หน้าเปิด
เช้าวันต่อมา ทุกคนที่มาที่ห้องอาหารอิชิกิก็เห็นโซมะมารอพร้อมชุดครัวเรียบร้อย
โซมะพูดอิชิกิกับที่บอกกับเขาเมื่อวานว่าตอนนี้อิชิกิเป็นอันดับ 7 ของสิบสุดยอด โซมะเลยขอท้าดวลอิชิกิทันที แต่ทุกคนกลับนิ่งเงียบจนโซมะเริ่มงงเอง อิชิกิก็เลยบอกขอโทษโซมะเรื่องที่เขายังอธิบายไม่หมดถึงเรื่องเกี่ยวกับการท้าดวลของโรงเรียนโทสึกิ โซมะก็เลยงงต่อ
อีกด้านที่สเตเดียมที่พวกนักเรียนต่างมาดูกันเต็มไปหมด และหนึ่งในผู้ที่อยู่บนเวทีก็คือ โกดะบายาชิ คิโยชิ พ่อครัวรุ่นที่ 76 จากชุมนุมวิจัยจังโกะนาเบะ(ของตุ๋นของนักซูโม่) ชั้นม.ปลายปี 2
คิโยชิบอกว่าพวกเขา "จังเคน" คือชุมนุมวิจัยที่มีมาแต่โบราณและมีที่มาที่ทรงคุณค่านับตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียนเลย แล้วเอรินะคิดจะทำลายมันงั้นเหรอ
เอรินะที่อยู่บนเวทีเดียวกับด้วยชุดครัวก็บอเลยว่าเธอจะสร้างห้องครัวส่วนตัว(อาคารที่6) บอกเพราะว่าอาคารที่ 5 มันเล็กเกินไปสำหรับเธอ คิโยชิได้ยินแบบนี้ก็เลยโมโห พูดเลยว่าอย่ามาพูดเป็นเล่นกับเขา บอกเลยว่าอาคารของเขามีประวัติศาสตร์และความหลงใหลที่มีต่ออาหารที่รุ่นพี่ส่งต่อกันมา เอรินะยังคิดจะเหยียบย้ำได้ยังงั้นเหรอ คิดบ้างรึเปล่าว่าตัวเองก็เป็นคนครัว คนอื่นๆที่เป็นพวกคิโยชิก็เชียร์คิโยชิค้านการกระทำของเอรินะ เอรินะก็ถอนหายใจ
พูดบ้างว่าพวกพวกคิโยชิเองก็ไม่ได้มีผลสำเร็จสำคัญอะไรมาหลายปีแล้วไม่ใช่เหรอไง บอกเลยว่าเธอไม่คิดว่าชุมนุมวิจัยจะดีแต่พูดเรื่องชื่อเสียงในอดีตที่เคยจำเป็นในโทสึกินี้ คิโยชิก็พูดเลยว่าเอรินะคิดจะใช้อำนาจของตัวเองเป็นโล่ที่คิดจะทำอะไรก็ทำได้งั้นเหรอ พวกเขาไม่ยอมแน่ ถ้าเขาชนะเอรินะก็ต้องลาจากตำแหน่งที่ 10 ไปซะเพราะงั้นเขาขอท้าเอรินะ ทางเอรินะก็เริ่มสวมหมวกเชฟพูดบ้างว่าแล้วถ้าเธอชนะการก่อสร้างก็จะดำเนินต่อตามแผน เอรินะก็บอกให้มาดวลกันได้เลย
