ในปี คศ.1942 ได้มีการตั้งรางวัลพูลิตเซอร์สำหรับภาพถ่าย
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามีภาพถ่ายหลายภาพที่ได้รับรางวัลนี้
ด้วยความหลากหลายทางอารมณ์ และภาพถ่ายที่สัมผัสได้
ด้วยความรู้สึกและอารมณ์ที่ซึมลึกเข้าไปถึงก้นบึ้งหัวใจ
ภาพถ่ายน่าอัศจรรย์เหล่านี้ได้แสดงเห็นถึง
ภาพเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริง
และบางภาพเป็นภาพที่น่าประทับใจ
รางวัลถูกแบ่งออกเป็นสองประเภท
รางวัลสำหรับภาพถ่ายข่าว
รางวัลสำหรับการถ่ายภาพทั่วไป
นี่คือ 10 รางวัลภาพถ่ายที่ชนะรางวัลพูลิตเซอร์
พร้อมทั้งเรื่องราวเบื้องหลังภาพถ่ายเหล่านี้
10. ทหารอเมริกันใช้รถถังลากเชลยศึกเวียตกง
ภาพโดย Kyoichi Sawada เคียวอิชิ ซาวาดะเมื่อ 19 สิงหาคม 1966
ภาพนี้แสดงให้เห็นผลพวงของการสู้รบที่ Long Tan ในตอนใต้เวียดนาม
(สมัยยังไม่รวมเป็นประเทศเดียวกัน ยังเป็นเสรีนิยม)
กองโจรเวียตนามเหนือได้ลอบโจมตีกองทัพออสเตรเลีย
ในช่วงเวลากลางคืนโดยแนวหน้ากล้าตายพวกเวียตกง
แต่ถูกตอบโต้กลับอย่างรุนแรงเพื่อป้องกันฐานที่มั่น
ในภาพแสดงถึง เหยื่อเชลยศึกรายหนึ่ง(ยังมีอีกหลายคน)
ที่ถูกเชือกมัดแล้วโดนชักลากด้วยรถถังไปบนท้องถนนอย่างทารุณ
เืพื่อเป็นการทรมานเชลยศึกและข่มขู่ฝ่ายตรงข้ามให้เห็นเป็นตัวอย่าง
ภาพนี้แสดงให้เห็นถึง ความไม่ใยดีกับความโหดร้ายของทหารผู้อยู่ในสนามรบมานาน
ทั้งภาพนี้ยังกระแทกใจพวกบ้ากระหายสงคราม (อสูรสงคราม)
9. เหตุร้ายของ Johnny Bright
ภาพถ่าย Don Ultang และ John Robinson วันที่ 20 ตุลาคม 1951
johny Bright ผู้เล่นอเมริกันฟุตบอลของวิทยาลัย Drake Bulldogs
ถูกฝ่ายตรงข้ามจงใจกระแทกเข้าที่ขากรรไกรจนหักในระหว่างเกมการแข่งขัน
ภาพถ่ายได้จับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ตามลำดับรวมหกภาพ
บ่งบอกถึงเจตนาร้ายอย่างจงใจและชีดเจนของคู่แข่งฝ่ายตรงข้าม
แต่กรรมการผู้ตัดสินไม่เอาใจใส่ใจอย่างจริงจัง
ให้คำตัดสินแต่เพียงว่าการกระทำครั้งนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเกมที่เป็นลูกติดพัน
หลังจบเกมการแข่งขันแล้ว ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ กับคนทำผิด
หรือปรับทีมที่กระทำความผิด (ทีม Oklahoma A & M)
8. ก้าวย่างที่เคร่งเครียด
ภาพโดย ภาพโดย Paul Vathis 1962
ในภาพนี้อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาสองท่าน
Dwight D. Eisenhower และ John F. Kennedy
กำลังเดินอยู่ภายในแคมป์เดวิด(บ้านพักตากอากาศของประธานาธิบดี)
ช่วงเวลาในภาพเวลานั้น Kennedy ได้สอบถามความคิดเห็นกับ Eiesnhower
เกี่ยวกับเรื่องการยกพลขึ้นบกที่ อ่าวหมู Bay of pigs ที่ประเทศคิวบา
(ยุคหลังการปฏิวัติของ ฟิเดล คาสโตร แต่ทหารสหรัฐร่วมกับ
