ภาพยนตร์เรื่อง : Hansel and Gretel - Witch Hunters - ฮันเซล กับ เกรเทล นักล่าแม่มดพันธุ์ดิบ
แนว : แอ็คชั่น ระทึกขวัญ แฟนตาซี
เรตภาพยนต์ : น 15+
ผู้กำกับ + เขียนบท : ทอมมี่ เวอร์โคล่า (Dead Snow)
นักแสดงนำ : เจเรมี่ เรนเนอร์ (Avenger , Mission Impossible 4 , Bourne Legacy) / เจมม่า อาร์เทอร์ตัน (Quantum of solace , Prince of Persia : The Sands of Time)
สปอยล์เนื้อเรื่องผสมความคิดผมลงไปแบบละเอียดยิบ หากไม่ต้องการอย่าเปิดอ่านนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เปิดเรื่องมาที่บ้านหลังหนึ่งบริเวณชายป่ายามค่ำคืน ได้ยินเสียงคุยกันของสองสามีภรรยาเบาๆ ว่าให้พาตัวลูกชายหญิงทั้งสองของพวกเขาออกไปได้แล้ว เด็กทั้งสองที่ถูกปลุกขึ้นมากลางดำแล้วถูกพ่อแท้ๆ พาไปไว้ที่กลางป่า โดยบอกให้รออยู่เงียบๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเนิ่นนานก็ยังไม่มารับเสียที สองพี่น้องจึงเดินไปอย่างไม่รู้ทิศทางกลางป่าในความมืดสลัว แล้วทั้งคู่ก็พบกระท่อมสีสันสดใสอยู่กลางป่า พี่ชายน้องสาวจึงพากันไปเคาะประตูเพื่อขอความช่วยเหลือกันยกใหญ่ ก่อนที่จะเริ่มรู้สึกตัวว่า บ้านหลังนี้ทำมาจากขนมและน้ำตาล ทั้งคู่ที่หิวจัดจึงทานกันอย่างเอร็ดอร่อย แต่ทานได้เพียงไม่กี่คำ ประตูบ้านก็เปิดออก ทั้งคู่จึงเดินเข้าไปในประตูนั้น และประตูก็ปิดอย่างเงียบเชียบ(ผมเพิ่งสังเกตและไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าว่าทีมงานจงใจทำลายของประตูให้ดูเหมือนเป็นฟันและปากของตัวอะไรสักอย่าง คล้ายกับเด็กๆ ถูกปีศาจกินเข้าไปนั่นเอง)
ในบ้านหลังนั้น เทียนค่อยๆ ถูกจุดขึ้นทีละเล่มๆ แล้วทั้งสองพี่น้องก็เห็นหญิงชราในเงามืด แต่ใบหน้าของเธอกลับซีดเผือดและแตกระแหง ผมเผ้าขาวยาวรุงรัง ดวงตาสีประหลาด ฟันหลอแต่น่ากลัว ก่อนที่สองพี่น้องจะตั้งตัวได้ แม่มดก็พุ่งจู่โจมเข้าใส่ทั้งคู่ก่อนแล้ว
ภายหลังจากนั้น เกรเทลถูกใช้เยี่ยงทาส โดนล่ามโซ่กุญแจมือ ถูกตบทุบตีเมื่อไม่ถูกใจ ส่วนฮันเซลถูกขังอยู่ในกรงรากไม้ พร้อมถูกบังคับให้ทานขนม เพื่อให้ตัวอ้วนพีน่ารับประทาน(ในหนังไม่ได้บอกแต่ตามนิทานมันก็อย่างนี้อยู่แล้วนี่นะ) โดยเมื่อสักครู่ที่เกรเทลโดนแม่มดตบคว่ำล้มลงเมื่อสักครู เธอได้แอบดึงตะปูที่ตอกพื้นไว้หนึ่งดอก เพื่อเอามาสะเดาะกุญแจมือ ในขณะที่ฮันเซลกำลังจะโดนแม่มดยัดใส่เตาย่างที่ไฟกำลังระอุ เธอได้รู้ถึงจิตมุ่งร้ายจากด้านหลัง เกรเทลยืนถือมีดพร้อมสู้กับแม่มดแล้ว แต่ระยะระหว่างเธอกับแม่มดยังห่างไกลอยู่ แม่มดใช้จังหวะนี้ร่ายเวทย์มนต์ใส่เกรเทล แต่เวทย์มนต์กลับทะลุผ่านตัวของเธอไป ในขณะที่แม่มดกำลังงงอยู่ว่าทำไมเวทย์มนต์ของตนใช้ไม่ได้ผล เกรเทลได้วิ่งเข้าไปแล้วจ้วงแทงที่ท้องของแม่มดหลายแผล จนเลือดของแม่มดสาดกระเซ็นมาโดนหน้า แต่แม่มดยังไม่สิ้นฤทธิ์ ฮันเซลจึงรีบพุ่งชนแม่มดให้ตกไปในเตาไฟ แล้วปิดเตาจัดการย่างสดแม่มดตนนั้นเสีย ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของแม่มด พี่น้องคู่นี้จับมือกันแล้วได้เริ่มเรียนรู้ที่จะต้องมีกันและกัน แถมฮันเซลยังพูดติดตลกเป็นการเล่าเรื่องในตอนต้นด้วยว่า หากเจอบ้านขนมอยู่กลางป่า จงอย่าเข้าไปเป็นอันขาด เพราะมันเป็นความคิดที่ไม่เข้าท่าเอาเสียเลย
แล้วไตเติ้ลหนังก็ถูกฉายขึ้นมา (ทั้งหมดที่เล่ามาใช้เวลาไปไม่น่าเกิน 5 นาที กระชับดีมาก) โดยไตเติ้ลของหนังจะเป็นอนิเมชั่นแบบโบราณๆ นิดๆ คือเป็นรูปวาดจากข่าวหนังสือพิมพ์ในยุคโบราณแต่ขยับได้นิดหน่อย บอกเล่าเรื่องราวหลังจากนั้นมาจนถึงตอนที่สองพี่น้องโตขึ้นเป็นหนุ่มสาววัยฉกรรจ์ แถมเป็นนักล่าแม่มดที่มีชื่อเสียงอันโด่งดัง ปราบแม่มดมาแล้วนักต่อนัก(ไล่ฆ่ามาตั้งแต่เด็กจนโตกันเลยทีเดียว)
หลายปีผ่านไป ณ หมู่บ้านเล็กๆ หมู่บ้านหนึ่ง มีคดีเด็กหญิงชายหลายคนหายตัวไปอย่างลึกลับอย่างต่อเนื่อง และตอนนี้ที่กลางหมู่บ้าน ขณะที่ผู้คนกำลังกำลังจับจ่ายสินค้าในตลาด สารวัตรและตำรวจของหมู่บ้านกำลังจะพิพากษาสตรีนางหนึ่ง โดยกล่าวหาว่าเธอเป็นแม่มด ในขณะนี่หญิงคนนี้กำลังจะถูกพิพากษา ก็มีปืนกระบอกหนึ่งจ่ออยู่ที่หัวของสารวัตร คนที่จ่อปืนก็คือเกรเทลนั่นเอง ในขณะที่ตำรวจที่เหลืออีก 3 คนกำลังจะชักปืนมาจัดการกับเกรเทล ทั้งหมดก็ถูกฮันเซลยกปืนจ่อเอาไว้แล้ว จึงไม่มีใครกล้าขัดขืน ฮันเซลได้เข้าทำการตรวจดูบริเวณใบหน้าของหญิงคนที่ถูกกล่าวหา พลางบอกกับพวกชาวบ้านว่าแม่มดจะมีหน้าตาที่อัปลักษณ์ อย่างน้อยๆ ก็สังเกตได้จากหน้าหรือฟันภายในปาก แต่เธอคนนี้ไม่มีอะไรผิดแผกไปจากคนปกติเลย เธอเป็นผู้บริสุทธิ์ ในขณะที่ท่านสารวัตรกำลังยั๊วะว่าสองคนนี้เป็นใครเข้ามาขัดขวางการทำงานของเขา ผู้ว่าของเมืองก็เดินเข้ามาแล้วบอกว่าเขาเป็นคนจ้างสองคนนี้เอง เฮเซลและเกรเทลแนะนำตัวเองกับชาวเมืองอย่างคร่าวๆ และประกาศจะจัดการกับแม่มดของเมืองนี้ให้ และสั่งให้คนอื่นๆ แยกย้ายกลับบ้านไปได้แล้ว แต่สารวัตรยังไม่พอใจในเรื่องที่เกิดขึ้น เขาไม่เชื่อมือของนักล่าแม่มดสองคนนี้ ไปหาเรื่องกับเกรเทล เลยโดนเกรเทลเฮดบัดเสียดั้งหัก
