ช่วยยกตัวอย่างคนที่ประสบความสำเร็จ แต่ไม่จบปริญญาหน่อยครับ

ช่วยยกตัวอย่างคนที่ประสบความสำเร็จ แต่ไม่จบปริญญาหน่อยครับ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
แม่ผมเองครับ
- จบแค่ ป.4
- บ้านไม่มี ต้องเช่าอยู่
- สามีทิ้งไปมีเมียน้อย ปล่อยให้เลี้ยงลูก 2 คน (5 ขวบ กับ 3 ขวบ)
- รับจ้างไปวันๆ
- เลี้ยงลูกจนจบปริญญาตรีทั้ง 2 คน

แม่ผมเก่งกว่าบิลเกตหรือสตีฟจ๊อปอีก (2 คนนั้น ยังมีต้นทุนชีวิต มีครอบครัว มีคนสนับสนุน)
ความคิดเห็นที่ 20
คุณซ่อนนาม  พูดใน คคห 17 ว่า

"จะเอาไปทำอะไร ???

ที่หลายคนพูดแบบนั้นเพราะคิดว่าจขกทจะเอาไปอ้างว่า "ไม่ต้องเรียนปริญญาก็ประสบความสำเร็จได้"

ซึ่งสำหรับประเทศไทย ความสำเร็จต้องพึ่งปริญญา เพราะหากไม่มีโอกาสในการทำอะไรหลายอย่างจะหายไป"

^
คุณมองข้ามอะไรไปหลายๆอย่าง!

คุณรู้ไหมว่าคนขายของข้างทางแถวเยาวราชหรือสยามน่ะ พวกเขาได้เงินกันวันละเท่าไหร่?  ว่างๆก็ลองไปยืนดูแล้วเอาเครื่องคิดเลขบวกดูดิ

ไหนๆคุณพูดถึง windows 8 เราเพิ่งเอา windows 8 tablet ตัวใหม่เราไปติด film กันรอยที่ pantip plaza  เขาใช้เวลาแค่ 20 นาทีรับทรัพย์ไป 350 บาท คุณรู้ไหมว่าเขาติด films ให้ลูกค้าทั้ง netbooks, notebooks มือถือ และ tablets ด้วยน่ะ (เครื่องบางรุ่นลูกค้าต้องการให้ติด films ทั้งที่จอและฝาด้านนอกด้วยซึ่งค่าจ้างออกมาเป็นเงิน 700-1,000 บาทก็มี) แล้ววันหนึ่งเขาทำให้ลูกค้าตั้งกี่ราย?

เราเห็นอาหมวยคนหนึ่งมาขายบะหมี่ที่ ถ.เยาวราช ขี่รถเบ็นซ์มาด้วยนะ อิๆๆๆ

อีกรายเอาหนังมาตัดเป็นเส้นๆใส่หัวเข็มขัดเข้าไปขายเป็นเข็มขัดหนัง ในห้างขายเส้นละ 3,000 บาท พี่แกขายแบกะดินหน้าห้างเส้นละ 1,000 บาท วันหนึ่งเรายืนดูแพล็บเดียวขายไป 10 กว่าเส้น!

อีกรายหนึ่งเก๋าที่สุด หมอนี่เอากระดาษไปลอกรูปจากกำแพงวัด มาวางขายตรงท่าน้ำ ต้นทุนอย่างมากก็ใบละ 20 บาท พี่แกขายฝรั่งใบละ 500 บาท ยืนดูแพล็บเดียวพี่แกขายไป 10 ใบ! อะโหรายได้ไม่เลวนิ

ที่ท่าน้ำอีกแห่งหนึ่งมีหมอดูรายหนึ่งใครจะไปดูดวงต้องเข้าคิวซื้อตั๋ว เขาเริ่มให้บริการตั้งแต่ 09.00 น. เช้าจนถึงเกือบๆค่ำ มีลูกค้าซื้อตั๋วเข้าคิวกันเป็นร้อย (ดูแค่คนละ 10 นาทีเอง) แต่วันหนึ่งเขาดูได้ถ้าดู ชม. ละ 5-6 คนนะ ดูถึง 18.00 น. คงดูได้แค่ ประมาณ 40 คน (คนที่ยังไม่ถึงคิวใช้ตั๋วเลื่อนไปอีกวันหนึ่ง)   แค่คิดหัวละ 100 บาทนี่ พี่แกได้วันละ ตั้ง 4,000 บาทเข้าไปแล้วนะ!

