ปี 2556 เชื่อว่าวงการหนังไทยจะดูคึกคักเป็นพิเศษ เพราะรายชื่อหนังที่ประกาศออกมา ทั้งที่สร้างแล้วพร้อมจะฉาย และยังไม่สร้างแต่ได้พล็อตแล้ว ก็ไม่เน้นว่าเป็นผลงานจากค่ายยักษ์ เลยมีหนังจากผู้สร้างอิสระต่างๆ ที่อาจหาญช่วงชิงตลาดเป็นจำนวนที่ไม่น้อยกว่าปีก่อนเลย และหลายเรื่องก็เป็นหนังที่เข้มข้นน่าดูน่าติดตามเช่นกัน
สำหรับค่ายหนังชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น สหมงคลฟิล์ม, เอ็ม เทอร์ตี้ไนน์, ไฟว์สตาร์, จีทีเอช ก็เผยไต๋ผลงานที่จะฉายในปีนี้กันแล้ว รวมถึงค่ายน้องใหม่แต่มือเก๋าอย่าง เวฟ พิคเจอร์ อีกด้วย ก็เหลือเพียง "พระนครฟิลม์" ที่มาแปลกๆ เงียบๆ ไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจนว่า หนังเรื่องต่อไปจะเป็นเรื่องอะไร ไม่เห็นข่าวบวงสรวงหรือเปิดตัวเรื่องใดเลย ผิดกับปีก่อนๆ ที่จะต้องเผยให้คอหนังได้บานฉ่ำอยู่ทุกปี
แต่เท่าที่ได้ยินอะไรโน่นนี่ โดยเฉพาะเรื่องผู้กำกับฯ ที่เดินเข้าเดินออกออฟฟิศย่านประชาชื่น ทั้ง "ธนิตย์ จิตนุกูล" ที่ช้ำใจกับรายได้หนังทุกเรื่องที่เขาร่วมงาน ทั้ง บางระจัน ภาค 2 และ แก๊งค์ตบผี ล่าสุดก็หอบโปรเจ็กต์หนังไปที่อื่น บ้างก็ลงทุนกันเอง แถมมีแววว่าจะกลับไปทำงานกับค่ายเสี่ยเจียงอีก รายถัดมาคือผู้กำกับหนังตลกที่ทำรายได้สูงที่สุดของค่าย "โน้ต เชิญยิ้ม" ก็เพิ่งทำท่าถอดใจจากวงการหนัง เตรียมเบนไปสู่งานละครจอแก้วอีกราย ส่วนขาแร๊พทำหนัง "โจอี้ บอย" ก็ได้รับชะตากรรมเจ๊งเช่นกัน จึงรับเล่นหนังอย่างเดียวสบายกว่า
อาจจะรวมถึงอีกสองรายสุดท้ายที่ช่วยต่อลมหายใจไว้เมื่อปีที่แล้วอย่าง "ต้อม ยุทธเลิศ" กับ "พจน์ อานนท์" ที่ปีนี้ก็มีหนังที่เตรียมจะฉายภายในปีนี้ ได้ชื่อ ได้ตัวแสดงแล้ว จะสงสัยก็เพียงว่า ตกลงเขาจะหอบเรื่องใหม่ให้พระนครฟิลม์ช่วยดูแลอีกหรือไม่
พระนครฟิลม์ในวันนี้ก็ดูเหมือนอยู่ในอาการยอบแยบ ผู้กำกับที่เคยสร้างชื่อพากันออกห่างหรือย้ายค่าย ไม่มีท่าทีชัดเจน ไม่เห็นใครเขียนข่าวบ้างเลย ทั้งที่บริษัทเปิดตัวมาได้เพียงสิบปี และเท่าที่สังเกตก็ยังไม่ทันปิดตัว
