อ่านตอนเก่า
http://haruki13.exteen.com/20130125/the-event-horizon-3-1
จากผู้เขียน
เนื่องจากว่าตั้งแต่อาทิตย์หน้าเป็นต้นไป ผู้เขียน (ตัวฮารุกิเองนี่แหละครับ) จะต้องเริ่มทำการ "ฝึกงาน" ซึ่งก็ทำให้ไม่แน่ใจว่าจะมีเวลาพอมาแบ่งให้ในการเขียนนิยายเรื่องนี้หรือเปล่า
และเนื่องจากตัวฮารุกิเองนั้นเข้าใจว่า ผู้อ่านส่วนใหญ่ก็คงจะไม่พอใจนักกับการลงนิยายที่ไม่ค่อยสม่ำเสมอ ดังนั้น เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย ฮารุกิจึงขออนุญาตหยุดการลงนิยายเรื่อง "The Event Horizon" ชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนดนะครับ
และต้องขอโทษด้วยที่อาจจะทำให้หลายๆ คนผิดหวังนะครับ
คนเขียนไม่มีความรับผิดชอบคนหนึ่ง
Haruki.13
บทที่ 3 : เทาเซติ
( Chapter III : Tau Ceti )
ห้วงอวกาศนั้นมืดมิด และเงียบสงัด...
แม้แต่ในยุคของอีเว้นท์ฮอริซอน ที่กองเรือนับพันของมนุษย์แล่นลอยลำไประหว่างดาวดวงต่างๆ ทั่วทางช้างเผือก ความจริงก็ยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่นั่นเอง เหตุที่มันยังคงมืดมิดนั้นก็เป็นเพราะมันปราศจากซึ่งฝุ่นธุลีที่จะสะท้อนแสงจากดวงดาวต่างๆ ให้เข้ามาสู่ตาของมนุษย์เรา และสาเหตุที่มันยังเงียบสงัดนั้นก็เป็นเพราะธรรมชาติของเสียง ที่ไม่อาจทะลุทะลวงผ่านความว่างเปล่าของสุญญากาศได้
แต่แม้ห้วงอวกาศจะเป็นเช่นดังว่า บนนาวาอวกาศนามอีเว้นท์ฮอไรซอนหรือที่มักเรียกกันโดยสั้นว่าฮอไรซอนนั้นกลับสว่างและเต็มไปด้วยสรรพเสียง แม้ห้วงอวกาศจะไร้วันคืน แต่เวลาบนฮอไรซอนยังคงถูกตั้งตามเวลาของเรกิวลุสที่ซึ่งมันจากมา ในยามที่เป็นเวลา 'กลางวัน' นั้น ดวงโคมบนฮอไรซอนจะถูกจุดไว้สว่างไสว ในขณะที่เหล่ากะลาสีผู้ขันแข็งต่างพากันออกมาทำงานอย่างคึกคัก ในขณะที่เมื่อดวงโคมทั้งหลายดับลงแล้วนั้น ก็จะเหลือเพียงกะลาสีไม่กี่คนอยู่ยามบนดาดฟ้าเรือ
ทว่าผู้ซึ่งอาศัยอยู่บนเรือฮอไรซอนหาได้มีเพียงเหล่ากะลาสีไม่ พวกเขายังมีผู้บังคับบัญชาขึ้นไปอีกต่ออีกกลุ่มหนึ่ง เหนือสุดของบรรดาผู้บังคับบัญชาเหล่านั้น คือ กัปตันของฮอไรซอนนามว่า เฟียรอน ฟาลโลว์ ผู้ซึ่งเหล่ากะลาสีมีอายุผู้เคยมีประสบการณ์ในการเดินเรือกัปตันมาแล้วหลายคนต่างเห็นพ้องต้องกันว่า เป็นผู้ที่ให้ความเมตตากรุณากับพวกตนเป็นอย่างดีเยี่ยม