กองกำลังทหารรับจ้างของอดีตประธานาธิบดีคิวบา
ประสพกับล้มเหลว ถูกตีแตกพ่ายจนต้องถอยหนีในเวลาต่อมา)
Paul Vathis (ช่างภาพ) อ้างว่าประธานาธิบดีทั้งสองเชิดศีรษะขึ้น
ก่อนที่จะโค้งศีรษะลง ในช่วงการถามและตอบคำถาม
7. หญิงชาวยิวผู้โดดเดี่ยว
ภาพโดย Balilty Oded, 1 กุมภาพันธ์ 2006
Amona เป็นพื้นที่ตั้งอยู่ในฝั่งตะวันตกของอิสราเอล
รัฐบาลอิสราเอลระบุว่า Amona เป็นสถานที่ตั้งของคนที่อาศัยอยู่กันอย่างผิดกฎหมาย
ทั้งนี้รัฐบาลไม่สนใจว่าคนในพื้นที่ดังกล่าว จะมีเป็นคนสัญชาติยิวหรือไม่ก็ตาม
เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจล ประมาณ 10,000 นาย ได้รับคำสั่งให้จัดการโดยเด็ดขาด
ในการทำยังไงก็ได้ให้อพยพคนในพื้นที่แห่งนี้ออกไปทั้งหมด
ในภาพนี้ผู้หญิงชาวยิวคนหนึ่ง
พยายามที่จะยุติกองกำลังปราบจราจลติดอาวุธอย่างโดดเดี่ยว
เธอพยายามที่จะป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจล
ที่กำลังเดินหน้าบุกรุกทำลายบ้านพักอาศัยที่ได้อยู่กันมาอย่างยาวนานแล้ว
แต่กลับถูกผลักไสไล่ส่ง สุดท้ายเธอไม่มีทางเลือกอื่น ๆ ที่เหลืออีกแล้ว
เธอทำได้แต่สาปแช่งพวกเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจล ด้วยภาษายิว/Herbew
6. ผู้คนในฮอลลีวู้ดเล่นบทโหด
ภาพโดย Anthony Roberts ปี 1973
ช่วงบ่ายวันหนึ่งขณะที่ Anthony Roberts แอนโธนี่ โรเบริตส์
กำลังเดินผ่านลานจอดรถของฮอลลีวู้ด
เขาได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนและกรีดร้องเพื่อร้องขอชีวิต
Anthony Roberts ได้เดินไปที่นั่นและ
เห็นชายคนในภาพกำลังทุบตีผู้หญิงอย่างโหดร้าย
ในช่วงเวลานั้น Anthony Roberts
มีอาวุธในมือคือกล้องถ่ายรูปเท่านั้น
Anthony Roberts ได้ตะโกนเตือนผู้ชายในภาพว่า
จะถ่ายภาพแล้วนำเป็นพยานหลักฐานในช้นศาล
เพื่อมัดตัวเขาที่กำลังกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายสตรี
แ่ต่ชายในภาพไม่สนใจแต่อย่างใด ยังคงลงมือทุบตีผู้หญิงต่อไป
ในช่วงเวลาไม่นานนัก รปภ.(รักษาปลอดภัย)ได้วิ่งเข้ามาสถานที่เกิดเหตุ
ได้ตะโกนบอกชายในภาพที่ทุบตีผู้หญิงว่า ให้ปล่อยตัวผู้หญิงเดี๋ยวนี้
แต่ชายในภาพยังคงทุบตีผู้หญิงต่อไปอีก
ทันใดนั้น รปภ.ได้ชักปืนออกมา
แล้วยิงเข้าที่หัวของชายในภาพที่กำลังทุบตีผู้หญิง
Anthony Roberts จับภาพทันเหตุการณ์
ช่วงเวลาที่ รปภ.กำลังเหนี่ยวไกปืน
5. James Meredith ถูกยิง
ภาพโดย Jack Thornell วันที่ 6 มิถุนายน 1966
James Meredith นักเคลื่อนไหวเรื่องสิทธิมนุษยชนที่เป็นที่รู้จักกันดี
เขาเดินนำหน้าขบวนประท้วง แต่แล้วเขาถูกยิงโดย Aubrey Norvell
ในภาพนี้ James Meredith ล้มลงและร้องขอความช่วยเหลือว่า
" ใครก็ได้มาช่วยผมที "
