ธุดงค์ธรรมชัยชอบด้วยพระธรรมวินัย โอวาทสมเด็จวัดปากน้ำ

ธุดงค์ธรรมชัยชอบด้วยพระธรรมวินัย การถือปฏิบัติธุดงค์นั้นก็ทรงบัญญัติไว้ถึง 13 ข้อ มีเพียงข้อเดียวที่ กำหนดว่าต้องอยู่ป่า อีก 12 ข้อนั้นอยู่ที่ไหนก็ได้ ไปที่ไหนก็ได้ อยู่กับที่ก็ได้ เดินก็ได้ เข้าเมืองก็ได้ ถ้าสมมติว่ากลางกรุงนี้เป็นป่า อย่างที่มีคนชอบพูดกันว่าเป็นป่าคอนกรีต ก็แสดงว่าท่านก้เดินธุดงค์ในป่าเหมือนกัน ก็ป่าคอนกรีต ตึกบ้านช่องก็ถือว่าเป็นต้นไม้ใหญ่ บริเวณนี้เป็นสนามกีฬา ก็เท่ากับว่าเป็นลานโล่งอยู่ในลักษณะของธุดงค์อีกข้อหนึ่ง ก็คือ ไม่อยู่ในร่มเงาของชายคาของต้นไม้ อันนี้ก็ถูกต้องตามพระบัญญัติ ไม่ได้ผิดอะไร ที่จะแปลกหน่อยก้คือจำนวนเท่านั้น ปกติเราเห็นพระธุดงค์ตามท้องถนนแบกกลดก็ไม่รู้สึกอะไร




ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
เมตตาถ่ายภาพประวัติศาสตร์ร่วมกับคณะพระธุดงค์ด้วยความชื่นใจ

       ในวันที่ยี่สิบสามของการเดินธุดงค์ซึ่งตรงกับวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2556 พระธุดงค์ธรรมชัยได้เข้าสู่แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่ามกลางเสียงสาธุการกึกก้อง ซึ่งท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เมตตาถ่ายภาพประวัติศาสตร์ร่วมกับคณะพระธุดงค์ด้วยความชื่นใจ และไต่ถามถึงพระธุดงค์อย่างใส่ใจถึงการเดินทางมา เดินทางไป และการพักค้าง ทำให้พุทธบุตรกองพันเนื้อนาบุญปลื้มสุดปลื้มไปตามๆ กันเลย




ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์เมตตาประทานโอวาทอันทรงคุณค่า

       ในโอกาสนี้ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ได้ประทานโอวาทอันทรงคุณค่า มีใจความว่า ท่านญาติโยมทุกคน ถือว่าโยมได้กุศลผลบุญเป็นเทพบุตรเป็นเทพธิดา ให้การส่งเสริม สนับสนุน ให้การบำเพ็ญบุญกุศลให้การสนับสนุนแก่พระธุดงค์ธรรมทายาททั้ง 1,128 รูปนั้น เป็นมหากุศลของญาติโยมทุกคนและได้ทราบว่าบันไดทองที่ญาติโยมมาให้เดินนี้เป็นบันไดทองเป็นต้นดาวรวย ที่ญาติโยมปลูกขึ้นเอง เป็นบันไดทองของญาติโยมที่จะพาญาติโยมขึ้นสู่สวรรค์ ท่านทั้งหลาย ปฏิบัติอยู่ในธุดงค์ก็อยู่ในลักษณะที่ว่าต้องการจะดับกิเลส ดับทุกข์ ทำใจให้สงบ ให้ท่านทั้งหลายมีขันติ มีความใจเย็น อดทน 2 อย่างนี้จะทำให้ท่านทั้งหลายได้ความสำเร็จในชีวิต อยู่ในสมณเพศก็จะได้ความสำเร็จ ความสุข ได้วิเวก ได้วิหารธรรมในสมณเพศ ถ้าอยู่ในฆราวาสวิสัยท่านทั้งหลายก็จะได้มีความสุข ได้มีความเจริญอยู่ในการครองเรือน ท่านพระธุดงค์ธรรมทายาททั้งศรัทธาสาธุชนญาติโยมทุกท่าน วันนี้รับคุณธรรม 2 ประการ คือความอดทนและความใจเย็น เอาไปปฏิบัติ เอาไปประพฤติ เอาไปกระทำแล้วท่านทั้งหลายจะได้รับความสำเร็จในชีวิตทุกประการ

