เที่ยวเกาหลีครั้งแรกของเรา 2 คน #วันที่ 1
http://ppantip.com/topic/30121894
[CR]เที่ยวเกาหลีครั้งแรกของเรา 2 คน #วันที่ 3 - 4 (ตอนจบ)
http://ppantip.com/topic/30125536
---------------------------------------------
ก่อนไปวันที่ 2 ขอต่อกันก่อนด้วยที่นอนของคืนแรก เนื่องจากเพลียจัดเลยลงรูปของคืนแรกไม่หมด
ลืมให้ดูรูปห้องนอนเลย (สงสัยเมื่อคืนง่วงนอนจัด555)ในห้องพักแบ่งเป็นห้องนอน2ห้อง ให้เลือกว่าจะนอนแบเตียง
หรือจะนอนแบบ อนดอล คือนอนพื้น ซึ่งห้องเป็นพื้นไม้ ใต้นั้นจะเป็นท่อน้ำร้อนไหลผ่านคอยให้ความอบอุ่นภายในห้องอยู่ตลอด ถึงจะไม่นุ่งอะไรเลยก็ยังอุ่นสบายตัว เครื่องปรับอากาศที่นี่ไม่ต้องมองหาเพราะไม่มี หมอนกับที่นอนข้างในก็ยัดไว้ด้วยเปลือกข้าวสาลี ว่ากันว่านอนแล้วไม่เมื่อยคอและไม่ปวดหลัง ได้เคล็ดเพิ่มมาอีกอย่างหนึ่งก็คือ อากาศหนาว ๆ แบบนี้เวลานอนให้เอาแก้วใส่น้ำวางไว้บนหัวนอน ตื่นเช้ามาคอจะได้ไม่แห้งหรือเจ็บคอ
-- มาต่อกันเช้าวันที่ 2 --
ตื่นมาในวันที่ 31 มค. 56 มาดูอาหารเช้ากันดีกว่า ถือว่ามีในเลือกหลากหลายเหมือนกัน
มื้อเช้าสำหรับเรา กินแค่นี้ก่อนเบาๆ กลัวจุกเวลาเล่นสกี(เพราะหวังจะเล่นให้ฝีมือขนาดนักกีฬาทีมชาติเลย คอยดู5555)
หลังจากที่อิ่มแล้วก็มาเล่นสกีกันดีกว่า ซึ่งก่อนเล่นพี่ไกด์จะสอนวิธีการเล่นให้กับทุกคนก่อน
อิอิ แต่ละคนในกรุ๊ปทัวร์เราล้มไม่เป็นท่าเลยทีเดียว ซึ่งเราว่ามันเล่นยากพอดู ขนาดตอนเช้าอากาศ-3องศา ยังรู้สึกว่าร้อน เพราะว่าต้องใช้แรงทั้งแขนและขาแบบสุดๆ
พี่ไกด์ให้เวลาตั้งแต่08.00-10.30น. ในการเล่นสกีสุดท้ายการเล่นสกีของพวกเรา ก็ออกมาเป็นท่าแบบนี้ 5555
ต่อจากนั้น ก็ไปที่ " วัดวาวูจองซา " ซึ่งพี่ไกด์บอกว่าการสร้างแค่เศียรพระเพราะว่า หากมีการรวมประเทศระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ได้สำเร็จ
จะมีการสร้างองค์พระให้สำเร็จ
น้ำในสระที่นั้นยังเป็นน้ำแข็งอยู่เลย เห็นแล้วแปลกตาไปอีกแบบ
ซึ่งตอนที่เรามา ทางวัดได้มีการขอรับบริจาคกระเบื้อง เพื่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ ถือว่าทำบุญต้อนรับปีใหม่ซะหน่อย (ราคากระเบื้องละ10,000วอน)
ทำบุญเสร็จ ก็มากินข้าวเที่ยงกัน เมนูนี้ ชื่อว่าข้าวยำ (อาจมีหน้าตาแปลกๆ เพราะจริงๆแล้วต้องเป็นไข่ดิบ แต่ไหงมาเป็นไข่ดาวเลย แต่ก็ดีจะได้ไม่คาวเนอะ แอนราดด้วยซอสไปแล้วนะ เพิ่มเติมหน้าตาให้สวยงามจ้า)
และ ชาบูชาบู สุกี้หม้อไฟไสล์เกาหลี
พร้อมเครื่องเคียง มีสาหร่ายสดออกรสเค็มๆ ต้องเสียงสูงด้วยนะ เพราะเค็มจริงๆ^^ สลัดเส้นบุก กิมจิที่มีทุกมื้อ และปลาอะไรซักอย่าง
(อิอิ จำชื่อไม่ได้)
จากนั้นไปไร่สตอเบอรรี่ ซึ่งในวันนี้อุณหภูมิถือว่าสูงที่สุดในหน้าหนาวปีนี้ อุณหภูมิอยู่ที่11 องศา และเนื่องจากวันนั้นอุณหภูมิสูงขึ้นกระทันหัน จึงเกิดการเน่า ทางไร่จึงเก็บสตอเบอรรี่จากไร่อื่นมาให้กินแทน (อดกินแบบสดๆจากไร่เลย) เศร้า...