ช่างภาพภาพ Thornell บอกให้เขาอยู่ในความสงบ
เพราะรถพยาบาลกำลังจะมาถึง
James Meredith ถูกยิงเข้าที่ด้านหลัง
ตั้งแต่หัวจรดก้นด้วยกระสุนปืนลูกซองยิงนก
นับที่แคะออกมาจากร่างกายได้รวม 63 เม็ด
แต่น่าอัศจรรย์ไม่มีอวัยวะส่วนที่สำคัญ
หรือบริเวณเส้นเลือดได้รับอันตราย
เขาหายจากอาการบาดเจ็บภายในสองวันต่อมา
แล้วกลับเข้ามาร่วมเดินขบวนประท้วงต่อไปอีก
ส่วน Aubrey Norvell ถูกพิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดจริง
ให้ปล่อยตัวจำเลยเข้าเรือนจำต่อไป
4. ความรุนแรงช่วงการนัดหยุดงานที่โรงงานผลิตรถยนต์ฟอร์ด
ภาพโดย Milton Brooks ปี 1941
คนงานโรงงานผลิตรถยนต์ฟอร์ด ได้นัดหยุดงานในปี 1941
เมื่อข้อเรียกร้องการขึ้นเงินเดือนได้รับการปฏิเสธจากฟอร์ด
ภาพถ่ายโดย Milton Brooks จับภาพตอนเหตุการณ์ที่
ผู้เรียกร้องให้คนงานเลิกการนัดหยุดงาน
ได้เดินเข้าไปหาเพื่อขับไล่กลุ่มผู้ประท้วงนัดหยุดงาน
แต่กลุ่มผู้ประท้วงได้ห้อมล้อมรอบตัวเขา
และร่วมกันลงมือทุบตีเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
Milton Brooks กล่าวว่า เหยื่อที่ถูกทารุณกรรม
ทำได้แค่หลบซ่อนใบหน้าอยู่ภายใต้เสื้อคลุม
เพื่อป้องกันการถ่ายภาพใบหน้าจากกล้องถ่ายรูปของเขา
แล้วรีบวิ่งหนีไปในเวลาต่อมา
3. เรื่องวันคืนเก่า ๆ ที่แสนสกปรก
ภาพโดย Stanley Forman วันที่ 5 เมษายน 1976
ในปี 1965 มีการออกกฎหมายเรื่องการขจัดการแบ่งแยกผิว
หรือเผ่าพันธุ์ในรถยนต์โดยสาร ใน Boston รัฐ Massachusetts
ในปี 1974 มีการประท้วงต่อต้านการปฏิรูปครั้งนี้
เหตุการณ์ได้เริ่มทวีแหลมคมมากขึ้น
ในไม่ช้ากลายเป็นปัญหารุนแรงที่ยากจะจัดการกับเรื่องนี้
ภาพนี้ถูกถ่ายโดย Stanley Forman ที่บริเวณ Theodore Landsmark
นักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนกับทนายความผิวดำ
สามารถมองเห็นได้ชัดเลยว่ากำลังถูกทำร้ายโดย
Joseph Rakes อเมริกันชนผิวขาวที่ใช้
ธงชาติอเมริกา ทำเป็นอาวุธทิ่มแทงฝ่ายตรงข้าม
2. การยิงเป้าในไซ่ง่อน
ภาพโดย Eddie Adams
หนึ่งในภาพถ่ายที่ฉาวโฉ่ที่สุด
คนถือปืนในมือคือ Nguy Ng Loan
หัวหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
และยศนายพลของกองทัพเวียตนามใต้
ส่วนคนถูกยิงตายไม่แน่ใจว่าชื่อ Nguy V Lem หรือไม่
ผู้ตายเป็นหัวหน้าแก๊งอาชญากร
ที่มักจะฆ่าตำรวจหรือครอบครัวตำรวจ
เพื่อข่มขู่ให้เกิดความหวาดกลัว
Lem เมื่อถูกจับได้จึงถูกตัดสินประหารชีวิต
ด้วยการยิงให้ตายทันทีในเขตวัด
Eddie Adams ช่างภาพรู้สึกเสียใจกับภาพถ่ายนี้
เพราะรู้ว่าชีวิตของเจ้าหน้าที่รวมทั้งครอบครัวทั้งสองฝ่าย
จะถูกทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะการกระทำครั้งนี้
1. จูบเพื่อชีพ
ภาพโดย Rocco Morabito ปี 1967
