http://www.dailymotion.com/video/xx079v_joajai-24-jan-2013_shortfilms#.UQk0SWdckQM
คุณ maha daoudi เธอเป็นผู้หญิงชาว ลิเบีย-โมร๊อคโค เธอเกิดในประเทศอังกฤษ
แลำเรียบจบทางกฎหมายที่ประเทศฝรั่งเศส แต่เธอบอกว่าเธอเกลียดงานด้านกฎหมายอย่างมาก
เธอจึงไม่ยอมกลับบ้าน ไปทำงานทนายความอย่างที่พ่อเธอต้องการ พ่อของเธอจึงโกรธและ
เลยเลิกช่วยเหลือเธอเรื่องการเงิน เธอจึงกลับประเทศอังกฤษ เพื่อไปหางานทำ เธอได้งานทำ
เป็นคนอำนวยความสะดวกและดูแล พวกอภิมหาเศรษฐีระดับโลก บนเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว
เธอบอกว่า การที่ได้ทำงานที่นั่นทำให้เธอได้รู้จักแลพพบปะคนร่ำรวยระดับโลกมากมายหลายคน
เมื่อเธอมองย้อนกลับไป เธอกล่าวว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญมากที่ทำให้ฉันได้เรียนรู้ถึงว่า
ทำไมคนพวกนี้จึงประสบความสำเร็จและร่ำรวย ในขณะที่คนทั่วไปมากมายบนโลกไม่ร่ำรวย
และประสบความสำเร็จเหมือนพวกเค้า เธอกล่าวว่า ..
** เธอกล่าวว่า การได้ทำงานที่นั่นทำให้เธฮค้นพบความลับบางอย่างที่ไม่น่าเชื่อ
ว่าการที่คนเราจะประสบความสำเร็จหรือไม่ประสบความสำเร็จนั้น
ไม่ได้มาจากว่าคุณ เรียนมาสูง หรือไม่ได้มาจากการที่คุณเป็นคนขยันและทำงานหนัก
แต่หากมาจาก ระบบความคิด รูปแบบความคิดในจิต ในสมองของคนเหล่านี้ต่างหาก
ที่พวกเค้าคิด แสดงออก และรู้สึกว่า ฉันเชื่อมั่นว่าฉันทำสิ่งนี้ได้ สิ่งนี้ต่างหากที่เป็น key
ที่ทำให้คนๆนึงจะประสบความสำเร็จได้หรือไม่ ไม่ใช่มาจาก การคิดว่า ต้องทำงานหนักอย่างบ้าคลั่ง
จากนั้นเธอจึงแต่งงานกับสามีชาวอินโดนิเซีย และเลิกทำงานมาเป็นแม่บ้าน
การได้ออกมาอยู่บ้านเฉยๆ เธอจึงเริ่มใช้ชีวิตอย่างที่คนมากมายถวิลหา
กิจวัตรประจำวันของเธฮคือ การออกไปช้อปปิ้งตามห้าง กินอาหารตามร้านอาหารหรูๆ
ซื้อของราคาแพงๆ เหล่านี้คือสิ่งที่ผู้คนมากมายฝันถึง เธฮบอกว่า เธฮใช้ชีวิตอยู่แบบนี้
จนวันนึงเธอไม่ต้องการมันอีกแล้ว เธอเริ่มเบื่อ และเริ่มรู้สึกตนเองไร้ค่า
ไม่นานเธอก็ย้ายครอบครัวตามสามีกลับไปอยู่ที่ประเทศอินโดนิเซีย
และมีชีวิตอยู่กับการเป็นแม่บ้าน ที่ยู่บ้านเฉยๆ และเธฮบอกว่า นั่นเริ่มกัดกร่อน
จิตวิญญาณของเธฮทีละน้อยว่าตัวเองรู้สึกไร้คุณค่า บนโลกนี้