ด้านหน้าทางเข้ามีน้องหมาน่ารักๆคอยต้อนรับอยู่ด้วยนะ
หลังจากนั้นไปเรียนทำกิมจิกัน
ซึ่งในห้องเรียนมีการให้รางวัลมิสกิมจิด้วย หากใครทำออกมาได้สวยสุด หุหุ แต่เราไม่ได้ (หน้าตากิมจิที่แอนทำเสร็จแล้วออกมาเป็นแบบนี้)
และนี่ก็กิมจิแพ็คคู่(เติมความหวานกันซักหน่อย)
ทำกิมจิเรียบร้อยก็มาใส่ชุดฮันบกกัน ซึ่งสตูที่ถ่ายชุดฮันบกก็อยู่ด้านล่างที่เรียนทำกิมจิ ซึ่งเป็นอาคารห้องแถว
ทุกคนเลือกสีชุดกันใส่ตามอัธยาศัย สำหรับเราต้องเหลืองชมพู
ซึ่งชุดที่นี่ถือว่าดูใหม่และมีให้เลือกเยอะพอควร นี่ชุดสำหรับผู้ชาย
หลังจากนั้น ไปเล่นเครื่องเล่นกันต่อที่ " เอเวอร์แลนด์ "
ซึ่งด้านในสวนสนุกมีเครื่องเล่นและมุมให้ถ่ายรูปน่ารักๆ มากมาย
ลืมบอกไปว่า ทางเข้าไปเล่นเครื่องเล่นบางอย่าง ต้องนั่งกระเช้าเข้าไป หรือเดินก็ได้ เพราะมีบันไดอยู่
เข้าไปดูซาฟารีของที่นั้นมา ถือว่าเป็นอะไรที่เราชอบมาก การรอรถมินิบัสเข้าชมถือว่าไม่นาน ในนั้นมีเสือ นก และหมีแสนรู้ ซึ่งไฮไลท์อยู่ที่เจ้าหมี เพราะสามารถทำกริยาบถน่ารักๆแบบที่ประเทศไทยไม่มีแน่นอน
แต่มากับทัวร์ต้องทำใจเพราะให้เวลาน้อยมาก เราไม่ได้เล่นเครื่องเล่นอะไรเลย เวลาไม่ทัน แถมเครื่องเล่นที่อยากเล่นก็ปิดบางส่วน
หลังจากนั้นก็เป็นมื้อเย็น " หมูย่างเกาหลี " เนื้อหมูชิ้นใหญ่และหมักกับน้ำซอสได้อร่อยทีเดียว มื้อนี้เป็นมื้อที่แอนชอบที่สุด (เนื้อชื้นใหญ่มาก)
ซึ่งในการกินให้กินกับซอส(แต่พี่ไกด์มีน้ำจิ้มแจ่วมาให้ รสเด็ดสะระตี่)กระเทียม กิมจิ และใช้ใบผักกาดหอมสดห่อเป็นคำ คล้ายเมี่ยงคำ พร้อมข้าวสวยร้อนๆ (พูดแล้วน้ำลายไหล)
และก็มาที่ห้องพัก PYEONGTEAK ROYAL TOURIST HOTEL ห้องที่นี้มีคอมพิวเตอร์ในห้องให้ใช้งาน ถึงแม้ว่าพื้นที่ห้องจะเล็กกว่าคืนแรก แต่กับราคาที่จ่ายค่าทัวร์ไปถือว่าขี้เหร่
ห้องน้ำในห้องพักที่โรงแรม หรูกว่าห้องน้ำในหอพักเราเยอะ
-- จบวันที่ 2 ---
[CR] เที่ยวเกาหลีครั้งแรกของเรา 2 คน #วันที่ 2
http://ppantip.com/topic/30121894
[CR]เที่ยวเกาหลีครั้งแรกของเรา 2 คน #วันที่ 3 - 4 (ตอนจบ)
http://ppantip.com/topic/30125536
---------------------------------------------
ก่อนไปวันที่ 2 ขอต่อกันก่อนด้วยที่นอนของคืนแรก เนื่องจากเพลียจัดเลยลงรูปของคืนแรกไม่หมด
ลืมให้ดูรูปห้องนอนเลย (สงสัยเมื่อคืนง่วงนอนจัด555)ในห้องพักแบ่งเป็นห้องนอน2ห้อง ให้เลือกว่าจะนอนแบเตียง