Randall Champion กับ J. D. Thompson
ช่างเดินสายไฟฟ้าแรงสูงและมีความชำนาญ/ประสบการณ์ทั้งคู่
ช่วงการทำงานประจำวันที่กำลังอยู่ด้านบนของเสาไฟฟ้า
เคราะห์ร้ายที่ไฟฟ้าขนาด 4,000 โวลต์เกิดชอร์ท Randall Champion
แม้ว่าเข็มขัดนิรภัยจะป้องกันไม่ให้ร่างกาย Randall Champion ตกลงมา
แต่กระแสไฟฟ้าขนาดนี้ เพียงพอที่จะทำให้หัวใจหยุดเต้นได้
J. D. Thompson รีบเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน Randall Champion อย่างรวดเร็ว
แต่เขาไม่สามารถที่จะปั้มหัวใจ Cardiopulmonary resuscitation (CPR)
ขณะที่ยืนอยู่ในตำแหน่งนี้บนเสาไฟฟ้าได้
ดังนั้นจึงเริ่มปฏิบัติการกู้ชีพด้วยปากกับปาก
จนกระทั่งรู้สึกว่า Randall Champion เริ่มมีชีพจรเต้นบ้างเล็กน้อย
หลังจากนั้นเขาก็ปลดเข็มขัดนิรภัยของ Randall Champion ออก
แล้วนำตัว Randall Champion ลงมาบนพื้นดินข้างล่าง
J. D. Thompson พร้อมด้วยร่างของ Randall Champion
เมื่อทั้งคู่ลงสู่พื้นดินอย่างปลอดภัยแล้ว
J. D. Thompson รีบดำเนินการทำ CPR
ทำให้ช่วยชีวิตสหายของเขาได้
เรียบเรียงจาก
http://realitypod.com/2013/02/top-10-photos-that-won-pulitzer-prize/
เพิ่มเติม ที่มาของภาพที่โด่งดัง
ตามเรื่องเดิมที่เขียนไว้ Kodak ภาพฟิล์มสีม้วนสุดท้าย - อยู่ในกระทู้ความเห็นที่ 1
http://ppantip.com/topic/30060618/comment1
10 ภาพรางวัลพูลิตเซอร์ Pulitzor
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามีภาพถ่ายหลายภาพที่ได้รับรางวัลนี้
ด้วยความหลากหลายทางอารมณ์ และภาพถ่ายที่สัมผัสได้
ด้วยความรู้สึกและอารมณ์ที่ซึมลึกเข้าไปถึงก้นบึ้งหัวใจ
ภาพถ่ายน่าอัศจรรย์เหล่านี้ได้แสดงเห็นถึง
ภาพเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริง
และบางภาพเป็นภาพที่น่าประทับใจ
รางวัลถูกแบ่งออกเป็นสองประเภท
รางวัลสำหรับภาพถ่ายข่าว
รางวัลสำหรับการถ่ายภาพทั่วไป
นี่คือ 10 รางวัลภาพถ่ายที่ชนะรางวัลพูลิตเซอร์
พร้อมทั้งเรื่องราวเบื้องหลังภาพถ่ายเหล่านี้
10. ทหารอเมริกันใช้รถถังลากเชลยศึกเวียตกง
ภาพโดย Kyoichi Sawada เคียวอิชิ ซาวาดะเมื่อ 19 สิงหาคม 1966
ภาพนี้แสดงให้เห็นผลพวงของการสู้รบที่ Long Tan ในตอนใต้เวียดนาม
(สมัยยังไม่รวมเป็นประเทศเดียวกัน ยังเป็นเสรีนิยม)
กองโจรเวียตนามเหนือได้ลอบโจมตีกองทัพออสเตรเลีย
ในช่วงเวลากลางคืนโดยแนวหน้ากล้าตายพวกเวียตกง
แต่ถูกตอบโต้กลับอย่างรุนแรงเพื่อป้องกันฐานที่มั่น
ในภาพแสดงถึง เหยื่อเชลยศึกรายหนึ่ง(ยังมีอีกหลายคน)
ที่ถูกเชือกมัดแล้วโดนชักลากด้วยรถถังไปบนท้องถนนอย่างทารุณ
เืพื่อเป็นการทรมานเชลยศึกและข่มขู่ฝ่ายตรงข้ามให้เห็นเป็นตัวอย่าง
ภาพนี้แสดงให้เห็นถึง ความไม่ใยดีกับความโหดร้ายของทหารผู้อยู่ในสนามรบมานาน