โอวาทพระธรรมกิตติวงศ์ ณ สนามเทพหัสดิน เมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ.2555
ในโอกาสธุดงค์ธรรมชัยอัญเชิญรูปหล่อทองคำพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ตั้งแต่ วันที่ 2-6 เมษายน พ.ศ.2555

พระเดชพระคุณพระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ.๙ ราชบัณฑิตแจง ธุดงค์ธรรมชัยกลางกรุงไม่ผิดพระธรรมวินัย





      วันนี้เรามาสร้างประวัติศาสตร์ ของกรุงเทพมหานคร ของพระพุทธศาสนาและของประเทศไทยกัน นั้นก็คือมาร่วมมีส่วนในการทำสิ่งที่อัศจรรย์ ทำได้ยาก ไม่เคยมี ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครนับแต่สร้างกรุงมา นั้นก็คือมีพระสงฆ์จำนวน 1,500 กว่ารูป เดินธุดงค์เข้ามากลางกรุง มาพักกลางกรุง ในถิ่นที่เจริญรุ่งเรือง ในถิ่นที่มีจราจรแออัดคับคั่ง บางท่านอาจจะเกิดความขัดแย้ง ความคิดขัดแย้งในใจว่า ทำไมมีแต่ข่าวว่าธุดงค์มักจะไปในป่า แต่นี้ทำไมธุดงค์เข้าเมือง ความจริงแล้วเรื่องธุดงค์ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ เป็นข้ออนุญาต ไม่ใช่เป็นข้อบังคับ พระสงฆ์ที่มีจิตศรัทธาย่อมสามารถทำได้

      และการถือปฏิบัติธุดงค์นั้นก็ทรงบัญญัติไว้ถึง 13 ข้อ มีเพียงข้อเดียวที่ กำหนดว่าต้องอยู่ป่า อีก 12 ข้อนั้นอยู่ที่ไหนก็ได้ ไปที่ไหนก็ได้ อยู่กับที่ก็ได้ เดินก็ได้ เข้าเมืองก็ได้ ถ้าสมมติว่ากลางกรุงนี้เป็นป่า อย่างที่มีคนชอบพูดกันว่าเป็นป่าคอนกรีต ก็แสดงว่าท่านก้เดินธุดงค์ในป่าเหมือนกัน ก็ป่าคอนกรีต ตึกบ้านช่องก็ถือว่าเป็นต้นไม้ใหญ่ บริเวณนี้เป็นสนามกีฬา ก็เท่ากับว่าเป็นลานโล่งอยู่ในลักษณะของธุดงค์อีกข้อหนึ่ง ก็คือ ไม่อยู่ในร่มเงาของชายคาของต้นไม้ อันนี้ก็ถูกต้องตามพระบัญญัติ ไม่ได้ผิดอะไร ที่จะแปลกหน่อยก้คือจำนวนเท่านั้น ปกติเราเห็นพระธุดงค์ตามท้องถนนแบกกลดก็ไม่รู้สึกอะไร

     แต่นี้พันกว่าองค์ก็เลยรู้สึกว่าจะเป็นเรื่องแปลก ไม่เคยเห็น คนที่มีบุญย่อมเห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น ส่วนผู้ที่ไม่มีบุญ แม้ไม่เคยเห็นก็คงไม่เคยเห็นตลอดชาติ ตลอดไป อันนี้ก็เป็นปกติธรรมดา เพราะก็ขอให้ทุกท่านทั้งหลายได้ชื่นใจ สิ่งที่ไม่เคยพบ เราก็ได้เห็น ได้พบ และก้ไม่ใช่เป็นเรื่องที่เสียหายร้ายแรง เป็นเรื่องดี เรื่องงาม นำความชื่นใจมาให้



  พระพรหมเมธี กรรมการและโฆษกมหาเถรสมาคม
ผู้ช่วยแม่กองธรรมสนามหลวงผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์

