ก่อนอื่น ต้องขอขอบพระคุณเพื่อนๆและกูรูในบลูแพนเนท ที่ช่วยเหลือให้คำแนะนำในการไปเที่ยวเว้ โดยเดินทางโดยรถทัวร์ผ่านสุวรรรเขต
เราออกเดินทางพร้อมเพื่อนฝรั่ง ที่หมอชิต กับรถบริษัทสหพัตณ์ร้อยเอ็ด เวลาสองทุ่ม ถึง มุกดาหาร เวลา ก่อนหกโมงเช้า มีคนเข้ามาถามว่าจะไปสุวรรณเขตไหม มีรถไปคิด คนละ สองร้อยบาท เที่ยว หกโมงเช้า เราคิดว่าไปรอบเจ็ดโมงโดยรถทัวร์ คงทัน ก้อเลยรอซื้อตั๋ว ที่เปิดขาดหกโมงครึ่ง รอเกือบเจ็ดโมงเช้าไม่เห็นมีรถมา ก้อเลยว่าจ้างสามล้อเครื่องไปส่ง ที่ตม สองร้อยบาท ใช้เวลาประมาณไม่เกือบสิบนาที เพราะไม่มีคน เราขอโดยสารรถ เพื่อจะไปด่าน ตมลาว คนลาวนิสัยดี บอกให้รอจะพาไป แต่ติดขัดบางอย่าง เราเห็นรถทัวร์ไทย จึงเข้าไปยกมือไหว้ ไกด์ขอติดไป ด้วย แทนที่จะตอบปฎิเสธ แบบ ธรรมดา กลับกลายเป็นว่าเราถูกดูถูก ด้วยคำพูดถางถาง พอดีมีคนมาบอกว่า มีรถจากคาสิโนผ่านมาและ สามารถติดรถผ่านไปได้ เขาคิด คนละห้าสิบบาท ตรวจพาสปอร์ตเสร็จ ก้อจ้างรถสามล้อเครื่องไป ขนส่ง ประมาณ ร้อยห้าสิบ ไปถึงนั่นแปดโมงตรึ่ง รถออก เก้าโมง ห้านาที โดย ไม่รอรถที่มาจากฝั่งไทย ที่เพิ่งจะมาถึง
เรามาถึงเว้ ประมาณหนึ่งทุ่ม เรียกแท๊กซี่ในราคา ห้าหมื่นดองไป ส่งที่โรงแรม phu an ราคาห้องพักสองคน รวมอาหารเช้า ี15 ดอลล่า
เราจ่ายค่า ทัวร์ วันรุ่งขึ้น คนละ สองแสนดอง ประมาณ สิบดอลล่า
รถมารับเกือบเก้าโมงเช้า เต็มหมด ไกด์เรียกเก็บค่าชมสถานที่คนละ 80000 ด่อง ตอนเช้า สามแห่ง ตอนบ่พาย สามแห่ง
ในความเห็นของเรา สำหรับ ตอนเช้า สุสานที่สอง ไม่น่าสนใจ และตอนบ่าย วังต้้องห้าม ไม่น่าสนใจ เพราะ วังถูกทำลาย เกือบหมด เหลือแต่ ประวัติ น่าสนใจ เสียดายเงิน
ตอนเย็นเราเดินจากโรงแรง ด้านตรงข้ามที่ไปสะพาน ไป บิ๊กซี ใช้เวลาเดินประมาณ สิบห้านาที หรือ สี่ป้ายรถเมล์ เปิดถึงสี่ทุ่ม ก้อเลยห้าซื้อ กาแฟ ซึ่งราคาไม่แพง จากนั้นกลับโรงแรม แล้วเดินไปร้าน Lac thaen ร้านของจริง จะมีต้นโพธิ์ อยู่หน้าร้าน เป็นร้านสุดท้าย อาหารที่ทานได้ ก้อ แบบเดียว กับเพื่อนๆ แนะนำ แหละ เจ้าของร้าน เป็นใบ้ ร้านนี้ สมาชิกครอบครัว รุ่นแรก เป็นใบ้ ซะส่วนใหญ๋ อาม่า ที่เสาหลักของครอบครัว ก้อ 89 ปี มีลูก 8 คน ฟังไกด์ ที่นั่งข้างเล่าให้ฟัง
เราพักที่เว้อีกวัน และเดินดูรอบเมือง มีตลาดใหญ่ ทางเดียวกับไปร้านอาหารเมื่อคืน ไปร้านอาหารเลี้ยวซ้าย ไปตลาดเลี้ยวขวา ตรงขอบสะพาน ควรจะแวะดู
วันรุ่งขึ้น เรานั่งรถไปฮ้อยอันตอนเช้า ราคา ตั่ว ราคา 69000ดอง ซือที่ sihn cafe ข้างโรงแรม ขึ้นรถ ก้อข้างโรงแรม
