[CR] Review รถเล็กๆ ที่ไม่มีใครสนใจจากค่ายอินดี้ Suzuki NEX (รูปเยอะ)

กระทู้รีวิว
สวัสดีครับพี่น้องชาวรัชดา ก่อนอื่นของกรี๊ดดังๆ สาวแตกสัก 1 ครั้ง เนื่องจากออกคันนี้มาได้แค่ 3 วัน Suzuki แถลงข่าวเปิดตัว Suzuki Let's กับ NEX สีใหม่ ลายใหม่ - -" ค่ายนี้เขาอินดี้ดีจริง ค่ายอื่นมีข่าวเล็ดลอดออกมาเดือน - 2 เดือน ว่าจะมีอะไรใหม่ หรือเปลี่ยนแปลง แต่ค่ายนี้เงียบกริ๊บ ใจอยากได้สีแดง ออกสีชมพูมา 3 วัน ออกสีแดงมาซะงั้น Facepalm แต่ก็ไม่เสียดายเท่าไหร่ เพราะราคาอัพเพิ่มไปอีก 1,000 บาท

เริ่มรีวิว ECO Motorcycle คันนี้ด้วยรูปถ่ายจากด้านข้างให้เห็นสัดส่วนสั้นๆ กันก่อน รุ่นนี้เล็กกว่าออโต้รุ่นอื่นในปัจจุบันอย่างชัดเจน เทียบแล้วขนาดพอๆ กับ Honda icon และ Yamaho Mio รุ่นแรกที่วางเท้าลำบากๆ นั่นละ


ถ่ายหน้าเรียวๆ ให้เห็นสัดส่วน โดยส่วนตัวชอบไฟหน้า สวยดี


ถ่ายหน้าแบบแอ๊บแบ๊ว มุมสูง จะเห็นน็อตไว้ยึดตะกร้า แต่...ศูนย์ไม่มีตะกร้าขาย แล้วรุ่นอินดี้ไม่มีคนใช้แบบนี้มันจะมีของเทียบมั้ย อมยิ้ม20


ถ่ายบั้นท้าย เพรียว เรียว ยาว ไม่มีความอวบ ไฟท้ายแอบเหมือน wave 125R มาก


ไฟหน้ามี 2 ดวง งงว่าดวงข้างๆ มีไว้ทำอะไร หลอดเล็ก ไม่ค่อยสว่างซะด้วยสิ
ระยะส่องชัดเจนคือ 1 -  7 เมตร ไฟจะเข้มที่สุด แต่มืดจัดๆ ก็ส่องไกลถึงประมาณ 35-40 เมตรเลยทีเดียว
ลำแสงพุ่งตรง ไม่มีฟุ้งออกข้าง ความว้างประมาณ 1 เมตรนิดๆ



แก้มเรียวๆ ไม่ค่อยจะอวบสักเท่าไหร่ กับไฟเลี้ยวที่ผมว่ามันอยู่่ต่ำเกินไป


ประกับด้านซ้ายก็มาตรฐานทั่วไป ไฟสูง-ต่ำ ,ไฟเลี้ยว และแตร
สวิทช์ไฟเลี้ยวแข็งกว่าฮอนด้า กดยากกว่านิดนึง


ประกับด้านขวาสวิทช์สตาร์ทเครื่อง กดง่ายครับ


หน้าปัดเหมาะสำหรับคนตัวเล็กครับ ผมสูง 182 ต้องก้มมอง เพราะไฟสัญลักษณ์ อยู่ด้านล่างสุด เปิดไฟเลี้ยวแล้วลืมปิดบ่อย ใส่หมวกปิดคางนี่ต้องก้มเยอะเลย ตอนกลางคืนหน้าปัดไฟสว่างชัดเจนมาก
ด้านซ้ายเป็นหน้าปัดบอกความเร็ว สุดหน้าปัดได้ 140 km/h
ด้านขวาเป็นเกจ์น้ำมัน เติมเต็มถังขึ้นไปสุดตัว F วิ่งประมาณ 30 กม. จะตกลงมาประมาณขีดแรก ช่วงขีดบนถึงขีดล่าง วิ่งได้ประมาณ 80 กม. วิ่งมาอีก 30 กม.จะตกมาถึงกลางตัว E น้ำมันเหลือประมาณ 0.5 ลิตร
ด้านล่างไฟบอกสถานะ ไฟสูง(สีน้ำเงิน) ,สถานะหัวฉีด(สีแดง) และไฟเีลี้ยว(สีเขียว)


กล่องใส่น้ำมันเบรคก็อินดี้เช่นกัน คนอื่นเขาวางแนวขวาง เราต้องแตกต่าง เวลาจะมองระดับต้องมามองข้างๆ แฮนด์



ช่องใส่ของใต้แฮนด์ ใส่ขวดน้ำ 8 บาทได้สบายๆ แต่ละข้างรับน้ำหนักได้ 1 กก. ขอเกี่ยวตรงกลางรับน้ำหนักได้ 1.5 กก.