ทั้งภาพนี้ยังกระแทกใจพวกบ้ากระหายสงคราม (อสูรสงคราม)
9. เหตุร้ายของ Johnny Bright
ภาพถ่าย Don Ultang และ John Robinson วันที่ 20 ตุลาคม 1951
johny Bright ผู้เล่นอเมริกันฟุตบอลของวิทยาลัย Drake Bulldogs
ถูกฝ่ายตรงข้ามจงใจกระแทกเข้าที่ขากรรไกรจนหักในระหว่างเกมการแข่งขัน
ภาพถ่ายได้จับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ตามลำดับรวมหกภาพ
บ่งบอกถึงเจตนาร้ายอย่างจงใจและชีดเจนของคู่แข่งฝ่ายตรงข้าม
แต่กรรมการผู้ตัดสินไม่เอาใจใส่ใจอย่างจริงจัง
ให้คำตัดสินแต่เพียงว่าการกระทำครั้งนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเกมที่เป็นลูกติดพัน
หลังจบเกมการแข่งขันแล้ว ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ กับคนทำผิด
หรือปรับทีมที่กระทำความผิด (ทีม Oklahoma A & M)
8. ก้าวย่างที่เคร่งเครียด
ภาพโดย ภาพโดย Paul Vathis 1962
ในภาพนี้อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาสองท่าน
Dwight D. Eisenhower และ John F. Kennedy
กำลังเดินอยู่ภายในแคมป์เดวิด(บ้านพักตากอากาศของประธานาธิบดี)
ช่วงเวลาในภาพเวลานั้น Kennedy ได้สอบถามความคิดเห็นกับ Eiesnhower
เกี่ยวกับเรื่องการยกพลขึ้นบกที่ อ่าวหมู Bay of pigs ที่ประเทศคิวบา
(ยุคหลังการปฏิวัติของ ฟิเดล คาสโตร แต่ทหารสหรัฐร่วมกับ
กองกำลังทหารรับจ้างของอดีตประธานาธิบดีคิวบา
ประสพกับล้มเหลว ถูกตีแตกพ่ายจนต้องถอยหนีในเวลาต่อมา)
Paul Vathis (ช่างภาพ) อ้างว่าประธานาธิบดีทั้งสองเชิดศีรษะขึ้น
ก่อนที่จะโค้งศีรษะลง ในช่วงการถามและตอบคำถาม
7. หญิงชาวยิวผู้โดดเดี่ยว
ภาพโดย Balilty Oded, 1 กุมภาพันธ์ 2006
Amona เป็นพื้นที่ตั้งอยู่ในฝั่งตะวันตกของอิสราเอล
รัฐบาลอิสราเอลระบุว่า Amona เป็นสถานที่ตั้งของคนที่อาศัยอยู่กันอย่างผิดกฎหมาย
ทั้งนี้รัฐบาลไม่สนใจว่าคนในพื้นที่ดังกล่าว จะมีเป็นคนสัญชาติยิวหรือไม่ก็ตาม
เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจล ประมาณ 10,000 นาย ได้รับคำสั่งให้จัดการโดยเด็ดขาด
ในการทำยังไงก็ได้ให้อพยพคนในพื้นที่แห่งนี้ออกไปทั้งหมด
ในภาพนี้ผู้หญิงชาวยิวคนหนึ่ง
พยายามที่จะยุติกองกำลังปราบจราจลติดอาวุธอย่างโดดเดี่ยว
เธอพยายามที่จะป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจล
ที่กำลังเดินหน้าบุกรุกทำลายบ้านพักอาศัยที่ได้อยู่กันมาอย่างยาวนานแล้ว
แต่กลับถูกผลักไสไล่ส่ง สุดท้ายเธอไม่มีทางเลือกอื่น ๆ ที่เหลืออีกแล้ว
เธอทำได้แต่สาปแช่งพวกเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจล ด้วยภาษายิว/Herbew
6. ผู้คนในฮอลลีวู้ดเล่นบทโหด
ภาพโดย Anthony Roberts ปี 1973
ช่วงบ่ายวันหนึ่งขณะที่ Anthony Roberts แอนโธนี่ โรเบริตส์