มาถึงฮ้อยอัน ประมาณเที่ยง วัน ก้อ เดิน เข้าเมืองเอง เมืองไม่ใหญ่หรอก ประมาณ ห้าหกนาที ถ้าไม่รู้ ก้อถามนักท่องเที่ยว ดีที่สุด เราเดินหาโรงแรม จนข้ามเมืองมา อีกด้าน ได้ โรงแรม ในราคา 25 ดอลล่า พร้อมอาหารเช้า ต่อ สองคน อินเตอร์เนท มีสามเครื่อง เล่นฟรี แต่ต้องรอคิว เป็นบางครั้ง เครื่องดื่ม เราซื้อในโรงแรม เพราะสำรวจมาแล้ว ข้างนอก แพงกว่ากันมาก แม้กระทั่งในตลาด ส่วนอาหารเราฝากท้องในตลาด เพราะ มีป้ายราคาติด และก้อ อร่อยใช้ได้ แต่ ควรเอาน้ำมาด้วยนะ เราฝากท้องที่ตลาดทุกมื้อ วันรุ่งขึ้นเราจะซื้อตั๋วดูสะพานญี่ปุ่น ราคา 120000 ดอง รวม ห้าสถานที่ เราคิดว่าแพง ก้อเลย ถ่ายรูปด้านนอก เท่านั้น เพราะศาลเจ้าเราเห็นซะเบื่อแล้ว คิดว่าเอาเงิน ไปนั่งเรือท่องแม่น้ำดีกว่า หนึ่งชั่วโมง ประมาณ 140000ดอง แต่วันนั้น อากาศไม่ดี ก้อไม่ได้ ไป เช่าจักรยานที่โรงแรม สองวัน ไปเที่ยวชายทะเล กับสำรวจ ชนบท สวยดี ราคา1ดอลล่า ต่อวัน ต่อคัน เราอยู่ สองคืน จากนั้น ก้อนั่่งรถรอบบ่าย กลับเว้ มาถึงประมาณ สี่โมงเย็ฯ
อาบน้ำแต่งตัว แล้ว ก้อไปบี๊กซี่ซื้อขของง แล้ว กินข้าว ร้านเดิม กลับนอนโรงแรม ตืนเช้า ทานอาหารเช้า แล้ว จ้างแท๊กซี่ มาส่งที่ สถานี รถ
รถออก แปดโมงเช้า ค่ารถ คนละ 270 000ดอง ความที่เราไม่รู้คิดว่าเป็นราคมเดิมอยู่ 240 000ดอง เงินขาดไป หมื่นดอง พยายามให้ดอลล่า ก้อไม่ยอมรับ จนต้องยกมือไหว้ แล้วทิปอีก สองดอลล่า ทั้งรถมีอยู่ สิบห้าคน มาถึงชายแดน เที่ยง ใช้เวลา เก้าสิบนาที เพราะมีฝรั่งด้วยและต้องขอวีซ่าเข้าลาว จากนั้นแวะพัก ทานอาหาร ระหว่าง ทาง รถเกิดยางแตก ทำให้เสียเวลาเดินทาง สองชั่วโมง มาถึงสุวรรณเขต ไม่ทันรถเที่ยวสุดท้าย ด้วยความที่เราไม่อยากพักฝั่งลาว ก้อเลยจ้าง สามล้อมาส่ง ด่าน ราคา สองร้อยบาท จากนั้นเราพยายามขอร้องรถที่ผ่านมา ขอติดไปฝั่งไทย ด้วย ต้องขอขอบพระคุณ คนขับรถบรรทุกที่มีเมตตา มาส่งฝั่งไทย หลังจากตรวจเอกสารเรียบร้อย ก้อต้องขอขอบพรถคุณ คูณ ศิริลักษณ์ ที่ไม่รู้จัก ขับรถมาส่งถึง บขส ซึ่งคันสุดท้ายกำลังจะไป กทม รถเต็ม แต่ความที่ใจดีของคนขับรถให้เราสองคนติด มา โดย นอน ด้านหลังคนขับ ก้อเลยนอนสบาย ทางรถทัวร์เก็บเราสองคน ประมาณ พันแปดสิบบาท ถึง กทม ก่อนหกโมงเช้าโดยปลอดภัย
ขอขอบพระคุณ บริษัท สหพัฒณฺ์ร้อยเอ็ดทัวร์มา ณ โอกาสนี้อ้วย คุณศืรืลักษณ์ และ คนขับรถบรรทุก เพราะความมีน้ำใจของคนไทย
