ลำดับเหตุการณ์
1. ปชป. ใช้งบไทยเข้มแข็ง สร้างโรงพัก 5,838 ล้านบาท และ แฟลตตำรวจ 3,700 ล้านบาท
2. พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. สมัยนั้น มีดำริ ให้สร้าง และ แบ่งการประมูลเป็น 12 สัญญา ตั้งแต่ ภาค 1-9 ตามโซนใกล้ไกล
3. หลังจากนั้น พล.ต.อ. พัชรวาท โดนสั่งย้ายไปประจำสำนักนายกฯ มีการตั้ง พล.ต.อ. ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.
4. ให้หลังจากการย้าย พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ 4 เดือน มีการลงนามแก้ไขวิธีการประมูลใหม่ โดยให้รวม 12 สัญญา เป็น สัญญาเดียว
5. ผู้ชนะการประมูลทั้งโรงพัก และ แฟลต คือ บริษัท พีซีซี ดีเวลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด
6. สัญญากำหนดให้จ่ายเงินล่วงหน้าให้ผู้รับเหมาร้อยละ 15 ของราคาก่อสร้าง
7. งานสร้างโรงพัก และ แฟลตตำรวจ มีการจ่ายเงินล่วงหน้าไปแล้ว 15% ของค่าก่อสร้าง หรือเท่ากับ 1,430 ล้านบาท
8. ไม่สามารถหาข้อมูลว่า มีการจ่ายค่างวด ของการก่อสร้าง หลังจ่ายเงินล่วงหน้าไปแล้วอีกเท่าไหร่
คำถามที่ ยังหาคำตอบไม่ได้
- สัญญาก่อสร้างขนาดใหญ่ ทำไมต้องมีการจ่ายเงินล่วงหน้า และ เป็นการให้ผู้รับเหมาจับเสือมือเปล่า หรือไม่?
- การต้องการให้รวมเป็นสัญญาเดียวมีเจตนาอะไร เป็นการช่วยให้งานเสร็จทันเวลาหรือไม่?
- คนที่มีเจตนาที่รวมเป็นสัญญาเดียว เล็งปัญหาการทำงานของผู้รับเหมาที่ต้องวิ่งดูงานตั้งแต่ เชียงราย ยัน ปัตตานี หรือไม่?
- คนที่มีแนวคิด รวมสัญญา จะรู้หรือไม่ว่า ผู้ประมูลงานได้ ไม่สามารถทำงานได้เองนอกจาก หาคนมาทำสัญญาช่วงเท่านั้น?
- คนที่มีแนวคิด รวมสัญญามีจุดประสงค์เพื่อการรวมการเก็บเงินใต้โต๊ะไว้ที่คน ๆ เดียว แทนที่จะกระจายไป 12 คน (12 สัญญา) หรือไม่?
ขอเสนอแนะ
1. ควรแยกการทำคดี เป็น รายโรงพัก ไม่ควรเหมารวมที่ส่วนกลาง โดยให้ แต่ละโรงพัก ผู้กำกับ เป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี
2. โรงพักไหน ที่ ไม่มีการก่อสร้าง ให้แจ้งความจับกุมในคดีอาญา ว่าด้วยการฉ้อโกง
3. โรงพักไหน ที่ เริ่มมีการก่อสร้างบางส่วนแล้ว ก็ส่งสำนวนให้อัยการจังหวัดดำเนินคดีแพ่งตามความเสียหายของแต่ละโรงพัก
4. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ทำคดี เฉพาะ การฮั๊วประมูล และ เจ้าหน้าที่รัฐ หรือ รัฐมนตรี คนใดกระทำความผิดตามมาตรา 157
ลำดับเหตุการณ์กรณีอื้อฉาว การสร้างโรงพัก / แฟลต และ ข้อเสนอให้ แยกคดีเป็นแต่ละโรงพักทำสำนวนกันเอง ส่งฟ้องอัยการกันเอง
1. ปชป. ใช้งบไทยเข้มแข็ง สร้างโรงพัก 5,838 ล้านบาท และ แฟลตตำรวจ 3,700 ล้านบาท
2. พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. สมัยนั้น มีดำริ ให้สร้าง และ แบ่งการประมูลเป็น 12 สัญญา ตั้งแต่ ภาค 1-9 ตามโซนใกล้ไกล
3. หลังจากนั้น พล.ต.อ. พัชรวาท โดนสั่งย้ายไปประจำสำนักนายกฯ มีการตั้ง พล.ต.อ. ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.
4. ให้หลังจากการย้าย พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ 4 เดือน มีการลงนามแก้ไขวิธีการประมูลใหม่ โดยให้รวม 12 สัญญา เป็น สัญญาเดียว
5. ผู้ชนะการประมูลทั้งโรงพัก และ แฟลต คือ บริษัท พีซีซี ดีเวลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด
6. สัญญากำหนดให้จ่ายเงินล่วงหน้าให้ผู้รับเหมาร้อยละ 15 ของราคาก่อสร้าง
7. งานสร้างโรงพัก และ แฟลตตำรวจ มีการจ่ายเงินล่วงหน้าไปแล้ว 15% ของค่าก่อสร้าง หรือเท่ากับ 1,430 ล้านบาท
8. ไม่สามารถหาข้อมูลว่า มีการจ่ายค่างวด ของการก่อสร้าง หลังจ่ายเงินล่วงหน้าไปแล้วอีกเท่าไหร่
คำถามที่ ยังหาคำตอบไม่ได้
- สัญญาก่อสร้างขนาดใหญ่ ทำไมต้องมีการจ่ายเงินล่วงหน้า และ เป็นการให้ผู้รับเหมาจับเสือมือเปล่า หรือไม่?
- การต้องการให้รวมเป็นสัญญาเดียวมีเจตนาอะไร เป็นการช่วยให้งานเสร็จทันเวลาหรือไม่?
- คนที่มีเจตนาที่รวมเป็นสัญญาเดียว เล็งปัญหาการทำงานของผู้รับเหมาที่ต้องวิ่งดูงานตั้งแต่ เชียงราย ยัน ปัตตานี หรือไม่?
- คนที่มีแนวคิด รวมสัญญา จะรู้หรือไม่ว่า ผู้ประมูลงานได้ ไม่สามารถทำงานได้เองนอกจาก หาคนมาทำสัญญาช่วงเท่านั้น?
- คนที่มีแนวคิด รวมสัญญามีจุดประสงค์เพื่อการรวมการเก็บเงินใต้โต๊ะไว้ที่คน ๆ เดียว แทนที่จะกระจายไป 12 คน (12 สัญญา) หรือไม่?
ขอเสนอแนะ
1. ควรแยกการทำคดี เป็น รายโรงพัก ไม่ควรเหมารวมที่ส่วนกลาง โดยให้ แต่ละโรงพัก ผู้กำกับ เป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี
2. โรงพักไหน ที่ ไม่มีการก่อสร้าง ให้แจ้งความจับกุมในคดีอาญา ว่าด้วยการฉ้อโกง
3. โรงพักไหน ที่ เริ่มมีการก่อสร้างบางส่วนแล้ว ก็ส่งสำนวนให้อัยการจังหวัดดำเนินคดีแพ่งตามความเสียหายของแต่ละโรงพัก
4. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ทำคดี เฉพาะ การฮั๊วประมูล และ เจ้าหน้าที่รัฐ หรือ รัฐมนตรี คนใดกระทำความผิดตามมาตรา 157