อีกรายหนึ่งก็ฉลาดไม่เบา หล่อนเอาหินสีมาตัดเป็นชิ้นๆ เอาลวด stainless มาตัดแล้วขดๆ ต่อกันเป็นต่างหู เป็นสร้อยข้อมือ สร้อยคอแบบแฟชั่น วางขายแถวๆหน้าโรงแรมที่มีนักท่องเที่ยว แค่ขายชิ้นละ 500 บาทนี่ (ฝรั่งเห็นเป็นราคาถูกนะ) ก็รวยเละแล้ว เพราะวันหนึ่งขายไปเผลอๆหลายสิบชิ้น! ต้นทุนนิดเดียวเอง

คนขับแท๊กซี่ที่รับแต่นักท่องเที่ยวแถวๆสุขุมวิทน่ะ วันหนึ่งรายได้เยอะนะ นอกจากจะชาร์จค่ารถแพงๆ (ไม่เปิดมิเตอร์) แล้วยังได้ค่าน้ำอีก เช่นพานักท่องเที่ยวไปอาบอบนวดพาไปกิน seafood ก็ได้ค่าน้ำบานเบอะ  คนขับตุ๊กๆที่เชียงใหม่เคยแย่งนักท่องเที่ยวจากไกด์พานักท่องเที่ยวไปซื้อพวก jewelry แพงๆ นักท่องเที่ยวซื้อไปเป็นเงินล้านบาท คนขับตุ๊กๆได้ค่าน้ำไป 300,000 บาท โดยทำงานแค่วันเดียว งานนี้ไกด์แทบผูกคอตายเพราะโดนแย่งนักท่องเที่ยวไปจากรถทัวร์นี่เท่ากับลูบคมกันชัดๆ แย่งไปได้ไง ก็ไกด์พานักท่องเที่ยวลง shopping ที่เซ็นทรัลพอเสร็จแล้วยังไม่ทันขึ้นรถทัวร์เลยคนขับตุ๊กๆตีสนิทนักท่องเที่ยวแล้วพาไป jewelers กับ lapidaries (พวกร้านที่ขายเครื่อง jewelry) ซะก่อนยังไงล่ะ ...อันนี้เรื่องจริงไม่ใช่อิงนิยาย ตุ๊กๆที่จอดหน้าเซ็นทรัลกาดสวนแก้วเชียงใหม่น่ะ แสบแค่ไหน...พวกไกด์ที่เชียงใหม่กลัวตุ๊กๆกันทั้งนั้น....ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