ซาบซึ้งใจมาก กว่า การเที่ยวเวียตนาม สวัสดีครั
รายงานเกี่ยวการเดินทางไปเว้
เราออกเดินทางพร้อมเพื่อนฝรั่ง ที่หมอชิต กับรถบริษัทสหพัตณ์ร้อยเอ็ด เวลาสองทุ่ม ถึง มุกดาหาร เวลา ก่อนหกโมงเช้า มีคนเข้ามาถามว่าจะไปสุวรรณเขตไหม มีรถไปคิด คนละ สองร้อยบาท เที่ยว หกโมงเช้า เราคิดว่าไปรอบเจ็ดโมงโดยรถทัวร์ คงทัน ก้อเลยรอซื้อตั๋ว ที่เปิดขาดหกโมงครึ่ง รอเกือบเจ็ดโมงเช้าไม่เห็นมีรถมา ก้อเลยว่าจ้างสามล้อเครื่องไปส่ง ที่ตม สองร้อยบาท ใช้เวลาประมาณไม่เกือบสิบนาที เพราะไม่มีคน เราขอโดยสารรถ เพื่อจะไปด่าน ตมลาว คนลาวนิสัยดี บอกให้รอจะพาไป แต่ติดขัดบางอย่าง เราเห็นรถทัวร์ไทย จึงเข้าไปยกมือไหว้ ไกด์ขอติดไป ด้วย แทนที่จะตอบปฎิเสธ แบบ ธรรมดา กลับกลายเป็นว่าเราถูกดูถูก ด้วยคำพูดถางถาง พอดีมีคนมาบอกว่า มีรถจากคาสิโนผ่านมาและ สามารถติดรถผ่านไปได้ เขาคิด คนละห้าสิบบาท ตรวจพาสปอร์ตเสร็จ ก้อจ้างรถสามล้อเครื่องไป ขนส่ง ประมาณ ร้อยห้าสิบ ไปถึงนั่นแปดโมงตรึ่ง รถออก เก้าโมง ห้านาที โดย ไม่รอรถที่มาจากฝั่งไทย ที่เพิ่งจะมาถึง
เรามาถึงเว้ ประมาณหนึ่งทุ่ม เรียกแท๊กซี่ในราคา ห้าหมื่นดองไป ส่งที่โรงแรม phu an ราคาห้องพักสองคน รวมอาหารเช้า ี15 ดอลล่า
เราจ่ายค่า ทัวร์ วันรุ่งขึ้น คนละ สองแสนดอง ประมาณ สิบดอลล่า
รถมารับเกือบเก้าโมงเช้า เต็มหมด ไกด์เรียกเก็บค่าชมสถานที่คนละ 80000 ด่อง ตอนเช้า สามแห่ง ตอนบ่พาย สามแห่ง
ในความเห็นของเรา สำหรับ ตอนเช้า สุสานที่สอง ไม่น่าสนใจ และตอนบ่าย วังต้้องห้าม ไม่น่าสนใจ เพราะ วังถูกทำลาย เกือบหมด เหลือแต่ ประวัติ น่าสนใจ เสียดายเงิน
ตอนเย็นเราเดินจากโรงแรง ด้านตรงข้ามที่ไปสะพาน ไป บิ๊กซี ใช้เวลาเดินประมาณ สิบห้านาที หรือ สี่ป้ายรถเมล์ เปิดถึงสี่ทุ่ม ก้อเลยห้าซื้อ กาแฟ ซึ่งราคาไม่แพง จากนั้นกลับโรงแรม แล้วเดินไปร้าน Lac thaen ร้านของจริง จะมีต้นโพธิ์ อยู่หน้าร้าน เป็นร้านสุดท้าย อาหารที่ทานได้ ก้อ แบบเดียว กับเพื่อนๆ แนะนำ แหละ เจ้าของร้าน เป็นใบ้ ร้านนี้ สมาชิกครอบครัว รุ่นแรก เป็นใบ้ ซะส่วนใหญ๋ อาม่า ที่เสาหลักของครอบครัว ก้อ 89 ปี มีลูก 8 คน ฟังไกด์ ที่นั่งข้างเล่าให้ฟัง
เราพักที่เว้อีกวัน และเดินดูรอบเมือง มีตลาดใหญ่ ทางเดียวกับไปร้านอาหารเมื่อคืน ไปร้านอาหารเลี้ยวซ้าย ไปตลาดเลี้ยวขวา ตรงขอบสะพาน ควรจะแวะดู
วันรุ่งขึ้น เรานั่งรถไปฮ้อยอันตอนเช้า ราคา ตั่ว ราคา 69000ดอง ซือที่ sihn cafe ข้างโรงแรม ขึ้นรถ ก้อข้างโรงแรม