หรือจะนอนแบบ อนดอล คือนอนพื้น ซึ่งห้องเป็นพื้นไม้ ใต้นั้นจะเป็นท่อน้ำร้อนไหลผ่านคอยให้ความอบอุ่นภายในห้องอยู่ตลอด ถึงจะไม่นุ่งอะไรเลยก็ยังอุ่นสบายตัว เครื่องปรับอากาศที่นี่ไม่ต้องมองหาเพราะไม่มี หมอนกับที่นอนข้างในก็ยัดไว้ด้วยเปลือกข้าวสาลี ว่ากันว่านอนแล้วไม่เมื่อยคอและไม่ปวดหลัง ได้เคล็ดเพิ่มมาอีกอย่างหนึ่งก็คือ อากาศหนาว ๆ แบบนี้เวลานอนให้เอาแก้วใส่น้ำวางไว้บนหัวนอน ตื่นเช้ามาคอจะได้ไม่แห้งหรือเจ็บคอ
-- มาต่อกันเช้าวันที่ 2 --
ตื่นมาในวันที่ 31 มค. 56 มาดูอาหารเช้ากันดีกว่า ถือว่ามีในเลือกหลากหลายเหมือนกัน
มื้อเช้าสำหรับเรา กินแค่นี้ก่อนเบาๆ กลัวจุกเวลาเล่นสกี(เพราะหวังจะเล่นให้ฝีมือขนาดนักกีฬาทีมชาติเลย คอยดู5555)
หลังจากที่อิ่มแล้วก็มาเล่นสกีกันดีกว่า ซึ่งก่อนเล่นพี่ไกด์จะสอนวิธีการเล่นให้กับทุกคนก่อน
อิอิ แต่ละคนในกรุ๊ปทัวร์เราล้มไม่เป็นท่าเลยทีเดียว ซึ่งเราว่ามันเล่นยากพอดู ขนาดตอนเช้าอากาศ-3องศา ยังรู้สึกว่าร้อน เพราะว่าต้องใช้แรงทั้งแขนและขาแบบสุดๆ
พี่ไกด์ให้เวลาตั้งแต่08.00-10.30น. ในการเล่นสกีสุดท้ายการเล่นสกีของพวกเรา ก็ออกมาเป็นท่าแบบนี้ 5555
ต่อจากนั้น ก็ไปที่ " วัดวาวูจองซา " ซึ่งพี่ไกด์บอกว่าการสร้างแค่เศียรพระเพราะว่า หากมีการรวมประเทศระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ได้สำเร็จ
จะมีการสร้างองค์พระให้สำเร็จ
น้ำในสระที่นั้นยังเป็นน้ำแข็งอยู่เลย เห็นแล้วแปลกตาไปอีกแบบ
ซึ่งตอนที่เรามา ทางวัดได้มีการขอรับบริจาคกระเบื้อง เพื่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ ถือว่าทำบุญต้อนรับปีใหม่ซะหน่อย (ราคากระเบื้องละ10,000วอน)
ทำบุญเสร็จ ก็มากินข้าวเที่ยงกัน เมนูนี้ ชื่อว่าข้าวยำ (อาจมีหน้าตาแปลกๆ เพราะจริงๆแล้วต้องเป็นไข่ดิบ แต่ไหงมาเป็นไข่ดาวเลย แต่ก็ดีจะได้ไม่คาวเนอะ แอนราดด้วยซอสไปแล้วนะ เพิ่มเติมหน้าตาให้สวยงามจ้า)
และ ชาบูชาบู สุกี้หม้อไฟไสล์เกาหลี
พร้อมเครื่องเคียง มีสาหร่ายสดออกรสเค็มๆ ต้องเสียงสูงด้วยนะ เพราะเค็มจริงๆ^^ สลัดเส้นบุก กิมจิที่มีทุกมื้อ และปลาอะไรซักอย่าง
(อิอิ จำชื่อไม่ได้)
จากนั้นไปไร่สตอเบอรรี่ ซึ่งในวันนี้อุณหภูมิถือว่าสูงที่สุดในหน้าหนาวปีนี้ อุณหภูมิอยู่ที่11 องศา และเนื่องจากวันนั้นอุณหภูมิสูงขึ้นกระทันหัน จึงเกิดการเน่า ทางไร่จึงเก็บสตอเบอรรี่จากไร่อื่นมาให้กินแทน (อดกินแบบสดๆจากไร่เลย) เศร้า...
