"ผู้หญิงทุ่มเทเพื่อปัจจุบัน ผู้ชายให้ความสำคัญกับอนาคต"
เคยไหมที่เห็นคู่รักบางคู่ก็ดูเหมาะสมกันดี ทั้งหน้าตา ฐานะ หน้าที่การงาน จิตใจดีเหมือนกัน แต่บางครั้งก็ไปกันไม่ได้ ส่วนหนึ่งมาจากมุมมองทางชีวิตคู่ที่ต่างกัน
ผู้หญิง จะคาดหวังว่าคนรักคือคนที่อยู่เคียงข้างกัน ใช้ชีวิตร่วมกันในแต่ละวัน อยู่ข้างๆเสมอเมื่อต้องการ มีคติที่ว่าทำความรักวันนี้ให้ดีที่สุด
ผู้ชาย จะมีอีโก้ที่ว่า ผู้ชายต้องสามารถดูแลผู้หญิงได้ ไม่อยากอยู่ในสถานะที่ด้อยกว่าฝ่ายหญิงเพราะกลัวใครๆจะมองว่ามาเกาะหาผลประโยชน์จากผู้หญิง การมีหน้าที่การงานหรือกิจการที่มั่นคงนั้น ทำให้ผู้ชายรู้สึกว่านั่นเป็นหลักประกันที่ดีว่าเขาจะสามารถดูแลผู้หญิงที่เขารักได้ ผู้ชายหลายคนจึงทุ่มเทให้กับงาน จนทำให้ฝ่ายหญิงบางครั้งรู้สึกว่าถูกละเลยไปบ้าง และอาจมีคิดไปถึงว่าฝ่ายชายเห็นงานและความสำเร็จส่วนตัวของเขาสำคัญกว่าความรัก และสิ่งที่บั่นทอนความสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดีก็คือการไม่พูดคุยปรับความเข้าใจกัน เพราะต่างฝ่ายก็มีทัศนคติส่วนตัว
ผู้หญิงหลายคนอาจคิดว่า ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่มีเวลาให้ตลอดเวลา ไม่มาหาเมื่อต้องการ แล้วจะคบกันไปทำไม ทำให้บางคนอาจเลือกที่จะเลิกรากับผู้ชายดีๆคนหนึ่งไป เพราะเขาไม่มีเวลาให้ในช่วงระยะเวลานั้น ซึ่งเหตุการณ์ที่ฝ่ายชายมีภาระจนไม่มีเวลาเหล่านั้นอาจเกิดขึ้นแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่่านั้น ไม่ได้เกิดขึ้นตลอดไป ในขณะที่ผู้ชายนั้นอาจคิดว่า เขาทุ่มเทกับงานก็เพื่อที่จะได้มีอนาคตที่มั่นคง เพราะการคบกับผู้หญิงสักคนนั้นไม่ได้หมายความว่าเขาตั้งใจจะคบแค่ 1 ปี 5 ปี หรือแค่ 10 ปี แต่หมายถึงการใช้ชีวิตร่วมกันไปตลอดในอีกระยะเวลา 30 40 หรือ 50 ปีข้างหน้า ดังนั้นช่วงที่ไม่มีเวลาให้กันจึงอาจเกิดขึ้นได้ในบางสายงานหรือสายอาชีพ ที่อาจทำให้คู่รักอาจต้องห่างกันไปบ้าง เช่น ข้าราชการ นักบิน นักข่าว หรือนักธุรกิจช่วงสร้างฐานกิจการ สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คู่รักผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปด้วยกันได้คือความศรัทธาในกันและกัน เชื่อมั่น และมองอนาคตไปให้ไกล อย่าคิดว่าเราจะคบกันแค่วันนี้เท่านั้น แต่ให้มองไปถึงวันข้างหน้าที่เราชราไปพร้อมๆกัน
แค่มุมมองหนึ่งจากเป็นร้อยเป็นพันมุมมองนะครับ และชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน
