เรื่องย่อ"บ่วงบาป"(ฉบับปรับปรุงใหม่)

“บ่วงบาป”
       
       บทประพันธ์ : อัจฉรียา
       บทโทรทัศน์ : พอวาสน์-นันทพร-สุธิสา
       กำกับการแสดง : กฤษฎา เตชะนิโลบล
       แนวละคา : ดราม่า
       ดำเนินงานสร้าง : บริษัทโพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัดโดย อรพรรณ วัชรพล
       ออกอากาศ :: พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่อง 3 (ต่อจาก ตะวันฉาย ในม่ายเมฆ)
       ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่มตอนแรก พฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 -
       จำนวนตอนออกอากาศ : 14/+/-/
       
สุพรรณบุรี รัตนโกสินทร์ศก ๑๑๖ หรือ ราวพุทธศักราช 2441 ในสมัยรัชกาลที่ 5 พระยาสุรเดชไมตรี (นาท ภูวนัย) ได้มอบศักดินาตลอดจนทรัพย์สินทุกอย่างรวมทั้งบริวารทาสให้ลูกชายคนเดียวคือ ขุนพิทักษ์ (ทฤษฏี สหวงษ์) พร้อมทั้งสั่งเสียว่าขุนพิทักษ์จะต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้หลักธรรมอันดี ขุนพิทักษ์รับปากพร้อมทั้งตั้งสัตย์ปฏิญาณ ทันใดนั้นสายฟ้าก็ฟาดเปรี้ยงลงมาราวกับเป็นพยาน พระยาสุรเดชไมตรีเห็นดังนั้นก็วายชนม์อย่างสงบ แต่ คุณหญิงมณี(ดวงตา ตุงคะมณี) ผู้เป็นภรรยากลับเต็มไปด้วยความวิตกกังวัล เพราะรู้ดีว่าแท้จริงแล้วขุนพิทักษ์ลูกชายเป็นคนไม่เอาการเอางาน ใช้ชีวิตเสพสุขไปวันๆ แต่ที่ผ่านมาอยู่ในกรอบเพราะเกรงกลัวบารมีของบิดา
       
และก็จริงดังที่คุณหญิงมณีกังวัล หลังจากเสร็จสิ้นงานศพของพระยาสุรเดชไมตรีได้ไม่นาน ขุนพิทักษ์ก็ใช้ชีวิตสุขสำราญเต็มที่ ประพฤติตนผิดศีลห้าทุกอย่าง หนำซ้ำยังยักยอกทรัพย์ราชการโดยไม่ฟังคำเตือนของคุณหญิงมณี
       
เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ภายใต้สายตาของ หลวงตามั่น(ยอดชาย เมฆสุวรรณ) อดีตทาสในเรือนเบี้ยของพระยาสุรเดชไมตรีที่ไถ่ถอนตัวเองด้วยการบวช อาจารย์มั่นพยายามทำทุกวิถีทางที่จะเตือนสติเพราะเห็นในนิมิตว่าขุนพิทักษ์จะอยู่เสวยสุขได้ไม่นาน แต่ขุนพิทักษ์ก็ไม่ฟัง คุณหญิงมณีอยากให้บวช ขุนพิทักษ์ก็ไม่ยอมบวช
       
ด้วยความที่เป็นชายหนุ่มรูปงาม ทำให้ขุนพิทักษ์เป็นที่หมายปองของหญิงสาวหลายคน รวมทั้ง คุณรำพึง (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) บุตรสาวของ พระยาเทวราช (ศักราช ฤกษ์ธำรง) ที่หลงรักขุนพิทักษ์ตั้งแต่แรกเห็น ส่วนตัวขุนพิทักษ์เองก็หลงใหลในความสวยผุดผ่องของรำพึง ทำให้ ขุนไว (กันต์ กันตถาวร) คู่แข่งคู่อาฆาตของขุนพิทักษ์ไม่พอใจ เพราะแอบชอบรำพึงเหมือนกัน แต่ขุนไวดูมีภาษีกว่าเพราะพระยาเทวราชชื่นชอบในความตั้งใจทำงาน ผิดกับขุนพิทักษ์ที่เอาแต่เที่ยวดื่มสุรา เล้าโลมสตรี แต่รำพึงกลับไม่สนใจขุนไวแม้แต่น้อย
       