มาถึงฮ้อยอัน ประมาณเที่ยง วัน ก้อ เดิน เข้าเมืองเอง เมืองไม่ใหญ่หรอก ประมาณ ห้าหกนาที ถ้าไม่รู้ ก้อถามนักท่องเที่ยว ดีที่สุด เราเดินหาโรงแรม จนข้ามเมืองมา อีกด้าน ได้ โรงแรม ในราคา 25 ดอลล่า พร้อมอาหารเช้า ต่อ สองคน อินเตอร์เนท มีสามเครื่อง เล่นฟรี แต่ต้องรอคิว เป็นบางครั้ง เครื่องดื่ม เราซื้อในโรงแรม เพราะสำรวจมาแล้ว ข้างนอก แพงกว่ากันมาก แม้กระทั่งในตลาด ส่วนอาหารเราฝากท้องในตลาด เพราะ มีป้ายราคาติด และก้อ อร่อยใช้ได้ แต่ ควรเอาน้ำมาด้วยนะ เราฝากท้องที่ตลาดทุกมื้อ วันรุ่งขึ้นเราจะซื้อตั๋วดูสะพานญี่ปุ่น ราคา 120000 ดอง รวม ห้าสถานที่ เราคิดว่าแพง ก้อเลย ถ่ายรูปด้านนอก เท่านั้น เพราะศาลเจ้าเราเห็นซะเบื่อแล้ว คิดว่าเอาเงิน ไปนั่งเรือท่องแม่น้ำดีกว่า หนึ่งชั่วโมง ประมาณ 140000ดอง แต่วันนั้น อากาศไม่ดี ก้อไม่ได้ ไป เช่าจักรยานที่โรงแรม สองวัน ไปเที่ยวชายทะเล กับสำรวจ ชนบท สวยดี ราคา1ดอลล่า ต่อวัน ต่อคัน เราอยู่ สองคืน จากนั้น ก้อนั่่งรถรอบบ่าย กลับเว้ มาถึงประมาณ สี่โมงเย็ฯ
อาบน้ำแต่งตัว แล้ว ก้อไปบี๊กซี่ซื้อขของง แล้ว กินข้าว ร้านเดิม กลับนอนโรงแรม ตืนเช้า ทานอาหารเช้า แล้ว จ้างแท๊กซี่ มาส่งที่ สถานี รถ
รถออก แปดโมงเช้า ค่ารถ คนละ 270 000ดอง ความที่เราไม่รู้คิดว่าเป็นราคมเดิมอยู่ 240 000ดอง เงินขาดไป หมื่นดอง พยายามให้ดอลล่า ก้อไม่ยอมรับ จนต้องยกมือไหว้ แล้วทิปอีก สองดอลล่า ทั้งรถมีอยู่ สิบห้าคน มาถึงชายแดน เที่ยง ใช้เวลา เก้าสิบนาที เพราะมีฝรั่งด้วยและต้องขอวีซ่าเข้าลาว จากนั้นแวะพัก ทานอาหาร ระหว่าง ทาง รถเกิดยางแตก ทำให้เสียเวลาเดินทาง สองชั่วโมง มาถึงสุวรรณเขต ไม่ทันรถเที่ยวสุดท้าย ด้วยความที่เราไม่อยากพักฝั่งลาว ก้อเลยจ้าง สามล้อมาส่ง ด่าน ราคา สองร้อยบาท จากนั้นเราพยายามขอร้องรถที่ผ่านมา ขอติดไปฝั่งไทย ด้วย ต้องขอขอบพระคุณ คนขับรถบรรทุกที่มีเมตตา มาส่งฝั่งไทย หลังจากตรวจเอกสารเรียบร้อย ก้อต้องขอขอบพรถคุณ คูณ ศิริลักษณ์ ที่ไม่รู้จัก ขับรถมาส่งถึง บขส ซึ่งคันสุดท้ายกำลังจะไป กทม รถเต็ม แต่ความที่ใจดีของคนขับรถให้เราสองคนติด มา โดย นอน ด้านหลังคนขับ ก้อเลยนอนสบาย ทางรถทัวร์เก็บเราสองคน ประมาณ พันแปดสิบบาท ถึง กทม ก่อนหกโมงเช้าโดยปลอดภัย
ขอขอบพระคุณ บริษัท สหพัฒณฺ์ร้อยเอ็ดทัวร์มา ณ โอกาสนี้อ้วย คุณศืรืลักษณ์ และ คนขับรถบรรทุก เพราะความมีน้ำใจของคนไทย
ซาบซึ้งใจมาก กว่า การเที่ยวเวียตนาม สวัสดีครั