บทความ "พ่อแม่รังแกฉัน" ของ สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล MUSA

พอดีได้เจอบทความนี้ทาง Internet อ่านแล้วคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ครับ ไม่แน่ใจว่ามีคนมาตั้งกระทู้ไว้ก่อนหน้านี้หรือเปล่า
แต่ลองหาดูแล้วไม่เจอ เลยขออนุญาติแบ่งบันนะครับ

http://www.facebook.com/photo.php?fbid=437588746277764&set=a.246805965356044.51583.201289409907700

“พ่อแม่รังแกฉัน”

หลายสิบราย ที่พ่อแม่พาลูกๆ มีตั้งแต่อายุ 12-13 ไปจนถึง 24-25 มาพบผม ขอให้ช่วยว่าทำไงให้พูดกันรู้เรื่อง ให้มีความรับผิดชอบ และให้เรียนหนังสือเก่งๆ ให้กลับมาเป็นผู้เป็นคน ผมก็ช่วยได้บ้างช่วยไม่ได้บ้างตามแต่ว่าใครไปไกลเลยเถิดเกินแก้ไข และบางทีพ่อแม่เป็นอย่างไรก็ได้ลูกอย่างนั้น หรือพ่อแม่บ่มเพาะนิสัยร้ายๆของลูกโดยที่ตัวเองไม่รู้

ต้องแก้ที่พ่อแม่ก่อนถึงจะแก้ลูกได้ แต่ถ้าพ่อแม่เองยังไม่ยอมรับ ว่าตัวเองนั่นแหละเป็นต้นเหตุของปัญหา ก็ได้แต่กลุ้มใจแทนลูก ว่ามีกรรมโดยแท้ที่เกิดมาได้พ่อแม่อย่างนี้

-----------------------------------------------------

เด็กชายอารมณ์เอ็กซ์

รายแรกเป็นเด็กชายวัย 11 ปี โดนไล่ออกมาแล้ว 3 โรงเรียน เพราะชอบบู๊ และทำผิดซ้ำซากไม่รู้จักหลาบจำ ครั้งแรกฉุดนักเรียนหญิงเข้าไปขังในห้องน้ำ (ไม่รู้ว่าตั้งใจจะทำอะไร) เผอิญคนเห็นกันเยอะเลยไปช่วยนักเรียนหญิงและจับตัวเด็กชายมาได้ พ่อแม่เขาจะเอาเรื่องอย่างหนัก โรงเรียนจึงไล่ออกทันที ครั้งที่สองจับกลุ่มตีกันกับเด็กในโรงเรียน ตีครั้งแรกถูกภาคฑัณฑ์ ยังไม่ข้ามเดือนไปตีกันอีก จึงโดนไล่ออก ครั้งสุดท้ายไปเปิดกระโปรงนักเรียนหญิง

เผอิญที่โรงเรียนเดียวกันก็มีนักเรียนคนหนึ่งที่มีพฤติกรรมคล้ายกัน คือชอบไปเปิดกระโปรงนักเรียนหญิง เด็กบอกว่าจิตใจไม่ได้นึกอะไร แต่พอเห็นนักเรียนหญิงนุ่งกระโปรงแล้วอยากไปเปิดทุกที แม่พามาให้ผมสะกดจิตไป 3 ครั้ง แกบอกว่าเดี๋ยวนี้รู้สึกเฉยๆ พ่อแม่รายนั้นเลยแนะนำให้แม่ของเด็กชายอายุ 11 ที่โดนไล่ออกให้มาหาพบบ้าง

รายนี้คุณแม่เลิกกับคุณพ่อตั้งแต่เด็กยังเล็กๆ คุณแม่หันไปคบทอมเป็นแฟน คุณแม่มีอารมณ์ขึ้นๆลงๆ ขี้โมโห เจ้าอารมณ์ และเลิกกับสามีเพราะสามีเป็นคนอารมณ์รุนแรง และชอบทำร้ายร่างกายลูกและภรรยา

เหล่านี้คือสิ่งที่ปลูกฝังและซึมซับเข้าในจิตใต้สำนึกของลูกชาย ทำไมลูกชายรู้สึกว้าเหว่โดยไม่รู้ตัว และเป็นคนก้าวร้าว ขาดความยับยั้งช่างใจ ซึ่งทั้งหมดเกิดจากพฤติกรรมซ้ำซากที่เห็นและสัมผัสจากการใช้ชีวิตของผู้คนรอบข้าง คนที่เลี้ยงดู

เราใช้การสะกดจิตแก้ปัญหารายนี้อยู่ระยะหนึ่ง เห็นว่าเขามีความยับยั้งช่างใจเพิ่มมากขึ้น และตัวแม่สารภาพว่า เพิ่งเข้าใจและเห็นจริงว่าตัวเองมีส่วนสำคัญกับอารมณ์และความรู้สึกของลูก เพราะพอลูกชายมีอารมณ์สงบ ก็จะเริ่มอยู่ติดบ้านมากขึ้น ตัวแม่เสียอีกที่พอมีโอกาสอยู่ใกล้ลูกชายมากขึ้น กลับแสดงความฉุนเฉียวใส่ลูก คุณแม่รายนี้จึงขอรับการสะกดจิตเพื่อเรียนรู้วิธีการไปแก้ปัญหากับตัวเองบ้าง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่