ตัดมาที่ภายในที่ทำการของผู้ว่าในเวลาพลบค่ำ ซึ่งผู้ว่ากำลังคุยรายละเอียดของค่าจ้าง ฮันเซลแสดงการกระทำอันน่าสงสัยปนแปลกใจนิดๆ ตรงที่ ข้อมือของเขาจะมีบางสิ่งคล้ายนาฬิกาข้อมือที่ปลุกได้ แล้วเขาก็เดินไปหาที่วางเท้าเหมาะๆ ที่จะยกเข่าขึ้นมาตั้งฉากได้ แล้วเอาเข็มฉีดยาเหล็กฉีดสารบางอย่างลงไปที่น่องของตน ก่อนจะเดินกลับมาทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผู้ว่าเสนอกับทั้งสองว่าอยากให้รีบออกตามหาเด็กๆ โดยอยากให้เริ่มจากคืนนี้เลย ฮันเซลรีบแย้งขึ้นมาว่าไม่เหมาะอย่างแรง เพราะการย่ำเข้าถิ่นแม่มดยามค่ำคืนเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เลยขอเปลี่ยนเป็นไปหาที่ซดเหล้าดื่มก่อนที่จะออกไปตามหาในเวลาเช้าของวันพรุ่งนี้ดีกว่า สองพี่น้องจึงได้มุ่งหน้าไปยังบาร์เหล้าประจำหมู่บ้าน
ในเวลาเดียวกัน ทางด้านสารวัตรหมู่บ้านได้จ้างพวกนักล่าสัตว์ 4 คนให้ออกไปตามหาเด็ก โดยสั่งให้ออกไปตามหาในคืนนี้เลย ตอนแรกเหล่านักล่าสัตว์ก็ไม่ยอมไปเพราะล่วงรู้ถึงอันตรายในการล่วงล้ำเข้าถิ่นของแม่มดในเวลาค่ำคืน แต่เมื่อสารวัตรเอาถุงเงินใบโตมาล่อ ทั้งหมดจึงออกเดินทางไปตามหาเด็กๆ โดยการให้สุนัขของตนดมกลิ่นตามหา ตัวสารวัตรนั้นอยากเป็นคนคลี่คลายคดีก่อนพวกฮันเซลมากจนไม่คิดถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น
คืนนั้น ในป่าใกล้หมู่บ้าน พวกนักล่าสัตว์กำลังนั่งผิงไฟทานอาหาร แต่เมื่อพวกเขารู้สึกตัวอีกที สุนัขล่าสัตว์ทั้งสองตัวของพวกเขาหายไป มันไปยืนอยู่ข้างๆ สตรีชุดนำนางหนึ่ง ใบหน้าของนางงดงาม ผมของนางดำขลับตรงยาวสลวย แต่ก็เผยให้เห็นถึงวัยของนางว่าคงไม่ใช่สาวแรกรุ่น นางถามกลุ่มคนเหล่านั้นว่ามาทำอะไรในป่ากลางดึกแบบนี้ เหล่าพรานล่าสัตว์เลยบอกว่ามาตามหาเด็กๆ ที่หายตัวไป นางจึงบอกกับกลุ่มนายพรานว่าที่ป่านี้ไม่มีเด็กๆ หรอก จะมีก็แต่แม่มดเท่านั้นแหละ