รูกุญแจอนาถา ECO สุดๆ เม่าในกองไฟ


ถ่ายด้านข้างใกล้ๆ ที่วางเท้าคนขี่ และคนซ้อน เหมือนจะสูงแต่ไม่สูง เท่ากับรถออโต้ทั่วไป


เครื่องยนต์ 113 cc. หัวฉีด LeAP Technology โฆษณาไว้ประหยัดน้ำมัน 56 กม./ลิตร
ลดน้ำหนักลูกสูบเพื่อให้ประหยัดน้ำมัน ลดขนาดเพลาข้อเหวี่ยงลงเพื่อความเบา ออกแบบเครื่องให้มีครีบระบายความร้อนมากขึ้นเพื่อการระบายความร้อนที่ดีขึ้น ทีเด็ดอยู่ที่กระเดื่องวาล์ว Roller rocker arm ไม่ต้องตั้งวาล์วบ่อยๆ


หม้อกรองอากาศยกสูงอยู่นอกแฟริ่ง ถอดเปลี่ยนง่าย


เปิดท้ายเบาะด้วยระบบเปิดที่คุ้นเคยกันดี เปิดแล้วไม่มีเด้ง แค่ดังแก๊กเล็กๆ อมยิ้ม32


ท่อไอเสีย ป้อมๆ อวบๆ ที่บังท่อก็ใหญ่ดี ป้องกันขาได้แทบ 100% เสียงท่อและเสียงเครื่องเข้าขั้นเงียบ(มาก)


เครื่องยนต์ใช้น้ำมันเครื่อง 650ml ถ้าเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องใช้ 700ml


น้ำมันเฟืองท้ายใช้ 90ml


ลงมาที่ระบบช่วงล่างกันบ้าง
เริ่มที่โช้คหน้าใช้ของ SHOWA ครับ แต่ผมว่ามันค่อนข้างเล็กไปนิด


เบรคหน้าเป็นดิสก์เบรค ที่ปั๊มเบรคไม่มียี่ห้อใดๆ สลักไว้ จานเบรคก็สมตัวกับวงล้อ 14 นิ้ว


เบรคหลังแบบดรัมเบรค อยู่ในดุมล้อแม็ก 3 ก้าน ระบบเบรคถือว่าทำได้ดีครับ ไม่ไถล หนึบใช้ได้


โช้คหลังเดี่ยว รับน้ำหนักได้ดีพอควร เด้งใช้ได้


ยางติดรถยี่ห้อ IRC หน้า NF59 ขนาด 70/90 ,หลัง NR76 ขนาด 80/90 หนึบใช้ได้ครับ ลุยฝนมา 2-3 วัน ไม่มีลื่นไถลเหมือนบางรุ่นที่เคยอ่านในนี้



ได้ล้อแม็กตอนแรกก็แอบคุ้ม แต่มาดูอีกทีอ้าวมียางในนี่นา นึกว่าจะได้ยางเรเดียล แต่จากที่เคยมาถามในนี้แปลงใส่ได้


ช่องว่างใต้ท้องรถไม่เตี้ยมาก เจอลูกระนาดชันๆ ก็ยังไม่เป็นปัญหา ท้องยังไม่ลาย แต่ถ้าวิ่งใส่แบบไม่เบรคเลยก็ไม่รอดครับ ขูดแน่ๆ


ที่วางเท้าด้านหน้าเหมาะสำหรับผู้ชายตัวเล็ก กับผู้หญิงมากกว่าครับ ผมสูง 182 และอวบมาก รองเท้าเบอร์ 45 วางได้พอดีเป๊ะๆๆๆๆ ขยับไม่ได้เลยทีเดียว แถมต้องหนีบขานิดๆ อีกด้วย
ตอนไปทำงานเอาเป้ขนาดกลางวางไว้ที่วางเท้า เอาหมวกครึ่งใบของแฟนแขวนไว้ตรงที่เกี่ยวหมวก แหม่..เหลือที่เหยียบนิดเดียวจริงๆ


