ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่า
แต่ก่อนเรามีอคติกับของมือ 2 ทุกอย่างบนโลกค่ะ
เพราะกลัว >>> กลัวว่าจะมาจากของคนตาย แล้วเค้ามาทวงของๆเค้าคืน
คิดมาก >>> ว่าของสิ่งนั้นมาจากไหน เอามาขายเพราะอะไร เป็นของที่ขโมยมารึป่าว
แต่จนแล้วจนรอด ดวงชะตาก็ทำให้ต้องมาอยู่ในแวดวงนี้โดยไม่รู้ตัว
ทั้งๆที่ไม่ได้อยากอยู่และไม่ได้รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่ได้มามัน คือ ของมือ 2
แต่ด้วยเพราะความอ้วนของเราจากไซส์ M เป็น XL + เบี้ยน้อยหอยน้อยแต่อยากจะช๊อปกะเค้าบ้างว่างั้นเถอะ
ก็เลยไปสอยเดรสสวยๆมาหลายตัว
ตอนสอยก็เพลินค่ะ มันถูกอ่ะ >>> ชุดละไม่ถึง 200.- และคิดว่าเป็น มือหนึ่ง
เลยไม่ได้เอะใจอะไร จนวันที่จะซักผ้า
คุณแฟนก็เดินมาบอกว่า "ตัวๆเดรสที่ตัวซื้อมามันมีคราบเลือดติดอ่ะ"
กริ๊ดดดดดด....ซิคะคุณ ไม่คิดว่าเดรสที่สอยมาจะเป็นมือ 2
เลยถามแฟนว่า "จริงหรอ เพราะเดรสสภาพเกือบ 100% ไม่น่าจะเป็นมือ 2 รึถ้าเปื้อนจริงก็ไม่น่าจะเป็นคราบเลือด"
แต่เราก็ไม่ไปดูหรอกนะคะ บอกตรงๆว่า กลัว
แถมเรายังเก็บเอาไปฝันเป็นตุเป็นตะว่า เจ้าของเค้ามาทวงอีก ><
รุ่งขึ้น เลยถามคุณแฟนว่า "เดรสที่ซื้อมาตัวเอาไปซักรึยัง"
แฟนบอกว่า "ยัง กะเอาคราบเลือดให้ตัวดูก่อน เลยเอาไว้ในห้องน้ำ" >>> อีตาบ้า จะเก็บไว้ให้ตูดูอีก - - !
เราก็เลยปล่อยไว้แบบนั้นจนเวลาผ่านไปหลายเดือน
แต่ก็อย่างว่าแระคะคุณขา ถ้าคนมันจะได้เจอ รึมันจะได้มีดวงป่ะกัน อะไรก็คงห้ามไม่อยู่
อยู่ๆวันหนึ่งแม่แฟนก็แวะมาที่บ้าน
แล้วก็บอกว่า "เดรสที่ซื้อมาสวยดีนะ ทำไมไม่ใส่"
เราก็งงเลย แม่แฟนรู้ได้ไหงเนี้ยยยยย!!! ว่าเรามีเดรส "ว่าแต่เดรสอะไรตัวไหนคะแม่??? "
แม่ก็เลยเอามาให้ดู ว่าวันก่อนตอนเราไม่อยู่แม่มาที่บ้าน
เห็นถุงนี้วางอยู่ เอาออกมาเป็นเดรสสวยๆทั้งนั้น คิดว่าเป็นของเราแน่นอน
ด้วยความหวังดีจึงเอาไปซัก-รีดให้หอมเชียว แถมคราบ รึอะไรแปลกปลอมก็ไม่มี
แต่เราอดไม่ได้จึงถามแม่แฟนว่า "แล้วแม่ไม่เห็นคราบเลือด รึอะไรแปลกๆที่ชุดหรอ"
แม่บอกว่า "เห็น" เราก็เอาแล้วไง ขนลุกซู่เลย ณ เวลานั้น
แต่แม่พูดต่อว่า "ไอ้คราบสนิมอ่ะนะ เห็นซิ ซักให้แล้ว มันเป็นคราบเพราะกระดุมมันเป็นโลหะอ่ะ"
แป่วววววววว >< ไอ้คุณแฟนบ้าพูดให้เราคิดฟุ้งซ่านตั้งหลายวัน หลายเดือน เด่วกลับมาโดนจัดหนักแน่!!!