คนขี่มอเตอร์ไซค์บริเวณ ถ. วิทยุตัดกับ ถ.เพลินจิต ก็รายได้ดี เพราะอะไร? มีร้านแปลเอกสารแถวๆนั้นคงถึง 20 บริษัท เวลาต้องส่งคำแปลไปกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศให้รับรองคำแปล ค่ารับส่งเอกสาร วิทยุ/เพลินจิต - แจ้งวัฒนะ เที่ยวละ 500 บาท (ค่าน้ำมันนิดเดียวเอง) คนขี่มอเตอร์ไซค์พวกนี้ฉลาด ไม่ขี่ไปกลับทีละคนเพื่อยื่นเอกสารให้กรมการกงสุลทีละชุดนะ แต่พวกเขารวมหัวกันทั้งคิว เอาเอกสารดองไว้ให้ครบหลายๆชุด สมมุติว่าพอได้เอกสารจากลูกค้า 20 กว่าราย (เอา 20 x 500 ดิว่าได้กี่บาท) แล้วให้มอเตอร์ไซค์คันเดียววี่งทีเดียวเลย ในขณะที่เพื่อนร่วมคิวก็คอยหาเหยื่อคือหญิงไทยกับชายฝรั่งเดินจับคู่มาที่กำลังจะแต่งงาน (แถวๆนั้นมีเยอะเพราะใกล้สถานทูตอเมริกากับสถานทูตอังกฤษ) พวกคนขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างเสนอบริการแปลเอกสารเพื่อทำวีซ่า คิดเหยื่อแพงๆ บางทีรายละ 50,000 บาท (ฝรั่งอยากแต่งงานกับสาวไทยใจจะขาด ไม่เดินสืบราคาหลายๆแห่งให้เมื่อย แต่ควักกระเป๋าจ่ายเงินทันทีเลย แบบนี้มีเยอะแยะไป!) แต่ค่าแปลเอกสารจริงๆเผลอๆแค่ 8,000 บาทเอง คนขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างเอาส่วนต่างเก็บเข้ากระเป๋า แล้วชักเงิน 8,000 บาท ไปจ้างร้านแปลเอกสารแถวๆนั้นแปล แปลเสร็จ ขี่มอเตอร์ไซค์เอาเอกสารไปยื่นกรมการกงสุลรับรอง รับรองเสร็จแล้วขี่มอเตอร์ไซค์เอาเอกสารไปส่งให้ลูกค้าถึงบ้าน ถ้าลูกค้าบ้านอยู่ต่างจังหวัดก็บริการส่ง ems ให้เสร็จสรรพเลย สบายไป easy money งานแบบนี้บางทีคนขี่มอเตอร์ไซค์รวยกว่านักแปลซะอีก....ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...งานหาเหยื่อแถวๆย่านนั้นที่คนขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างหาได้มีเหยื่ออีกหลายประเภทเช่น คนธรรมดาทั่วๆไปทำวีซ่าไม่ผ่าน แล้วเดินหาคนรับจ้างทำให้ผ่าน มันมีบริษัทรับจ้างทำให้ผ่านได้ (มีเทคนิคลับ ซึ่งเราก็รู้ว่าพวกเขาทำไง) เหยื่อแบบนี้ถ้าได้ทีหนึ่งรายได้เป็นตัวเลข 6 หลัก และเหยื่อรายเล็กๆก็คือเหยื่อหาบริการกรอกแบบฟอร์มขอวีซ๋า ค่าจ้างกรอกแบบฟอร์มแถวๆนั้นร้านแปลเอกสารเขาคิดกันทีละ 500 บาท แต่คนขี่มอเตอร์ไซค์ มันไปจับเหยื่อมาจากสะพานลอยบ้าง บางทีก็แถวๆหน้าสถานทูตบ้าง แล้วมันกินหัวคิวไปซะแล้ว บางทีคิดลูกค้า 1,000 บาท แล้วเอาลูกค้าไปให้ร้านแปล จ่ายร้านแปลแค่ 500 บาท ก็มี

^
อาชีพที่ได้เงินวันละตั้งมากมายพวกนี้นะ ไม่จำเป็นต้องจบปริญญาก็ทำได้สบายๆ  และคนที่หาเงินได้เยอะแบบนี้ในเมืองไทยก็มีต้ังมากมาย แต่คุณมองข้ามไปเอง!

สรุปแล้วคนส่วนใหญ่ที่ไม่มีปริญญาแล้วไม่ประสบความสำเร็จ นั่นก็เพราะว่า "ยึดติดกับงานนั่งโต๊ะ" หรือคิดเป็นแค่จะ "เป็นลูกจ้างเขา" ต่างหากล่ะ อาชีพค้าขายลงทุนต่ำๆแต่กำไรตั้งบานเบอะมีเยอะแยะไป
ความคิดเห็นที่ 14
เด็กอังกฤษส่วนใหญ่พอเรียนมัธยมไม่เก่งไม่มีใครฝืนใจเรียนปริญญากัน แต่ไปทำงานวิชาชีพกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานกรรมกรก่อสร้าง  

