มือใหม่เหมือนกัน เข้าเวบ thaimtb เจอกระทู้นี้เข้า สอนวิธีปั่นที่ถูกวิธี
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=587&t=626680&sid=0244f32ab5de1f957046a346736318c5&start=15
ลองทำตามดูก็ได้ผลนะ รู้สึกได้ว่าเบาลงนิดนึง ความเร็วเพิ่มขึ้นประมาณ 1 กม.ต่อ ชม. กำลังพยายามฝึกอยู่ครับ เผลอเมื่อไรก็ลืม นึกได้ก็พยายามทำตาม
ตัดตอนที่อยากให้อ่านมาแปะไว้ให้ ส่วนความหมายก็คงเป็นดังรูปที่แปะไว้ ลองพยายามทำตามดูนะครับ รับรองว่าได้ผลจริงๆ หมายเหตุนิดนึงว่า จขกท. ใช้รองเท้าผ้าใบธรรมดา ไม่มีคลีทอะไรกับเค้าหรอก
คนส่วนมากที่ถีบจักรยานมักจะใช้วิธีถีบโดยการออกแรงกดบันไดลงไปตรงๆเลย ซ้ายทีขวาทีสลับกันไปเรื่อยๆ ฉันจะไปไหนๆฉันก็ถีบอยู่แบบนี้ละ ถ้าไปแค่ปากซอยหรือไปตลาดก็ ok แต่การจะทัวร์ริ่งปั่นแบบนี้ไปไม่ถึงไหนแน่ๆหรือไม่ก็ถึงทีหลังเขาเป็นวันสองวัน การถีบให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดของมือโปรคือ ให้ได้กำลังไปปั่นล้อจากรอบขาที่หมุนไปชนิดที่ไม่มีการสูญเปล่าหรือตกหล่นเลยแม้แต่หยดเดียว นั่นก็คือในคนทั่วไปถีบซ้ายที่ขวาทีเป็นอันจบได้กำลังจากการถีบไปหมุนล้อแค่ 1 ครั้งเท่านั้นจากการกดบันไดเพียงอย่างเดียว ส่วนของระดับโปรได้ถึง 4 ครั้งแล้วอีก 3 มันเพิ่มมายังไง
ลองนึกถึงหน้าปัดนาฬิกาโดยเริ่มที่ตำแหน่ง 12 น.ในคนทั่วไปจะกดบันไดลงมาเฉยๆจนถึง 6 น. บันไดอีกข้างก็จะไปอยู่ที่ตำแหน่ง 12 น.ก็จะกดลงมาเฉยๆจนถึง 6 น. เช่นกัน นี่คือรอบกำลังที่ได้จากการปั่นแบบทั่วไป มาดูรอบกำลังของโปรบ้างจะเริ่มจาก 11 น.ไม่ใช่ที่ 12 น.แทนที่จะกดบันไดลงมาตรงๆเขาจะใช้วิธิเตะบันไดไปข้างหน้า บันไดจะถูกเตะให้เคลื่อนตัวมาที่ตำแหน่ง 1 น. จากนั้นจะเป็นการกดลูกบันไดเหมือนทั่วๆไปทำกัน จนบันไดเคลื่อนตัวมาถึงที่ตำแหน่ง 5 น. โปรจะใช้วิธีเตะเท้าตัวเองไปข้างหลัง ให้นึกถึงเวลาเราเดินเหยียบขี้หมาแล้วพยายามจะเช็ดรองเท้าตัวเองกับหญ้า บันไดจะถูกเตะให้เคลื่อนตัวมาที่ตำแหน่ง 7 น.จากตำแหน่งนี้โปรจะใช้วิธีดึงบันไดขึ้นมาจนถึงตำแหน่ง 11 น. นื่คือรอบการปั่นของมือโปร และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงต้องใส่รองเท้าที่ติด cleat ก็ด้วยเหตุผลที่จะเอาไว้เกี่ยวดึงลูกบันไดให้มันตามเท้าขึ้นมานั่นเอง