นายสม(ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ) ทาสในเรือนของคุณหญิงมณี พา ชุ่ม (หยาดทิพย์ ราชปาล) น้องสาว เข้ามาพึ่งใบบุญเป็นทาสรับใช้ในเรือน ชุ่มร้องไห้เศร้าเสียใจที่ต้องห่าง แม่เย็น(ปวีณา ชารีฟสกุล) แต่เย็นกลับบอกให้ลูกขยันขันแข็งทำงาน
       
ขุนพิทักษ์ดื่มเหล้าเมา เดินเข้าเรือนทาสไปเมาล้มกอดชุ่มในเรือน บ่าวมาเห็นไปฟ้องคุณหญิงมณี รำพึงอยู่บนเรือนพอดี ได้ยินแล้วไม่พอใจ พอมีโอกาสจึงจ้องเล่นงานชุ่มตลอดด้วยความหึงหวง เริ่มแรกขุนพิทักษ์ไม่ได้สนใจชุ่มเท่าไหร่ แต่นานวันเข้าความซื่อ ไร้เดียงสาของชุ่ม ทำให้ขุนพิทักษ์หลงรักอย่างไม่รู้ตัว ส่วนชุ่มเองก็แอบรักท่านขุนในความมีน้ำใจ และได้ช่วยชีวิตไว้หลายครั้ง
       
ขุนพิทักษ์ดื่มเหล้าเมา เดินเข้าเรือนทาสไปเมาล้มกอดชุ่มในเรือน บ่าวมาเห็นไปฟ้องคุณหญิงมณี รำพึงอยู่บนเรือนพอดี ได้ยินแล้วไม่พอใจ พอมีโอกาสจึงจ้องเล่นงานชุ่มตลอดด้วยความหึงหวง เริ่มแรกขุนพิทักษ์ไม่ได้สนใจชุ่มเท่าไหร่ แต่นานวันเข้าความซื่อ ไร้เดียงสาของชุ่ม ทำให้ขุนพิทักษ์หลงรักอย่างไม่รู้ตัว ส่วนชุ่มเองก็แอบรักท่านขุนในความมีน้ำใจ และได้ช่วยชีวิตไว้หลายครั้ง
       
ขุนไวตามติดรำพึงไม่ให้พบกับขุนพิทักษ์ แล้วยังได้แรงส่งจากพระยาเทวราชทำให้รำพึงขัดใจยิ่งนัก พยายามกดดันให้ขุนพิทักษ์รีบมาสู่ขอ แต่ขุนพิทักษ์เห็นว่าพระยาเทวราชไม่ชอบหน้า จึงลังเลใจอยู่
       
ขุนพิทักษ์ได้แรงยุจากชุ่ม จึงยอมทำงานไปคัดเลือกเป็นผู้ช่วยเจ้ากรม โดยมีพระยาเทวราชรับผิดชอบงานอยู่ แต่ครั้นเจอกับขุนไวก็เกือบมีเรื่องกัน ขุนไวท้าให้ประลองการต่อสู้กัน ถ้าใครชนะจะได้เป็นผู้ช่วยเจ้ากรมคนใหม่ และยังได้รำพึงไปครองด้วย ส่วนใครแพ้จะต้องออกจากเมืองไปให้ไกล พระยาเทวราชเห็นดีด้วย นัดให้ประลองในงานเลี้ยงต้อนรับเจ้ากรมคนใหม่

รำพึงยังจ้องรังแกชุ่มตลอดเวลาที่มีโอกาส โดยมี จวง (นฤมล สิทธิเม่ง) บ่าวรับใช้คนสนิทคอยวางแผนด้วย ทั้งยังใส่ร้ายว่าชุ่มทำร้ายตัวเอง ทำให้ขุนพิทักษ์จำใจต้องเฆี่ยนตีชุ่ม เพราะรำพึงเป็นถึงลูกพระยา ยังไงก็มีศักดิ์ศรีกว่านางทาสในเรือน ชุ่มมองขุนพิทักษ์ที่เฆี่ยนตีด้วยความเจ็บช้ำใจ สมพากลับเรือนทาสด้วยความโมโหเช่นกัน เพราะเห็นว่าน้องสาวโดนรำพึงแอบเข้ามาตบตีถึงในเรือน แล้วยังใส่ร้ายจนโดนเฆี่ยนตี
       
