เปิดตอน ในค่ำคืนก่อนปีใหม่มีชายคนหนึ่งสั่งราเม็ง พอเสิร์ฟแล้วเขาก็บอกว่าแบบนี้เขากินไม่หมด พอชายคนนั้นพูดแบบนี้เธอกับสามีก็เลยแบ่งราเม็งเป็นสามส่วนและให้เขา เขากินราเม็งที่ไม่พอทำให้อิ่มรวดเดียว กินเสร็จก็กลับไปในยามค่ำคืนเหมือนเดิมโดยที่ยังมีเสียงท้องร้องอยู่ อิคุมัตสึก็ได้แต่มองดูพร้อมกับปิดร้าน
ในแต่ละพอช่วงสิ้นปีชายคนนั้นก็จะมาที่ร้านพร้อมเงินเล็กน้อยและขอราเม็งชามใหญ่ อิคุมัตสึก็เสิร์ฟตามที่สั่ง สามีเธอยังเอาถ้วนซุปมาเพิ่มอีกสองถ้วยแล้วพวกเธอก็มานั่งกินกันข้างๆชายคนนี้ พอเขากลับไปสามีเธอก็บอกเธอว่าต่อให้เขาไม่อยู่แล้ว พอท้ายปีให้มาทำให้ลุงคนนั้นอิ่มท้องกัน และราเม็งชามนั้นเองนั้นแหละคือราเม็งชามสุดท้ายของสามีเธอ ในทุกสิ้นปีจึงเป็นเหมือนธรรมเนียมระหว่างพวกเธอทั้งสามคนเช่นนี้
อิคุมัตสึบอกหลังจากนั้นชายคนนั้นก็ไม่ได้มาในตอนสิ้นปีอีกเลย สามีเธอตาย เธอก็ไม่ได้เห็นชายคนนั้นที่ไหนอีกเลยด้วย อิคุมัตสึบอกเป็นชายที่แปลก ถึงจะไม่ได้มีเงินอะไรแต่ก็สั่งราเม็งที่พอสำหรับแบ่งให้สามคนกิน พอกินแล้วก็กลับไปทั้งๆที่ยังท้องหิวจนอิคุมัตสึคิดว่าเขาคนนั้นคงเหงา คิดว่าคงไม่มีครอบครัวหรือบ้าน บางทีคงไม่ได้มาเพื่อราเม็งแต่มาเพื่อนั่งหาความสุขกับคนอื่น ทำให้เธอคิดว่าตอนนี้ชายคนนั้นทำอะไรอยู่ อยากจะเติมเต็มอย่างที่สามีเธอตั้งใจไว้
พออิคุมัตสึเสิร์ฟราเม็งให้พวกกินแบบชามเดียวตามที่สั่งพวกกินทั้งสามคนก็ต่างรุมแย่งกันกิน อิคุมัตสึเห็นแล้วก็พูดเลยว่าทำไมไม่แบ่งกันให้พอๆกันล่ะ บอกว่าถ้าชายคนนั้นมีแรงใจพออย่างพวกกินก็ดี อิคุมัตสึก็บอกเธอกังวลอยู่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาคนนั้นรึเปล่า แต่คัตสึระที่อยู่ด้วยก็บอกเลยว่าไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าไม่เห็นชายคนนั้นมาเพื่อหาความสุขจากความเดียวดาย การไม่เจอเขาก็น่าจะคิดว่าดีไม่ใช่เหรอ ชีวิตเขาคนนั้นอาจจะมั่นคงแล้วก็ได้ ตอนนี้เขาอาจจะไม่ได้กินแค่ราเม็งกับใครแต่ฉลองปีใหม่ด้วยอาหารเต็มมื้อเลย แต่เพราะพูดมากไปหน่อยจนเผลอพูดว่าอาจจะเพราะราเม็งของอิคุมัตสึไม่ได้เรื่องก็เลยเจออิคุมัตสึเสิร์ฟราเม็งให้แบบเต็มๆหน้าเลย ชินปาจิก็รีบพูดด้วยความกลัวบอกราเม็งของอิคุมัตสึอร่อยที่สุดในเอโดะ.. ไม่สิในจักรวาลเลยจนเขาคนก็อยากกินแน่
อิคุมัตสึบอกเธอจะคอยชายคนนั้นจนกว่าเธอจะทำราเม็งจนถึงที่สุด รุ้สึกว่าถ้าเขาคนนั้นไม่ได้มาที่ร้านงานของเธอก็ไม่สมบูรณ์ เธอไม่อยากเสียใจแบบนั้น แต่ก็คิดเหมือนกันว่าเขาอาจจะชอบอย่างอื่นกว่าราเม็งที่ลองผิดลองถูกนี้ก็ได้ เธออยากที่จะมอบความสุขให้เขาไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนในตอนนี้ แต่ก็อยากที่จะทำราเม็งให้เขาแต่ดูเหมือนเธอคงไม่อาจ...
