เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมาแม่สามีป่วยเป็นกระเพาะปัสวะอักเสบ และหูรูดไม่ดีกลั้นฉี่ไม่ได้เดินไปราดไป(อายุ80ปี)ไปพักรักษาอยู่ ร.พ นานหนึ่งเดือนเมื่ออาการดีขึ้นได้พากลับบ้าน เราได้ดูแลสวนปัสวะให้วัดความดันให้จดบันทึกปริมาณปัสวะที่สวนได้ในแต่ละครั้งเพื่อบันทึกส่งให้คุณหมอช่วงนี้ทั้งเราและสามีผลัดกันมานอนเฝ้าพี่สาวของสามีที่บ้านอยู่ติดกัน ต้องไปเรียกให้มาช่วยถึงจะมาเพราะแม่สามีตัวใหญ่เราไม่ไหวต้องใส่แพมเพิอร์ดให้เวลาเราไปรับส่งลูก ต่อมาแม่สามีอาการดีขึ้นมากสามารถลุกไปห้องน้ำได้โดยไม่ฉี่ราดแล้วไม่ต้องใช้ผ้าอ้อมทานอาหารเองได้ไม่ต้องป้อนเหมือนกลับมาแรกๆแข็งแรงขึ้นมากๆ เราจึงย้ายกลับไปนอนที่ห้องหลังจากดูแลอยู่สามเดือนและเค้าดีจนเกือบปรกติแต่................สามีของเรายังนอนอยู่กับแม่เค้ามาเป็นเวลาหกเดือนแล้ว เรารู้สึกแย่มากๆเวลานี้เหมือนโดนหักหลังนี่แสดงว่าแม่สามีไม่ได้เห็นความดีเราเลยหรือว่าสามีเราไม่แคร์ความรู้สึกเรามันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง ทั้งๆที่เราไม่ได้โกรธหรือมีเรื่องทะเลาะกันเราถามเค้าว่าเมื่อไหร่จะกลับมานอนที่ห้องล่ะเค้าตอบว่าเค้านอนกรนเสียงดังเดี๋ยวจะทำให้เรารำคราญ ซึ่งเราก็ไม่เคยบ่นเรื่องนี้เพียงแต่เคยบอกให้เค้าไปตรวจกับหมอเพราะเสียงกรนเค้าสะดุดๆเป็นช่วงๆน่าเป็นห่วง และเวลาไปทำงานหรือขับรถเค้าจะง่วงอยู่ตลอดบ้างครังขับรถหลับในก็เคยทั้งๆที่เพิ่งจะขับออกมาแป๊ปเดียวเราต้องเป็นคนขับให้ตลอด เรารู้สึกเสียใจน้อยใจทุกข์ทรมานเวลารู้สึกตัวตื่นกลางดึกแล้วในห้องมีเรานอนเพียงลำพังสามีไม่รักเราแล้วใช่ไหม (สามีอายุ50เรา45)สามีเป็นคนจีน เค้าเป็นคนไม่โรแมนติกหยาบกระด้างเห็นแก่ตัวใช่มั้ยเราจะทำไงกับสถาณการณ์แบบนี้วอนเพื่อนๆให้คำแนะนำทีนะคะ
คุณจะทำไงและจะรู้สึกยังไงเมื่อสามีไปหอบหมอนไปนอนกะแม่เค้า