"ผู้หญิงทุ่มเทเพื่อปัจจุบัน ผู้ชายให้ความสำคัญกับอนาคต"
เคยไหมที่เห็นคู่รักบางคู่ก็ดูเหมาะสมกันดี ทั้งหน้าตา ฐานะ หน้าที่การงาน จิตใจดีเหมือนกัน แต่บางครั้งก็ไปกันไม่ได้ ส่วนหนึ่งมาจากมุมมองทางชีวิตคู่ที่ต่างกัน
ผู้หญิง จะคาดหวังว่าคนรักคือคนที่อยู่เคียงข้างกัน ใช้ชีวิตร่วมกันในแต่ละวัน อยู่ข้างๆเสมอเมื่อต้องการ มีคติที่ว่าทำความรักวันนี้ให้ดีที่สุด
ผู้ชาย จะมีอีโก้ที่ว่า ผู้ชายต้องสามารถดูแลผู้หญิงได้ ไม่อยากอยู่ในสถานะที่ด้อยกว่าฝ่ายหญิงเพราะกลัวใครๆจะมองว่ามาเกาะหาผลประโยชน์จากผู้หญิง การมีหน้าที่การงานหรือกิจการที่มั่นคงนั้น ทำให้ผู้ชายรู้สึกว่านั่นเป็นหลักประกันที่ดีว่าเขาจะสามารถดูแลผู้หญิงที่เขารักได้ ผู้ชายหลายคนจึงทุ่มเทให้กับงาน จนทำให้ฝ่ายหญิงบางครั้งรู้สึกว่าถูกละเลยไปบ้าง และอาจมีคิดไปถึงว่าฝ่ายชายเห็นงานและความสำเร็จส่วนตัวของเขาสำคัญกว่าความรัก และสิ่งที่บั่นทอนความสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดีก็คือการไม่พูดคุยปรับความเข้าใจกัน เพราะต่างฝ่ายก็มีทัศนคติส่วนตัว
ผู้หญิงหลายคนอาจคิดว่า ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่มีเวลาให้ตลอดเวลา ไม่มาหาเมื่อต้องการ แล้วจะคบกันไปทำไม ทำให้บางคนอาจเลือกที่จะเลิกรากับผู้ชายดีๆคนหนึ่งไป เพราะเขาไม่มีเวลาให้ในช่วงระยะเวลานั้น ซึ่งเหตุการณ์ที่ฝ่ายชายมีภาระจนไม่มีเวลาเหล่านั้นอาจเกิดขึ้นแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่่านั้น ไม่ได้เกิดขึ้นตลอดไป ในขณะที่ผู้ชายนั้นอาจคิดว่า เขาทุ่มเทกับงานก็เพื่อที่จะได้มีอนาคตที่มั่นคง เพราะการคบกับผู้หญิงสักคนนั้นไม่ได้หมายความว่าเขาตั้งใจจะคบแค่ 1 ปี 5 ปี หรือแค่ 10 ปี แต่หมายถึงการใช้ชีวิตร่วมกันไปตลอดในอีกระยะเวลา 30 40 หรือ 50 ปีข้างหน้า ดังนั้นช่วงที่ไม่มีเวลาให้กันจึงอาจเกิดขึ้นได้ในบางสายงานหรือสายอาชีพ ที่อาจทำให้คู่รักอาจต้องห่างกันไปบ้าง เช่น ข้าราชการ นักบิน นักข่าว หรือนักธุรกิจช่วงสร้างฐานกิจการ สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คู่รักผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปด้วยกันได้คือความศรัทธาในกันและกัน เชื่อมั่น และมองอนาคตไปให้ไกล อย่าคิดว่าเราจะคบกันแค่วันนี้เท่านั้น แต่ให้มองไปถึงวันข้างหน้าที่เราชราไปพร้อมๆกัน
แค่มุมมองหนึ่งจากเป็นร้อยเป็นพันมุมมองนะครับ และชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน