การช่วยเหลือ นักท่องเที่ยว ที่โดน โรงแรม และ Taxi ปฏิเสธความรับผิดชอบ! (โดยหวังสิ่งตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ)

สวัสดีครับ มันเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ...

ขณะที่ผม ไปทำธุระที่ป่าตอง พาเพื่อนไปทวงหนี้ค่าเช่าตึก ในย่านโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งซึ่งเป็นอาคารเช่า ...

ผมก็เปิดไฟกระพิบ เพื่อเป็นสัญญาณ ว่ารถจอดอยู่ไหน เพื่อให้เขาเอาเงินมาจ่ายค่าเช่า ทันใดนั้นก็มีหญิงสาว 2 คน (ชาวญี่ปุ่น) มาเคาะที่กระจก ... พวกเธอถามกับเพื่อนผมว่า พวกเราใช่ taxi ที่ทางโรงแรมติดต่อไว้รึเปล่าว่าให้มารับพวกเขา แต่ผมก็ตอบกลับไปว่า พวกเรามาทำธุระ และกำลังรอเพื่อนอยู่  

ดูพวกเธอหันซ้าย-หันขวา เหมือนกำลังร้อนใจว่า Taxi อยู่ไหน ผมก็ถามพวกเธอต่อว่า ต้อง check in เวลาเท่าไร  และพวกเธอตอบว่า ตี 2 " หา ... นั่นหมายความว่า เหลือเวลาอีก 1 ชม เพื่อไป check in นะซิ " ผมก็บอกว่า จะให้ช่วยอะไรมั้ย ยังไง ถ้าหา Taxi ไม่ได้ ผมจะไปส่งพวกเธอเอง และผมย้ำกับพวกเธอว่า ไม่ต้องซีเรียสเรื่องเงิน ผมไปส่งพวกเธอด้วยไมตรีจิต"

พวกเธอ ก็เหมือนจะลังเล ก็แน่นอนซิ หน้าตาผมยังกะโจร 555 ... สุดท้ายพวกเธอกลับไปที่โรงแรม เพื่อไปสอบถามหรือไปรอ Taxi ที่โรงแรมติดต่อให้ "มั้ง" แล้วเพื่อนผมก็ไปตามเก็บเงิน เพราะรอ ลูกหนี้นานแล้ว จากนั้นอีก 10 นาที พวกเขา ก็เดินกลับมาที่รถแล้ว มีคนหนึ่ง หลังจากที่สอบถาม เธอชื่อ เอมิ ... และเธอกำลังร้องไห้ ที่จะไม่ได้กลับบ้านเพราะตกเครื่อง

เธอบอกว่าเธอซื้อ package มาเที่ยวซึ่งมีงบจำกัด เงินก็หมดแล้ว และจ่ายค่า Taxi ให้กับโรงแรมไปแล้ว แต่ยังไม่เห็น Taxi เลย และพวกเธอก็ไปทวงเงิน แต่ได้คำตอบว่า โรงแรมไม่เกี่ยว และโรงแรมได้ให้เงิน Taxi ไปแล้ว ... เธอบอกเธอไม่มีเงิน ผมก็เลยตอบว่า ไม่เป็นไร แต่ขอให้รอเพื่อนผมก่อน เธอกำลังเดินกลับมาจากตึก ซึ่งอยู่ถัดไปอีก 2 ช่วงตึก ประมาณ 2-3 นาที และตอนนี้เหลือเวลา อีกไม่ถึง 50 นาที โดยประมาณ ระหว่างรอเพื่อน ผมก็สอบถามว่าพวกเธอมาจากเมืองไหน และที่มาที่ไปของเรื่องเป็นอย่างไร สอบถามไป-มา พวกเธอมาจากเซนได เป็นนักศึกษา จาก Tohoku Pharmaceutical University

"ผมก็บอกกับพวกเขาว่า ผมไม่ได้ช่วยเปล่าๆ นะ มันต้องมีค่าตอบแทนนั่นซึ่งตอนแรกเหมือนพวกเธอจะใจหายเลยนะ แต่เมื่อผมบอกว่า  ขออีเมล์ไว้ติดต่อ คิดว่า ปีหน้าผมจะไปเที่ยวญี่ปุ่น โดยให้พวกเขาต้องเลี้ยงข้าวหน้าหมู แกงกระหรี่ ให้ผมกินเป็นการตอบแทน เพราะ ผมจะไปฮอกไกโด แต่จะแวะไปเยี่ยมพวกเธอที่ เซนได ซึ่งพวกเขาหัวเราะและตอบ ok"


หลังจากนั้น ผมก็รีบไปส่งพวกเธอทั้ง 2 คนที่สนามบิน อย่างด่วน ทำเวลาได้ดีมาก เหลือเวลาอีก 5 นาทีก่อนจะหมด เวลา Check In โดย แบ่งงานกันทำ ทางด้านหนึ่ง ผมให้ เอมิ วิ่งไป Check In ก่อน ส่วน เพื่อนอีกคน ชื่อ ฮิโตมิ ผมให้เพื่อน กับเธอ แสกนกระเป๋า ส่วนผมจอดรถรอที่ประตูทางเข้าสนามบิน เพราะมันห้ามจอด เดี๋ยวมีเรื่อง ...

ขอย้ำว่า สิ่งที่เล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงทุุกประการ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่