กลับมาทางพวกโซมะ ขณะที่กำลังทานอาหารเช้ากัน อิชิกิอธิบายถึงวิธีการดวลของโรงเรียนว่า "การดวล" ถูกจัดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการทะเลาะระหว่างนักเรียนด้วยกฎบางอย่าง อิชิกิบอกโซมะว่าถ้าโซมะอยากจะดวลกับเขาที่อยู่อันดับ 7 โซมะต้องมีสิ่งที่จะ "ชดเชย" เพื่อความเท่าเทียมด้วย พูดก็คือเช่นเงื่อนไขที่มีความเท่าเทียมกับลำดับที่ 7 กับแค่ต้องลาออกจากโรงเรียนก็ยังไม่พอเลย โซมะถึงกับตะลึงว่าขนาดนั้นเชียวเหรอ ฟุมิโอะบอกเลยนั้นแหละค่าของสิบสุดยอด
ฟุมิโอะยังบอกว่าในอดีตนักเรียนบางคนในหอแห่งนี้เกือบจะได้ลำดับที่ 10 ทุกปีในช่วงยุคทองของหอดาวเหนือนี้ บอกเลยว่าเทียบแล้วโซมะยังสู้กับช่วงนั้นไม่ได้เลย คนอื่นๆก็บ่นที่เล่าให้ฟังไม่รู้กี่รอบแล้ว อิชิกิจึงบอกโซมะว่าถ้าเขายอมรับเงื่อนไขของโซมะก็แข่งกันได้อยู่แต่แน่นอนว่าเขายังไม่อยากออกจากโรงเรียนนี้ ดังนั้นการที่โซมะจะมาดวลกับเขาจึงทำไม่ได้ โซมะเลยเซ็งที่ไม่ได้ดวลอย่างที่คิดทั้งๆที่อุตส่าห์ตื่นมาเตรียมพร้อมตั้งแต่ตี 5 แล้ว เมงุมิกับยูกิยังพูดเลยว่าไจร้อนและบ้าจริงๆเลย แต่อิชิกิก็บอกอีกว่าการที่โซมะจะดวลได้นั้นต้องมีสิ่งจำเป็นอีกสามสิ่ง
อย่างแรกคือผู้ที่มีอำนาจที่จะตรวจสอบการดวลอย่างเป็นทางการได้ จำนวนผู้ตัดสินเลขคี่ และการเห็นพ้องยอมรับเงื่อนไขของการดวลกัน ถ้ามีครบการดวลก็จะถูกจัดเตรียมได้ เป็นการต่อสู้เพื่อให้อีกฝ่ายยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยการทำอาหาร เป็นประเพณีดั้งเดิมของโรงเรียนโทสึกิ การแข่งดวลแบบ 1 ต่อ 1 ชื่อนั้นก็คือ....
"โชคุเงคิ" (ตามชื่อเรื่อง)
อีกด้าน การดวลของเอรินะก็ตัดสินกันเป็นที่เรียบร้อยโดยเอรินะเป็นผู้ชนะ คิโยชิถึงกับไม่อยากจะเชื่อ พอดวลจบเอรินะก็เข้าไปที่จังโกะนาเบะของคิโยชิ
ลองชิมดูก็บอกได้เลยถึงข้อบกพร่อง 27 อย่างของจังโกะนาเบะหม้อนี้ คิโยชิถึงกับตกใจ เอรินะเริ่มอธิบายว่าอย่างแรกคือกุ้งลอบสเตอร์แช่น้ำเย็นหลังต้มนานเกินไป 2 วินาที(ถ้าแช่น้ำเย็นนานไปจะทำให้เกิดฟองเล็กๆได้) ข้อต่อมาคือความขมที่ออกมาจากหอยนางรมจากการตุ๋นเจ้าด้วยกันกับวัตถุดิบทั้งหมด และยังเรื่องการจัดการผัก.... พูดยังไม่ทันจบคิโยชิก็บอกให้เงียบ พูดว่าแล้วของเอรินะล่ะดีกว่าอาหารของเขาตรงไหน เขายอมรับไม่ได้ คิโยชิก็เลยไปที่อาหารของเอรินะซึ่งก็คือ "ราวิโอรี่ ดิ อาราก็อซต้า" (อธิบายแบบเข้าใจง่ายๆก็คือ เกี้ยวแบบอาหารอิตาลี)