เรียกว่าตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมา จากบริษัทเล็กๆ ภายใต้การบริหารงานของคนที่มีประสบการณ์ด้านสายหนังเป็นอย่างดี พระนครฟิลม์เติบใหญ่จนถูกจัดเป็นค่ายหนังระดับแถวหน้า ถึงแม้ว่าผลงานส่วนใหญ่มักเอาใจชาวบ้าน แถมบางทีถูกสังคมระดับสติสูงบ่นว่าเป็นหนังไร้สาระ แต่ก็โดดเด่นเกินหน้าเกินตากว่าพวกค่ายเล็กกำลังต่ำ ขณะสิ่งที่ได้รับหลังการฉายนั้นต่างกัน หรือผ่านทั้งสุขและเซ็ง
วันนี้ เราคงได้เพียงรู้สึกว่ากำลังคิดถึงงานเก่าๆ ดีๆ จากค่ายนี้อยู่
ข่าวดีล่าสุด หนังเก่ากรุต่างๆ มากมายหลายเรื่องที่พระนครฟิลม์ฝากไว้ก็จับนำมาลงจอแก้ว "ช่อง 8" ในเครือของค่ายอาร์เอสเรียบร้อยแล้ว ในช่วงเวลาหนังไทยโปรแกรมทอง วันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งแต่เดิมฉายหนังของอาร์เอสมาตลอด ซ้ำไปวนมา คราวนี้ "อาร์เอส" ดึง "พระนครฟิลม์" เข้าร่วมเป็นพันธมิตร ทีนี้เลยเพิ่มหนังเด่นหนังดังอีกจำนวนหนึ่งให้หายเบื่อ
และเอามาให้แก้คิดถึง ระหว่างรอหรือยังไม่มีหนังเรื่องใหม่ออกมา ว่าอย่างนั้น
ก็ภาวนาว่าถ้าบริษัทยังอยู่ แม้จะมีผู้อื่นใดเข้ามายึดอันดับครองตลาดแทนที่ ก็คงจะมีหนังใหม่ๆ ออกมาให้ติดตามเรื่อยๆ ถึงจะปล่อยน้อยๆ คงจะช่วยได้นาน และผลงานต่อไปนั้นอาจจะดีกว่ายิ่งกว่าที่เคยทำเคยเป็น ตราบที่คนรักหนังยังสนับสนุน เชื่อมั่น ไว้ใจเสมอ
คิดถึงกันบ้างไหม.. สวัสดี
<<วันนี้ของ "พระนครฟิลม์" ....>>
ปี 2556 เชื่อว่าวงการหนังไทยจะดูคึกคักเป็นพิเศษ เพราะรายชื่อหนังที่ประกาศออกมา ทั้งที่สร้างแล้วพร้อมจะฉาย และยังไม่สร้างแต่ได้พล็อตแล้ว ก็ไม่เน้นว่าเป็นผลงานจากค่ายยักษ์ เลยมีหนังจากผู้สร้างอิสระต่างๆ ที่อาจหาญช่วงชิงตลาดเป็นจำนวนที่ไม่น้อยกว่าปีก่อนเลย และหลายเรื่องก็เป็นหนังที่เข้มข้นน่าดูน่าติดตามเช่นกัน
สำหรับค่ายหนังชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น สหมงคลฟิล์ม, เอ็ม เทอร์ตี้ไนน์, ไฟว์สตาร์, จีทีเอช ก็เผยไต๋ผลงานที่จะฉายในปีนี้กันแล้ว รวมถึงค่ายน้องใหม่แต่มือเก๋าอย่าง เวฟ พิคเจอร์ อีกด้วย ก็เหลือเพียง "พระนครฟิลม์" ที่มาแปลกๆ เงียบๆ ไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจนว่า หนังเรื่องต่อไปจะเป็นเรื่องอะไร ไม่เห็นข่าวบวงสรวงหรือเปิดตัวเรื่องใดเลย ผิดกับปีก่อนๆ ที่จะต้องเผยให้คอหนังได้บานฉ่ำอยู่ทุกปี