ด้านหน้าทางเข้ามีน้องหมาน่ารักๆคอยต้อนรับอยู่ด้วยนะ
หลังจากนั้นไปเรียนทำกิมจิกัน
ซึ่งในห้องเรียนมีการให้รางวัลมิสกิมจิด้วย หากใครทำออกมาได้สวยสุด หุหุ แต่เราไม่ได้ (หน้าตากิมจิที่แอนทำเสร็จแล้วออกมาเป็นแบบนี้)
และนี่ก็กิมจิแพ็คคู่(เติมความหวานกันซักหน่อย)
ทำกิมจิเรียบร้อยก็มาใส่ชุดฮันบกกัน ซึ่งสตูที่ถ่ายชุดฮันบกก็อยู่ด้านล่างที่เรียนทำกิมจิ ซึ่งเป็นอาคารห้องแถว
ทุกคนเลือกสีชุดกันใส่ตามอัธยาศัย สำหรับเราต้องเหลืองชมพู
ซึ่งชุดที่นี่ถือว่าดูใหม่และมีให้เลือกเยอะพอควร นี่ชุดสำหรับผู้ชาย
หลังจากนั้น ไปเล่นเครื่องเล่นกันต่อที่ " เอเวอร์แลนด์ "
ซึ่งด้านในสวนสนุกมีเครื่องเล่นและมุมให้ถ่ายรูปน่ารักๆ มากมาย
ลืมบอกไปว่า ทางเข้าไปเล่นเครื่องเล่นบางอย่าง ต้องนั่งกระเช้าเข้าไป หรือเดินก็ได้ เพราะมีบันไดอยู่
เข้าไปดูซาฟารีของที่นั้นมา ถือว่าเป็นอะไรที่เราชอบมาก การรอรถมินิบัสเข้าชมถือว่าไม่นาน ในนั้นมีเสือ นก และหมีแสนรู้ ซึ่งไฮไลท์อยู่ที่เจ้าหมี เพราะสามารถทำกริยาบถน่ารักๆแบบที่ประเทศไทยไม่มีแน่นอน
แต่มากับทัวร์ต้องทำใจเพราะให้เวลาน้อยมาก เราไม่ได้เล่นเครื่องเล่นอะไรเลย เวลาไม่ทัน แถมเครื่องเล่นที่อยากเล่นก็ปิดบางส่วน
หลังจากนั้นก็เป็นมื้อเย็น " หมูย่างเกาหลี " เนื้อหมูชิ้นใหญ่และหมักกับน้ำซอสได้อร่อยทีเดียว มื้อนี้เป็นมื้อที่แอนชอบที่สุด (เนื้อชื้นใหญ่มาก)
ซึ่งในการกินให้กินกับซอส(แต่พี่ไกด์มีน้ำจิ้มแจ่วมาให้ รสเด็ดสะระตี่)กระเทียม กิมจิ และใช้ใบผักกาดหอมสดห่อเป็นคำ คล้ายเมี่ยงคำ พร้อมข้าวสวยร้อนๆ (พูดแล้วน้ำลายไหล)
และก็มาที่ห้องพัก PYEONGTEAK ROYAL TOURIST HOTEL ห้องที่นี้มีคอมพิวเตอร์ในห้องให้ใช้งาน ถึงแม้ว่าพื้นที่ห้องจะเล็กกว่าคืนแรก แต่กับราคาที่จ่ายค่าทัวร์ไปถือว่าขี้เหร่
ห้องน้ำในห้องพักที่โรงแรม หรูกว่าห้องน้ำในหอพักเราเยอะ
-- จบวันที่ 2 ---