่มา : http://www.dailynews.co.th/politics/183511
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่