หลังจากออกมาจากร้าน กินก็พูดกับคัตซึระว่าพวกเราไม่ได้มีเวลาว่างนักนะเกมไพ่ดอกไม้กำลังรออยู่ คัตสึระพูดเลยเจ้าโง่ที่เงินก็ไม่มีมีหน้ามาพูดอีก คัตสึระถามกินว่าคนที่อิคุมัตสึรอเป็นยังไง กินยอกก็คนที่ไม่มีบ้านหรือครอบครัวที่เอยากจะหาคนคุยด้วยและคิดว่าเผลอๆอาจจะตายไปแล้วก็ได้ คัตสึระเองก็คิดเหมือนกันแต่คิดว่าคนๆนั้นคงไม่ไร้บ้าน ผ้าที่คนๆนั้นลืมไว้ที่ร้านถึงจะเก่าจนเปื่อยแต่ก็คุณภาพดี ถ้าใครมาเห็นชายคนนั้นพเนจรกับของแบบนี้คงยอมรับไม่ได้แน่ แทนที่จะหาก็เป็นไปได้ว่าคนๆนั้นตายไปแล้ว คัตสึระเลยบอกไม่คิดว่าน่าสนใจเหรอเพราะเขานั้นสนใจอยู่ กินได้ยินแบบนี้ก็เลยไปกอดคอคัตสึระและพูดว่า...
กินโทกิ: ซึระ หรือว่านาย....
กินโทกิ: อยากจะ****กับอิคุมัตสึ
คัตซึระเลยมีโวยบอกกินพูดอะไรเลอะเทอะ กินบอกก็มันแปลกที่พอพวกเขาไปกินราเม็งทีไรคัตซึระจะโผล่มาทุกที คัตซึระพูดเลยอย่ามามุข ถ้าอิคุมัตสึกับเขา****หรือ****และมา****กัน แบบนั้นมันไม่มีทางจนชวนขำเลย กินบอกยังไม่มีใครพูดถึงขนาดนั้นสักหน่อย หรือว่าคัตซึระจะอายแต่อยากจะช่วยอิคุมัตสึ บอกเลยว่าก็พูดให้มันเร็วๆสิถ้าอยากได้กามเทพล่ะก็เขาจะช่วยก็ได้ คัตซึระพูดอีกใครที่ทำให้กินคิดแบบนี้ฟะ กินพูดต่อบอกไม่ต้องเล่นตัวน่าคัตซึระชอบคิดถึงสาวแม่ม่ายไม่ใช่เหรอ บอกถ้าจำไม่ผิดตอนเด็กคนแรกที่คัตซ฿ระชอบก็คือแม่ม่ายข้างบ้าน..... แต่พูดยังไม่จบคัตซึระขู่กินด้วยดาบบอกเลยถ้าพูดต่อจะเชือดซะ บอกให้ชัดๆเลยว่าเขาไม่ได้ชอบสาวแม่ม่ายอะไรเลยแต่เขาน่ะ...
คัตซึระ: ต้อง NTR สิโว้ย!!!
ชินปาจิ: เออ... นักรบเขาไม่พูดอะไรแบบนั้นหรอกนะครับ อีกอย่างคือระเบิดความใจซะหมดเปลือกแล้วนะนั้น
คัตซึระยืนยันว่าไม่ได้ชอบอิคุมัตสึแต่ขอบราเม็งต่างหาก สิ่งที่เขาสนใจมีแค่ชายที่สามีของอิคุมัตสึขอให้ช่วยดูแล แค่อยากให้ได้เจอกันอีกครั้งแค่นั้น อิคุมัตสึอยากจะรักษาสัญญากับสามีด้วยการเสิร์ฟราเม็งเต็มชามให้ กินก็แซวต่อบอกน่าชื่นชมจริงๆที่คิดจะช่วยคู่แข่งความรักแบบนี้ คัตซึระบอกไม่ใช่คู่แข่งความรัก เขาคนนั้นไม่เคยอยู่ในสายตาของอิคุมัตสึ ก็แค่ภาพสะท้อนของชายคนหนึ่ง
หลังจากนั้นคัตซึระเลยปลอมตัวไปเป็นคนพเนจรเข้าหาคนพเนจร แต่แค่เข้าไปก็พร่ามซะว่าเหนื่อยกับหนทางซามูไรอย่างนั้นอย่างโน่นพร้อมแนะนำตัว(ตรงนี้มีมุขคำญี่ปุ่นแต่ขอข้าม) พอจะแนะนำกินด้วยชื่อเหมือนกันกินก็เข้ามาเตะปิดปากซะก่อนถามคัตซึระเลยทำไมถึงมาอีรอบนี้ คัตซึระบอกถ้าเพื่อคนจรจัดก็ต้องเป็นคนจรจัดก่อน พอพวกคนจรจัดเฮต้องรับแต่กินก็ไม่เฮด้วย
กินพูดเลยว่าถ้ารู้แบบนี้คงไปหากับพวกชินปาจิที่ร้านผ้าคลุมหัวแล้ว ทางคัตซึระก็ถามพวกคนจรจัดเรื่องคนๆนั้นพวกคนจรจัดก็เลยบอกงั้นจะให้พบกับ "ท่านเทพ" ที่คอยคอบคุมคนไร้บ้านในแถบนี้ เป็นผู้นำของเหล่ากระดาษแข็งก็เลยเรียกเขาว่าท่านเทพ บอกถ้าได้คุยก็จะหาทางแก้ได้แน่ ตอนนั้นท่านเทพที่ว่าก็ปรากฎตัว แต่ท่านเทพที่ว่าก็คือ... ฮาเซงาวะ ทำเอากินถึงกับนิ่งไปเลย
พอกินจะถามฮาเซงาวะว่าทำไมอะไร คนที่เหมือนมุซาชิก็ฟังกระซิบจากฮาเซงาวะบอกให้ไล่คนพวกนี้จากแดนสวรรค์ของพวกเขาทันที กินมีโวยบอกให้ฮาเซงาวะพูดดีๆไม่ต้องล่ามเลย แต่ก็ยังไม่เลิกบอกพวกกินจะทำหายนะมา พูดกันไปมากินก็คิดว่ามีแต่จะชวนให้โมโหก็เลยรีบๆถามถึงเจ้าของผ้าคลุมหัวแต่พูดยังไม่ทันจบฮาเซงาวะก็บอกจะไม่ตอบอีก บอกถ้าอยากจะให้อภัยก่อนก็ต้องไปเอากระป๋องเปล่ามา 30 กระป๋องพร้อมข้าวกล่องร้านสะดวกซื้อ 60 กล่องเลี้ยงพวกเขาทุกคนทำเอากินกำลังเดือดสุดๆ แถมยังพูดให้ชวนขำจนคนที่เหมือนมุซาชิที่เป็นล่ามขำซะเอง
ขณะที่กำลังพูดๆนั้นเองก็มีขวดลอยมาอัดหน้าฮาเซงาวะจนล้มกลิ้ง นั้นคือกลุ่มคนจรจัดอีกกลุ่ม กินพูดเลยนี่มันอะไร คนจรจัดบอกเป็นกลุ่มนิชิกุมิที่อยู่ทางตะวันตกของสวนสาธารณะมียุทโธปกรณ์เป็นกระดาษแข็งชอบใช้ความรุนแรงเพื่อยึดสวนสาธารณะ ตอนนั้นคนที่เหมือนมุซาชิก็พูดเลยแต่เท้าก็เหยียบฮาเซงาวะซะเต็มที่ไล่พวกนิชิกุมิจนเป็นมุขให้กินพูดเลยว่าตกลงมันใครใหญ่กันแน่ ท่านเทพที่ว่าเล่นโดนเหยียบซะจะจมธรณีอยู่แล้วจนกินถามพวกคนจรจัดเลยว่าท่านเทพกำลังโดนใช้ความรุนแรงอยู่จากล่ามไม่เห็นเหรอไง แต่คนจรจัดบอกพูดอะไร ล่ามที่ไหน ท่านเทพอยู่อยู่นั้นไง นั้นคือคนที่เหมือนมุซาชิเองต่างหากจนกินตะลึง
