กลุ่มชาวโรฮิงญา อาศัยในบ้านพักเด็กและครอบครัวจ.ตรัง เริ่มสร้างปัญหาไม่ยอมปฏิบัติตามกฎ จนเจ้าหน้าที่เกิดอาการเครียด เพราะไม่รู้ว่าต้องดูแลอีกนานแค่ไหน
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางยังบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง ซึ่งตั้งอยู่บนถนนโคกขัน ตำบลทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง เพื่อติดตามสภาพความเป็นอยู่ของชาวโรฮิงญา ทั้งชายและหญิง จำนวน 13 คน โดยเป็นเด็กและเยาวชน อายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 12 คน และเป็นผู้หญิง อายุ 40 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งทั้งหมดได้ถูกส่งตัวมาจากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสงขลา นับตั้งแต่วันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา หรือเป็นระยะเวลานานกว่าครึ่งเดือนแล้ว เพื่อช่วยเหลือดูแลทั้งในเรื่องของอาหารการกิน และเรื่องที่พัก
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง มีสถานที่ค่อนข้างคับแคบ และที่ผ่านมาก็เคยรองรับผู้ที่ประสบปัญหาสูงสุดจำนวนแค่ไม่กี่คน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวไทย และชาวเพื่อนบ้าน เช่น พม่า ลาว ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็มีจำนวนจำกัด แถมยังมีผู้ชายเพียงคนเดียวเท่านั้น จึงประสบปัญหาในเรื่องของการพยายามจัดระบบ เพราะในช่วงหลังมา ชาวโรฮิงญาที่มีอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ได้พยายามสร้างเงื่อนไขและไม่ค่อยยอมปฎิบัติตามกฎ โดยมักจะทำอะไรตามใจของตนเอง และใช้งานเด็กเล็กๆ ในแทบทุกเรื่อง
ทั้งนี้ ในช่วงแรกชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ส่วนใหญ่ จะให้ความร่วมมือกับทางบ้านพักเด็ก ทั้งการปรุงอาหาร การล้างจาน หรือการทำความสะอาด แต่ขณะนี้บางคนจะไม่ยอมทำอะไรเลย นอกจากลงมากินข้าวและของว่าง แล้วกลับไปนอนในห้องพัก ทำให้ภาระทั้งหมดต้องตกอยู่กับทางเจ้าหน้าที่ เพราะต้องจัดอาหารให้กินวันละ 3 มื้อ รวมทั้งของว่างอีก 2 มื้อ ตลอดจนเก็บกวาดสถานที่ และควบคุมดูแลตลอด 24 ชม. จนส่งผลให้เจ้าหน้าที่บางคนเริ่มมีอาการเครียดเกิดขึ้น และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่รู้ว่า จะต้องแบกรับภาระต่อไปอีกนานแค่ไหน
http://bit.ly/XqofEi
กลุ่มชาวโรฮิงญา อาศัยในบ้านพักเด็กและครอบครัวจ.ตรัง เริ่มสร้างปัญหาไม่ยอมปฏิบัติตามกฎ
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางยังบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง ซึ่งตั้งอยู่บนถนนโคกขัน ตำบลทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง เพื่อติดตามสภาพความเป็นอยู่ของชาวโรฮิงญา ทั้งชายและหญิง จำนวน 13 คน โดยเป็นเด็กและเยาวชน อายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 12 คน และเป็นผู้หญิง อายุ 40 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งทั้งหมดได้ถูกส่งตัวมาจากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสงขลา นับตั้งแต่วันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา หรือเป็นระยะเวลานานกว่าครึ่งเดือนแล้ว เพื่อช่วยเหลือดูแลทั้งในเรื่องของอาหารการกิน และเรื่องที่พัก
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง มีสถานที่ค่อนข้างคับแคบ และที่ผ่านมาก็เคยรองรับผู้ที่ประสบปัญหาสูงสุดจำนวนแค่ไม่กี่คน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวไทย และชาวเพื่อนบ้าน เช่น พม่า ลาว ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็มีจำนวนจำกัด แถมยังมีผู้ชายเพียงคนเดียวเท่านั้น จึงประสบปัญหาในเรื่องของการพยายามจัดระบบ เพราะในช่วงหลังมา ชาวโรฮิงญาที่มีอายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ได้พยายามสร้างเงื่อนไขและไม่ค่อยยอมปฎิบัติตามกฎ โดยมักจะทำอะไรตามใจของตนเอง และใช้งานเด็กเล็กๆ ในแทบทุกเรื่อง
ทั้งนี้ ในช่วงแรกชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ส่วนใหญ่ จะให้ความร่วมมือกับทางบ้านพักเด็ก ทั้งการปรุงอาหาร การล้างจาน หรือการทำความสะอาด แต่ขณะนี้บางคนจะไม่ยอมทำอะไรเลย นอกจากลงมากินข้าวและของว่าง แล้วกลับไปนอนในห้องพัก ทำให้ภาระทั้งหมดต้องตกอยู่กับทางเจ้าหน้าที่ เพราะต้องจัดอาหารให้กินวันละ 3 มื้อ รวมทั้งของว่างอีก 2 มื้อ ตลอดจนเก็บกวาดสถานที่ และควบคุมดูแลตลอด 24 ชม. จนส่งผลให้เจ้าหน้าที่บางคนเริ่มมีอาการเครียดเกิดขึ้น และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่รู้ว่า จะต้องแบกรับภาระต่อไปอีกนานแค่ไหน
http://bit.ly/XqofEi