กำลังเดินผ่านลานจอดรถของฮอลลีวู้ด
เขาได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนและกรีดร้องเพื่อร้องขอชีวิต
Anthony Roberts ได้เดินไปที่นั่นและ
เห็นชายคนในภาพกำลังทุบตีผู้หญิงอย่างโหดร้าย
ในช่วงเวลานั้น Anthony Roberts
มีอาวุธในมือคือกล้องถ่ายรูปเท่านั้น
Anthony Roberts ได้ตะโกนเตือนผู้ชายในภาพว่า
จะถ่ายภาพแล้วนำเป็นพยานหลักฐานในช้นศาล
เพื่อมัดตัวเขาที่กำลังกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายสตรี
แ่ต่ชายในภาพไม่สนใจแต่อย่างใด ยังคงลงมือทุบตีผู้หญิงต่อไป
ในช่วงเวลาไม่นานนัก รปภ.(รักษาปลอดภัย)ได้วิ่งเข้ามาสถานที่เกิดเหตุ
ได้ตะโกนบอกชายในภาพที่ทุบตีผู้หญิงว่า ให้ปล่อยตัวผู้หญิงเดี๋ยวนี้
แต่ชายในภาพยังคงทุบตีผู้หญิงต่อไปอีก
ทันใดนั้น รปภ.ได้ชักปืนออกมา
แล้วยิงเข้าที่หัวของชายในภาพที่กำลังทุบตีผู้หญิง
Anthony Roberts จับภาพทันเหตุการณ์
ช่วงเวลาที่ รปภ.กำลังเหนี่ยวไกปืน
5. James Meredith ถูกยิง
ภาพโดย Jack Thornell วันที่ 6 มิถุนายน 1966
James Meredith นักเคลื่อนไหวเรื่องสิทธิมนุษยชนที่เป็นที่รู้จักกันดี
เขาเดินนำหน้าขบวนประท้วง แต่แล้วเขาถูกยิงโดย Aubrey Norvell
ในภาพนี้ James Meredith ล้มลงและร้องขอความช่วยเหลือว่า
" ใครก็ได้มาช่วยผมที "
ช่างภาพภาพ Thornell บอกให้เขาอยู่ในความสงบ
เพราะรถพยาบาลกำลังจะมาถึง
James Meredith ถูกยิงเข้าที่ด้านหลัง
ตั้งแต่หัวจรดก้นด้วยกระสุนปืนลูกซองยิงนก
นับที่แคะออกมาจากร่างกายได้รวม 63 เม็ด
แต่น่าอัศจรรย์ไม่มีอวัยวะส่วนที่สำคัญ
หรือบริเวณเส้นเลือดได้รับอันตราย
เขาหายจากอาการบาดเจ็บภายในสองวันต่อมา
แล้วกลับเข้ามาร่วมเดินขบวนประท้วงต่อไปอีก
ส่วน Aubrey Norvell ถูกพิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดจริง
ให้ปล่อยตัวจำเลยเข้าเรือนจำต่อไป
4. ความรุนแรงช่วงการนัดหยุดงานที่โรงงานผลิตรถยนต์ฟอร์ด
ภาพโดย Milton Brooks ปี 1941
คนงานโรงงานผลิตรถยนต์ฟอร์ด ได้นัดหยุดงานในปี 1941
เมื่อข้อเรียกร้องการขึ้นเงินเดือนได้รับการปฏิเสธจากฟอร์ด
ภาพถ่ายโดย Milton Brooks จับภาพตอนเหตุการณ์ที่
ผู้เรียกร้องให้คนงานเลิกการนัดหยุดงาน
ได้เดินเข้าไปหาเพื่อขับไล่กลุ่มผู้ประท้วงนัดหยุดงาน
แต่กลุ่มผู้ประท้วงได้ห้อมล้อมรอบตัวเขา
และร่วมกันลงมือทุบตีเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
Milton Brooks กล่าวว่า เหยื่อที่ถูกทารุณกรรม
ทำได้แค่หลบซ่อนใบหน้าอยู่ภายใต้เสื้อคลุม
เพื่อป้องกันการถ่ายภาพใบหน้าจากกล้องถ่ายรูปของเขา
แล้วรีบวิ่งหนีไปในเวลาต่อมา
3. เรื่องวันคืนเก่า ๆ ที่แสนสกปรก
ภาพโดย Stanley Forman วันที่ 5 เมษายน 1976