ตอนนั้นก็มีคนหนึ่งในกลุ่มนิชิกุมิโผล่มาพูด พอคัตซึระเห็นตัวคนๆนั้นก็ตะลึงเหมือนรู้จัก กินก็ถามใครอีก คัตซึระเลยกระซิบบอกกินจนเจ้าตัวโวยว่าอย่าพึ่งลืมกันเดะ พูดให้ระลึกความหลังตั้งแต่เล่ม 7 ตอน 55 บอกเลยว่าเพราะผู้หญิงคนนั้นเขาเลยโดยเมินจนต้องมาเป็นคนไร้บ้านแบบนี้ เป็นความผิดของคัตซึระ กินกับคัตซึระก็เล่นมุขหอคอยคารินจนอีกฝ่ายพูดเลยว่านั้นมันเถาไปไปแล้ว คุณค่าการแก้เค้นนี่มันต่างอะไรจะขนาดนั้น
คัตซึระจำได้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นน้องเขยของอิคุมัตสึ บอกการมาเจอกันที่นี่คงเป็นชะตา อีกฝ่ายบอกเลยเพราะคัตซึระกับอิคุมัตสึทำให้ชีวิตเขาพินาศเลยจะแก้แค้น คัตซึระก็เลยพูดว่าเลยมาเป็นหัวโจกกองกระดาษแข็งแบบนี้งั้นเหรอ เป็นการแก้แค้นที่อ้อมค้อมเหลือเกิน แต่อีกฝ่ายไม่สนบอกไม่สนยังไงซะคัตซึระโผล่มาตรงหน้าแล้ว
แต่อีกฝ่ายก็เริ่มรู้ว่าคัตซึระกำลังตามหาชายคนนั้นอยู่ คัตซึระถามพูดเรื่องอะไร อีกฝ่ายบอกไม่ต้องทำงง บอกเลยว่าตอนที่พี่เขายังอยู่เคยมาตามหาชายแก่ คัตซึระก็พึ่งรู้เรื่องนี้เลยคาดไม่ถึง อีกฝ่ายบอกจริงๆคนๆนั้นมากินราเม็งทุกๆปีซึ่งก็รู้ด้วยว่าคนๆนั้นก็คือ.....
อีกด้านพวกชินปาจิที่มาที่ร้านผ้าเพื่อสืบหา คนดูแลร้านบอกไม่ต้องสงสัยเลยว่ามาจากร้านนิชิคิยะของเธอแน่ ชินปาจิเลยถามว่าจำได้มั้ยว่าใครซื้อผ้าคลุมหัวนี้ไป คนดูแลร้านบอกคงจะบอกว่าซื้อไม่ได้เพราะเป็นของเจ้าของร้าน คางุระถามเลยหมายความว่าเป็นประธานของร้านนี้งั้นเหรอ คนดูแลร้านบอกใช่ เธอจำได้ชัดเจนว่าเขาจะโพกหัวด้วยผ้าแบบนี้ไปเที่ยว พอชินปาจิถามว่าแล้วเขาคนนั้นอยู่ไหน คนดูแลบอกเขาตายไป 20 ปีได้แล้วพวกชินปาจิเลยตกใจก็เลยถามต่อว่ามีใครที่ได้รับต่อมั้ยหลังจากที่เขาตาย อย่างครอบครัวหรืออะไรแบบนั้น คนดูแลร้านก็บอกเขามีลูกสาวอยู่คนหนึ่ง แต่ตอนที่เขาคนนั้นตายลูกสาวยังแบเบาะอยู่เลยและคิดว่าเจ้าตัวคงจำไม่ได้ด้วย
คนดูแลบอกร้านนิชิคิยะนี้ทางเจ้าของร้านและภรรยาสร้างขึ้นมาในรุ่นเดียว ผ่านอุปสรรคมากมาย หลังจากนั้นมาทางภรรยาก็ดูแลร้านขนาดใหญ่นี้ด้วยตัวเองจนจากไปโดยทิ้งสิ่งนี้ให้ลูกสาวไว้เมื่อ 6 ปีก่อน ส่วนลูกสาวที่แต่งงานไปก็มาเสียสามีไม่นานหลังแต่งอีก คนดูแลร้านเลยคิดว่าลูกสาวเองก็คงจำไม่ได้
ตอนนั้นเองที่อิคุมัตสึมาพูดกับพวกชินปาจิบอกแอบจิกผ้าคลุมหัวโดยไม่ขออนุญาตแล้วมาถามเรื่องของทางร้านแบบนี้เดี๋ยวลูกสาวใจดีจะโกรธเอานะ แต่พูดจบก็บอกว่าล้อเล่น และบอกมาส่งราเม็งตามที่สั่ง
