ปัจจุบัน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้รับการยอมรับว่าเป็นลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก บรรดานักเตะชั้นยอดต่างรวมกันอยู่ในลีกนี้
โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, เวย์น รูนี่ย์, แกเร็ธ เบล, คาร์ลอส เตเวซ หรือ ธีโอ วัลคอตต์ ต่างก็เป็นผู้เล่นที่ถูกพูดถึงกันมากในโลกของฟุตบอล แต่ก็ยังมีนักเตะอีกหลายคนที่ลงเล่นในลีกนี้ แต่ชื่อของเขาอาจไม่ดังเท่านักเตะบิ๊กเนม ทั้งๆที่พวกเขาทำประโยชน์ให้กับทีมได้อย่างมากมาย
ครั้งนี้เราจึงรวบรวม 5 นักเตะที่ถูกประเมินค่าต่ำเกินไปในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ มาให้ได้ชมกัน
1 ไมเคิ่ล คาร์ริค (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
แฟนบอลของ "ปีศาจแดง" บางส่วนอาจยังไม่ค่อยเห็นคุณค่าในตัวของ ไมเคิ่ล คาร์ริค เท่าไหร่นัก แต่สำหรับฤดูกาลนี้ เขาเป็นนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้อย่างคงเส้นคงวาที่สุดคนหนึ่งในทีม นั่นจึงทำให้เขากลับมามีมูลค่าในตัวเองอีกครั้ง
กองกลางทีมชาติอังกฤษวัย 31 ปี รายนี้ย้ายมาจากท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในปี 2006 และแม้ว่าเขาจะเคยโชว์ฟอร์มได้ดีกับต้นสังกัดเก่าเพียงไร แต่การมาอยู่ในถิ่นโอลดื แทร็ฟฟอร์ด ในช่วงแรกๆนั้น เขายังเหมือนอยู่ในเงาของ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ และ อันแดร์สัน อยู่ดี เขาถูกจับตามองอยู่ตลอด จุดเด่นของ คาร์ริค คือการผ่านบอลและการเล่นฟุตบอลได้ดีทั้งสองเท้า เขาเคยถูกวางตัวให้เข้ามาสืบทอดในตำแหน่งของ พอล สโคลส์
ผลงานในทีมชาติของเขาก็ไม่เป็นที่น่าจดจำเท่าไหร่นัก เขาเกิดมาในยุคที่ทีมชาติอังกฤษมีนักเตะอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด, สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ แกเร็ธ แบร์รี่ แต่สำหรับผลงานของเขาในฤดูกาลนี้อาจทำให้ รอย ฮอดจ์สัน ตัดสินใจใส่ชื่อของเขาไปลุยศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2014 ที่บราซิลก็เป็นได้
2 ลีออน ออสแมน (เอฟเวอร์ตัน)
มีน้อยคนที่จะพอรู้ว่า ลีออน ออสแมน นั้นเป็นกำลังสำคัญให้กับ เอฟเวอร์ตัน มาอย่างยาวนาน เขาเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่สมบูรณ์แบบของอังกฤษ ออสมาน นั้นพึ่งจะมีโอกาสติดทีมชาติครั้งแรกตอนอายุ 31 ปี ในเกมอุ่นเครื่องที่พบกับ สวีเดน และโอกาสสำหรับการติดธงครั้งที่สองนั้น คงไม่ไกลเกินไป
ด้วยอายุและเวลาที่ผ่านมา ทำให้เขามีประสบการณ์เต็มเปี่ยม แต่หากจะให้บอกว่าเขาจะมีชื่ออยู่ในทีมของ รอย ฮอดจ์สัน ชุดลุยศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2014 ที่บราซิล หรือไม่นั้น มันยากเกินไปที่จะตอบ
ออสมาน นั้นลงเล่นให้กับ เอฟเวอร์ตัน มาตั้งแต่ปี 2004 เขาทำประตูแรกให้กับทีมได้ในเกมพบกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ผลงานของเขาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้นทำให้ เดวิด มอยส์ ยืดอกกับลูกทีมคนนี้ได้อย่างเต็มภาคภูมิ
3 ไรอัน ชอว์ครอสส์ (สโต๊ค ซิตี้)
