~ ลมริ้วพลิ้วลม ~
..กลบทมยุราฟ้อนหาง..
๏ พลิ้วพลิ้วพรม ลมระบัด พัดหวิวหวิว
ก้านก้านปลิว ใบโบยโบก โยกไหวไหว
ใบใบเก่า ปลิดปลงร่วง ช่วงใดใด
เบี่ยงเบี่ยงใบ สู่แผ่นดิน ถิ่นเดิมเดิม
๏ เขียวเขียวสด เคยงดงาม ยามแกร่งแกร่ง
เข้มเข้มแข็ง เรี่ยวแรงคึก ฮึกเหิมเหิม
ยางยางเหนียว ยึดเหนี่ยวรั้ง ครั้งเริ่มเริ่ม
วัยวัยเพิ่ม เริ่มโอดโอย โรยลงลง
๏ เคยเคยโบก ใบโยกไหว พายพัดพัด
ระระบัด ดุจหงส์เหิน เพลินหลงหลง
ท้าท้าแดด เผาแผดกล้า ท่าคงคง
โรยโรยลง ตามห้วงกาล ผ่านไวไว
๏ แรงแรงโบก โยกซัดส่าย พายพลิ้วพลิ้ว
ใบใบปลิว เกลื่อนเกลือกกลั้ว ทั่วไหนไหน
เห็นเห็นแดง ทอดทิ้งร่าง ทางใดใด
สิ้นสิ้นวัย ล้วนโรยลู่ สู่เดิมเดิม
๏ ลมลมพลิ้ว คอยปลิวปัด พัดผ่านผ่าน
ทุกทุกย่าน ผ่อนร้อนลง ส่งเสริมเสริม
ร้อนร้อนอยู่ ลู่สะบัด พัดเติมเติม
เย็นเย็นเริ่ม เพิ่มมาเปลี่ยน เวียนผันผัน
๏ สิ่งสิ่งหนึ่ง เกิดมาแล้ว แน่วเปลี่ยนเปลี่ยน
ค่อยค่อยเวียน ด้วยความจริง สิ่งนั้นนั้น
ไปไปสู่ คราสิ้นยุค ทุกวันวัน
เวียนเวียนผัน ไม่หวนกลับ ลับลาลา
๏ เก่าเก่าร่วง ตามห้วงกาล ผ่านช่วงช่วง
ใครใครทวง ให้กาลฝืน คืนหาหา
ต่างต่างไม่ ได้ดังจิต คิดมามา
ล่วงล่วงแล้ว ไร้คืนค่า ลาเลยเลย
๏ กาลกาลจึง เลิศค่ายิ่ง สิ่งไหนไหน
หมดหมดไป มัวอุดอู้ อยู่เฉยเฉย
มุ่งมุ่งพัฒ- นาสร้าง อย่างเคยเคย
เอื้อนเอื้อนเอ่ย เปรยเตือนไว้ ให้จำจำ
๏ ใบใบผลิ ออกมาใหม่ วัยหนุ่มหนุ่ม
ร้อนร้อนรุม เมื่อกาลคล้อย คอยย้ำย้ำ
ปรับปรับเปลี่ยน สู่ชรา หน้าดำดำ
แล้วแล้วจำ ต้องปล่อยกิ่ง ทิ้งตนตน
๏ คราคราลม พรมพัดผัน สั่นไหวไหว
บิดบิดใบ ให้หลุดขั้ว ทั่วหนหน
ลมลมยัง สะบัดพรู สู่คนคน
ให้ให้ค้น ตนก็เป็น เช่นใบใบ ๚๛
..กฏบังคับ
แต่งเป็นกลอน ๙ จังหวะ ๓/๓/๓ (AAX XXX XBB)
ซ้ำคำใน ๒ คำแรกและ ๒ คำสุดท้ายของแต่ละวรรค คือคำที่ ๑,๒ และ ๘,๙
~ ลมริ้วพลิ้วลม ~
~ ลมริ้วพลิ้วลม ~
..กลบทมยุราฟ้อนหาง..