พอคิโยชิกินดูก็รู้ได้ทันที เคี้ยวไปคิดไปเลยว่ารสชาติความนุ่มของ langoustine(กุ้ง) อันนิ่มนวลไหลล้นออกมาจากราวิโอรี่(แป้ง)นุ่มๆ แล้วยังความยืดหยุ่นนี่อีก พอคิโยชิลองหยิบอีกชิ้นมากัดดูก็รับรู้ได้เลยว่าเป็นราวกับอีกมิติของรสชาติเลย
ทำเอาคิโยชิเกิดรีแอคชั่นแบบซูโม่ทันทีและเคลิ้มจนเข่าอ่อน
ตอนนั้นเอรินะก็ใช้มือถือติดต่อไปสั่งให้เริ่มได้เลย คิโยชิก็รู้ทันทีว่านั้นคือคำสั่งให้ทำลายอาคารนั้นเอง อาคารก็โดนทุบทันที
แม้แต่ป้ายชื่อก็ถูกหักทิ้ง คิโยชิคิดเลยว่า โหดร้าย ป่าเถื่อน นี่เหรอสายเลือดของราชาปีศาจแห่งอาหาร เอรินะก็พูด"ขอให้โชคดี"ส่งท้าย
จากนั้นระหว่างที่เอรินะกำลังเดินกลับหลายคนที่เป็นลูกน้องก็มาชมเอรินะบอกฝีมือดีสมเป็นผลงานชิ้นเอกเลย ตอนนั้นนักเรียนหญิงที่เป็นเหมือนเลขาของเอรินะก็เข้ามาหาเอรินะบอกว่าชายคนนั้น... เอรินะถามว่าอะไรถึงได้เสียงดังมาเชียว นักเรียนสาว(เมื่อไรจะรู้ชื่อหว่า)บอกดูเหมือนเขาคนนั้นจะผ่านการบรรยายชั้นเรียนของอ.ชาเปลเล่ด้วยคะแนนสูงสุด
พอบอกว่าเป็นโซมะปุ๊บเอรินะก็ทำหน้าเบ้และเริ่มฉุน คิดเลยว่าเป็นผู้ก้าวก่ายแดนศักดิ์สิทธิ์ของเธอ มลทินนี้เธอไม่อาจเมินเฉยได้
คิดว่าต้องไล่โซมะออกไปให้ได้ ด้านโซมะที่กำลังไปโรงเรียนเองก็คิดอยากท้าเอรินะด้วยเหมือนกันแต่เมงุมิบอกเลยว่าโซมะไม่มีทางชนะหรอก ด้านอิชิกิก็พูดเหมือนอดใจรอสิ่งที่จะเกิดขึ้นไม่ไหวจริงๆ
อิชิกิเห็นว่าโซมะที่อยากจะได้ตำแหน่งที่ 7 ของเขานั้นก็รู้ว่าโซมะต้องทำอะไรดีๆจนเขาเองยังหัวเราะไม่ออกได้แน่ ตอนนั้นชุนก็เข้ามาคุยด้วยบอกอิชิกิเองก็ยังไม่ได้เอาจริงเลยสักนิดเพราะยังไม่ได้ใช้ "สิ่งชำนาญ" ของอิชิกิเองออกมาเลย บอกจานปลาจานนั้นเดิมพันอย่างกักๆมากไปหน่อยรึเปล่า
อิชิกิก็ยิ้มและบอกพูดอะไรกัน เขาทำเต็มที่กับอาหารตลอดนั้นแหละ แต่ชุนบอกอิชิกิช่างเจ้าเล่ห์ซะจริงและเดินกลับไป อิชิกิก็คิดอีกถึงตอนที่กินอาหารของโซมะว่าพอกินปุ๊บก็เหมือนได้รับการเตือนเลยว่าน้องใหม่คนนี้จะกลายเป็นตัวจุดชนวน
ทำให้ดอกไม้ของโชคุเงคิผลิบานภายในโรงเรียนนี้
จบตอน