คิดหนักเลยที่นี้เพราะรองเท้าติด cleat ราคาหลายพัน บางคนบอกเก็บไว้เปลี่ยนยางดีกว่าไม่ต้องปั่นให้ได้แบบโปรหรอก ในการปั่นทัวร์ริ่งจริงๆอย่าลืมว่าเราไม่ได้ไปแข่งกับใคร พละกำลังในการปั่นมันจะไม่เต็มร้อยเหมือนโปรก็ไม่ได้เสียหายอะไร ยกเว้นบางคนที่ต้องการพลังงานเต็มร้อยจริงๆแถมมีตังก็ติด cleat ไปแต่ท่านทั้งหลายเชื่อหรือไม่ว่า ไม่มีใครสามารถปั่นได้ครบทั้งสี่จังหวะคือจังหวะเตะ –จังหวะกด – จังหวะเตะหลัง –และจังหวะดึง ถึงแม้ว่าจะใส่ cleat ก็ตาม เหมือนกับคนเล่นก๊อฟแล้วลืมวงบ้างหลุดวงบ้างยังไงยังงั้นเลย เพราะฉะนั้นนักทัวร์ริ่งทั้งหลายจึงมีโอกาสเลือกที่จะไม่ใส่ cleat ก็มีเยอะแยะไป
ผมมีเทคนิคง่ายๆมาฝากคนที่ไม่ใช้ cleat เพื่อทดแทนจังหวะดึงที่หลายคนทำมันขาดหายไปด้วยการกดปลายเท้าตั้งแต่ตำแหน่ง 5 น. ลูกบันไดจะเอียงมุมรับกับปลายเท้าที่เรากดปลายเท้าลงไป คุณจะได้ทั้งเตะหลังและเกี่ยวดึงแบบต่อเนื่องกันเลย ทดลองดูนะครับสบายๆตามประสาคนบ้าทัวร์ริ่งอย่าไปเครียดกับมัน (ตอนหน้าจะกล่าวถึงวิธีการ speed เอาความเร็วนะครับ)
ของฝากมือใหม่
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=587&t=626680&sid=0244f32ab5de1f957046a346736318c5&start=15
ลองทำตามดูก็ได้ผลนะ รู้สึกได้ว่าเบาลงนิดนึง ความเร็วเพิ่มขึ้นประมาณ 1 กม.ต่อ ชม. กำลังพยายามฝึกอยู่ครับ เผลอเมื่อไรก็ลืม นึกได้ก็พยายามทำตาม
ตัดตอนที่อยากให้อ่านมาแปะไว้ให้ ส่วนความหมายก็คงเป็นดังรูปที่แปะไว้ ลองพยายามทำตามดูนะครับ รับรองว่าได้ผลจริงๆ หมายเหตุนิดนึงว่า จขกท. ใช้รองเท้าผ้าใบธรรมดา ไม่มีคลีทอะไรกับเค้าหรอก
คนส่วนมากที่ถีบจักรยานมักจะใช้วิธีถีบโดยการออกแรงกดบันไดลงไปตรงๆเลย ซ้ายทีขวาทีสลับกันไปเรื่อยๆ ฉันจะไปไหนๆฉันก็ถีบอยู่แบบนี้ละ ถ้าไปแค่ปากซอยหรือไปตลาดก็ ok แต่การจะทัวร์ริ่งปั่นแบบนี้ไปไม่ถึงไหนแน่ๆหรือไม่ก็ถึงทีหลังเขาเป็นวันสองวัน การถีบให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดของมือโปรคือ ให้ได้กำลังไปปั่นล้อจากรอบขาที่หมุนไปชนิดที่ไม่มีการสูญเปล่าหรือตกหล่นเลยแม้แต่หยดเดียว นั่นก็คือในคนทั่วไปถีบซ้ายที่ขวาทีเป็นอันจบได้กำลังจากการถีบไปหมุนล้อแค่ 1 ครั้งเท่านั้นจากการกดบันไดเพียงอย่างเดียว ส่วนของระดับโปรได้ถึง 4 ครั้งแล้วอีก 3 มันเพิ่มมายังไง