ขุนพิทักษ์รู้สึกผิด จะไปขอโทษชุ่ม แต่ชุ่มไม่สนใจ ขุนพิทักษ์จึงไปดื่มเหล้าเล่นการพนันหามรุ่งหามค่ำ ไม่กลับบ้าน ทั้งไม่ใส่ใจฝึกการต่อสู้ ซึ่งใกล้จะต้องประลองฝีมือกับขุนไวในอีกไม่กี่วัน ชุ่มเห็นแล้วเป็นห่วง ก็เลยยอมพบหน้าขุนพิทักษ์ ขอร้องให้ขุนพิทักษ์ฝึกซ้อมการต่อสู้ ขุนพิทักษ์ยอมทำตามชุ่มทำให้คุณหญิงมณีสบายใจขึ้น
       
แล้ววันประลองก็มาถึง ทุกคนตื่นเต้นกับการแข่งขัน รำพึงก็มาดูพร้อมกับพ่อและคุณหญิงมณี หลังการต่อสู้ที่ลุ้นกันอย่างยิ่ง ผลปรากฏว่าขุนพิทักษ์เป็นผู้ชนะแต่ทั้งนี้ขุนพิทักษ์ใช้กลโกงเอาชนะขุนไว ท่านเจ้ากรมยกตำแหน่งผู้ช่วยให้ขุนพิทักษ์แต่ขุนไวไม่ยอม จะประท้วงว่าขุนพิทักษ์โกง พระยาเทวราชปรามให้ขุนไวยอมรับความพ่ายแพ้ เพราะทุกคนไม่มีใครเห็นว่าขุนพิทักษ์โกง

ขุนพิทักษ์เจอชุ่ม เห็นชุ่มหมางเมิน ตามไปคุยที่เรืองทาส ชุ่มโพล่งว่าขุนพิทักษ์ใช้กลโกงจนชนะขุนไว เพราะชุ่มเป็นห่วงขุนพิทักษ์ จึงได้ตามไปดูการประลอง ขณะที่ขุนไวไม่พอใจการประลองครั้งนี้ จึงท้าขุนพิทักษ์ให้มาประลองฝีมือกันใหม่ที่ชายป่า ขุนพิทักษ์ไม่ยอมให้ใครว่าเป็นคนขี้ขลาด ยอมรับการประลองใหม่ ชุ่มอยู่ในเหตุการณ์ด้วยพยายามห้ามขุนพิทักษ์ แต่ไม่ยอมฟัง ทั้งยังห้ามไม่ให้บอกคุณหญิงมณี ชุ่มเป็นห่วงขุนพิทักษ์มาก ในวันประลองรุ่งขึ้น จึงวิ่งไปบอกรำพึงที่บ้าน ขอร้องให้ไปห้ามการประลอง แต่รำพึงไม่สนใจ อยากให้สองหนุ่มแข่งขันประลองเพื่อแย่งเป็นเจ้าของเธอ
       
ขุนพิทักษ์ประลองดาบกับขุนไว ผลัดกันรุก ผลัดกันรับ สุดท้ายขุนพิทักษ์เป็นฝ่ายชนะอย่างขาวสะอาด แต่คราวนี้ขุนไววางแผนฆ่าขุนพิทักษ์ จ้างโจรป่ามาลอบฆ่า ระหว่างทางกลับบ้าน ขุนพิทักษ์โดนรุม สู้ไม่ไหว บาดเจ็บจนสิ้นสติ พวกโจรทิ้งให้นอนสลบอยู่กลางป่า ดีที่ชุ่มกับสมไปช่วย รีบแบกกลับเรือนทาส แล้วแจ้งคุณหญิงมณีให้ตามหมอมารักษา หมอไม่อยากให้ขุนพิทักษ์กระเทือนบาดแผล จึงให้รักษาตัวอยู่ที่เรือนทาส ชุ่มเฝ้าดูแลขุนพิทักษ์ที่ไข้ขึ้นเพราะพิษบาดแผลอยู่หลายวัน จนอาการทุเลา

ขุนไวไปทวงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของรำพึง เพราะชนะขุนพิทักษ์ ทำให้รำพึงมาที่เรือนขุนพิทักษ์ รู้เรื่องทีโดนโจรป่าทำร้าย และมีชุ่มคอยปรนนิบัติดูแล ก็โมโหเพราะเห็นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก้าวหน้าขึ้น ขุนพิทักษ์รู้แก่ใจว่ารักชุ่มมากกว่ารำพึง ที่สุดขุนพิทักษ์สารภาพรักชุ่ม และได้ชุ่มเป็นเมียในกระท่อนเรือนทาส ขณะที่รำพึงเองโดนขุนไวตามติดถึงเรือน เพื่อให้รีบจัดงานแต่งงาน รำพึงโมโหด่าว่าคุณไวว่าเป็นแค่เด็กวัด อย่าคิดใฝ่สูงถึงลูกพระยา ทำให้ขุนไวลุแก่โทสะ ปล้ำรำพึงเป็นภรรยา และรบเร้าที่จะบอกพระยาเทวราชเพื่อสู่ขอแต่งงาน รำพึงประวิงเวลา ขอให้ขุนไวปิดเรื่องความสัมพันธ์ไว้ก่อน ขุนไวยอมรับปาก
       
รำพึงกลัวว่าขุนพิทักษ์จะหลุดลอยไป จึงวางแผนกับจวง ให้ขุนพิทักษ์ไปหาที่เรือน บอกว่าไม่สบายมาก แล้วให้กินผงม้าเสพนางเพิ่มความกำหนัด ทำให้ขุนพิทักษ์ได้รำพึงเป็นภรรยา พระยาเทวราชกลับมาพอดี โมโหมาก ให้ขุนพิทักษ์รับผิดชอบในสิ่งที่กระทำ ขุนพิทักษ์เสียใจที่หลงกลรำพึง เพราะใจขณะนี้รักแต่ชุ่มเพียงคนเดียว

ขณะเดียวกันรำพึงก็พยายามเร่งเร้าจะให้จัดงานแต่งงานให้ได้พระยาเทวราชมาที่เรือนคุณหญิงมณี จำใจเอ่ยปากเรื่องที่ขุนพิทักษ์ทำเรื่องไม่งามกับรำพึง บอกให้คุณหญิงเห็นแก่ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของทั้งสองฝ่าย จัดการให้ขุนพิทักษ์สู่ขอรำพึงให้เร็วที่สุด คุณหญิงมณีไปปรึกษาฤกษ์แต่งงานกับหลวงตามั่น

ด้วยความไม่สบายใจ หลวงตามั่นบอกว่าทุกอย่างเป็นไปตามกรรม คุณหญิงมณีต่อว่าขุนพิทักษ์ที่ทำเรื่องไม่งาม ขุนพิทักษ์แก้ตัวว่าโดนรำพึงจัดฉาก และบอกคุณหญิงว่าตนได้ชุ่มเป็นเมียแล้ว คุณหญิงมณีอึ้งไป แต่ก็บอกให้ขุนพิทักษ์รับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นกับรำพึง เพราะไม่อย่างนั้นพระยาเทวราชจะมาเอาความกับขุนพิทักษ์ได้

ขุนพิทักษ์มาหาชุ่มที่เรือนทาส ชุ่มเศร้าใจ ขุนพิทักษ์ยืนยันว่ารักชุ่มคนเดียวแต่ทุกอย่างเป็นแผนของรำพึง ที่สุดพิธีแต่งงานก็จัดขึ้นอย่างสมเกียรติ รำพึงในชุดเจ้าสาวสวยสง่า กับ ขุนพิทักษ์ในชุดเจ้าบ่าว นั่งคู่กันบนแท่นรดน้ำสังข์ รำพึงมีความสุขในขณะที่ชุ่มนั่งร้องไห้หัวใจสลายอยู่คนเดียวในเรือนทาส
       
ด้านขุนไวก็ยังไม่ยอมแพ้ จ้องจะก่อเรื่องในงานแต่ง ทำให้พระยาเทวราชสั่งให้ลูกน้องคอยจับตาดูขุนไว ทำให้ขุนไวทำอะไรไม่ได้ ขณะที่ขุนพิทักษ์ไม่ได้รักรำพึง จึงไม่สนใจ คืนส่งตัวกลับไปหาชุ่มที่เรือนทาส รำพึงรู้เรื่องตามไปอาละวาดเอาตัวกลับมาขุนพิทักษ์ยอมกลับมานอนด้วย แต่ก็นอนหันหลังให้ รำพึงพยายามเข้าไปหา ขุนพิทักษ์บอกว่าใจของตนมีเพียงชุ่มคนเดียวเท่านั้น รำพึงเสียใจและโกรธแค้นชุ่ม พอวันรุ่งขึ้นก็ชวนจวงไปตบชุ่ม แต่ขุนพิทักษ์ไปขัดขวาง และไล่รำพึงกลับเรือน อย่ามายุ่งกับชุ่มที่เรือนทาสอีก

