“ประยุทธ์” ยันไม่ปรับแผนรปภ.ครูใต้ วอนครูให้ความร่วมมือ ทหารดูแล พร้อมแก้ปัญหาโรฮิงญา เผยแอบย่องเข้าไทยทางบกมากขึ้น ยันต้องได้รับความร่วมมือกับกระทรวงต่างๆ
เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี็(28 ม.ค.) ที่กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางลงพื้นที่จ.นราธิวาส เพื่อตรวจเยี่ยมกำลังพลและติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งพบปะผู้นำศาสนาว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้มีโอกาสหารือถึงปัญหาทุกเรื่องร่วมกับพล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่ใช่เฉพาะเรื่องโรฮิงญาเท่านั้น อย่างไรก็ตามการแก้ไขปัญหาความมั่นคงเรามีแผนในการดำเนินการ โดยปัญหาเรื่องโรฮิงญาก็ต้องขอความร่วมมือกับกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ในส่วนของทหารเองก็มีหน้าที่สนับสนุน เฝ้าระวัง ซึ่งเรื่องนี้เรามีการดำเนินการทุกปี เพราะในช่วงที่ไม่ใช่ฤดูมรสุมก็จะมีการลักลอบอพยพเข้ามาตามฝั่งทะเลชายฝั่งอันดามันเราก็มีการจับกุมและส่งกลับ โดยเป็นไปตามข้อตกลงกฎหมายทุกประการ แต่ครั้งนี้มีการลักลอบมารวมกลุ่มกันเพื่อไปทำความผิดอย่างอื่น ซึ่งเป็นประเด็นที่พบใหม่คือมีการลักลอบเข้ามาทางบกมากพอสมควร ต้องสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาความเป็นมาและแก้ไขปัญหาให้ถูกจุด และรัฐบาลก็ประกาศชัดเจนว่าจะให้การสนับสนุนตามหลักมนุษยธรรมไปสักระยะหนึ่งก่อน จากนั้นก็จะดำเนินการแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะระดับอาเซียน หรือประชาคมอื่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อคนไทยโดยรวม
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยครูในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า แผนและคำสั่งนั้นได้เขียนไว้ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่การนำไปปฏิบัติคือเจ้าหน้าที่ ส่วนผู้ที่ได้รับการปฏิบัติคือครู ทั้งสองส่วนต้องบูรณาการร่วมกันว่าจะทำอย่างไร ต่อให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ดำเนินการเต็มรูปแบบอย่างไร แต่ถ้าฝ่ายรับปฏิบัติคือครูไม่ร่วมมือ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็ยากที่จะปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์
“ผมไม่อยากโทษใคร แต่ต้องไปดูแลแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน บางพื้นที่ต้องการ3ส่วนคือโรงเรียน เส้นทาง และบ้าน ผมก็ได้สั่งการลงไปแล้วและไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น แต่ในบางพื้นที่ขอแค่ให้ดูแลเฉพาะตอนไปส่งโรงเรียน และบางส่วนขอให้ดูแลภายนอกโรงเรียน ซึ่งแต่ละพื้นที่มีกติกาและข้อตกลงคนละแบบ โดยเป็นไปตามความสมัครใจของครู ในส่วนของทหารเองก็ไม่สามารถที่จะจัดส่งคนทั้งหมดไปดูแลครูเพียงอย่างเดียวได้ แต่เราก็ได้แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบว่าช่วงไหนควรเป็นทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน อาสาสมัครดูแลความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือลูกจ้าง ซึ่งต้องไปดูว่าทำครบหรือไม่ ถ้าครบก็ไม่มีเรื่อง ส่วนครูก็ต้องไม่ออกนอกพื้นที่ตามเวลาหรือเส้นทางที่กำหนด แต่ยอมรับว่าครูก็ต้องอึดอัดเป็นธรรมดา แต่ในฐานะที่ตนเองเป็นเป้าหมายก็ต้องระมัดระวัง อย่างไรก็ตามผมคิดว่าแผนการดูแลความปลอดภัยครูนั้น ไม่มีความจำเป็นต้องปรับ แต่ต้องไปหากันให้เจอว่าจะเอากันอย่างไร เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่มุสลิม คนที่เข้ามายิงก็เป็นคนมุสลิม ต้องไปสอบหาสาเหตุว่าเกิดจากและทางโรงเรียนก็ไม่ได้โทษเจ้าหน้าที่” ผบ.ทบ. กล่าว
ที่มา
http://www.dailynews.co.th/politics/181016