      พระพรหมเมธี กรรมการและโฆษกมหาเถรสมาคม ผู้ช่วยแม่กองธรรมสนามหลวง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ได้กล่าวถึงโครงการธุดงค์ธรรมชัยฯ "โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี เป็นโครงการที่เป็นคุณประโยชน์กับยุคปัจจุบัน นานๆ เราจะได้เห็นพระสงฆ์เป็นจำนวนพันกว่ารูปออกมาโปรดญาติโยม มาสร้างแบบสร้างแม่พิมพ์สร้างแนวทางให้ท่านทั้งหลายได้เดินตามกับพระคุณเจ้าจำนวน 1,128 รูป และการเดินธุดงค์นี้บางท่านอาจมีความรู้สึกว่า ทำไมพระสงฆ์จึงมาเดินอยู่ในเมือง ทำไมไม่ไปเดินนอกเมือง ซึ่งในหลักของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สอนให้พระสงฆ์จาริกไปในแดนต่างๆ ไม่ได้กำหนดว่าจะในเมืองหรือนอกเมือง แต่การที่เราจะเดินออกนอกเมืองก็จะต้องเดินผ่านในเมืองก่อน แต่โครงการธุดงค์ธรรมชัยนี้ มุ่งที่จะให้เกิดเป็นทิฏฐานุคติกับสังคมไทย เพื่อให้ได้เห็นปฏิปทาจริยวัตรของพระธุดงค์ท่านเดินอย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อย ด้วยกริยาอาการของสมณะผู้สงบ ผู้ไม่เบียดเบียนใคร ผู้ไม่กล่าวร้ายใคร ผู้ไม่พยาบาทอาฆาต ไม่จองเวรกับใคร พระทุกรูปที่เดินนั้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อยงดงาม มีศีลาจารวัตรเป็นที่น่ายกย่องเชิดชู การเดินธุดงค์ธรรมชัยนี้อาจจะเป็น 1 ใน 13 อย่าง ของหลักธุดงค์ คือ การอยู่หรือไปตามสถานที่ที่จัดไว้ ไม่เป็นการผิดหรือเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น  อาตมาภาพในฐานะพระสงฆ์ที่ดูแลกิจการคณะสงฆ์ ก็เห็นว่าไม่ใช่เรื่องเสียหาย และไม่เป็นเรื่องผิดปกติ แต่กลับเป็นเรื่องดี เป็นเรื่องที่ทำให้สังคมได้อยู่กับหลักธรรมคำสอน"



พระพรหมดิลก เจ้าคณะภาค 14 เจ้าอาวาสวัดสามพระยาวรวิหาร กทม.

       พระพรหมดิลก เจ้าคณะภาค 14 เจ้าอาวาสวัดสามพระยาวรวิหาร กทม. เมตตาให้โอวาทแก่พระธุดงค์ในวันที่ 18 มกราคม พ.ศ.2556 ณ วัดบางปลา มีความว่า "อยากจะฝากกับพุทธบุตรทุกท่าน ที่ท่านได้ร่วมกันปฏิบัติธุดงควัตรถึงแม้ว่าจะเหนื่อยยาก ลำบากอย่างไรก็ตาม แต่ท่านทุกรูปได้ทำหน้าที่อันสมอย่างยิ่ง ในฐานะที่ท่านได้มีโอกาสได้เข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา แล้วได้ปฏิบัติหน้าที่ของท่านเป็นการประกาศให้สังคมโลกได้รับรู้ เมื่อพุทธบุตรที่เข้ามาอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาสิ่งทั้งหมดที่เรามีความมุ่งมั่นก็คือต้องการให้พระพุทธศาสนามีความมั่นคงในประเทศไทย และพระพุทธศาสนาจะอยู่คู่กับประเทศไทยและในโลกนี้ตลอดไป ตราบใดประเทศไทยยังมีอยู่ พระพุทธศาสนาต้องอยู่ ตราบใดที่โลกยังไม่เสื่อมสลาย พระพุทธศาสนาจะต้องแผ่ขจรไกลไปในโลกกว้าง ถ้าเราทั้งหมดรวมใจกันคิดอย่างเดียวกัน แล้วร่วมใจกันปฏิบัติไปในแนวเดียวกัน รับรองได้ว่าพระพุทธศาสนามีความเจริญรุ่งเรืองอย่างแน่นอน

      เพราะฉะนั้นก็ขอฝากพุทธบุตรทุกรูปจงใช้ความอดทนของท่านเป็นที่ตั้ง ปฏิบัติหน้าที่ของท่านให้สมกับที่ท่านได้รับภาระหน้าที่มา แล้วท่านก็จะสามารถที่ทำประโยชน์อันสูงสุดให้เกิดขึ้นในชีวิตของตัวเองในบวรพระพุทธศาสนาทุกประการ"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่