โทษทีครับ พิมพ์ใน Note Pad เตรียมเข้ามา แปะในกระทู้
พอตั้งกระทู้เสร็จส่งเข้าไป ไม่ทันได้คลิคดู
เข้ามาอีกที ไม่มีเนื้อหากระทู้ กลายเป็น กระทู้ ถามความเห็น
จริงๆต้องการสื่อ แลกเปลียนความเห็นตามเนื้อกระทู้ข้างล่างครับ 
=================================
จากกระทู้ ข้างล่าง
http://ppantip.com/topic/32661041
นอกจาก บัฟเฟต แล้ว หลายคนดังในอดีต และปัจจุบัน ประสพความเร็จ โดยไม่ได้รับปริญญา จากมหาวิทยาลัย มากมายไปหมด และ มักถูกยกมา เป็นตัวอย่างให้เห็นกันบ่อยๆ
การยกเรื่องคนเรียนไม่จบมหาวิทยาลัย หรือ คนที่มหาวิทยาลัยปฏิเสธ หรือ ไม่มีโอกาสได้เรียน มาให้เราฟังว่า เค้าประสพความสำเร็จได้นั้น นับเป็นเรื่องดี
เป็นการให้กำลังใจ คนที่ ไม่มีโอกาส ได้เรียน อย่าท้อในการสู้ชีวิต
แต่ อยากจะเตือนว่า ไม่ให้น้องๆ ที่กำลังตัดสินใจในการเรียนและการดำรงชีวิต คิดไปในแนวที่ว่า การเรียนในมหาวิทยาลัย ไม่สำคัญ ไม่ต้องเรียนก็ ประสพความสำเร็จในชีวิตได้
เพราะว่า ในชีวิตจริงคนเรานั้น คนที่เก่ง เอาตัวรอด หรือประสพความสำเร็จได้โดย ไม่ต้องเรียนมหาลัยเหมือนตัวอย่างที่เค้ายกมาเล่าให้ฟังนั้น มันมีไม่มากเลย
มีน้อยมาก กลายเป็น ของแปลก เลยต้องเอามายกตัวอย่างเล่า มาเขียนเป็นหนังสือขาย ให้อ่านกัน
แต่ คนที่เรียนจบมหาวิทยาลัย ใช้วิชาชีพเลี้ยงตัวเอาตัวรอด และประสพความสำเร็จ ในวิชาชีพ และสาขาที่เรียน มีมากมาย กว่าพวกที่เค้ายกตัวอย่าง นั้น หลายแสนหลายล้านเท่า
แม้ว่าบางคน อาจจะไม่ได้ทำงานในด้านที่เรียนจบมาโดยตรง แต่ความรู้ ที่ได้รับจากมหาวิทยาลัย ก็ยังเป็นพื้นฐานต่อยอด ให้เค้าทำงานในด้านอื่นได้ประสพความสำเร็จต่อไป
ดังนั้น ถ้ามีโอกาส ได้เรียน จงเรียนไปเถอะ อย่าคิดว่าไม่มีประโยชน์ ความรู้และปริญญา จากรั้วมหาวิทยาลัย มันคือหลักประกันชิ้นนึง ในชีวิตของเรา ในการเบิกทาง ทำงานก้าวไปสู่ความสำเร็จ มีโอกาส ต้องคว้ามันไว้
และ แม้ไม่มีโอกาส ก็ควรทีจะขวนขวาย ฝ่าฟัน สู้เพื่อหามา
แต่แน่นอน มันไม่ใช่สิ่งสำคัญขนาดที่ว่า ขาดไม่ได้ ขาดแล้ว จะทำให้ตัวเองไปไม่รอด
ถ้าไม่มีโอกาส ได้เรียน ก็อย่าท้อถอยหมดหวังกับชีวิต
และแน่นอน มีบางคน ที่ระหว่างเรียน อาจจะพบช่องทางที่เหมาะกับตัวเอง เช่นธุรกิจที่ประสพความสำเร็จอย่างสูง โดยไม่ต้องจบมหาวิทยลัยได้
ถ้าคุณโชคดี เป็นหนึ่งใน หลายล้านคนที่พบช่องทางนั้น คุณจะหยุดเรียน ไม่ให้เสียเวลา แล้วมุ่งมั่นเดินไปทางนั้น ก็เป็นทางเลือกที่ดี ขอแต่ให้คิดพิจารณา ให้รอบคอบ ก่อนตัดสินใจ
ตัวอย่างเช่น ไม่ใช่ตลาดหุ้นร้อนๆ อย่างนี้ ลงทุนจิ้มหุ้นกำไร หลายร้อยเปอร์เซนต์ ทำผลตอบแทน ได้มากกว่าเงินเดือนคนรับปริญญา แล้วตัดสินใจเลิกเรียน หรือ ลาออกจากงาน มาเทรดหุ้น เต็มเวลา อาจจะกลายเป็น หลุดเข้ามาในกับดักของโลกที่โหดร้าย ก็ได้