รำพึงแค้นชุ่ม ให้จวงไปหาผงม้าเสพนาง ใส่ในอาหารให้ขุนพิทักษ์กินและร่วมหลับนอนกับขุนพิทักษ์ในเรือนทาสของชุ่มเป็นการหยามหน้า ชุ่มเสียใจมากที่เห็นภาพบาดตา ขุนพิทักษ์โมโหที่รำพึงวางยา จึงพาชุ่มขึ้นมาอยู่บนเรือนรำพึงแค้นใจทำอะไรไม่ได้ ไปขอร้องให้พระยาเทวราชช่วยเหลือ แต่กลับโดนด่าว่าอย่างรุนแรงว่ามีกำพืดต่ำเหมือนแม่ ทั้งยอมรับว่าเป็นคนฆ่าแม่ของรำพึงด้วยตัวเอง รำพึงแค้นใจ ยุให้ขุนไวฆ่าพ่อตัวเอง ขุนไวรักหลงรำพึง และแค้นพระยาเทวราชหลายเรื่อง จึงจ้างคนไปจัดการพระยาเทวราชจนสิ้นชีวิต

รำพึงหมดทางดึงขุนพิทักษ์กลับมาหาตัวเอง จึงให้ หมอไสย์ (จักรกฤษณ์อำมรัตน์) ทำเสน่ห์ให้ ขุนพิทักษ์หลงใหลรำพึง ขับไล่ชุ่มลงจากเรือนสมไปเห็นว่ารำพึงเป็นชู้กับขุนไวด้วย รำพึงรู้เข้าจึงต้องการปิดปากสมวางแผนฆ่าสม แต่พิทักษ์มาพบเข้า จึงสร้างสถานการณ์ว่าสมจะปล้ำเธอ ขุนพิทักษ์โมโหมาก สั่งโบยสมและคิดจะลงดาบฆ่าให้ตาย ชุ่มเข้ามาขอชีวิตไว้คุณหญิงมณีก็ช่วยขอชีวิตสม ขุนพิทักษ์จำยอม คุณหญิงมณีให้สมไปอยู่กับหลวงตามั่นที่วัด เพื่อความปลอดภัย

ชุ่มเข้าไปห้องรำพึงเพื่อค้นหาแหวนพระพิรอด เพื่อหวังจะให้ขุนพิทักษ์ใส่ติดตัวแต่รำพึงมาพบเข้าเสียก่อน รำพึงโยนแหวนทิ้ง ชุ่มโดนเฆี่ยนอย่างทารุณ แต่เหมือนมีปาฏิหาริย์ขุนพิทักษ์ไปเจอแหวนและสวมเข้านิ้ว คลายมนต์เสน่ห์ได้ ขุนพิทักษ์มาช่วยชุ่มก่อนที่จะถูกเฆี่ยนจนตาย คุณหญิงมณีดีใจมากที่ขุนพิทักษ์คนเดิมกลับมา ให้ทั้งขุนพิทักษ์กับชุ่มไปรดน้ำมนต์กับหลวงตามั่น แต่หลวงตามั่นยังคงเป็นห่วง บอกว่าวิบากกรรมยังไม่สิ้น

รำพึงไปหาหมอไสย์ ทำเสน่ห์อีกครั้ง ขุนพิทักษ์หวนกลับไปหารำพึงอีกไม่สนใจชุ่มที่เริ่มตั้งท้องอ่อนๆ คุณหญิงมณีให้ชุ่มไปอยู่ที่เรือนท้ายสวน ขณะเดียวกันรำพึงเริ่มตั้งท้องเหมือนกัน คุณหญิงมณีสังหรณ์ใจว่าจะเป็นลูกของขุนไวตามที่สมเคยบอกว่าทั้งคู่เล่นชู้กัน รำพึงยังตามรังควานชุ่มไม่เลิก ไปที่เรือนท้ายสวน พยายามจะกรอกยาขับเลือดให้ชุ่มกิน แต่ชุ่มสู้สุดชีวิตเพื่อลูกของเธอ รำพึงที่ท้องอ่อนเหมือนกันปวดท้องกะทันหันและแท้งลูกเอง แต่ยังไม่วายใส่ความว่าชุ่มเป็นคนทำ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่