ธงชาติผืนใหญ่ 20x16 เมตร นี้ จัดสร้างเมื่อปี 2544 หลังการก่อตั้งชมรมเชียร์ไทยฯ 1 ปี โดยใช้งบประมาณที่มีสมาชิกร่วมบริจากทั้งสิ้น 13,590 บาท ได้ผ่านสังเวียนการใช้งานมากว่า 10 ปี ผ่านการเชียร์ทีมชาติไทยมานับ 100 ครั้ง ทุกครั้งที่ใช้งานต้องมีการจัดการที่ดี ตั้งแต่เรื่องการจัดเก็บ การขนย้าย เพราะหลายครั้งที่ฟุตบอลแข่งจบ ทุกคนเดินกลับบ้าน แต่มีไม่กี่คนที่ช่วยกันพับธง เก็บธง โดยเฉพาะวันไหนที่มีฝนตก ตอนพับเก็บ และขนกลับบ้าน เป็นเรื่องที่หนักหนาเอาการ ... แต่คนที่อาสามาทำหน้าที่นี้ ก็เต็มใจทำด้วยความภูมิใจ
หลายครั้งที่ธงชาติผืนนี้ ต้องฉีกขาดเพราะแรงดึงกระชากของผู้คนที่่ต้องการสัมผัส ก็จะต้องมีการซ่อมแซม เป็นระยะๆ ... เมื่อครั้งน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ธงชาติผืนนี้ ต้องจมอยู่ใต้น้ำเป็นเวลา 2 เดือน เพราะจัดเก็บที่ ม.กรุงเทพฯ ย่านรังสิต แต่โชคดีที่ไม่เสียหายมากนัก นำมาซักล้างไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังมีกลิ่นเหม็นอับอยู่บ้าง ... ครั้งนี้ ชาวเชียร์ไทยจึงระดมอาสาสมัครมาช่วยกันซักล้างกันอีกครั้ง เพื่อหน้าตาของทีมชาติไทย และที่สำคัญเพื่อคนที่ได้สัมผัสธงชาติผืนนี้ จะได้เปี่ยมด้วยความภูมิใจ ... และไม่ตะขิดตะขวงใจ
นอกจากกลิ่นแล้ว ปัญหาอีกประการหนึ่งคือการเปื่อยยุ่ยของเนื้อผ้า เนื่องด้วยกาลเวลา ... ชมรมเชียร์ไทยฯ อยู่ระหว่างระดมทุนกันเอง เพื่อจัดทำธงชาติยักษ์ผืนใหม่ ที่ตั้งใจจะให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม คือ 30x20 เมตร เพื่อเพิ่มความยิ่งใหญ่ให้ทีมชาติไทย ... โดยสังเวียนการแข่งขันเอเอฟเอฟ ซูซุกิคัพ ที่เมืองไทยจะเป็นเจ้าภาพรอบแรก ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ถึงต้นเดือนธันวาคมนี้ จะเป็นสังเวียนการใช้งานสุดท้ายของธงชาติยักษ์ผืนเดิม หลังจากนี้ จะนำไปบริจาคเพื่อจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทย จ. นครปฐม เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ชื่นชมและภาคภูมิใจในชาติไทยและฟุตบอลไทยอันเป็นที่รักของเรา.
ภาพจาก เพจIdea Ballthai ครับกระผม
ความเป็นมา ของธงเชียร์ผืนยักษ์ โดย..คุณพินิจ งามพริ้ง
หลายครั้งที่ธงชาติผืนนี้ ต้องฉีกขาดเพราะแรงดึงกระชากของผู้คนที่่ต้องการสัมผัส ก็จะต้องมีการซ่อมแซม เป็นระยะๆ ... เมื่อครั้งน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ธงชาติผืนนี้ ต้องจมอยู่ใต้น้ำเป็นเวลา 2 เดือน เพราะจัดเก็บที่ ม.กรุงเทพฯ ย่านรังสิต แต่โชคดีที่ไม่เสียหายมากนัก นำมาซักล้างไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังมีกลิ่นเหม็นอับอยู่บ้าง ... ครั้งนี้ ชาวเชียร์ไทยจึงระดมอาสาสมัครมาช่วยกันซักล้างกันอีกครั้ง เพื่อหน้าตาของทีมชาติไทย และที่สำคัญเพื่อคนที่ได้สัมผัสธงชาติผืนนี้ จะได้เปี่ยมด้วยความภูมิใจ ... และไม่ตะขิดตะขวงใจ
นอกจากกลิ่นแล้ว ปัญหาอีกประการหนึ่งคือการเปื่อยยุ่ยของเนื้อผ้า เนื่องด้วยกาลเวลา ... ชมรมเชียร์ไทยฯ อยู่ระหว่างระดมทุนกันเอง เพื่อจัดทำธงชาติยักษ์ผืนใหม่ ที่ตั้งใจจะให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม คือ 30x20 เมตร เพื่อเพิ่มความยิ่งใหญ่ให้ทีมชาติไทย ... โดยสังเวียนการแข่งขันเอเอฟเอฟ ซูซุกิคัพ ที่เมืองไทยจะเป็นเจ้าภาพรอบแรก ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ถึงต้นเดือนธันวาคมนี้ จะเป็นสังเวียนการใช้งานสุดท้ายของธงชาติยักษ์ผืนเดิม หลังจากนี้ จะนำไปบริจาคเพื่อจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทย จ. นครปฐม เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ชื่นชมและภาคภูมิใจในชาติไทยและฟุตบอลไทยอันเป็นที่รักของเรา.
ภาพจาก เพจIdea Ballthai ครับกระผม