เรื่องเล่าโกหกที่ยังสอนกันอยู่ในโรงเรียนสหรัฐ

โรงเรียนคือ สถานที่สอนความรู้ให้กับเด็กนักเรียน
เพื่อเตรียมความพร้อมในการประกอบอาชีพ
และช่วยพัฒนาเด็กนักเรียนให้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
พร้อมกับการเผชิญหน้ากับความท้าทายในอนาคต

แต่บางครั้งมีข้อมูลส่วนหนึ่งที่ไม่เป็นความจริง
รายการต่อไปนี้ คือ  10 เรื่องโกหกที่ยังสอนกันอยู่ในโรงเรียนสหรัฐอเมริกา



10. สีฟ้าของเลือดแสดงว่าเลือดขาดออกซิเจน

เลือดที่ขาดออกซิเจนจะเป็นสีฟ้า
เส้นเลือดดำที่ข้อมือของคนเราจะเห็นได้ชัดว่าเป็นสีฟ้า
พวกเราได้รับการสอนกันในโรงเรียนว่า
สีของเลือดที่หลอด/เส้นเลือดดำไม่บริสุทธิ์จะเป็นสีฟ้า
หนังสือเล่าต่อ ๆ กันมาว่า เพราะไม่มีออกซิเจนอยู่ในเลือด
ทำให้เลือดที่ขาดออกซิเจนจะยังคงเป็นสีฟ้า
แต่เมื่อเลือดผ่านออกมาจากระบบทำงานร่วมกันของปอดกับหัวใจแล้ว
จะมีการเพิ่ม/เติมปริมาณออกซิเจนเข้าไปในเลือด
และด้วยเหตุนี้จึงทำให้เลือดสีฟ้ากลายเป็นสีแดง

แต่ความจริงทั้งหมดของเรื่องนี้ก็คือว่า
เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องการหักเหของแสง
เมื่อแสงกระทบผิวหนังคนเรา
สีผิวคนเราที่มีเม็ดสีที่เรียกว่า melanin pigment
หรือเม็ดสีดำน้ำตาลในผิวหนัง ผม เนื้อเยื่อ จะหักเหสีแดง
(ส่วนสีที่เกิดขึ้นในผลไม้ต่าง ๆ เช่น
สีส้มของ แครอท มะละกอ มะเขือเทศ
เป็น pigment อีกประเภทหนึ่ง)

ส่วนสีฟ้าจะสะท้อนแสงกลับ
ทำให้เห็นว่าเส้นเลือดดำที่เห็นเป็นสีฟ้า  

แต่ในกรณีสำหรับคนเผือกแล้ว
จะมีเม็ดสีเม็ดสีดำน้ำตาลที่ผิวหนังน้อยมาก
ทำให้มองเห็นเส้นเลือดได้ชัดว่าเป็นสีแดง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ





9.  13 รัฐแรกเริ่มก่อตั้งประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งหมดเคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ

มีจำนวนดวงดาวรวมทั้งหมดสิบสามดวง
บนผืนธงชาติสหรัฐอเมริกาในครั้งแรก
แสดงให้เห็นว่า สหรัฐอเมริกาประกอบด้วย 13 รัฐ
ที่เดิมเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษมาก่อน



แต่ไม่เป็นความจริง
เพราะเดิมมีเพียง 12 รัฐที่เคยเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษ
แต่รัฐ Delaware ชื่อเดิมคือ The Three Lower Counties
ไม่ได้เป็นอาณานิคมมาก่อนแต่อย่างใด
พื้นที่ดังกล่าวมักจะมีการเปลี่ยนการปกครอง
สลับกันไปมาระหว่างรัฐ Pennsylvania กับรัฐ Maryland

จนกระทั่งในที่สุดรัฐ Delaware อยู่ใต้การปกครองของ William Penn
ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลรัฐ Pennsylvania ด้วย
ทำให้รัฐ Delaware เป็นส่วนหนึ่งของรัฐ Pennsylvania
หลังสงครามปฏิวัติกอบกู้เอกราชสหรัฐอเมริกา
ปลดแอกจากการปกครองระบบอาณานิคมของอังกฤษสำเร็จแล้ว
รัฐ Delaware จึงได้แยกตัวออกมาตั้งเป็นรัฐอิสระ
แล้วเข้าร่วมรวมตัวกันเป็นสหรัฐอเมริกา