แต่รองกัปตันอย่างเบอร์นาร์ด โลเวลล์ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของกะลาสีมากถึงเพียงนั้น รองกัปตันของฮอไรซอนจัดว่าเป็นคนเข้มงวด แต่ความยุติธรรมของเขาก็ทำให้เหล่ากะลาสีทั้งหลายไม่อาจโกรธเกลียดได้ลง
เหล่ากะลาสีไม่ค่อยมีความเห็นเกี่ยวกับผู้บังคับบัญชาอีกสามคนที่เหลือของเขานัก ด้วยเหตุว่าทั้งสาม ซึ่งประกอบด้วย ต้นหนอาเธอร์ เอ็ดดิงตัน แพทย์หญิงแอกเนส กิลเบอร์น และล่ามแคโรลีน ครอว์ฟอร์ด นัก เพราะทั้งสามคนไม่ค่อยได้ลงมาคลุกคลีกับพวกเขามากมายเหมือนกับกัปตันและผู้ช่วยของเขา แม้ว่าจะมีกะลาสีหนุ่มๆ หลายคน แอบเพ้อฝันถึงมิสครอว์ฟอร์ด อย่างลับๆ อยู่บ้างเหมือนกัน
เรื่องที่เล่าขึ้นต่อไปนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ฮอไรซอนออกจากคาเพลลามาได้เหลายวัน หญิงสาวผู้ซึ่งเป็นล่ามประจำเรืออวกาศฮอไรซอนนั้นก้าวขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือ มีกะลาสีคนหนึ่งรุดเข้าไปช่วยเธอทันที หญิงสาวยินดีเพราะตอนอยู่ที่เรกิวลุส ไม่มีใครเคยปฏิบัติกับเธอเช่นนี้มาก่อน ทว่าหญิงสาวก็ยังคงรักษากิริยา และพวกกะลาสีก็เข้าใจดี เธอเป็นหนึ่งในผู้บังคับบัญชาของพวกเขา ที่เกินกว่าพวกเขาจะเอื้อมถึง
หลังจากที่เอ่ยคำขอบคุณไปตามมารยาทแล้ว หญิงสาวก็เดินตรงไปยังห้องปูมเรือ ที่ซึ่งเป็นที่ทำงานของต้นหน เธอเคาะประตูเบาๆ แล้วจึงเปิดเข้าไป
“มาหาต้นหนหรือจ๊ะ แคลร์” หมอกิลเบิร์น เจ้าของเรือนผมสีแดงซึ่งอยู่ในห้องนั้นด้วยเอ่ยทักขึ้น
“ค่ะ” หญิงสาวตอบรับ
“การที่เธอสามารถจะมาหาฉันได้” ต้นหนพูดด้วยน้ำเสียงหยอกด้วยความเอ็นดูมากกว่าตำหนิ “ฉันหวังว่าเธอคงถอดความแถบบันทึกตามที่กัปตันมอบหมายให้ได้เรียบร้อยแล้วใช่ไหม”
“เรียบร้อยอยู่แล้วค่ะ” เด็กสาวพูด “ไม่อย่างนั้นหนูคงไม่กล้ามาทวงให้ต้นหนสอนเรื่องแผนที่อวกาศแบบสามมิติให้หรอก”
ต้นหนชราหัวเราะเบาๆ “ฉันหวังว่ากัปตันคงจะพอใจกับงานที่เธอทำให้นะ”