ทางด้านพวกกิน อีกฝ่ายถามคัตซึระเลยว่าเข้าใจรึยังจะให้บอกตรงๆก็ได้ว่าเขามาที่นี่ก็เพื่อหาเจ้านั้นและฆ่าคนที่ตายไป 20 ปีก่อนนั้นไง คนๆนั้นก็คือ... พ่อของอิคุมัตสึ
จบตอน
[Spoil] Gintama - 431
ในแต่ละพอช่วงสิ้นปีชายคนนั้นก็จะมาที่ร้านพร้อมเงินเล็กน้อยและขอราเม็งชามใหญ่ อิคุมัตสึก็เสิร์ฟตามที่สั่ง สามีเธอยังเอาถ้วนซุปมาเพิ่มอีกสองถ้วยแล้วพวกเธอก็มานั่งกินกันข้างๆชายคนนี้ พอเขากลับไปสามีเธอก็บอกเธอว่าต่อให้เขาไม่อยู่แล้ว พอท้ายปีให้มาทำให้ลุงคนนั้นอิ่มท้องกัน และราเม็งชามนั้นเองนั้นแหละคือราเม็งชามสุดท้ายของสามีเธอ ในทุกสิ้นปีจึงเป็นเหมือนธรรมเนียมระหว่างพวกเธอทั้งสามคนเช่นนี้
อิคุมัตสึบอกหลังจากนั้นชายคนนั้นก็ไม่ได้มาในตอนสิ้นปีอีกเลย สามีเธอตาย เธอก็ไม่ได้เห็นชายคนนั้นที่ไหนอีกเลยด้วย อิคุมัตสึบอกเป็นชายที่แปลก ถึงจะไม่ได้มีเงินอะไรแต่ก็สั่งราเม็งที่พอสำหรับแบ่งให้สามคนกิน พอกินแล้วก็กลับไปทั้งๆที่ยังท้องหิวจนอิคุมัตสึคิดว่าเขาคนนั้นคงเหงา คิดว่าคงไม่มีครอบครัวหรือบ้าน บางทีคงไม่ได้มาเพื่อราเม็งแต่มาเพื่อนั่งหาความสุขกับคนอื่น ทำให้เธอคิดว่าตอนนี้ชายคนนั้นทำอะไรอยู่ อยากจะเติมเต็มอย่างที่สามีเธอตั้งใจไว้
พออิคุมัตสึเสิร์ฟราเม็งให้พวกกินแบบชามเดียวตามที่สั่งพวกกินทั้งสามคนก็ต่างรุมแย่งกันกิน อิคุมัตสึเห็นแล้วก็พูดเลยว่าทำไมไม่แบ่งกันให้พอๆกันล่ะ บอกว่าถ้าชายคนนั้นมีแรงใจพออย่างพวกกินก็ดี อิคุมัตสึก็บอกเธอกังวลอยู่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาคนนั้นรึเปล่า แต่คัตสึระที่อยู่ด้วยก็บอกเลยว่าไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าไม่เห็นชายคนนั้นมาเพื่อหาความสุขจากความเดียวดาย การไม่เจอเขาก็น่าจะคิดว่าดีไม่ใช่เหรอ ชีวิตเขาคนนั้นอาจจะมั่นคงแล้วก็ได้ ตอนนี้เขาอาจจะไม่ได้กินแค่ราเม็งกับใครแต่ฉลองปีใหม่ด้วยอาหารเต็มมื้อเลย แต่เพราะพูดมากไปหน่อยจนเผลอพูดว่าอาจจะเพราะราเม็งของอิคุมัตสึไม่ได้เรื่องก็เลยเจออิคุมัตสึเสิร์ฟราเม็งให้แบบเต็มๆหน้าเลย ชินปาจิก็รีบพูดด้วยความกลัวบอกราเม็งของอิคุมัตสึอร่อยที่สุดในเอโดะ.. ไม่สิในจักรวาลเลยจนเขาคนก็อยากกินแน่
อิคุมัตสึบอกเธอจะคอยชายคนนั้นจนกว่าเธอจะทำราเม็งจนถึงที่สุด รุ้สึกว่าถ้าเขาคนนั้นไม่ได้มาที่ร้านงานของเธอก็ไม่สมบูรณ์ เธอไม่อยากเสียใจแบบนั้น แต่ก็คิดเหมือนกันว่าเขาอาจจะชอบอย่างอื่นกว่าราเม็งที่ลองผิดลองถูกนี้ก็ได้ เธออยากที่จะมอบความสุขให้เขาไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนในตอนนี้ แต่ก็อยากที่จะทำราเม็งให้เขาแต่ดูเหมือนเธอคงไม่อาจ...