วันนึงที่เธอไปทานอาหารกับเพื่อนๆ ทุกๆคนต่างสนทนา ถามไถ่กันถึงเรื่องการงาน
ว่าคุณทำงานอะไร ุบางคนเป็นทนายความ าบางคนเป็นวิศวกร บางคนเป็น พนง. บริษัท
พอมาถึงตัวเธอ เธอบอกว่าเธฮไม่ได้ทำอะไร เป็นแ่ม่บ้านเฉยๆ
นั่นเป็นจุดที่ทำให้เธอรู้สึกแย่กับตัวเองมากว่า ชีวิตเธอไม่มีคุณค่าอะไรเลย
จากนั้นเธอจึงเริ่มเก็บตัว ไม่ออกไปพบปะผู้คน ไม่เข้าสังคม ไม่ออกไปทานข้ว ช้อปปิ้ง
ความรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า ค่อยๆ กัดกร่อนชีวิตไปทีละน้อยๆ จนเธอบอกว่าถึงจุดนึง
เธฮจึงเริ่มซึมเศร้า และไม่มีแรงลุกขึ้นจากเตียงในตอนเช้า เธฮใช้ชีวิตอย่างหดหู่และ
รู้สึกตนเองไร้ค้า แบบนี้ ถึง 2 ปี จนเธอต้องพบจิตแพทย์และจิตแพทย์วินิจฉัยว่าเธอ
ป่วยด้วยโรค bipolar disorder เธอถูกมึนเมาด้วย บรรดาสารพัดยาที่จิตแพทย์สั่งมาให้เธอ
เกิดอะไรขึ้นกับ ผู้หญิงคนนึงที่เกิดมามีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ที่คนมากมายปราถนา
เกิดมาสวย (เธอหน้าคล้าย ๆอดีตนางงามจักรวาลคนนึง จำชื่อไม่ได้) มีครอบครัวที่สมบูรณ์
ร่ำรวยเงินทอง มีทุกอย่างที่อยากได้และอยากมี แล้วทำไมต้องมาทำร้ายตนเองขนาดนี้ ??
จนถึงจุดนึง ที่เธอทนไม่ไหว เมื่อความทุกข์ที่คิดว่าตัวเธอไร้ค่า รุมเร้าเธอมากมาย
เธอตัดสินใจ ฆ่าตัวตาย และ หนักเข้า ความคิดที่อยากจะฆ่าตัวตายนี้กลายเป็นความพยามอย่างจริงจัง
และกลายเป็นความหมกมุ่นที่ต้องการจะตายให้ได้ เพราะเธอต้องการจะพ้นจากกองทุกข์กองนี้
เธอคิดค้นวิธีฆ่าตัวตายของเธอด้วยการ ไปยืนขวางทางรถไฟ กินยาแบบเกินขนาด
ครั้งนึงเธอกินยาเกินขนาด จนเข้าขั้นโคม่า และเกือบตาย แต่ก็รอดมาได้ แต่เธอก็ยังไ่ม่ยอมหยุดความคิดที่จะฆ่าตัวตาย
จากนั้นเธอเริ่มคิดได้ว่า เธอยังมีลูกสาว เธอยังต้องการอยู่กับลูกสาวของเธอ
เธอจึงเริ่มแสวงหาหนทางแห่งการดับทุกข์ของเธอ (เข้าใจว่าเธอคงเป็นมุสลิม)
จนเธอได้พบ การปฏิบัติ วิปัสสนา และกระบวนการเรียนรู้ทางจิตใจ NLP
*** เธอกล่าวในตอนท้ายว่า หลายคนอาจจะคิดว่า ปัญหาของฉันมันสุดโต่ง
เพราะปัญหาของฉันมันไม่ได้ร้ายแรง ถึงขนาดจะต้องฆ่าตัวตาย ความจริงก็คือ
"การมีชีวิตอยู่ โดยปราศจาก เป้าหมาย และ ความปราถนาที่แท้จริง เป็นปัญหาและความทุกข์สูงสุด
ของมนุษย์ส่วนใหญ่ในทุกวันนี้ " ถ้าจะให้ฉันอธิบายคงคล้ายๆ กับ ...