“ต้นหนอย่าบ่ายเบี่ยงสิคะ” หญิงสาวว่า “ต้นหนสัญญาว่าจะสอนหนูดูแผนที่อวกาศสามมิติวันนี้”
ต้นหนชราหัวเราะเบาๆ “ฉันรู้แล้วน่า เซ้าซี้แบบนี้เหมือนกับลูกสาวฉันสมัยเด็กๆ เลยนะ คุณครอว์ฟอร์ด”
“แต่ดิฉันไม่สนใจแผนที่ของคุณหรอกนะคะ ต้นหน จะสามมิติสี่มิติอะไรก็เอาเถอะ” หมอกิลเบิร์นพูด แล้วหันมา “เพราะฉะนั้นฉันขอตัวก่อนนะจ๊ะ แคลร์ แต่ถ้าเบื่อกับแผนที่อวกาศของต้นหนเมื่อไหร่ละก็ ฉันก็มีงานที่ให้เธอช่วยได้อยู่เหมือนกันนะ”
“ค่ะ หมอ” หญิงสาวตอบรับ ก่อนที่หมอประจำเรือจะเดินออกจากห้องไป
“นี่เธอไปช่วยงานของแอกเนสด้วยหรือ” ต้นหนที่เรียกหมอประจำเรือด้วยชื่อต้น ถามแคโรลีน
“ใช่ค่ะ” หญิงสาวว่า “จะให้อยู่ทำงานถอดแถบบันทึกทั้งวันมันคงไม่มีใครไหวหรอกค่ะ ต้นหนคงไม่ได้คิดว่าหนูอู้งานใช่ไหมคะ”
“ไม่หรอกน่า” ต้นหนว่า “ฉันเองก็พอจะเข้าใจอยู่”
“ว่าแต่ ดูต้นหน คุณหมอ กัปตัน แล้วก็รองกัปตัน ดูสนิทสนมกันดีจังเลยนะคะ” หญิงสาวตั้งข้อสังเกตขึ้น
“แน่นอนอยู่แล้วหละ คุณครอว์ฟอร์ด” ต้นหนพูด “เพราะพวกเราต่างก็เคยออกเรือกับกัปตันฟาลโลว์มาแล้วทั้งนั้น ความจริงก็บ่อยทีเดียวหละ เพราะพวกเราชอบทำงานด้วยกันอย่างนี้ ก่อนที่กัปตันจะต้องหยุดออกเรือไปพักใหญ่”
[The Event Horizon] - บทที่ 3 : เทาเซติ (1)
จากผู้เขียน
เนื่องจากว่าตั้งแต่อาทิตย์หน้าเป็นต้นไป ผู้เขียน (ตัวฮารุกิเองนี่แหละครับ) จะต้องเริ่มทำการ "ฝึกงาน" ซึ่งก็ทำให้ไม่แน่ใจว่าจะมีเวลาพอมาแบ่งให้ในการเขียนนิยายเรื่องนี้หรือเปล่า
และเนื่องจากตัวฮารุกิเองนั้นเข้าใจว่า ผู้อ่านส่วนใหญ่ก็คงจะไม่พอใจนักกับการลงนิยายที่ไม่ค่อยสม่ำเสมอ ดังนั้น เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย ฮารุกิจึงขออนุญาตหยุดการลงนิยายเรื่อง "The Event Horizon" ชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนดนะครับ
และต้องขอโทษด้วยที่อาจจะทำให้หลายๆ คนผิดหวังนะครับ
คนเขียนไม่มีความรับผิดชอบคนหนึ่ง
Haruki.13
บทที่ 3 : เทาเซติ
( Chapter III : Tau Ceti )
ห้วงอวกาศนั้นมืดมิด และเงียบสงัด...