หลังจากออกมาจากร้าน กินก็พูดกับคัตซึระว่าพวกเราไม่ได้มีเวลาว่างนักนะเกมไพ่ดอกไม้กำลังรออยู่ คัตสึระพูดเลยเจ้าโง่ที่เงินก็ไม่มีมีหน้ามาพูดอีก คัตสึระถามกินว่าคนที่อิคุมัตสึรอเป็นยังไง กินยอกก็คนที่ไม่มีบ้านหรือครอบครัวที่เอยากจะหาคนคุยด้วยและคิดว่าเผลอๆอาจจะตายไปแล้วก็ได้ คัตสึระเองก็คิดเหมือนกันแต่คิดว่าคนๆนั้นคงไม่ไร้บ้าน ผ้าที่คนๆนั้นลืมไว้ที่ร้านถึงจะเก่าจนเปื่อยแต่ก็คุณภาพดี ถ้าใครมาเห็นชายคนนั้นพเนจรกับของแบบนี้คงยอมรับไม่ได้แน่ แทนที่จะหาก็เป็นไปได้ว่าคนๆนั้นตายไปแล้ว คัตสึระเลยบอกไม่คิดว่าน่าสนใจเหรอเพราะเขานั้นสนใจอยู่ กินได้ยินแบบนี้ก็เลยไปกอดคอคัตสึระและพูดว่า...
กินโทกิ: ซึระ หรือว่านาย....
กินโทกิ: อยากจะ****กับอิคุมัตสึ
คัตซึระเลยมีโวยบอกกินพูดอะไรเลอะเทอะ กินบอกก็มันแปลกที่พอพวกเขาไปกินราเม็งทีไรคัตซึระจะโผล่มาทุกที คัตซึระพูดเลยอย่ามามุข ถ้าอิคุมัตสึกับเขา****หรือ****และมา****กัน แบบนั้นมันไม่มีทางจนชวนขำเลย กินบอกยังไม่มีใครพูดถึงขนาดนั้นสักหน่อย หรือว่าคัตซึระจะอายแต่อยากจะช่วยอิคุมัตสึ บอกเลยว่าก็พูดให้มันเร็วๆสิถ้าอยากได้กามเทพล่ะก็เขาจะช่วยก็ได้ คัตซึระพูดอีกใครที่ทำให้กินคิดแบบนี้ฟะ กินพูดต่อบอกไม่ต้องเล่นตัวน่าคัตซึระชอบคิดถึงสาวแม่ม่ายไม่ใช่เหรอ บอกถ้าจำไม่ผิดตอนเด็กคนแรกที่คัตซ฿ระชอบก็คือแม่ม่ายข้างบ้าน..... แต่พูดยังไม่จบคัตซึระขู่กินด้วยดาบบอกเลยถ้าพูดต่อจะเชือดซะ บอกให้ชัดๆเลยว่าเขาไม่ได้ชอบสาวแม่ม่ายอะไรเลยแต่เขาน่ะ...
คัตซึระ: ต้อง NTR สิโว้ย!!!