=== รั้ว มหาวิทยาลัย กับ ปริญญา จำเป็นมั้ย กับชีวิต ===
พอตั้งกระทู้เสร็จส่งเข้าไป ไม่ทันได้คลิคดู
เข้ามาอีกที ไม่มีเนื้อหากระทู้ กลายเป็น กระทู้ ถามความเห็น
จริงๆต้องการสื่อ แลกเปลียนความเห็นตามเนื้อกระทู้ข้างล่างครับ
=================================
จากกระทู้ ข้างล่าง
http://ppantip.com/topic/32661041
นอกจาก บัฟเฟต แล้ว หลายคนดังในอดีต และปัจจุบัน ประสพความเร็จ โดยไม่ได้รับปริญญา จากมหาวิทยาลัย มากมายไปหมด และ มักถูกยกมา เป็นตัวอย่างให้เห็นกันบ่อยๆ
การยกเรื่องคนเรียนไม่จบมหาวิทยาลัย หรือ คนที่มหาวิทยาลัยปฏิเสธ หรือ ไม่มีโอกาสได้เรียน มาให้เราฟังว่า เค้าประสพความสำเร็จได้นั้น นับเป็นเรื่องดี
เป็นการให้กำลังใจ คนที่ ไม่มีโอกาส ได้เรียน อย่าท้อในการสู้ชีวิต
แต่ อยากจะเตือนว่า ไม่ให้น้องๆ ที่กำลังตัดสินใจในการเรียนและการดำรงชีวิต คิดไปในแนวที่ว่า การเรียนในมหาวิทยาลัย ไม่สำคัญ ไม่ต้องเรียนก็ ประสพความสำเร็จในชีวิตได้
เพราะว่า ในชีวิตจริงคนเรานั้น คนที่เก่ง เอาตัวรอด หรือประสพความสำเร็จได้โดย ไม่ต้องเรียนมหาลัยเหมือนตัวอย่างที่เค้ายกมาเล่าให้ฟังนั้น มันมีไม่มากเลย
มีน้อยมาก กลายเป็น ของแปลก เลยต้องเอามายกตัวอย่างเล่า มาเขียนเป็นหนังสือขาย ให้อ่านกัน
แต่ คนที่เรียนจบมหาวิทยาลัย ใช้วิชาชีพเลี้ยงตัวเอาตัวรอด และประสพความสำเร็จ ในวิชาชีพ และสาขาที่เรียน มีมากมาย กว่าพวกที่เค้ายกตัวอย่าง นั้น หลายแสนหลายล้านเท่า
แม้ว่าบางคน อาจจะไม่ได้ทำงานในด้านที่เรียนจบมาโดยตรง แต่ความรู้ ที่ได้รับจากมหาวิทยาลัย ก็ยังเป็นพื้นฐานต่อยอด ให้เค้าทำงานในด้านอื่นได้ประสพความสำเร็จต่อไป
ดังนั้น ถ้ามีโอกาส ได้เรียน จงเรียนไปเถอะ อย่าคิดว่าไม่มีประโยชน์ ความรู้และปริญญา จากรั้วมหาวิทยาลัย มันคือหลักประกันชิ้นนึง ในชีวิตของเรา ในการเบิกทาง ทำงานก้าวไปสู่ความสำเร็จ มีโอกาส ต้องคว้ามันไว้
และ แม้ไม่มีโอกาส ก็ควรทีจะขวนขวาย ฝ่าฟัน สู้เพื่อหามา
แต่แน่นอน มันไม่ใช่สิ่งสำคัญขนาดที่ว่า ขาดไม่ได้ ขาดแล้ว จะทำให้ตัวเองไปไม่รอด
ถ้าไม่มีโอกาส ได้เรียน ก็อย่าท้อถอยหมดหวังกับชีวิต
และแน่นอน มีบางคน ที่ระหว่างเรียน อาจจะพบช่องทางที่เหมาะกับตัวเอง เช่นธุรกิจที่ประสพความสำเร็จอย่างสูง โดยไม่ต้องจบมหาวิทยลัยได้
ถ้าคุณโชคดี เป็นหนึ่งใน หลายล้านคนที่พบช่องทางนั้น คุณจะหยุดเรียน ไม่ให้เสียเวลา แล้วมุ่งมั่นเดินไปทางนั้น ก็เป็นทางเลือกที่ดี ขอแต่ให้คิดพิจารณา ให้รอบคอบ ก่อนตัดสินใจ
ตัวอย่างเช่น ไม่ใช่ตลาดหุ้นร้อนๆ อย่างนี้ ลงทุนจิ้มหุ้นกำไร หลายร้อยเปอร์เซนต์ ทำผลตอบแทน ได้มากกว่าเงินเดือนคนรับปริญญา แล้วตัดสินใจเลิกเรียน หรือ ลาออกจากงาน มาเทรดหุ้น เต็มเวลา อาจจะกลายเป็น หลุดเข้ามาในกับดักของโลกที่โหดร้าย ก็ได้