แม้แต่ในยุคของอีเว้นท์ฮอริซอน ที่กองเรือนับพันของมนุษย์แล่นลอยลำไประหว่างดาวดวงต่างๆ ทั่วทางช้างเผือก ความจริงก็ยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่นั่นเอง เหตุที่มันยังคงมืดมิดนั้นก็เป็นเพราะมันปราศจากซึ่งฝุ่นธุลีที่จะสะท้อนแสงจากดวงดาวต่างๆ ให้เข้ามาสู่ตาของมนุษย์เรา และสาเหตุที่มันยังเงียบสงัดนั้นก็เป็นเพราะธรรมชาติของเสียง ที่ไม่อาจทะลุทะลวงผ่านความว่างเปล่าของสุญญากาศได้
แต่แม้ห้วงอวกาศจะเป็นเช่นดังว่า บนนาวาอวกาศนามอีเว้นท์ฮอไรซอนหรือที่มักเรียกกันโดยสั้นว่าฮอไรซอนนั้นกลับสว่างและเต็มไปด้วยสรรพเสียง แม้ห้วงอวกาศจะไร้วันคืน แต่เวลาบนฮอไรซอนยังคงถูกตั้งตามเวลาของเรกิวลุสที่ซึ่งมันจากมา ในยามที่เป็นเวลา 'กลางวัน' นั้น ดวงโคมบนฮอไรซอนจะถูกจุดไว้สว่างไสว ในขณะที่เหล่ากะลาสีผู้ขันแข็งต่างพากันออกมาทำงานอย่างคึกคัก ในขณะที่เมื่อดวงโคมทั้งหลายดับลงแล้วนั้น ก็จะเหลือเพียงกะลาสีไม่กี่คนอยู่ยามบนดาดฟ้าเรือ
ทว่าผู้ซึ่งอาศัยอยู่บนเรือฮอไรซอนหาได้มีเพียงเหล่ากะลาสีไม่ พวกเขายังมีผู้บังคับบัญชาขึ้นไปอีกต่ออีกกลุ่มหนึ่ง เหนือสุดของบรรดาผู้บังคับบัญชาเหล่านั้น คือ กัปตันของฮอไรซอนนามว่า เฟียรอน ฟาลโลว์ ผู้ซึ่งเหล่ากะลาสีมีอายุผู้เคยมีประสบการณ์ในการเดินเรือกัปตันมาแล้วหลายคนต่างเห็นพ้องต้องกันว่า เป็นผู้ที่ให้ความเมตตากรุณากับพวกตนเป็นอย่างดีเยี่ยม
แต่รองกัปตันอย่างเบอร์นาร์ด โลเวลล์ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของกะลาสีมากถึงเพียงนั้น รองกัปตันของฮอไรซอนจัดว่าเป็นคนเข้มงวด แต่ความยุติธรรมของเขาก็ทำให้เหล่ากะลาสีทั้งหลายไม่อาจโกรธเกลียดได้ลง
เหล่ากะลาสีไม่ค่อยมีความเห็นเกี่ยวกับผู้บังคับบัญชาอีกสามคนที่เหลือของเขานัก ด้วยเหตุว่าทั้งสาม ซึ่งประกอบด้วย ต้นหนอาเธอร์ เอ็ดดิงตัน แพทย์หญิงแอกเนส กิลเบอร์น และล่ามแคโรลีน ครอว์ฟอร์ด นัก เพราะทั้งสามคนไม่ค่อยได้ลงมาคลุกคลีกับพวกเขามากมายเหมือนกับกัปตันและผู้ช่วยของเขา แม้ว่าจะมีกะลาสีหนุ่มๆ หลายคน แอบเพ้อฝันถึงมิสครอว์ฟอร์ด อย่างลับๆ อยู่บ้างเหมือนกัน