กัปตันทีมสโต๊ค ซิตี้ อย่าง ไรอัน ชอว์ครอสส์ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาลนี้ จนทำให้มีข่าวออกมาเป็นระยะว่าเจ้าตัวได้รับความสนใจจากทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เซ็นเตอร์ร่างยักษ์วัย 25 ปีรายนี้เริ่มต้นอาชีพของเขาที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลังจากนั้นเขาก็ถูกปล่อยตัวให้ สโต๊ค ซิตี้ ยืมใช้งาน จนกระทั่งปี 2008 เขาก็กลายเป็นเด็ก "ช่างปั้นหม้อ" เต็มตัว ชอว์ครอสส์ นั้นเคยตกเป็นข่าวใหญ่มาแล้วเมื่อครั้งหนึ่งเคยเข้าบอลหนัก จนเป็นเหตุให้ อารอน แรมซี่ย์ ขาหัก เมื่อปี 2010
เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เขาได้เรียนรู้และเติบโตขึ้นมาก หลังจากนั้นเขากลายเป็นคนละคน เขาดูนิ่งมากขึ้น การเข้าบอลแบบโฉ่งฉ่างไม่มีให้เห็นอีกแล้ว ความสามารถในการสกัดกลายเป็นจุดแข็งของเขา และการเล่นลูกกลางอากาศที่ยอดเยี่ยมจนกลายเป็นอีกหนึ่งอาวุธเด็ดในการโจมตีคู่ต่อสู้ของสโต๊ค ซิตี้
ชอว์ครอสส์ นั้นพึ่งจะต่อสัญญากับทีมออกไปเมื่อเดือนที่แล้ว และสำหรับทีมชาติอังกฤษ เขาก็มีโอกาสได้สัมผัสบรรยากาศไปแล้วหนึ่งเกมในแมตช์ที่พบกับ สวีเดน เมื่อเดือยพฤษจิกายนปีที่แล้ว เช่นเดียวกับ ออสมาน
4 ฌอน มาโลนี่ย์ (วีแกน แอธเลติก)
สำหรับคนที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับฟุตบอลสกอตแลนด์ คงไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เห็นชื่อของ ฌอน มาโลนี่ย์... เซลติก ทีมดังจากสกอตติช พรีเมียร์ลีก มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาในสมัยที่มี มาร์ติน โอนีล คุมทีม แต่สำหรับ มาโลนี่ย์ เขาอยู่ในยุคของ กอร์ดอน สตรั๊คคั่น ในปี 2005-06
ฌอน มาโลนี่ย์ นั้นได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี และนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี ในปี 2006 เขากลายเป็นนักเตะคนแรกที่สามารถคว้าทั้ง 2 รางวัลมาครองได้ในปีเดียวกัน หลังจากที่ สตรั๊คคั่น จับเขาเปลี่ยนตำแหน่งในการเล่นจากเดิมที่อยู่ทางริมเส้นด้านซ้าย ให้เปลี่ยนไปยืนในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวกลาง
มาโลนี่ย์ ในวัย 29 ปีเกิดในประเทศมาเลเซีย โดยในปี 2007 เขาถูก มาร์ติน โอนีล ดึงตัวมาช่วยงานที่ แอสตัน วิลล่า แต่หลังจากที่ โอนีล ออกจากวิลล่าไป เขาก็ย้ายกลับไปเล่นให้เซลติกอีกครั้ง ก่อนที่จะย้ายมาเล่นให้กับ วีแกน ในปี 2011 เขาดูเหมือนจะล้มเหลวตั้งแต่ที่ย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งที่สอง โดยในครึ่งฤดูกาลแรกเขาแทบไม่มีผลงานอะไรเลย แต่หลังจากที่เขาพังประตูทั้ง ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้มันก็ทำให้ความมั่นใจของเขากลับมาอีกครั้ง
5 เวส ฮูลาฮาน (นอริช ซิตี้)
วส ฮูลาฮาน มิดฟิลด์ไอริชของทีม "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" นอริช ซิตี้ มีโอกาสได้ขึ้นมาเล่นกับทีมในพรีเมียร์ลีกจนได้ หลังจากใช้เวลาวนเวียนไปกับการเล่นให้กับทีมอย่าง เชลบอร์น, ลิฟวิงสตัน และ แบล็คพูล
กองกลางทีมชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์วัย 30 ปีรายนี้ สร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลได้ตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม นอริช ซิตี้ ในปี 2008 จนกระทั่งได้รับความไว้วางใจให้สวมปลอกแขนกัปตันทีม โดยล่าสุดเขาพึ่งจะต่อสัญญากับทีมออกไปจนถึงปี 2015
นับตั้งแต่ที่เขาย้ายมาอยู่กับ นอริช ซิตี้ เขาทำไปแล้ว 33 ประตูจากการลงเล่นไปแล้ว 160 นัด โดยเขามีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นกลับมาเล่นในลีกสูงสุดได้อีกครั้ง