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ





8. แก้วเป็นของเหลว

มีเรื่องเล่าตำนานที่ยาวนานมาแล้วเกี่ยวกับเรื่องแก้ว
ที่มักจะบอกต่อ ๆ กันมาว่า แก้วนั้นความจริงคือ
ของเหลวที่ละลายตัวได้ช้ามาก

ตำนานในเรื่องนี้ได้ถูกนำเสนอขึ้นมาโดยนักประวัติศาสตร์
ที่สังเกตพบว่า ด้านล่างสุดของบานกระจกหน้าต่างเก่า
มักจะมีขนาดใหญ่กว่ามากเมื่อเทียบกับด้านบนของกระจก
เพื่อป้องกันและทำให้แก้วที่เป็นฐานมั่นคงกับละลายช้าลง

ตำนานในเรื่องนี้จึงเชื่อถือกันมาว่าถูกต้องและเป็นจริง
ทำให้ต่อมากลายเป็นส่วนหนึ่งของบทสรุปรายวิชา

จนกระทั่งนักวิจัยได้พิสูจน์ความผิดพลาดในเรื่องนี้จนพบว่า
อัตราการเปลี่ยนแปลงจากแก้วกลายเป็นของเหลวนั้น
การผลิตแก้วมาจากการยึดตัวของสารประกอบที่ผสมกัน
ด้วยความร้อนจัดในอุณหภูมิที่สูงมากจนกลายเป็นแก้ว
ดังนั้น จะต้องใช้เวลาถึง 10 ยกกำลัง 32 ปี
หรือเท่ากับจักรวาลครบรอบอายุขัยสามรอบ
เท่ากับเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไปไม่ได้






7. คนยุโรปรุกรานทวีปแอฟริกาและลักพาตัวคนพื้นเมืองมาเป็นทาส

เรื่องที่เชื่อและเล่าสืบต่อ ๆ กันมาว่า
ชาวอเมริกันหรือคนผิวขาว
ลักพาตัวคนจากทวีปแอฟริกามาเป็นทาส
แล้วบรรทุกคนเหล่านี้ลงเรือ
เพื่อนำตัวไปเป็นทาสที่อเมริกาและยุโรป



จริงอยู่แม้ว่าจะเป็นเรื่องจริงอยู่บ้าง
แต่ก็มีเรื่องโกหกปนอยู่ภายในเรื่องนี้ด้วย
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์ให้เห็นชัดแล้วว่า
บรรดาทาสที่ถูกนำมาขายจำนวนมาก
โดยมากมาจากพ่อค้าทาสชาวแอฟริกันด้วยกันเอง

ทาสผิวขาวถูกนำมาใช้ในกองทัพอียิปต์
เป็นหน่วยแนวหน้าต้องตาย/แบกขนเสบียงอาหาร
ผู้ชายบางรายถูกตอนเป็นยูนุค/ขันที ไว้ใช้ในฮาเร็มของสุลต่าน
ผู้หญิงถูกขายเป็นนางบำเรอ/นางรับใช้ให้พวกอาหรับ
บางรายจับตัวไว้รอเรียกค่าไถ่จากพวกอาหรับ



เมื่อพวกพ่อค้าทาสรู้ว่า
ชาวอเมริกันกับชาวยุโรปยินดีที่จะจ่ายเงิน
เพื่อซื้อทาสจำนวนมากไปใช้งาน
พวกเขาจึงเริ่มการลักพาตัวคนพื้นเมืองมาเป็นทาส
หรือจับคนพื้นเมืองมาเป็นทาส
พร้อมกับเริ่มต้นการค้าทาสแสวงหากำไร

หมายเหตุ  

เหล่าคนเลวว่าร้ายซึ่งกันและกัน  
เพื่อให้ตนเองพ้นผิดไปก่อน
มาร อสูร ปีศาจ ด่ากันเอง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ





6.  อับราฮัม ลินคอล์น ต่อต้านเรื่องการมีทาส

อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา อับราฮัม ลิงคอล์น
รู้จักกันดีเกี่ยวกับทัศนคติเรื่องต่อต้านการมีทาส

แต่ความจริงก็คือว่า
อดีตประธานาธิบดีผู้นี้ไม่เคยต่อต้านระบบทาส
เรื่องนี้มีพยานหลักฐานชัดเจนอยู่แล้ว
ในประกาศทำสงครามกับฝ่ายใต้