เรื่องที่เล่าขึ้นต่อไปนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ฮอไรซอนออกจากคาเพลลามาได้เหลายวัน หญิงสาวผู้ซึ่งเป็นล่ามประจำเรืออวกาศฮอไรซอนนั้นก้าวขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือ มีกะลาสีคนหนึ่งรุดเข้าไปช่วยเธอทันที หญิงสาวยินดีเพราะตอนอยู่ที่เรกิวลุส ไม่มีใครเคยปฏิบัติกับเธอเช่นนี้มาก่อน ทว่าหญิงสาวก็ยังคงรักษากิริยา และพวกกะลาสีก็เข้าใจดี เธอเป็นหนึ่งในผู้บังคับบัญชาของพวกเขา ที่เกินกว่าพวกเขาจะเอื้อมถึง
หลังจากที่เอ่ยคำขอบคุณไปตามมารยาทแล้ว หญิงสาวก็เดินตรงไปยังห้องปูมเรือ ที่ซึ่งเป็นที่ทำงานของต้นหน เธอเคาะประตูเบาๆ แล้วจึงเปิดเข้าไป
“มาหาต้นหนหรือจ๊ะ แคลร์” หมอกิลเบิร์น เจ้าของเรือนผมสีแดงซึ่งอยู่ในห้องนั้นด้วยเอ่ยทักขึ้น
“ค่ะ” หญิงสาวตอบรับ
“การที่เธอสามารถจะมาหาฉันได้” ต้นหนพูดด้วยน้ำเสียงหยอกด้วยความเอ็นดูมากกว่าตำหนิ “ฉันหวังว่าเธอคงถอดความแถบบันทึกตามที่กัปตันมอบหมายให้ได้เรียบร้อยแล้วใช่ไหม”
“เรียบร้อยอยู่แล้วค่ะ” เด็กสาวพูด “ไม่อย่างนั้นหนูคงไม่กล้ามาทวงให้ต้นหนสอนเรื่องแผนที่อวกาศแบบสามมิติให้หรอก”
ต้นหนชราหัวเราะเบาๆ “ฉันหวังว่ากัปตันคงจะพอใจกับงานที่เธอทำให้นะ”
“ต้นหนอย่าบ่ายเบี่ยงสิคะ” หญิงสาวว่า “ต้นหนสัญญาว่าจะสอนหนูดูแผนที่อวกาศสามมิติวันนี้”
ต้นหนชราหัวเราะเบาๆ “ฉันรู้แล้วน่า เซ้าซี้แบบนี้เหมือนกับลูกสาวฉันสมัยเด็กๆ เลยนะ คุณครอว์ฟอร์ด”
“แต่ดิฉันไม่สนใจแผนที่ของคุณหรอกนะคะ ต้นหน จะสามมิติสี่มิติอะไรก็เอาเถอะ” หมอกิลเบิร์นพูด แล้วหันมา “เพราะฉะนั้นฉันขอตัวก่อนนะจ๊ะ แคลร์ แต่ถ้าเบื่อกับแผนที่อวกาศของต้นหนเมื่อไหร่ละก็ ฉันก็มีงานที่ให้เธอช่วยได้อยู่เหมือนกันนะ”
“ค่ะ หมอ” หญิงสาวตอบรับ ก่อนที่หมอประจำเรือจะเดินออกจากห้องไป
“นี่เธอไปช่วยงานของแอกเนสด้วยหรือ” ต้นหนที่เรียกหมอประจำเรือด้วยชื่อต้น ถามแคโรลีน
“ใช่ค่ะ” หญิงสาวว่า “จะให้อยู่ทำงานถอดแถบบันทึกทั้งวันมันคงไม่มีใครไหวหรอกค่ะ ต้นหนคงไม่ได้คิดว่าหนูอู้งานใช่ไหมคะ”
“ไม่หรอกน่า” ต้นหนว่า “ฉันเองก็พอจะเข้าใจอยู่”
“ว่าแต่ ดูต้นหน คุณหมอ กัปตัน แล้วก็รองกัปตัน ดูสนิทสนมกันดีจังเลยนะคะ” หญิงสาวตั้งข้อสังเกตขึ้น
“แน่นอนอยู่แล้วหละ คุณครอว์ฟอร์ด” ต้นหนพูด “เพราะพวกเราต่างก็เคยออกเรือกับกัปตันฟาลโลว์มาแล้วทั้งนั้น ความจริงก็บ่อยทีเดียวหละ เพราะพวกเราชอบทำงานด้วยกันอย่างนี้ ก่อนที่กัปตันจะต้องหยุดออกเรือไปพักใหญ่”