มนุษย์ศาสตร์เอกอังกฤษรามฯนี่จบมามีหลายระดับ ความสามารถของบัณฑิตจากมหาลัยเดียวกันนี่ แข่งกันเอง ทิ้งกันห่างไกลน่ากลัวมากๆนะ จะบอกให้  มันขึ้นอยู่กับว่าเรียนมาด้วยแนวคิดแบบไหน

พวกที่ชอบตั้งกระทู้ถาม (มีบ่อยๆ) ว่าทำไงจะเรียนมนุษย์ศาสตร์เอกอังกฤษรามฯให้จบไวๆได้ภายใน 3 ปีครึ่ง พวกนี้เรียนจบมาก็ไม่ค่อยจะได้เรื่องหรอก เพราะคิดแต่จะเรียนเอาวุฒิ บางทีแห่กันไปติวเดาข้อสอบกัน เจอรายหนึ่งจบมาแล้วไปทำงานบริษัทแปลเอกสาร ที่เราทำ แต่ไม่ได้เป็นนักแปลนะ แค่เป็นพนักงานตรวจตัวสะกด ตรวจๆไปเราเห็นเธอจดอะไรยิกๆในในสมุด เราถามว่าจดอะไร เธอบอกสนใจเรียนรู้ศัพท์จากงานคนเขาแปลมา วันหนึ่งเราแอบดูเห็นเธอจดแต่ศัพท์ระดับ ม. 6 ไม่รู้จบมาได้ไง ขนาด deliver นี่เธอยังไม่รู้เลยว่าแปลว่าอะไร เวรกรรม!

อีกรายหนึ่งเรียนมนุษย์ศาสตร์เอกอังกฤษรามฯเพราะรักภาษาอังกฤษจริงๆ เรียนจบมานะ เก่งระดับไปเรียนต่ออเมริกาจนจบปริญญาเอกด้านภาษา แล้วไปสอนภาษาอังกฤษให้ฝรั่งในมหาลัยสหรัฐได้ด้วยดิ  

ก็ลองคิดดูดิว่าทำไมคนจบมนุษย์ศาสตร์เอกอังกฤษรามฯ 2 คนนี้ถึงจบมาแล้วเก่งมากเก่งน้อยห่างไกลกันลิบลับขนาดนี้ได้!

แล้วก็อย่าลืมด้วยว่าคนเรียนมนุษย์ศาสตร์เอกอังกฤษรามฯน่ะหลายๆคนเก่งอังกฤษอยู่แล้วเช่นเคยอยู่เมืองนอกมาหลายปีแต่ไปเรียนเอาวุฒิก็มี หรือคนส่วนใหญ่เอ็นมหาลัยรัฐไม่ติดก็ไปเรียนรามแค่เอาวุฒิก็มี (โดยตั้งใจเรียนจริงๆแล้วกลายเป็นเก่งมากๆได้หรือแค่เรียนเอาวุฒิ (ติวให้ผ่าน) แล้วจบมาไม่ได้เรื่องได้ราวก็มี) มันก็เลยจบมาแต่ละรายความรู้ไม่เท่ากันห่างไกลกันลิบลับสุดๆเลยหละ!

ส่วนเอกอังกฤษศิลปกรนั้นก็มีเก่งๆเยอะนะ แต่จากพวกเอกอังกฤษที่เราเคยเจอมาในการทำงานด้านการแปลมาหลายๆปี เราก็ยังต้องให้คะแนนว่าเอกอังกฤษจุฬาก็ยังเก่งกว่าอยู่ดีนะ ถ้านับจำนวนคนที่เก่งมากๆและนับระดับความเก่งแบบเทพๆเช่นบางคนระดับแค่เรียนในเมืองไทยแต่เขียนภาษาอังกฤษได้ไม่มีกลิ่นกะปิน้ำปลาและพูดอังกฤษชัดแล้วพูดคล่องมากๆนี้หาจากเด็กเอกอังกฤษจุฬาหาได้เยอะมากๆจนน่าตกใจเลยหละ!