[Spoil] Shokugeki no Soma - 9
เช้าวันต่อมา ทุกคนที่มาที่ห้องอาหารอิชิกิก็เห็นโซมะมารอพร้อมชุดครัวเรียบร้อย
โซมะพูดอิชิกิกับที่บอกกับเขาเมื่อวานว่าตอนนี้อิชิกิเป็นอันดับ 7 ของสิบสุดยอด โซมะเลยขอท้าดวลอิชิกิทันที แต่ทุกคนกลับนิ่งเงียบจนโซมะเริ่มงงเอง อิชิกิก็เลยบอกขอโทษโซมะเรื่องที่เขายังอธิบายไม่หมดถึงเรื่องเกี่ยวกับการท้าดวลของโรงเรียนโทสึกิ โซมะก็เลยงงต่อ
อีกด้านที่สเตเดียมที่พวกนักเรียนต่างมาดูกันเต็มไปหมด และหนึ่งในผู้ที่อยู่บนเวทีก็คือ โกดะบายาชิ คิโยชิ พ่อครัวรุ่นที่ 76 จากชุมนุมวิจัยจังโกะนาเบะ(ของตุ๋นของนักซูโม่) ชั้นม.ปลายปี 2
คิโยชิบอกว่าพวกเขา "จังเคน" คือชุมนุมวิจัยที่มีมาแต่โบราณและมีที่มาที่ทรงคุณค่านับตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียนเลย แล้วเอรินะคิดจะทำลายมันงั้นเหรอ
เอรินะที่อยู่บนเวทีเดียวกับด้วยชุดครัวก็บอเลยว่าเธอจะสร้างห้องครัวส่วนตัว(อาคารที่6) บอกเพราะว่าอาคารที่ 5 มันเล็กเกินไปสำหรับเธอ คิโยชิได้ยินแบบนี้ก็เลยโมโห พูดเลยว่าอย่ามาพูดเป็นเล่นกับเขา บอกเลยว่าอาคารของเขามีประวัติศาสตร์และความหลงใหลที่มีต่ออาหารที่รุ่นพี่ส่งต่อกันมา เอรินะยังคิดจะเหยียบย้ำได้ยังงั้นเหรอ คิดบ้างรึเปล่าว่าตัวเองก็เป็นคนครัว คนอื่นๆที่เป็นพวกคิโยชิก็เชียร์คิโยชิค้านการกระทำของเอรินะ เอรินะก็ถอนหายใจ
พูดบ้างว่าพวกพวกคิโยชิเองก็ไม่ได้มีผลสำเร็จสำคัญอะไรมาหลายปีแล้วไม่ใช่เหรอไง บอกเลยว่าเธอไม่คิดว่าชุมนุมวิจัยจะดีแต่พูดเรื่องชื่อเสียงในอดีตที่เคยจำเป็นในโทสึกินี้ คิโยชิก็พูดเลยว่าเอรินะคิดจะใช้อำนาจของตัวเองเป็นโล่ที่คิดจะทำอะไรก็ทำได้งั้นเหรอ พวกเขาไม่ยอมแน่ ถ้าเขาชนะเอรินะก็ต้องลาจากตำแหน่งที่ 10 ไปซะเพราะงั้นเขาขอท้าเอรินะ ทางเอรินะก็เริ่มสวมหมวกเชฟพูดบ้างว่าแล้วถ้าเธอชนะการก่อสร้างก็จะดำเนินต่อตามแผน เอรินะก็บอกให้มาดวลกันได้เลย