๏ พลิ้วพลิ้วพรม ลมระบัด พัดหวิวหวิว
ก้านก้านปลิว ใบโบยโบก โยกไหวไหว
ใบใบเก่า ปลิดปลงร่วง ช่วงใดใด
เบี่ยงเบี่ยงใบ สู่แผ่นดิน ถิ่นเดิมเดิม
๏ เขียวเขียวสด เคยงดงาม ยามแกร่งแกร่ง
เข้มเข้มแข็ง เรี่ยวแรงคึก ฮึกเหิมเหิม
ยางยางเหนียว ยึดเหนี่ยวรั้ง ครั้งเริ่มเริ่ม
วัยวัยเพิ่ม เริ่มโอดโอย โรยลงลง
๏ เคยเคยโบก ใบโยกไหว พายพัดพัด
ระระบัด ดุจหงส์เหิน เพลินหลงหลง
ท้าท้าแดด เผาแผดกล้า ท่าคงคง
โรยโรยลง ตามห้วงกาล ผ่านไวไว
๏ แรงแรงโบก โยกซัดส่าย พายพลิ้วพลิ้ว
ใบใบปลิว เกลื่อนเกลือกกลั้ว ทั่วไหนไหน
เห็นเห็นแดง ทอดทิ้งร่าง ทางใดใด
สิ้นสิ้นวัย ล้วนโรยลู่ สู่เดิมเดิม
๏ ลมลมพลิ้ว คอยปลิวปัด พัดผ่านผ่าน
ทุกทุกย่าน ผ่อนร้อนลง ส่งเสริมเสริม
ร้อนร้อนอยู่ ลู่สะบัด พัดเติมเติม
เย็นเย็นเริ่ม เพิ่มมาเปลี่ยน เวียนผันผัน
๏ สิ่งสิ่งหนึ่ง เกิดมาแล้ว แน่วเปลี่ยนเปลี่ยน
ค่อยค่อยเวียน ด้วยความจริง สิ่งนั้นนั้น
ไปไปสู่ คราสิ้นยุค ทุกวันวัน
เวียนเวียนผัน ไม่หวนกลับ ลับลาลา
๏ เก่าเก่าร่วง ตามห้วงกาล ผ่านช่วงช่วง
ใครใครทวง ให้กาลฝืน คืนหาหา
ต่างต่างไม่ ได้ดังจิต คิดมามา
ล่วงล่วงแล้ว ไร้คืนค่า ลาเลยเลย
๏ กาลกาลจึง เลิศค่ายิ่ง สิ่งไหนไหน
หมดหมดไป มัวอุดอู้ อยู่เฉยเฉย
มุ่งมุ่งพัฒ- นาสร้าง อย่างเคยเคย
เอื้อนเอื้อนเอ่ย เปรยเตือนไว้ ให้จำจำ
๏ ใบใบผลิ ออกมาใหม่ วัยหนุ่มหนุ่ม
ร้อนร้อนรุม เมื่อกาลคล้อย คอยย้ำย้ำ
ปรับปรับเปลี่ยน สู่ชรา หน้าดำดำ
แล้วแล้วจำ ต้องปล่อยกิ่ง ทิ้งตนตน
๏ คราคราลม พรมพัดผัน สั่นไหวไหว
บิดบิดใบ ให้หลุดขั้ว ทั่วหนหน
ลมลมยัง สะบัดพรู สู่คนคน
ให้ให้ค้น ตนก็เป็น เช่นใบใบ ๚๛
..กฏบังคับ
แต่งเป็นกลอน ๙ จังหวะ ๓/๓/๓ (AAX XXX XBB)
ซ้ำคำใน ๒ คำแรกและ ๒ คำสุดท้ายของแต่ละวรรค คือคำที่ ๑,๒ และ ๘,๙