อ้างอิงจาก
http://bleacherreport.com
เรียบเรียงโดย MareK
[กระทู้ 2013-01-25] 5 นักเตะที่ถูกประเมินค่าต่ำเกินไปในพรีเมียร์ลีก
โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, เวย์น รูนี่ย์, แกเร็ธ เบล, คาร์ลอส เตเวซ หรือ ธีโอ วัลคอตต์ ต่างก็เป็นผู้เล่นที่ถูกพูดถึงกันมากในโลกของฟุตบอล แต่ก็ยังมีนักเตะอีกหลายคนที่ลงเล่นในลีกนี้ แต่ชื่อของเขาอาจไม่ดังเท่านักเตะบิ๊กเนม ทั้งๆที่พวกเขาทำประโยชน์ให้กับทีมได้อย่างมากมาย
ครั้งนี้เราจึงรวบรวม 5 นักเตะที่ถูกประเมินค่าต่ำเกินไปในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ มาให้ได้ชมกัน
1 ไมเคิ่ล คาร์ริค (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
แฟนบอลของ "ปีศาจแดง" บางส่วนอาจยังไม่ค่อยเห็นคุณค่าในตัวของ ไมเคิ่ล คาร์ริค เท่าไหร่นัก แต่สำหรับฤดูกาลนี้ เขาเป็นนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้อย่างคงเส้นคงวาที่สุดคนหนึ่งในทีม นั่นจึงทำให้เขากลับมามีมูลค่าในตัวเองอีกครั้ง
กองกลางทีมชาติอังกฤษวัย 31 ปี รายนี้ย้ายมาจากท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในปี 2006 และแม้ว่าเขาจะเคยโชว์ฟอร์มได้ดีกับต้นสังกัดเก่าเพียงไร แต่การมาอยู่ในถิ่นโอลดื แทร็ฟฟอร์ด ในช่วงแรกๆนั้น เขายังเหมือนอยู่ในเงาของ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ และ อันแดร์สัน อยู่ดี เขาถูกจับตามองอยู่ตลอด จุดเด่นของ คาร์ริค คือการผ่านบอลและการเล่นฟุตบอลได้ดีทั้งสองเท้า เขาเคยถูกวางตัวให้เข้ามาสืบทอดในตำแหน่งของ พอล สโคลส์
ผลงานในทีมชาติของเขาก็ไม่เป็นที่น่าจดจำเท่าไหร่นัก เขาเกิดมาในยุคที่ทีมชาติอังกฤษมีนักเตะอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด, สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ แกเร็ธ แบร์รี่ แต่สำหรับผลงานของเขาในฤดูกาลนี้อาจทำให้ รอย ฮอดจ์สัน ตัดสินใจใส่ชื่อของเขาไปลุยศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2014 ที่บราซิลก็เป็นได้
2 ลีออน ออสแมน (เอฟเวอร์ตัน)
มีน้อยคนที่จะพอรู้ว่า ลีออน ออสแมน นั้นเป็นกำลังสำคัญให้กับ เอฟเวอร์ตัน มาอย่างยาวนาน เขาเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่สมบูรณ์แบบของอังกฤษ ออสมาน นั้นพึ่งจะมีโอกาสติดทีมชาติครั้งแรกตอนอายุ 31 ปี ในเกมอุ่นเครื่องที่พบกับ สวีเดน และโอกาสสำหรับการติดธงครั้งที่สองนั้น คงไม่ไกลเกินไป
ด้วยอายุและเวลาที่ผ่านมา ทำให้เขามีประสบการณ์เต็มเปี่ยม แต่หากจะให้บอกว่าเขาจะมีชื่ออยู่ในทีมของ รอย ฮอดจ์สัน ชุดลุยศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2014 ที่บราซิล หรือไม่นั้น มันยากเกินไปที่จะตอบ
ออสมาน นั้นลงเล่นให้กับ เอฟเวอร์ตัน มาตั้งแต่ปี 2004 เขาทำประตูแรกให้กับทีมได้ในเกมพบกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ผลงานของเขาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้นทำให้ เดวิด มอยส์ ยืดอกกับลูกทีมคนนี้ได้อย่างเต็มภาคภูมิ
3 ไรอัน ชอว์ครอสส์ (สโต๊ค ซิตี้)
กัปตันทีมสโต๊ค ซิตี้ อย่าง ไรอัน ชอว์ครอสส์ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาลนี้ จนทำให้มีข่าวออกมาเป็นระยะว่าเจ้าตัวได้รับความสนใจจากทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เซ็นเตอร์ร่างยักษ์วัย 25 ปีรายนี้เริ่มต้นอาชีพของเขาที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลังจากนั้นเขาก็ถูกปล่อยตัวให้ สโต๊ค ซิตี้ ยืมใช้งาน จนกระทั่งปี 2008 เขาก็กลายเป็นเด็ก "ช่างปั้นหม้อ" เต็มตัว ชอว์ครอสส์ นั้นเคยตกเป็นข่าวใหญ่มาแล้วเมื่อครั้งหนึ่งเคยเข้าบอลหนัก จนเป็นเหตุให้ อารอน แรมซี่ย์ ขาหัก เมื่อปี 2010
เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เขาได้เรียนรู้และเติบโตขึ้นมาก หลังจากนั้นเขากลายเป็นคนละคน เขาดูนิ่งมากขึ้น การเข้าบอลแบบโฉ่งฉ่างไม่มีให้เห็นอีกแล้ว ความสามารถในการสกัดกลายเป็นจุดแข็งของเขา และการเล่นลูกกลางอากาศที่ยอดเยี่ยมจนกลายเป็นอีกหนึ่งอาวุธเด็ดในการโจมตีคู่ต่อสู้ของสโต๊ค ซิตี้
ชอว์ครอสส์ นั้นพึ่งจะต่อสัญญากับทีมออกไปเมื่อเดือนที่แล้ว และสำหรับทีมชาติอังกฤษ เขาก็มีโอกาสได้สัมผัสบรรยากาศไปแล้วหนึ่งเกมในแมตช์ที่พบกับ สวีเดน เมื่อเดือยพฤษจิกายนปีที่แล้ว เช่นเดียวกับ ออสมาน
4 ฌอน มาโลนี่ย์ (วีแกน แอธเลติก)
สำหรับคนที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับฟุตบอลสกอตแลนด์ คงไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เห็นชื่อของ ฌอน มาโลนี่ย์... เซลติก ทีมดังจากสกอตติช พรีเมียร์ลีก มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาในสมัยที่มี มาร์ติน โอนีล คุมทีม แต่สำหรับ มาโลนี่ย์ เขาอยู่ในยุคของ กอร์ดอน สตรั๊คคั่น ในปี 2005-06
ฌอน มาโลนี่ย์ นั้นได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี และนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี ในปี 2006 เขากลายเป็นนักเตะคนแรกที่สามารถคว้าทั้ง 2 รางวัลมาครองได้ในปีเดียวกัน หลังจากที่ สตรั๊คคั่น จับเขาเปลี่ยนตำแหน่งในการเล่นจากเดิมที่อยู่ทางริมเส้นด้านซ้าย ให้เปลี่ยนไปยืนในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวกลาง
มาโลนี่ย์ ในวัย 29 ปีเกิดในประเทศมาเลเซีย โดยในปี 2007 เขาถูก มาร์ติน โอนีล ดึงตัวมาช่วยงานที่ แอสตัน วิลล่า แต่หลังจากที่ โอนีล ออกจากวิลล่าไป เขาก็ย้ายกลับไปเล่นให้เซลติกอีกครั้ง ก่อนที่จะย้ายมาเล่นให้กับ วีแกน ในปี 2011 เขาดูเหมือนจะล้มเหลวตั้งแต่ที่ย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งที่สอง โดยในครึ่งฤดูกาลแรกเขาแทบไม่มีผลงานอะไรเลย แต่หลังจากที่เขาพังประตูทั้ง ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้มันก็ทำให้ความมั่นใจของเขากลับมาอีกครั้ง
5 เวส ฮูลาฮาน (นอริช ซิตี้)
วส ฮูลาฮาน มิดฟิลด์ไอริชของทีม "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" นอริช ซิตี้ มีโอกาสได้ขึ้นมาเล่นกับทีมในพรีเมียร์ลีกจนได้ หลังจากใช้เวลาวนเวียนไปกับการเล่นให้กับทีมอย่าง เชลบอร์น, ลิฟวิงสตัน และ แบล็คพูล
กองกลางทีมชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์วัย 30 ปีรายนี้ สร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลได้ตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม นอริช ซิตี้ ในปี 2008 จนกระทั่งได้รับความไว้วางใจให้สวมปลอกแขนกัปตันทีม โดยล่าสุดเขาพึ่งจะต่อสัญญากับทีมออกไปจนถึงปี 2015
นับตั้งแต่ที่เขาย้ายมาอยู่กับ นอริช ซิตี้ เขาทำไปแล้ว 33 ประตูจากการลงเล่นไปแล้ว 160 นัด โดยเขามีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นกลับมาเล่นในลีกสูงสุดได้อีกครั้ง
อ้างอิงจาก http://bleacherreport.com
เรียบเรียงโดย MareK