กลับมาทางพวกโซมะ ขณะที่กำลังทานอาหารเช้ากัน อิชิกิอธิบายถึงวิธีการดวลของโรงเรียนว่า "การดวล" ถูกจัดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการทะเลาะระหว่างนักเรียนด้วยกฎบางอย่าง อิชิกิบอกโซมะว่าถ้าโซมะอยากจะดวลกับเขาที่อยู่อันดับ 7 โซมะต้องมีสิ่งที่จะ "ชดเชย" เพื่อความเท่าเทียมด้วย พูดก็คือเช่นเงื่อนไขที่มีความเท่าเทียมกับลำดับที่ 7 กับแค่ต้องลาออกจากโรงเรียนก็ยังไม่พอเลย โซมะถึงกับตะลึงว่าขนาดนั้นเชียวเหรอ ฟุมิโอะบอกเลยนั้นแหละค่าของสิบสุดยอด
ฟุมิโอะยังบอกว่าในอดีตนักเรียนบางคนในหอแห่งนี้เกือบจะได้ลำดับที่ 10 ทุกปีในช่วงยุคทองของหอดาวเหนือนี้ บอกเลยว่าเทียบแล้วโซมะยังสู้กับช่วงนั้นไม่ได้เลย คนอื่นๆก็บ่นที่เล่าให้ฟังไม่รู้กี่รอบแล้ว อิชิกิจึงบอกโซมะว่าถ้าเขายอมรับเงื่อนไขของโซมะก็แข่งกันได้อยู่แต่แน่นอนว่าเขายังไม่อยากออกจากโรงเรียนนี้ ดังนั้นการที่โซมะจะมาดวลกับเขาจึงทำไม่ได้ โซมะเลยเซ็งที่ไม่ได้ดวลอย่างที่คิดทั้งๆที่อุตส่าห์ตื่นมาเตรียมพร้อมตั้งแต่ตี 5 แล้ว เมงุมิกับยูกิยังพูดเลยว่าไจร้อนและบ้าจริงๆเลย แต่อิชิกิก็บอกอีกว่าการที่โซมะจะดวลได้นั้นต้องมีสิ่งจำเป็นอีกสามสิ่ง
อย่างแรกคือผู้ที่มีอำนาจที่จะตรวจสอบการดวลอย่างเป็นทางการได้ จำนวนผู้ตัดสินเลขคี่ และการเห็นพ้องยอมรับเงื่อนไขของการดวลกัน ถ้ามีครบการดวลก็จะถูกจัดเตรียมได้ เป็นการต่อสู้เพื่อให้อีกฝ่ายยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยการทำอาหาร เป็นประเพณีดั้งเดิมของโรงเรียนโทสึกิ การแข่งดวลแบบ 1 ต่อ 1 ชื่อนั้นก็คือ....
"โชคุเงคิ" (ตามชื่อเรื่อง)
อีกด้าน การดวลของเอรินะก็ตัดสินกันเป็นที่เรียบร้อยโดยเอรินะเป็นผู้ชนะ คิโยชิถึงกับไม่อยากจะเชื่อ พอดวลจบเอรินะก็เข้าไปที่จังโกะนาเบะของคิโยชิ
ลองชิมดูก็บอกได้เลยถึงข้อบกพร่อง 27 อย่างของจังโกะนาเบะหม้อนี้ คิโยชิถึงกับตกใจ เอรินะเริ่มอธิบายว่าอย่างแรกคือกุ้งลอบสเตอร์แช่น้ำเย็นหลังต้มนานเกินไป 2 วินาที(ถ้าแช่น้ำเย็นนานไปจะทำให้เกิดฟองเล็กๆได้) ข้อต่อมาคือความขมที่ออกมาจากหอยนางรมจากการตุ๋นเจ้าด้วยกันกับวัตถุดิบทั้งหมด และยังเรื่องการจัดการผัก.... พูดยังไม่ทันจบคิโยชิก็บอกให้เงียบ พูดว่าแล้วของเอรินะล่ะดีกว่าอาหารของเขาตรงไหน เขายอมรับไม่ได้ คิโยชิก็เลยไปที่อาหารของเอรินะซึ่งก็คือ "ราวิโอรี่ ดิ อาราก็อซต้า" (อธิบายแบบเข้าใจง่ายๆก็คือ เกี้ยวแบบอาหารอิตาลี)