ตั้งแต่วันนั้น เราเลยลองหยิบเดรสที่แม่แฟนซักรีดมาให้ มาลองใส่ดูค่ะ
จากลองๆ ก็เลยใส่ไปเที่ยว ไปกินข้าวนอกบ้าน หลังๆก็เริ่มใส่ไปทำงาน
มีแต่คนทักว่า ชุดนี้ซื้อที่ไหน แต่งตัวเก๋จัง >>> ก็แน่ซิชุดนี้มันตัดตั้งแต่รุ่นแม่ฉันแล้วนิ ถึงได้วินเทจและ unique ขนาดนี้ อิอิ
และเราก็เริ่มหลงเสน่ห์ และเริ่มช๊อปฯของมือสองเข้าบ้านเรื่อยๆ
แต่ในขณะเดียวกันเราก็ทำการโล๊ะผ้าไซส์ S-M ที่เรามีแต่ใส่ไม่ได้ ออกไปเรื่อยๆเช่นกัน อิอิ
ซึ่งเราทำแบบนี้มาเป็นเวลาเกือบปี
ทำให้เรารู้ว่า จริงๆแล้วของมือสองก็มีข้อดีตรงที่ว่า เราได้ช๊อปเหมือนเดิม
แต่แทนที่จะซื้อเดรสได้ตัวหนึ่งในราคา 300-1000.- >>> สำหรับไซส์ XL อย่างเรา
ก็เปลี่ยนเป็นจ่ายแค่ 100-300.- เท่านั้น^^
อย่างล่าสุดเราก็เพิ่งไปสอยรองพื้นในห้องแป้งมา
จริงๆเราก็มีอยู่แล้วแระ ซื้อมา 500.- กว่าๆแหนะ แต่ของ used อ่ะหรอ ครึ่งต่อครึ่งค่ะคุณ!!! >>> แล้วใครจะไม่เอา^^
ซึ่งสามารถช่วยให้เราเซฟเงินได้ครึ่งต่อครึ่ง และสวยได้เหมือนกัน
เพราะจริงๆของมือ 2 ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้าเรารู้จักเลือก รู้จักแหล่ง รู้จักวิธีการทำความสะอาด
แล้วเพื่อนๆ ล่ะคะ มีความคิดกับของมือ 2 ยังไงกันบ้าง เคยใช้กันรึป่าว
ไหนมาแบ่งปันกันซิ ว่าใครหลงเสน่ห์ของมือ 2 เหมือนเราบ้าง อิอิ
>>>>> เพื่อนๆคิดยังไงกับของมือ 2 และ เคยใช้กันบ้างรึป่าว???
แต่ก่อนเรามีอคติกับของมือ 2 ทุกอย่างบนโลกค่ะ
เพราะกลัว >>> กลัวว่าจะมาจากของคนตาย แล้วเค้ามาทวงของๆเค้าคืน
คิดมาก >>> ว่าของสิ่งนั้นมาจากไหน เอามาขายเพราะอะไร เป็นของที่ขโมยมารึป่าว
แต่จนแล้วจนรอด ดวงชะตาก็ทำให้ต้องมาอยู่ในแวดวงนี้โดยไม่รู้ตัว
ทั้งๆที่ไม่ได้อยากอยู่และไม่ได้รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่ได้มามัน คือ ของมือ 2
แต่ด้วยเพราะความอ้วนของเราจากไซส์ M เป็น XL + เบี้ยน้อยหอยน้อยแต่อยากจะช๊อปกะเค้าบ้างว่างั้นเถอะ
ก็เลยไปสอยเดรสสวยๆมาหลายตัว
ตอนสอยก็เพลินค่ะ มันถูกอ่ะ >>> ชุดละไม่ถึง 200.- และคิดว่าเป็น มือหนึ่ง
เลยไม่ได้เอะใจอะไร จนวันที่จะซักผ้า
คุณแฟนก็เดินมาบอกว่า "ตัวๆเดรสที่ตัวซื้อมามันมีคราบเลือดติดอ่ะ"
กริ๊ดดดดดด....ซิคะคุณ ไม่คิดว่าเดรสที่สอยมาจะเป็นมือ 2
เลยถามแฟนว่า "จริงหรอ เพราะเดรสสภาพเกือบ 100% ไม่น่าจะเป็นมือ 2 รึถ้าเปื้อนจริงก็ไม่น่าจะเป็นคราบเลือด"
แต่เราก็ไม่ไปดูหรอกนะคะ บอกตรงๆว่า กลัว
แถมเรายังเก็บเอาไปฝันเป็นตุเป็นตะว่า เจ้าของเค้ามาทวงอีก ><
รุ่งขึ้น เลยถามคุณแฟนว่า "เดรสที่ซื้อมาตัวเอาไปซักรึยัง"
แฟนบอกว่า "ยัง กะเอาคราบเลือดให้ตัวดูก่อน เลยเอาไว้ในห้องน้ำ" >>> อีตาบ้า จะเก็บไว้ให้ตูดูอีก - - !