เศรษฐีใหม่ในประเทศอังกฤษส่วนใหญ่มาจากกรรมกรก่อสร้างเพราะค่าแรงกรรมกรก่อสร้างที่ประเทศเขาแพงลิบลิ่ว!
^
ในประเทศอังกฤษจำนวนกรรมกรก่อสร้างที่เป็นเศรษฐีได้มีตัวเลขสูงมากๆจนน่าตกใจ

เราเคยเห็นคนพวกนี้นับไม่ถ้วนตอนอยู่ในประเทศอังกฤษ แต่เมื่อ 7 ปี ที่แล้วเราก็เห็นอีกรายหนึ่งที่เชียงใหม่ เป็นเพื่อนบ้านเราเอง ผู้ชายฝรั่งคนอังกฤษได้เมียคนไทย เช่าคอนโดอยู่ด้วยกันมีลูกตัวเล็กๆ 1 คน ผู้ชายอยู่กับเมียแค่ 1 เดือนแล้วบินกลับ London ทำงานก่อสร้าง 3 เดือนแล้วบินกลับเชียงใหม่ บินกลับไปกลับมาแบบนี้แค่ 2-3 ปีเขามีเงินซื้อบ้านหลังงามๆในเชียงใหม่เงินสดได้เลย ไม่ต้องผ่อน

กรรมกรอังกฤษคนนี้ใช้ Internet เก่ง ใช้คอมพิวเตอร์เก่ง พูดจาความคิดความอ่านอะไรฉลาดหลักแหลมหมด ไม่แพ้คนไทยที่จบวุฒิสูงๆ

เราก็เรียนจบแค่ระดับมัธยมจากโรงเรียนในประเทศอังกฤษ แล้วเราก็ไม่เก่งด้านวิชาการ เลยไม่เรียนต่อ ไม่มีปริญญา  เรากลับมาเมืองไทยทีแรกก็ลำบากเหมือนกัน เพราะหางานลำบาก แต่ก็ใช้ความเพียรพยายาม ไปเรื่อยๆ ก็ได้งานทำไปเรื่อยๆ ตั้งแต่สอนภาษาอังกฤษไปจนถึงทำงานแปลเอกสาร

เราพอหาเงินได้คล่องไม่ถึงกับร่ำรวยมากนัก แต่ก็ไม่ต้องดิ้นรนมากนัก เพราะสมบัติพ่อแม่มีเหลือเฟือพออยู่ได้แบบสบายๆ เราไม่เสียใจที่เราไม่ได้จบปริญญามาเพราะในชีวิตการทำงานเป็นนักแปลเรารับจ้างทั้งแปลไทยเป็นอังกฤษทั้งเขียนภาษาอังกฤษพวกงานวิจัย, theses, dissertations และ papers ในหลายๆสาขาเป็นภาษาอังกฤษให้คนไทยตั้งหลายคน (นับไม่ถ้วน) เพื่อช่วยให้พวกเขาเรียนจบปริญญาโทกับปริญญาเอกมาแล้ว  และเราเคยส่งตัวอย่างการแปลเข้าประมูลงานเพื่อให้ได้งานแปลราคาแพงๆจากบริษัทดังๆ ชนะคนเรียนจบปริญญาตรี คนเรียนจบปริญญาโท และ คนเรียนจบปริญญาเอกทางด้านภาษาอังกฤษมาแล้วบ่อยครั้งมากๆ

ขอบคุณที่โรงเรียนมัธยมในประเทศอังกฤษสอนเราไม่เหมือนโรงเรียนมัธยมในประเทศไทยสอน จนเรามีความรู้ทาบรัศมีหรือแซงหน้าคนที่จบปริญญาระดับสูงๆได้  ตอนเด็กๆระบบการศึกษาที่เราเรียนสอนให้เราช่วยตัวเอง สอนให้เราเรียนรู้ด้วยตัวเอง และทุกวันนี้เราเรียนรู้ศาสตร์ต่างๆตั้งมากมายจาก google
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่