คนส่วนใหญ่บนโลกนี้ ..ที่ต้องตื่นขึ้นมาทุกๆ เช้า แล้วแต่งตัวไปทำงาน แต่พวกเข้าเกลียดงานที่ตัวเองทำมาก
แต่พวกเค้าเลิกทำไม่ได้ เพราะต้องทำงานเพื่องเิงิน เพื่อปากท้อง
แต่ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะเกลียดงานที่เค้าทำมากแค่ไหน พวกเค้าก็ต้องตื่นขึ้นด้วยความหดหู่ ทุกเช้า
อาบน้ำแต่งตัวไปทำงานทีตัวเองไม่ชอบ วันละ 8-9 ชั่วโมง และกลับมาบ้านด้วยสภาพที่เหี่ยวแห้ง หมดแรง
และก็ต้องรีบเข้านอน เพื่อตื่นขึ้นมาในอีกวัน เพื่อทำสิ่งเดิมๆ แบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก อย่างไม่รู้จบ
ไม่ต่างอะไรกับ หนูแฮมสเตอร์ที่วิ่งถีบจักร รอวันจนกว่า วันนึงที่หนูตัวนี้หมดแรง
ชีวิตที่เป็นแบบนี้ ดูเหมือนอยู่ดีมีความสุข แต่ลึกๆ แล้วทุกข์และสิ้นหวัง เงียบๆ อยูข้างในใจ (quiet desperation)
และสะสมมันเอาไว้วันแล้ววันเล่า ไม่ต้องถึงขนาดต้องพยามฆ่าตัวตายแบบฉัน แต่คนเหล่านี้จะค่อยๆ ตายข้างในช้าๆ ทีละนิดๆ
และทำงานเหมือนหนูถีบจักรไปเพื่อฆ่าเวลา จนรอถึงวันที่เกษียณ และไม่ได้ตอบคำถามของตัวเองว่า
ตกลงชีวิตคืออะไร และจริงๆ แล้ว ชีวิตฉันต้องการอะไร เมื่อถึงวันนั้นก็สายเกินไปแล้ว ที่จะตามหาความฝันของตัวเอง
เจาะใจ 24.01.2556 ... คุณเคยถามตัวเองบ้างไหมว่าจริงๆ แล้วคุณต้องการอะไรในชีวิต ?
http://www.dailymotion.com/video/xx079v_joajai-24-jan-2013_shortfilms#.UQk0SWdckQM
คุณ maha daoudi เธอเป็นผู้หญิงชาว ลิเบีย-โมร๊อคโค เธอเกิดในประเทศอังกฤษ
แลำเรียบจบทางกฎหมายที่ประเทศฝรั่งเศส แต่เธอบอกว่าเธอเกลียดงานด้านกฎหมายอย่างมาก
เธอจึงไม่ยอมกลับบ้าน ไปทำงานทนายความอย่างที่พ่อเธอต้องการ พ่อของเธอจึงโกรธและ
เลยเลิกช่วยเหลือเธอเรื่องการเงิน เธอจึงกลับประเทศอังกฤษ เพื่อไปหางานทำ เธอได้งานทำ
เป็นคนอำนวยความสะดวกและดูแล พวกอภิมหาเศรษฐีระดับโลก บนเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว
เธอบอกว่า การที่ได้ทำงานที่นั่นทำให้เธอได้รู้จักแลพพบปะคนร่ำรวยระดับโลกมากมายหลายคน
เมื่อเธอมองย้อนกลับไป เธอกล่าวว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญมากที่ทำให้ฉันได้เรียนรู้ถึงว่า
ทำไมคนพวกนี้จึงประสบความสำเร็จและร่ำรวย ในขณะที่คนทั่วไปมากมายบนโลกไม่ร่ำรวย
และประสบความสำเร็จเหมือนพวกเค้า เธอกล่าวว่า ..