มาถึงรูปสุดท้ายก่อนจะพูดถึงฟีลลิ่งการขับขี่ และข้อดีข้อเสียของรถคันนี้กัน ดันลืมถ่าย เค้าล้อเล่น เอารูปจาก Internet แทนละกัน
รูปใต้เบาะอันใหญ่บิ๊กบึ้ม ใส่ไม่ได้แม้แต่หมวกครึ่งใบ ใส่สายรัดของ 3 เส้น ล็อคดิสก์ เสื้อกันฝนก็เต็มแล้วครับ มีที่แขวนหมวกกันน็อกตรงจุดหมุน 2 อัน
เครื่องมือติดรถมีแค่ไขควง 1 อัน และบล็อคหัวเทียน แค่ 2 อย่าง แถมช่องเก็บของใต้เบาะ "ร้อนมาก" หยิบกุญแจล็อกดิสก์ถึงกับอุทานเลยทีเดียว
ถังน้ำมันจุ 3.5 ลิตร ถือว่าเล็กสำหรับรถปัจจุบันที่เพิ่มขนาดถังน้ำมันกันไปจน 5 ลิตรอัพกันแล้วทั้งนั้น


จบในส่วนรูปที่ถ่ายมาให้ดูกันไปแล้ว ขอเล่าฟีลลิ่งการขับขี่ให้ฟังกันนะครับ
- รถเบามากแค่ 87 กก. โยกนิดเดียวก็ซอกแซกได้พริ้วเลย บวกกับรูปร่างที่เพรียวมากคล่องตัวสุดๆ
- แรงเครื่องออกตัวดีมากครับ 0-50 นี่เรียกปุ๊บมาปั๊บ แต่ไม่กระชากเหมือนพวกคาร์บู ช่วง 50-80 เรียกมายากหน่อย ต้องบิดเยอะแซงช่วงความเร็วนี้เปลืองน้ำมันแน่ๆ เน้นบิดแล้วปล่อยไหลจะมาเรื่อยๆ จนขึ้น 100 ไม่ยาก
- มีคนซ้อนก็นั่งไม่ลำบาก ถึงแม้จะดูคับแคบเพราะช่วงรถสั้นมาก
- วงเลี้ยวแคบมาก รถติดๆ เลี้ยวเปลี่ยนเลนง่าย
- แรงบิดขึ้นที่ชันค่อนข้างดี มีคนซ้อนอืดนิดๆ แต่ก็ขึ้นได้ไม่ลำบาก เช่น ทางขึ้นลาดจอดรถชันๆ ที่ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต ,บิ๊กซี สะพานใหม่ ,เดอะมอลล์งามวงศ์วาน หรือพวกสะพานข้ามต่างๆ ขึ้นสบาย

ข้อดี
1. ประหยัดน้ำมันตามคำโฆษณาครับ ลองมาเกือบๆ 3 ถัง
  - ถังแรก เติม E20 100บาท ได้ 3.07 ลิตร วิ่งได้ 150 กม. เฉลี่ย 49 กม.ลิตร
  - ถังสอง เติม E20 90 บาท ได้ 2.78 ลิตร วิ่งได้ 140 กม. เฉลี่ย 50 กม.ลิตร
  - ถังสามลองเปลี่ยนมาเติม แก๊ส95 100 บาท ได้ 2.65 ลิตร ยังไม่หมดถัง แต่พอกะเกณฑ์น่าจะวิ่งได้ประมาณ 130 กม. เฉลี่ย 49 กม.ลิตร
ทั้งหมดนี้จากสภาพการขับขี่จริง มีคนซ้อน น้ำหนักรวมประมาณ 155 กก. ถนนจริง ขึ้นสะพาน ขึ้นลานจอด บิดแซง ฯลฯ
เติม E20 กับ แก๊ส95 แรงบิด ไม่ต่างกัน อัตราการบริโภคก็ไม่ต่าง แนะนำเติม E20 คุ้มกว่า แค่ 10 บาทน้ำมันต่างกันเกือบครึ่งลิตรเลยทีเดียว
ถ้าเป็นผู้ชายตัวเล็ก หรือผู้หญิง ขับขี่คนเดียว 56 กม./ลิตร ไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ เทียบกับรถออโต้ด้วยกันแล้วถือว่าประหยัดมาก
แต่ถ้าเทียบกับรถเกียร์ ใช้โซ่ 50 กม./ลิตร Wave 125R คันเก่าผมก็ได้ประมาณนี้