ชินปาจิ: เออ... นักรบเขาไม่พูดอะไรแบบนั้นหรอกนะครับ อีกอย่างคือระเบิดความใจซะหมดเปลือกแล้วนะนั้น
คัตซึระยืนยันว่าไม่ได้ชอบอิคุมัตสึแต่ขอบราเม็งต่างหาก สิ่งที่เขาสนใจมีแค่ชายที่สามีของอิคุมัตสึขอให้ช่วยดูแล แค่อยากให้ได้เจอกันอีกครั้งแค่นั้น อิคุมัตสึอยากจะรักษาสัญญากับสามีด้วยการเสิร์ฟราเม็งเต็มชามให้ กินก็แซวต่อบอกน่าชื่นชมจริงๆที่คิดจะช่วยคู่แข่งความรักแบบนี้ คัตซึระบอกไม่ใช่คู่แข่งความรัก เขาคนนั้นไม่เคยอยู่ในสายตาของอิคุมัตสึ ก็แค่ภาพสะท้อนของชายคนหนึ่ง
หลังจากนั้นคัตซึระเลยปลอมตัวไปเป็นคนพเนจรเข้าหาคนพเนจร แต่แค่เข้าไปก็พร่ามซะว่าเหนื่อยกับหนทางซามูไรอย่างนั้นอย่างโน่นพร้อมแนะนำตัว(ตรงนี้มีมุขคำญี่ปุ่นแต่ขอข้าม) พอจะแนะนำกินด้วยชื่อเหมือนกันกินก็เข้ามาเตะปิดปากซะก่อนถามคัตซึระเลยทำไมถึงมาอีรอบนี้ คัตซึระบอกถ้าเพื่อคนจรจัดก็ต้องเป็นคนจรจัดก่อน พอพวกคนจรจัดเฮต้องรับแต่กินก็ไม่เฮด้วย
กินพูดเลยว่าถ้ารู้แบบนี้คงไปหากับพวกชินปาจิที่ร้านผ้าคลุมหัวแล้ว ทางคัตซึระก็ถามพวกคนจรจัดเรื่องคนๆนั้นพวกคนจรจัดก็เลยบอกงั้นจะให้พบกับ "ท่านเทพ" ที่คอยคอบคุมคนไร้บ้านในแถบนี้ เป็นผู้นำของเหล่ากระดาษแข็งก็เลยเรียกเขาว่าท่านเทพ บอกถ้าได้คุยก็จะหาทางแก้ได้แน่ ตอนนั้นท่านเทพที่ว่าก็ปรากฎตัว แต่ท่านเทพที่ว่าก็คือ... ฮาเซงาวะ ทำเอากินถึงกับนิ่งไปเลย
พอกินจะถามฮาเซงาวะว่าทำไมอะไร คนที่เหมือนมุซาชิก็ฟังกระซิบจากฮาเซงาวะบอกให้ไล่คนพวกนี้จากแดนสวรรค์ของพวกเขาทันที กินมีโวยบอกให้ฮาเซงาวะพูดดีๆไม่ต้องล่ามเลย แต่ก็ยังไม่เลิกบอกพวกกินจะทำหายนะมา พูดกันไปมากินก็คิดว่ามีแต่จะชวนให้โมโหก็เลยรีบๆถามถึงเจ้าของผ้าคลุมหัวแต่พูดยังไม่ทันจบฮาเซงาวะก็บอกจะไม่ตอบอีก บอกถ้าอยากจะให้อภัยก่อนก็ต้องไปเอากระป๋องเปล่ามา 30 กระป๋องพร้อมข้าวกล่องร้านสะดวกซื้อ 60 กล่องเลี้ยงพวกเขาทุกคนทำเอากินกำลังเดือดสุดๆ แถมยังพูดให้ชวนขำจนคนที่เหมือนมุซาชิที่เป็นล่ามขำซะเอง
ขณะที่กำลังพูดๆนั้นเองก็มีขวดลอยมาอัดหน้าฮาเซงาวะจนล้มกลิ้ง นั้นคือกลุ่มคนจรจัดอีกกลุ่ม กินพูดเลยนี่มันอะไร คนจรจัดบอกเป็นกลุ่มนิชิกุมิที่อยู่ทางตะวันตกของสวนสาธารณะมียุทโธปกรณ์เป็นกระดาษแข็งชอบใช้ความรุนแรงเพื่อยึดสวนสาธารณะ ตอนนั้นคนที่เหมือนมุซาชิก็พูดเลยแต่เท้าก็เหยียบฮาเซงาวะซะเต็มที่ไล่พวกนิชิกุมิจนเป็นมุขให้กินพูดเลยว่าตกลงมันใครใหญ่กันแน่ ท่านเทพที่ว่าเล่นโดนเหยียบซะจะจมธรณีอยู่แล้วจนกินถามพวกคนจรจัดเลยว่าท่านเทพกำลังโดนใช้ความรุนแรงอยู่จากล่ามไม่เห็นเหรอไง แต่คนจรจัดบอกพูดอะไร ล่ามที่ไหน ท่านเทพอยู่อยู่นั้นไง นั้นคือคนที่เหมือนมุซาชิเองต่างหากจนกินตะลึง