** เธอกล่าวว่า การได้ทำงานที่นั่นทำให้เธฮค้นพบความลับบางอย่างที่ไม่น่าเชื่อ
ว่าการที่คนเราจะประสบความสำเร็จหรือไม่ประสบความสำเร็จนั้น
ไม่ได้มาจากว่าคุณ เรียนมาสูง หรือไม่ได้มาจากการที่คุณเป็นคนขยันและทำงานหนัก
แต่หากมาจาก ระบบความคิด รูปแบบความคิดในจิต ในสมองของคนเหล่านี้ต่างหาก
ที่พวกเค้าคิด แสดงออก และรู้สึกว่า ฉันเชื่อมั่นว่าฉันทำสิ่งนี้ได้ สิ่งนี้ต่างหากที่เป็น key
ที่ทำให้คนๆนึงจะประสบความสำเร็จได้หรือไม่ ไม่ใช่มาจาก การคิดว่า ต้องทำงานหนักอย่างบ้าคลั่ง
จากนั้นเธอจึงแต่งงานกับสามีชาวอินโดนิเซีย และเลิกทำงานมาเป็นแม่บ้าน
การได้ออกมาอยู่บ้านเฉยๆ เธอจึงเริ่มใช้ชีวิตอย่างที่คนมากมายถวิลหา
กิจวัตรประจำวันของเธฮคือ การออกไปช้อปปิ้งตามห้าง กินอาหารตามร้านอาหารหรูๆ
ซื้อของราคาแพงๆ เหล่านี้คือสิ่งที่ผู้คนมากมายฝันถึง เธฮบอกว่า เธฮใช้ชีวิตอยู่แบบนี้
จนวันนึงเธอไม่ต้องการมันอีกแล้ว เธอเริ่มเบื่อ และเริ่มรู้สึกตนเองไร้ค่า
ไม่นานเธอก็ย้ายครอบครัวตามสามีกลับไปอยู่ที่ประเทศอินโดนิเซีย
และมีชีวิตอยู่กับการเป็นแม่บ้าน ที่ยู่บ้านเฉยๆ และเธฮบอกว่า นั่นเริ่มกัดกร่อน
จิตวิญญาณของเธฮทีละน้อยว่าตัวเองรู้สึกไร้คุณค่า บนโลกนี้
วันนึงที่เธอไปทานอาหารกับเพื่อนๆ ทุกๆคนต่างสนทนา ถามไถ่กันถึงเรื่องการงาน
ว่าคุณทำงานอะไร ุบางคนเป็นทนายความ าบางคนเป็นวิศวกร บางคนเป็น พนง. บริษัท
พอมาถึงตัวเธอ เธอบอกว่าเธฮไม่ได้ทำอะไร เป็นแ่ม่บ้านเฉยๆ
นั่นเป็นจุดที่ทำให้เธอรู้สึกแย่กับตัวเองมากว่า ชีวิตเธอไม่มีคุณค่าอะไรเลย
จากนั้นเธอจึงเริ่มเก็บตัว ไม่ออกไปพบปะผู้คน ไม่เข้าสังคม ไม่ออกไปทานข้ว ช้อปปิ้ง
ความรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า ค่อยๆ กัดกร่อนชีวิตไปทีละน้อยๆ จนเธอบอกว่าถึงจุดนึง
เธฮจึงเริ่มซึมเศร้า และไม่มีแรงลุกขึ้นจากเตียงในตอนเช้า เธฮใช้ชีวิตอย่างหดหู่และ
รู้สึกตนเองไร้ค้า แบบนี้ ถึง 2 ปี จนเธอต้องพบจิตแพทย์และจิตแพทย์วินิจฉัยว่าเธอ
ป่วยด้วยโรค bipolar disorder เธอถูกมึนเมาด้วย บรรดาสารพัดยาที่จิตแพทย์สั่งมาให้เธอ
เกิดอะไรขึ้นกับ ผู้หญิงคนนึงที่เกิดมามีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ที่คนมากมายปราถนา
เกิดมาสวย (เธอหน้าคล้าย ๆอดีตนางงามจักรวาลคนนึง จำชื่อไม่ได้) มีครอบครัวที่สมบูรณ์
ร่ำรวยเงินทอง มีทุกอย่างที่อยากได้และอยากมี แล้วทำไมต้องมาทำร้ายตนเองขนาดนี้ ??