ลองนึกถึงหน้าปัดนาฬิกาโดยเริ่มที่ตำแหน่ง 12 น.ในคนทั่วไปจะกดบันไดลงมาเฉยๆจนถึง 6 น. บันไดอีกข้างก็จะไปอยู่ที่ตำแหน่ง 12 น.ก็จะกดลงมาเฉยๆจนถึง 6 น. เช่นกัน นี่คือรอบกำลังที่ได้จากการปั่นแบบทั่วไป มาดูรอบกำลังของโปรบ้างจะเริ่มจาก 11 น.ไม่ใช่ที่ 12 น.แทนที่จะกดบันไดลงมาตรงๆเขาจะใช้วิธิเตะบันไดไปข้างหน้า บันไดจะถูกเตะให้เคลื่อนตัวมาที่ตำแหน่ง 1 น. จากนั้นจะเป็นการกดลูกบันไดเหมือนทั่วๆไปทำกัน จนบันไดเคลื่อนตัวมาถึงที่ตำแหน่ง 5 น. โปรจะใช้วิธีเตะเท้าตัวเองไปข้างหลัง ให้นึกถึงเวลาเราเดินเหยียบขี้หมาแล้วพยายามจะเช็ดรองเท้าตัวเองกับหญ้า บันไดจะถูกเตะให้เคลื่อนตัวมาที่ตำแหน่ง 7 น.จากตำแหน่งนี้โปรจะใช้วิธีดึงบันไดขึ้นมาจนถึงตำแหน่ง 11 น. นื่คือรอบการปั่นของมือโปร และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงต้องใส่รองเท้าที่ติด cleat ก็ด้วยเหตุผลที่จะเอาไว้เกี่ยวดึงลูกบันไดให้มันตามเท้าขึ้นมานั่นเอง
คิดหนักเลยที่นี้เพราะรองเท้าติด cleat ราคาหลายพัน บางคนบอกเก็บไว้เปลี่ยนยางดีกว่าไม่ต้องปั่นให้ได้แบบโปรหรอก ในการปั่นทัวร์ริ่งจริงๆอย่าลืมว่าเราไม่ได้ไปแข่งกับใคร พละกำลังในการปั่นมันจะไม่เต็มร้อยเหมือนโปรก็ไม่ได้เสียหายอะไร ยกเว้นบางคนที่ต้องการพลังงานเต็มร้อยจริงๆแถมมีตังก็ติด cleat ไปแต่ท่านทั้งหลายเชื่อหรือไม่ว่า ไม่มีใครสามารถปั่นได้ครบทั้งสี่จังหวะคือจังหวะเตะ –จังหวะกด – จังหวะเตะหลัง –และจังหวะดึง ถึงแม้ว่าจะใส่ cleat ก็ตาม เหมือนกับคนเล่นก๊อฟแล้วลืมวงบ้างหลุดวงบ้างยังไงยังงั้นเลย เพราะฉะนั้นนักทัวร์ริ่งทั้งหลายจึงมีโอกาสเลือกที่จะไม่ใส่ cleat ก็มีเยอะแยะไป
ผมมีเทคนิคง่ายๆมาฝากคนที่ไม่ใช้ cleat เพื่อทดแทนจังหวะดึงที่หลายคนทำมันขาดหายไปด้วยการกดปลายเท้าตั้งแต่ตำแหน่ง 5 น. ลูกบันไดจะเอียงมุมรับกับปลายเท้าที่เรากดปลายเท้าลงไป คุณจะได้ทั้งเตะหลังและเกี่ยวดึงแบบต่อเนื่องกันเลย ทดลองดูนะครับสบายๆตามประสาคนบ้าทัวร์ริ่งอย่าไปเครียดกับมัน (ตอนหน้าจะกล่าวถึงวิธีการ speed เอาความเร็วนะครับ)