ตอนนั้นก็มีคนหนึ่งในกลุ่มนิชิกุมิโผล่มาพูด พอคัตซึระเห็นตัวคนๆนั้นก็ตะลึงเหมือนรู้จัก กินก็ถามใครอีก คัตซึระเลยกระซิบบอกกินจนเจ้าตัวโวยว่าอย่าพึ่งลืมกันเดะ พูดให้ระลึกความหลังตั้งแต่เล่ม 7 ตอน 55 บอกเลยว่าเพราะผู้หญิงคนนั้นเขาเลยโดยเมินจนต้องมาเป็นคนไร้บ้านแบบนี้ เป็นความผิดของคัตซึระ กินกับคัตซึระก็เล่นมุขหอคอยคารินจนอีกฝ่ายพูดเลยว่านั้นมันเถาไปไปแล้ว คุณค่าการแก้เค้นนี่มันต่างอะไรจะขนาดนั้น
คัตซึระจำได้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นน้องเขยของอิคุมัตสึ บอกการมาเจอกันที่นี่คงเป็นชะตา อีกฝ่ายบอกเลยเพราะคัตซึระกับอิคุมัตสึทำให้ชีวิตเขาพินาศเลยจะแก้แค้น คัตซึระก็เลยพูดว่าเลยมาเป็นหัวโจกกองกระดาษแข็งแบบนี้งั้นเหรอ เป็นการแก้แค้นที่อ้อมค้อมเหลือเกิน แต่อีกฝ่ายไม่สนบอกไม่สนยังไงซะคัตซึระโผล่มาตรงหน้าแล้ว
แต่อีกฝ่ายก็เริ่มรู้ว่าคัตซึระกำลังตามหาชายคนนั้นอยู่ คัตซึระถามพูดเรื่องอะไร อีกฝ่ายบอกไม่ต้องทำงง บอกเลยว่าตอนที่พี่เขายังอยู่เคยมาตามหาชายแก่ คัตซึระก็พึ่งรู้เรื่องนี้เลยคาดไม่ถึง อีกฝ่ายบอกจริงๆคนๆนั้นมากินราเม็งทุกๆปีซึ่งก็รู้ด้วยว่าคนๆนั้นก็คือ.....
อีกด้านพวกชินปาจิที่มาที่ร้านผ้าเพื่อสืบหา คนดูแลร้านบอกไม่ต้องสงสัยเลยว่ามาจากร้านนิชิคิยะของเธอแน่ ชินปาจิเลยถามว่าจำได้มั้ยว่าใครซื้อผ้าคลุมหัวนี้ไป คนดูแลร้านบอกคงจะบอกว่าซื้อไม่ได้เพราะเป็นของเจ้าของร้าน คางุระถามเลยหมายความว่าเป็นประธานของร้านนี้งั้นเหรอ คนดูแลร้านบอกใช่ เธอจำได้ชัดเจนว่าเขาจะโพกหัวด้วยผ้าแบบนี้ไปเที่ยว พอชินปาจิถามว่าแล้วเขาคนนั้นอยู่ไหน คนดูแลบอกเขาตายไป 20 ปีได้แล้วพวกชินปาจิเลยตกใจก็เลยถามต่อว่ามีใครที่ได้รับต่อมั้ยหลังจากที่เขาตาย อย่างครอบครัวหรืออะไรแบบนั้น คนดูแลร้านก็บอกเขามีลูกสาวอยู่คนหนึ่ง แต่ตอนที่เขาคนนั้นตายลูกสาวยังแบเบาะอยู่เลยและคิดว่าเจ้าตัวคงจำไม่ได้ด้วย
คนดูแลบอกร้านนิชิคิยะนี้ทางเจ้าของร้านและภรรยาสร้างขึ้นมาในรุ่นเดียว ผ่านอุปสรรคมากมาย หลังจากนั้นมาทางภรรยาก็ดูแลร้านขนาดใหญ่นี้ด้วยตัวเองจนจากไปโดยทิ้งสิ่งนี้ให้ลูกสาวไว้เมื่อ 6 ปีก่อน ส่วนลูกสาวที่แต่งงานไปก็มาเสียสามีไม่นานหลังแต่งอีก คนดูแลร้านเลยคิดว่าลูกสาวเองก็คงจำไม่ได้
ตอนนั้นเองที่อิคุมัตสึมาพูดกับพวกชินปาจิบอกแอบจิกผ้าคลุมหัวโดยไม่ขออนุญาตแล้วมาถามเรื่องของทางร้านแบบนี้เดี๋ยวลูกสาวใจดีจะโกรธเอานะ แต่พูดจบก็บอกว่าล้อเล่น และบอกมาส่งราเม็งตามที่สั่ง
ทางด้านพวกกิน อีกฝ่ายถามคัตซึระเลยว่าเข้าใจรึยังจะให้บอกตรงๆก็ได้ว่าเขามาที่นี่ก็เพื่อหาเจ้านั้นและฆ่าคนที่ตายไป 20 ปีก่อนนั้นไง คนๆนั้นก็คือ... พ่อของอิคุมัตสึ
จบตอน