จนถึงจุดนึง ที่เธอทนไม่ไหว เมื่อความทุกข์ที่คิดว่าตัวเธอไร้ค่า รุมเร้าเธอมากมาย
เธอตัดสินใจ ฆ่าตัวตาย และ หนักเข้า ความคิดที่อยากจะฆ่าตัวตายนี้กลายเป็นความพยามอย่างจริงจัง
และกลายเป็นความหมกมุ่นที่ต้องการจะตายให้ได้ เพราะเธอต้องการจะพ้นจากกองทุกข์กองนี้
เธอคิดค้นวิธีฆ่าตัวตายของเธอด้วยการ ไปยืนขวางทางรถไฟ กินยาแบบเกินขนาด
ครั้งนึงเธอกินยาเกินขนาด จนเข้าขั้นโคม่า และเกือบตาย แต่ก็รอดมาได้ แต่เธอก็ยังไ่ม่ยอมหยุดความคิดที่จะฆ่าตัวตาย
จากนั้นเธอเริ่มคิดได้ว่า เธอยังมีลูกสาว เธอยังต้องการอยู่กับลูกสาวของเธอ
เธอจึงเริ่มแสวงหาหนทางแห่งการดับทุกข์ของเธอ (เข้าใจว่าเธอคงเป็นมุสลิม)
จนเธอได้พบ การปฏิบัติ วิปัสสนา และกระบวนการเรียนรู้ทางจิตใจ NLP
*** เธอกล่าวในตอนท้ายว่า หลายคนอาจจะคิดว่า ปัญหาของฉันมันสุดโต่ง
เพราะปัญหาของฉันมันไม่ได้ร้ายแรง ถึงขนาดจะต้องฆ่าตัวตาย ความจริงก็คือ
"การมีชีวิตอยู่ โดยปราศจาก เป้าหมาย และ ความปราถนาที่แท้จริง เป็นปัญหาและความทุกข์สูงสุด
ของมนุษย์ส่วนใหญ่ในทุกวันนี้ " ถ้าจะให้ฉันอธิบายคงคล้ายๆ กับ ...
คนส่วนใหญ่บนโลกนี้ ..ที่ต้องตื่นขึ้นมาทุกๆ เช้า แล้วแต่งตัวไปทำงาน แต่พวกเข้าเกลียดงานที่ตัวเองทำมาก
แต่พวกเค้าเลิกทำไม่ได้ เพราะต้องทำงานเพื่องเิงิน เพื่อปากท้อง
แต่ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะเกลียดงานที่เค้าทำมากแค่ไหน พวกเค้าก็ต้องตื่นขึ้นด้วยความหดหู่ ทุกเช้า
อาบน้ำแต่งตัวไปทำงานทีตัวเองไม่ชอบ วันละ 8-9 ชั่วโมง และกลับมาบ้านด้วยสภาพที่เหี่ยวแห้ง หมดแรง
และก็ต้องรีบเข้านอน เพื่อตื่นขึ้นมาในอีกวัน เพื่อทำสิ่งเดิมๆ แบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก อย่างไม่รู้จบ
ไม่ต่างอะไรกับ หนูแฮมสเตอร์ที่วิ่งถีบจักร รอวันจนกว่า วันนึงที่หนูตัวนี้หมดแรง
ชีวิตที่เป็นแบบนี้ ดูเหมือนอยู่ดีมีความสุข แต่ลึกๆ แล้วทุกข์และสิ้นหวัง เงียบๆ อยูข้างในใจ (quiet desperation)
และสะสมมันเอาไว้วันแล้ววันเล่า ไม่ต้องถึงขนาดต้องพยามฆ่าตัวตายแบบฉัน แต่คนเหล่านี้จะค่อยๆ ตายข้างในช้าๆ ทีละนิดๆ
และทำงานเหมือนหนูถีบจักรไปเพื่อฆ่าเวลา จนรอถึงวันที่เกษียณ และไม่ได้ตอบคำถามของตัวเองว่า
ตกลงชีวิตคืออะไร และจริงๆ แล้ว ชีวิตฉันต้องการอะไร เมื่อถึงวันนั้นก็สายเกินไปแล้ว ที่จะตามหาความฝันของตัวเอง