ทันใดนั้น ใบหน้าอันงดงามของนางกลับแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าซีดเผือดผิวแตกระแหงของแม่มด ฟันหลอสีดำด่างแสยะยิ้มและอ้าปากกว้างอย่างน่ากลัว นางสั่งให้สุนัขล่าสัตว์ทั้งสองของกลุ่มพรานไปรุมกัดพรานคนแรก แล้วนางก็ใช้เวทย์มนต์ผ่านไม้กายสิทธิ์ของเธอ(มันควรจะเรียกอย่างนี้สินะ เพราะมันไม่ใช่ไม้เท้า แล้วก็ไม่ใช่คฑาด้วย มันไม้กายสิทธิ์แบบแฮรี่ชัดๆ)สังหารอีกสองคนอย่างโหดเหี้ยม ก่อนที่จะใช้เวทย์กับคนสุดท้ายโดยการเอานิ้วเจิมที่หน้าผาก เหล่าหนอนแมลงได้คลืบคลานจากหน้าผากพรานไปสู่ทั่วร่าง แล้วพรานก็ขุดดินหาหนอนแมลงยัดใส่ปากตัวเองอีกมากมาย ท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างสะใจของแม่มดตนนั้น
ตัดกลับมาที่บาร์ประจำหมู่บ้าน ฮันเซลกำลังได้ที่กับการดื่ม ส่วนเกรเทลก็นั่งทานอาหารอยู่ มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาขอลายเซ็นของทั้งคู่ โดยเอาสมุดมาด้วยเล่มหนึ่ง เป็นสมุดที่แปะภาพข่าวหนังสือพิมพ์ต่างๆ ที่ลงวีรกรรมทุกอย่างของสองพี่น้องนักล่าไว้ ตัวฮันเซลค่อนข้างรำคาญและไม่อยากคุยด้วยเท่าไร แต่ด้านเกรเทลกลับชอบใจและอยากคุยด้วยในระดับหนึ่ง(ออกแนวบ้ายอนั่นล่ะ) เด็กหนุ่มถามอะไรไป ฮันเซลจะรีบตอบปฏิเสธไว้ก่อน แต่เกรเทลจะบอกความจริงต่อเด็กคนนั้นเพื่อเป็นการอวดกลายๆ ด้วย เช่นที่ว่าเคยฆ่าแม่มดมามากมายตั้งแต่วัยเยาว์ เวทย์มนต์ของแม่มดไม่อาจทำอะไรพวกเขาทั้งสองได้เพราะเคยโดนเลือดแม่มดสาดใส่ร่างกาย ระหว่างนั้นเด็กหนุ่มถามฮันเซลว่าวิธีไหนที่จัดการกับแม่มดได้ดีที่สุด ฮันเซลจึงตอบไปว่าตัดหัว ไม่ก็เผา จะดีที่สุด ตัวเขาเองชอบการเผามากกว่า เพราะมั่นใจได้แน่ๆ ว่าตายจริงๆ
ในขณะที่กำลังคุยกันอยู่ โดยเด็กหนุ่มทำท่าจะถามคำถามสำคัญ พรานคนสุดท้ายที่รอดตายก็กลับมาที่บาร์ บอกว่าตนมาเพื่อส่งข่าวจากแม่มด ระหว่างที่พรานกำลังพูดนั้น ฮันเซลก็ทำเหมือนรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จึงค่อยๆ ดึงเอาเจ้าเด็กหนุ่มคนนั้นมาบังๆ ตัวเองที่กำลังได้ที่ ส่วนเกรเทลก็ยืนฟังอย่างตั้งใจด้วยสีหน้าไม่ยี่หระ แล้วร่างของพรานป่าก็กระจายเป็นเศษเล็กเศษน้อยไปทั่วบาร์ เกรเทลโดนชิ้นส่วนปะหน้าแบบเต็มๆ เธอเลยบ่นเบาๆ ว่า “ชั้นละเกลียดวิธีการแบบนี้จริงๆ”