เราก็เลยปล่อยไว้แบบนั้นจนเวลาผ่านไปหลายเดือน
แต่ก็อย่างว่าแระคะคุณขา ถ้าคนมันจะได้เจอ รึมันจะได้มีดวงป่ะกัน อะไรก็คงห้ามไม่อยู่
อยู่ๆวันหนึ่งแม่แฟนก็แวะมาที่บ้าน
แล้วก็บอกว่า "เดรสที่ซื้อมาสวยดีนะ ทำไมไม่ใส่"
เราก็งงเลย แม่แฟนรู้ได้ไหงเนี้ยยยยย!!! ว่าเรามีเดรส "ว่าแต่เดรสอะไรตัวไหนคะแม่??? "
แม่ก็เลยเอามาให้ดู ว่าวันก่อนตอนเราไม่อยู่แม่มาที่บ้าน
เห็นถุงนี้วางอยู่ เอาออกมาเป็นเดรสสวยๆทั้งนั้น คิดว่าเป็นของเราแน่นอน
ด้วยความหวังดีจึงเอาไปซัก-รีดให้หอมเชียว แถมคราบ รึอะไรแปลกปลอมก็ไม่มี
แต่เราอดไม่ได้จึงถามแม่แฟนว่า "แล้วแม่ไม่เห็นคราบเลือด รึอะไรแปลกๆที่ชุดหรอ"
แม่บอกว่า "เห็น" เราก็เอาแล้วไง ขนลุกซู่เลย ณ เวลานั้น
แต่แม่พูดต่อว่า "ไอ้คราบสนิมอ่ะนะ เห็นซิ ซักให้แล้ว มันเป็นคราบเพราะกระดุมมันเป็นโลหะอ่ะ"
แป่วววววววว >< ไอ้คุณแฟนบ้าพูดให้เราคิดฟุ้งซ่านตั้งหลายวัน หลายเดือน เด่วกลับมาโดนจัดหนักแน่!!!
ตั้งแต่วันนั้น เราเลยลองหยิบเดรสที่แม่แฟนซักรีดมาให้ มาลองใส่ดูค่ะ
จากลองๆ ก็เลยใส่ไปเที่ยว ไปกินข้าวนอกบ้าน หลังๆก็เริ่มใส่ไปทำงาน
มีแต่คนทักว่า ชุดนี้ซื้อที่ไหน แต่งตัวเก๋จัง >>> ก็แน่ซิชุดนี้มันตัดตั้งแต่รุ่นแม่ฉันแล้วนิ ถึงได้วินเทจและ unique ขนาดนี้ อิอิ
และเราก็เริ่มหลงเสน่ห์ และเริ่มช๊อปฯของมือสองเข้าบ้านเรื่อยๆ
แต่ในขณะเดียวกันเราก็ทำการโล๊ะผ้าไซส์ S-M ที่เรามีแต่ใส่ไม่ได้ ออกไปเรื่อยๆเช่นกัน อิอิ
ซึ่งเราทำแบบนี้มาเป็นเวลาเกือบปี
ทำให้เรารู้ว่า จริงๆแล้วของมือสองก็มีข้อดีตรงที่ว่า เราได้ช๊อปเหมือนเดิม
แต่แทนที่จะซื้อเดรสได้ตัวหนึ่งในราคา 300-1000.- >>> สำหรับไซส์ XL อย่างเรา
ก็เปลี่ยนเป็นจ่ายแค่ 100-300.- เท่านั้น^^
อย่างล่าสุดเราก็เพิ่งไปสอยรองพื้นในห้องแป้งมา
จริงๆเราก็มีอยู่แล้วแระ ซื้อมา 500.- กว่าๆแหนะ แต่ของ used อ่ะหรอ ครึ่งต่อครึ่งค่ะคุณ!!! >>> แล้วใครจะไม่เอา^^
ซึ่งสามารถช่วยให้เราเซฟเงินได้ครึ่งต่อครึ่ง และสวยได้เหมือนกัน
เพราะจริงๆของมือ 2 ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้าเรารู้จักเลือก รู้จักแหล่ง รู้จักวิธีการทำความสะอาด
แล้วเพื่อนๆ ล่ะคะ มีความคิดกับของมือ 2 ยังไงกันบ้าง เคยใช้กันรึป่าว
ไหนมาแบ่งปันกันซิ ว่าใครหลงเสน่ห์ของมือ 2 เหมือนเราบ้าง อิอิ