ในปี 1965 มีการออกกฎหมายเรื่องการขจัดการแบ่งแยกผิว
หรือเผ่าพันธุ์ในรถยนต์โดยสาร ใน Boston รัฐ Massachusetts
ในปี 1974 มีการประท้วงต่อต้านการปฏิรูปครั้งนี้
เหตุการณ์ได้เริ่มทวีแหลมคมมากขึ้น
ในไม่ช้ากลายเป็นปัญหารุนแรงที่ยากจะจัดการกับเรื่องนี้
ภาพนี้ถูกถ่ายโดย Stanley Forman ที่บริเวณ Theodore Landsmark
นักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนกับทนายความผิวดำ
สามารถมองเห็นได้ชัดเลยว่ากำลังถูกทำร้ายโดย
Joseph Rakes อเมริกันชนผิวขาวที่ใช้
ธงชาติอเมริกา ทำเป็นอาวุธทิ่มแทงฝ่ายตรงข้าม
2. การยิงเป้าในไซ่ง่อน
ภาพโดย Eddie Adams
หนึ่งในภาพถ่ายที่ฉาวโฉ่ที่สุด
คนถือปืนในมือคือ Nguy Ng Loan
หัวหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
และยศนายพลของกองทัพเวียตนามใต้
ส่วนคนถูกยิงตายไม่แน่ใจว่าชื่อ Nguy V Lem หรือไม่
ผู้ตายเป็นหัวหน้าแก๊งอาชญากร
ที่มักจะฆ่าตำรวจหรือครอบครัวตำรวจ
เพื่อข่มขู่ให้เกิดความหวาดกลัว
Lem เมื่อถูกจับได้จึงถูกตัดสินประหารชีวิต
ด้วยการยิงให้ตายทันทีในเขตวัด
Eddie Adams ช่างภาพรู้สึกเสียใจกับภาพถ่ายนี้
เพราะรู้ว่าชีวิตของเจ้าหน้าที่รวมทั้งครอบครัวทั้งสองฝ่าย
จะถูกทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะการกระทำครั้งนี้
1. จูบเพื่อชีพ
ภาพโดย Rocco Morabito ปี 1967
Randall Champion กับ J. D. Thompson
ช่างเดินสายไฟฟ้าแรงสูงและมีความชำนาญ/ประสบการณ์ทั้งคู่
ช่วงการทำงานประจำวันที่กำลังอยู่ด้านบนของเสาไฟฟ้า
เคราะห์ร้ายที่ไฟฟ้าขนาด 4,000 โวลต์เกิดชอร์ท Randall Champion
แม้ว่าเข็มขัดนิรภัยจะป้องกันไม่ให้ร่างกาย Randall Champion ตกลงมา
แต่กระแสไฟฟ้าขนาดนี้ เพียงพอที่จะทำให้หัวใจหยุดเต้นได้
J. D. Thompson รีบเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน Randall Champion อย่างรวดเร็ว
แต่เขาไม่สามารถที่จะปั้มหัวใจ Cardiopulmonary resuscitation (CPR)
ขณะที่ยืนอยู่ในตำแหน่งนี้บนเสาไฟฟ้าได้
ดังนั้นจึงเริ่มปฏิบัติการกู้ชีพด้วยปากกับปาก
จนกระทั่งรู้สึกว่า Randall Champion เริ่มมีชีพจรเต้นบ้างเล็กน้อย
หลังจากนั้นเขาก็ปลดเข็มขัดนิรภัยของ Randall Champion ออก
แล้วนำตัว Randall Champion ลงมาบนพื้นดินข้างล่าง
J. D. Thompson พร้อมด้วยร่างของ Randall Champion
เมื่อทั้งคู่ลงสู่พื้นดินอย่างปลอดภัยแล้ว
J. D. Thompson รีบดำเนินการทำ CPR
ทำให้ช่วยชีวิตสหายของเขาได้
เรียบเรียงจาก http://realitypod.com/2013/02/top-10-photos-that-won-pulitzer-prize/
เพิ่มเติม ที่มาของภาพที่โด่งดัง
ตามเรื่องเดิมที่เขียนไว้ Kodak ภาพฟิล์มสีม้วนสุดท้าย - อยู่ในกระทู้ความเห็นที่ 1
http://ppantip.com/topic/30060618/comment1