กลางดึกคืนนั้น เกรเทลฝันเห็นแม่ของตนที่กำลังมองดูเธอ แล้วเดินออกไปพูดคุยกับพ่อของเธอ ก่อนที่เธอจะผวาตื่นขึ้นมา เผยให้เห็นว่าเธอนอนบนเตียง ส่วนพี่ชายเธอยอมนอนอยู่บนพื้น(หรือเมาจนหาที่นอนไม่เจอก็ไม่ทราบได้) เกรเทลบอกกับพี่ชายว่าตนฝันแปลกๆ ฮันเซลจึงถามว่าฝันว่าอะไร พอเกรเทลบอกว่าฝันเห็นพ่อกับแม่ และกำลังจะพูดต่อถึงเรื่องแม่ของตน แต่ฮันเซลรีบตัดบทว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ อย่าไปพูดถึงมัน และนอนต่อ โดยการค่อยๆ พลิกตัวเข้าไปนอนอยู่ใต้เตียงของเกรเทล(ฮามากฉากนี้) ส่วนเกรเทลก็ไปยืนนึกถึงความฝันที่เพิ่งผ่านพ้นไปอยู่ที่ริมหน้าต่าง
เช้าวันถัดมา สองพี่น้องเดินทางเข้าไปในป่าบริเวณจุดที่พวกพรานถูกสังหารโดยการนำทางของชายชราคนหนึ่งที่เป็นคนของผู้ว่า ไม่ไกลกันนั้นทั้งสองพบกับกระท่อมกลางป่าหลังหนึ่ง ไม่ต้องสงสัยเลย มันคือบ้านแม่มดแน่ๆ ทั้งสองจึงบุกจู่โจมเข้าไปและสามารถสังหารแม่มดได้หนึ่งตน ซึ่งหนังจะแสดงให้เห็นว่า แม่มดนั้น นอกจากจะมีเวทย์มนต์แล้ว(ซึ่งทำอะไรสองพี่น้องไม่ได้) ยังมีพลังกายที่ร้ายกาจ เล็บยาวดุจกรงเล็บสิงโต ตะปบทีต้นไม้เหวอะ กระโดดได้สูง แถมขี่ไม้กวาดได้เร็วและคล่องกว่าพ่อมดแม่มดจากฮ็อควอร์ดเสียอีก(แต่ก็ยังแพ้ปืนลูกซองล่ะนะ)
กลับมาที่ห้องทำงานผู้ว่า สองพี่น้องบอกกับผู้ว่าว่าเด็กๆ ไม่ได้อยู่ที่นั่น แต่พวกเขาได้ของชิ้นหนึ่งมา มันคือแผนที่ดาวหรือคำทำนายอะไรสักอย่าง ระบุว่าเมื่อเกิดพระจันทร์สีเลือดกับจักรราศีทั้ง 12 จะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น โดยเกรเทลเล่าว่าพระจันทร์สีเลือดคือจันทรุปราคา ซึ่งในหนึ่งรอบอายุคนจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ผู้ว่าจึงถามว่าอีกนานแค่ไหนถึงจะเกิดขึ้น เกรเทลจึงตอบไปว่าเหลืออีกสามคืน ทั้งหมดจึงรู้แล้วว่าเวลาเหลืออีกไม่มากแล้วหากยังอยากช่วยเหลือเด็กเหล่านั้นมาแบบเป็นๆ
[CR] ดูแล้วมาเล่าให้ฟัง ตอน “Hansel and Gretel - Witch Hunters : โดจินบ้านขนมปัง ได้ทั้งเลือดครบทุกรส” (สปอยล์ 100 %)
ภาพยนตร์เรื่อง : Hansel and Gretel - Witch Hunters - ฮันเซล กับ เกรเทล นักล่าแม่มดพันธุ์ดิบ
แนว : แอ็คชั่น ระทึกขวัญ แฟนตาซี
เรตภาพยนต์ : น 15+
ผู้กำกับ + เขียนบท : ทอมมี่ เวอร์โคล่า (Dead Snow)
นักแสดงนำ : เจเรมี่ เรนเนอร์ (Avenger , Mission Impossible 4 , Bourne Legacy) / เจมม่า อาร์เทอร์ตัน (Quantum of solace , Prince of Persia : The Sands of Time)
สปอยล์เนื้อเรื่องผสมความคิดผมลงไปแบบละเอียดยิบ หากไม่ต้องการอย่าเปิดอ่านนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้