2. ราคาคุ้มค่า ราคาศูนย์ 38,900 ณ ตอนนั้น แต่ตอนนี้ขยับไป 39,900 สำหรับล้อแม็ก และ 38,900 สำหรับล้อซี่ลวด
ได้เครื่อง 113 หัวฉีด เกียร์ออโต้ ล้อแม็ก วาล์ว roller rocker arm แค่นี้ก็คุ้มแล้วครับ
ผมออกร้านดีลเลอร์เล็กๆ แถวสะพานใหม่ได้มาที่ราคา 38,500 พร้อมทะเบียน+พรบ. หมวกกันหมา และเสื้อคลุมบางๆ 1 ตัว ราคาไม่ต้องกลัวโดนปั่น เพราะแทบจะขายไม่ออก (ฮา)
แนะนำถ้าบ้านอยู่ไม่ไกลจากศูนย์ที่คลอง 3 แนะนำไปออกที่นู่นดีกว่าครับ 38,900 จบที่ราคานี้ ของแถมดีกว่าตามร้านดีลเลอร์เยอะครับ คุ้ม แต่ผมว่างวันอาทิตย์วันเดียว เลยไม่มีเวลาจะได้ไปที่นู่น เสียดายอยู่เหมือนกัน

3. ไม่สุ่มเสี่ยงต่อการโดนจับไปแยกชิ้นส่วนขาย เพราะขโมยไปก็ไม่รู้จะเอาไปขายใคร แต่ก็ไม่ประมาทครับล็อคดิสก์ทุกครั้งที่จอด ยกเว้นหน้าเซเว่น กับในบ้าน อมยิ้ม06

4.  เหมาะสำหรับขี่ในเมืองมาก สมกับคอนเซ็ปท์ที่เป็น ECO ประหยัด และสะดวก City Motorcycle ตัวจริงครับรุ่นนี้

ข้อเสีย
1.  ไม่เหมาะกับคนตัวใหญ่เท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถึงกับขับขี่ลำบาก นั่งได้สบายๆ แต่วางเท้าลำบากนิดนึง อีกอย่างคือ แฮนด์ต่ำทำให้เลี้ยววงแคบมากๆ แล้วเกือบติดหน้าขาคนตัวใหญ่ แต่ขี่จริงๆ เลี้ยวแคบขนาดนั้นเอาขายันพื้นก่อนอยู่แล้ว ไม่ใช่ปัญหาใหญ่

2.  ไม่เหมาะขี่ทางไกล น้ำมัน 1 ถังขี่ได้ 150 กม. โดยประมาณบิดเพลินลืมเติมมีเสียว

3.  ช่องเก็บของใต้เบาะเล็ก และร้อนมากกกกก ไม่เหมาะที่จะเก็บสิ่งที่ละลายได้ที่อุณหภูมิ 50 องศาโดยเด็ดขาด เสี่ยงเกินไป

4.  อุปกรณ์แต่งไม่มีเลย ถามที่ศูนย์มีตะกร้าหน้ามั้ย...ไม่มี แล้วจะมีน็อตมาให้ใส่ทำไม(ฟะ)
     มีตะแกรงไว้ติดกล่องท้ายรถมั้ย...ไม่มี อะไร(ฟะ)
     มีนู่น นี่ นั่น โน่นมั้ย...ไม่มี พอเถอะ ขี่แบบนี้ไปแหละ เม่าเศร้า

สรุปแล้วรถคันนี้คุ้มค่ามากครับ รถออโต้ราคาไม่เกิน 40,000 รุ่นเดียวในเมืองไทย เหมาะสำหรับพ่อบ้าน แม่บ้าน คุณผู้ชายตัวเล็ก คุณผู้หญิงทุกท่าน จะซื้อเอาไว้ขี่ไปซื้อกับข้าว ขี่ไปที่ทำงานในเมือง หรือจะขี่ออกทริปก็น่าจะไหว (ปกติออกทริปผมใช้ CBR 150R ครับ)
โชว์ความอวบ จขกท. ซักหน่อย อิอิ


จบแล้วละครับกับรีวิวง่อยๆ ของผม ท่านใดมีคำถามอะไรเชิญนะครับ ตอบได้จะตอบให้ เพราะยังไม่เคยรีวิวใดๆ ของรุ่นนี้เลย ถามศูนย์ก็ไม่เคยจะตอบอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้เลย สมกับความอินดี้เขาจริงๆ
ชื่อสินค้า:   SUZUKI NEX
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่