พอคิโยชิกินดูก็รู้ได้ทันที เคี้ยวไปคิดไปเลยว่ารสชาติความนุ่มของ langoustine(กุ้ง) อันนิ่มนวลไหลล้นออกมาจากราวิโอรี่(แป้ง)นุ่มๆ แล้วยังความยืดหยุ่นนี่อีก พอคิโยชิลองหยิบอีกชิ้นมากัดดูก็รับรู้ได้เลยว่าเป็นราวกับอีกมิติของรสชาติเลย
ทำเอาคิโยชิเกิดรีแอคชั่นแบบซูโม่ทันทีและเคลิ้มจนเข่าอ่อน
ตอนนั้นเอรินะก็ใช้มือถือติดต่อไปสั่งให้เริ่มได้เลย คิโยชิก็รู้ทันทีว่านั้นคือคำสั่งให้ทำลายอาคารนั้นเอง อาคารก็โดนทุบทันที
แม้แต่ป้ายชื่อก็ถูกหักทิ้ง คิโยชิคิดเลยว่า โหดร้าย ป่าเถื่อน นี่เหรอสายเลือดของราชาปีศาจแห่งอาหาร เอรินะก็พูด"ขอให้โชคดี"ส่งท้าย
จากนั้นระหว่างที่เอรินะกำลังเดินกลับหลายคนที่เป็นลูกน้องก็มาชมเอรินะบอกฝีมือดีสมเป็นผลงานชิ้นเอกเลย ตอนนั้นนักเรียนหญิงที่เป็นเหมือนเลขาของเอรินะก็เข้ามาหาเอรินะบอกว่าชายคนนั้น... เอรินะถามว่าอะไรถึงได้เสียงดังมาเชียว นักเรียนสาว(เมื่อไรจะรู้ชื่อหว่า)บอกดูเหมือนเขาคนนั้นจะผ่านการบรรยายชั้นเรียนของอ.ชาเปลเล่ด้วยคะแนนสูงสุด
พอบอกว่าเป็นโซมะปุ๊บเอรินะก็ทำหน้าเบ้และเริ่มฉุน คิดเลยว่าเป็นผู้ก้าวก่ายแดนศักดิ์สิทธิ์ของเธอ มลทินนี้เธอไม่อาจเมินเฉยได้
คิดว่าต้องไล่โซมะออกไปให้ได้ ด้านโซมะที่กำลังไปโรงเรียนเองก็คิดอยากท้าเอรินะด้วยเหมือนกันแต่เมงุมิบอกเลยว่าโซมะไม่มีทางชนะหรอก ด้านอิชิกิก็พูดเหมือนอดใจรอสิ่งที่จะเกิดขึ้นไม่ไหวจริงๆ
อิชิกิเห็นว่าโซมะที่อยากจะได้ตำแหน่งที่ 7 ของเขานั้นก็รู้ว่าโซมะต้องทำอะไรดีๆจนเขาเองยังหัวเราะไม่ออกได้แน่ ตอนนั้นชุนก็เข้ามาคุยด้วยบอกอิชิกิเองก็ยังไม่ได้เอาจริงเลยสักนิดเพราะยังไม่ได้ใช้ "สิ่งชำนาญ" ของอิชิกิเองออกมาเลย บอกจานปลาจานนั้นเดิมพันอย่างกักๆมากไปหน่อยรึเปล่า
อิชิกิก็ยิ้มและบอกพูดอะไรกัน เขาทำเต็มที่กับอาหารตลอดนั้นแหละ แต่ชุนบอกอิชิกิช่างเจ้าเล่ห์ซะจริงและเดินกลับไป อิชิกิก็คิดอีกถึงตอนที่กินอาหารของโซมะว่าพอกินปุ๊บก็เหมือนได้รับการเตือนเลยว่าน้องใหม่คนนี้จะกลายเป็นตัวจุดชนวน
ทำให้ดอกไม้ของโชคุเงคิผลิบานภายในโรงเรียนนี้
จบตอน