ความกังวลอย่างเดียวของอดีตประธานาธิบดี คือ
จะมีวิธีการใดบ้าง  ที่จะทำให้สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นมา
โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงสิ่งที่ประชาชนในรัฐต่างพากันเรียกร้อง
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ประกาศการเลิกทาสในระหว่างช่วงปี 1862

ทั้งนี้เพื่อทำให้อดีตประธานาธิบดี
จะได้ลดทอนเรื่องจุกจิกกวนใจ
จะได้หลุดพ้นจากความรำคาญ/ยุ่งยาก
ในประเด็นเรื่องต่าง ๆ ทั้งหมด
ที่มีการถกเถียงกันมายาวนานว่า
อเมริกาควรจะมีทาสอีกต่อไปหรือไม่
ถ้าควรมีต่อไปจะต้องใช้เวลาอีกกี่ปีจึงจะเลิกทาส
หรือต้องปลดปล่อยทาสทุกคนให้เป็นไท  เป็นต้น

ดังนั้น การประกาศทำสงครามกับรัฐฝ่ายใต้
เพื่อต้องการจะทำให้สหรัฐเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
กับเป็นประเทศที่แข็งแกร่งกว่าสมาพันธรัฐตอนใต้
ที่ประกาศแยกตัวเป็นอิสระจากการรวมตัวกันเป็นประเทศสหรัฐ
เพราะในช่วงเวลานั้น กลุ่มพันธมิตรจากสมาพันธรัฐตอนใต้
กำลังเริ่มทำสงครามกลางเมืองกับประเทศสหรัฐ
หลังจากที่ประกาศแยกตัวออกมาเป็นสมาพันธรัฐอิสระ

หมายเหตุ  

การประกาศเลิกทาสเป็นเรื่องยุทธศาสตร์
จะทำให้พวกทาสในรัฐฝ่ายเหนือยินดีอุทิศกายอุทิศใจ
เป็นกองกำลังหนุน/ช่วยเหลือในการส่งเสบียง
ช่วยเหลือกองทัพฝ่ายเหนือ

ส่วนพวกทาสในรัฐฝ่ายใต้
ที่ทราบข่าวประกาศการเลิกทาส
บางคนพร้อมที่จะลุกฮือขึ้นต่อสู้
หรือทรยศต่อนายทาสเืพื่อประกาศความเป็นไท
หรือหนีไปอยู่ที่รัฐฝ่ายเหนือ
ทำให้รัฐฝ่ายใต้ขาดแคลนแรงงานทาส

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ




5. เพชรเกิดมาจากถ่านหิน

เรื่องที่เชื่อกันมาอย่างแรงว่า
เพชรเกิดขึ้นมาจากถ่านหิน

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง
ความจริงมีอยู่ว่า
คนเรามักจะพบถ่านหินฝังตัวร่วม
อยู่ในหมู่โขดหิน/กองหินอื่น ๆ
เช่น ในกองหินปูน ชั้นดินต่าง ๆ เป็นต้น

แต่จริง ๆ แล้วเพชร
จะค้นพบได้ในเขตพื้นที่
ที่ลึกมากกว่าหลายร้อยไมล์
อยู่ใต้ใจกลางผืนแผ่นดินโลก
เพชรจะถูกนำขึ้นมาได้ด้วย
แรงระเบิดจากภูเขาไฟ

ด้วยแรงกดดันอย่างมหาศาล
และความร้อนยิ่งยวด
ทั้งสองอย่างนี้เป็นองค์ประกอบ
ร่วมกันที่ำจำเป็นอย่างมาก
ในการทำให้เกิดการก่อตัวขึ้นมาของเพชร
แรงกดดันอย่างมหาศาล
ที่บีบอัดถ่านหินที่กำลังเผาไหม้
เป็นเถ้าถ่านอย่างสมบูรณ์
ภายใต้อุณหภูมิความร้อนจากไฟนรกโลกันต์

แต่ถ่านหินที่ถูกเผาไหม้แล้ว
กลายเป็นเถ้าถ่าน
ที่พบกันอยู่บนเปลือกโลก
จะเป็นคนละชนิดเดียวกัน
กับถ่านหินที่ถูกเผาไหม้
แล้วกลายมาเป็นเพชร

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่