“ประยุทธ์” ยันไม่ปรับแผนรปภ.ครูใต้ , พร้อมแก้ปัญหาโรฮิงญา เผยแอบย่องเข้าไทยทางบกมากขึ้น
“ประยุทธ์” ยันไม่ปรับแผนรปภ.ครูใต้ วอนครูให้ความร่วมมือ ทหารดูแล พร้อมแก้ปัญหาโรฮิงญา เผยแอบย่องเข้าไทยทางบกมากขึ้น ยันต้องได้รับความร่วมมือกับกระทรวงต่างๆ
เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี็(28 ม.ค.) ที่กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางลงพื้นที่จ.นราธิวาส เพื่อตรวจเยี่ยมกำลังพลและติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งพบปะผู้นำศาสนาว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้มีโอกาสหารือถึงปัญหาทุกเรื่องร่วมกับพล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่ใช่เฉพาะเรื่องโรฮิงญาเท่านั้น อย่างไรก็ตามการแก้ไขปัญหาความมั่นคงเรามีแผนในการดำเนินการ โดยปัญหาเรื่องโรฮิงญาก็ต้องขอความร่วมมือกับกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ในส่วนของทหารเองก็มีหน้าที่สนับสนุน เฝ้าระวัง ซึ่งเรื่องนี้เรามีการดำเนินการทุกปี เพราะในช่วงที่ไม่ใช่ฤดูมรสุมก็จะมีการลักลอบอพยพเข้ามาตามฝั่งทะเลชายฝั่งอันดามันเราก็มีการจับกุมและส่งกลับ โดยเป็นไปตามข้อตกลงกฎหมายทุกประการ แต่ครั้งนี้มีการลักลอบมารวมกลุ่มกันเพื่อไปทำความผิดอย่างอื่น ซึ่งเป็นประเด็นที่พบใหม่คือมีการลักลอบเข้ามาทางบกมากพอสมควร ต้องสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาความเป็นมาและแก้ไขปัญหาให้ถูกจุด และรัฐบาลก็ประกาศชัดเจนว่าจะให้การสนับสนุนตามหลักมนุษยธรรมไปสักระยะหนึ่งก่อน จากนั้นก็จะดำเนินการแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะระดับอาเซียน หรือประชาคมอื่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อคนไทยโดยรวม
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยครูในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า แผนและคำสั่งนั้นได้เขียนไว้ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่การนำไปปฏิบัติคือเจ้าหน้าที่ ส่วนผู้ที่ได้รับการปฏิบัติคือครู ทั้งสองส่วนต้องบูรณาการร่วมกันว่าจะทำอย่างไร ต่อให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ดำเนินการเต็มรูปแบบอย่างไร แต่ถ้าฝ่ายรับปฏิบัติคือครูไม่ร่วมมือ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็ยากที่จะปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์
“ผมไม่อยากโทษใคร แต่ต้องไปดูแลแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน บางพื้นที่ต้องการ3ส่วนคือโรงเรียน เส้นทาง และบ้าน ผมก็ได้สั่งการลงไปแล้วและไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น แต่ในบางพื้นที่ขอแค่ให้ดูแลเฉพาะตอนไปส่งโรงเรียน และบางส่วนขอให้ดูแลภายนอกโรงเรียน ซึ่งแต่ละพื้นที่มีกติกาและข้อตกลงคนละแบบ โดยเป็นไปตามความสมัครใจของครู ในส่วนของทหารเองก็ไม่สามารถที่จะจัดส่งคนทั้งหมดไปดูแลครูเพียงอย่างเดียวได้ แต่เราก็ได้แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบว่าช่วงไหนควรเป็นทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน อาสาสมัครดูแลความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือลูกจ้าง ซึ่งต้องไปดูว่าทำครบหรือไม่ ถ้าครบก็ไม่มีเรื่อง ส่วนครูก็ต้องไม่ออกนอกพื้นที่ตามเวลาหรือเส้นทางที่กำหนด แต่ยอมรับว่าครูก็ต้องอึดอัดเป็นธรรมดา แต่ในฐานะที่ตนเองเป็นเป้าหมายก็ต้องระมัดระวัง อย่างไรก็ตามผมคิดว่าแผนการดูแลความปลอดภัยครูนั้น ไม่มีความจำเป็นต้องปรับ แต่ต้องไปหากันให้เจอว่าจะเอากันอย่างไร เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่มุสลิม คนที่เข้ามายิงก็เป็นคนมุสลิม ต้องไปสอบหาสาเหตุว่าเกิดจากและทางโรงเรียนก็ไม่ได้โทษเจ้าหน้าที่” ผบ.ทบ. กล่าว
ที่มา http://www.dailynews.co.th/politics/181016