แต่เท่าที่ได้ยินอะไรโน่นนี่ โดยเฉพาะเรื่องผู้กำกับฯ ที่เดินเข้าเดินออกออฟฟิศย่านประชาชื่น ทั้ง "ธนิตย์ จิตนุกูล" ที่ช้ำใจกับรายได้หนังทุกเรื่องที่เขาร่วมงาน ทั้ง บางระจัน ภาค 2 และ แก๊งค์ตบผี ล่าสุดก็หอบโปรเจ็กต์หนังไปที่อื่น บ้างก็ลงทุนกันเอง แถมมีแววว่าจะกลับไปทำงานกับค่ายเสี่ยเจียงอีก รายถัดมาคือผู้กำกับหนังตลกที่ทำรายได้สูงที่สุดของค่าย "โน้ต เชิญยิ้ม" ก็เพิ่งทำท่าถอดใจจากวงการหนัง เตรียมเบนไปสู่งานละครจอแก้วอีกราย ส่วนขาแร๊พทำหนัง "โจอี้ บอย" ก็ได้รับชะตากรรมเจ๊งเช่นกัน จึงรับเล่นหนังอย่างเดียวสบายกว่า
อาจจะรวมถึงอีกสองรายสุดท้ายที่ช่วยต่อลมหายใจไว้เมื่อปีที่แล้วอย่าง "ต้อม ยุทธเลิศ" กับ "พจน์ อานนท์" ที่ปีนี้ก็มีหนังที่เตรียมจะฉายภายในปีนี้ ได้ชื่อ ได้ตัวแสดงแล้ว จะสงสัยก็เพียงว่า ตกลงเขาจะหอบเรื่องใหม่ให้พระนครฟิลม์ช่วยดูแลอีกหรือไม่
พระนครฟิลม์ในวันนี้ก็ดูเหมือนอยู่ในอาการยอบแยบ ผู้กำกับที่เคยสร้างชื่อพากันออกห่างหรือย้ายค่าย ไม่มีท่าทีชัดเจน ไม่เห็นใครเขียนข่าวบ้างเลย ทั้งที่บริษัทเปิดตัวมาได้เพียงสิบปี และเท่าที่สังเกตก็ยังไม่ทันปิดตัว
เรียกว่าตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมา จากบริษัทเล็กๆ ภายใต้การบริหารงานของคนที่มีประสบการณ์ด้านสายหนังเป็นอย่างดี พระนครฟิลม์เติบใหญ่จนถูกจัดเป็นค่ายหนังระดับแถวหน้า ถึงแม้ว่าผลงานส่วนใหญ่มักเอาใจชาวบ้าน แถมบางทีถูกสังคมระดับสติสูงบ่นว่าเป็นหนังไร้สาระ แต่ก็โดดเด่นเกินหน้าเกินตากว่าพวกค่ายเล็กกำลังต่ำ ขณะสิ่งที่ได้รับหลังการฉายนั้นต่างกัน หรือผ่านทั้งสุขและเซ็ง
วันนี้ เราคงได้เพียงรู้สึกว่ากำลังคิดถึงงานเก่าๆ ดีๆ จากค่ายนี้อยู่
ข่าวดีล่าสุด หนังเก่ากรุต่างๆ มากมายหลายเรื่องที่พระนครฟิลม์ฝากไว้ก็จับนำมาลงจอแก้ว "ช่อง 8" ในเครือของค่ายอาร์เอสเรียบร้อยแล้ว ในช่วงเวลาหนังไทยโปรแกรมทอง วันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งแต่เดิมฉายหนังของอาร์เอสมาตลอด ซ้ำไปวนมา คราวนี้ "อาร์เอส" ดึง "พระนครฟิลม์" เข้าร่วมเป็นพันธมิตร ทีนี้เลยเพิ่มหนังเด่นหนังดังอีกจำนวนหนึ่งให้หายเบื่อ
และเอามาให้แก้คิดถึง ระหว่างรอหรือยังไม่มีหนังเรื่องใหม่ออกมา ว่าอย่างนั้น
ก็ภาวนาว่าถ้าบริษัทยังอยู่ แม้จะมีผู้อื่นใดเข้ามายึดอันดับครองตลาดแทนที่ ก็คงจะมีหนังใหม่ๆ ออกมาให้ติดตามเรื่อยๆ ถึงจะปล่อยน้อยๆ คงจะช่วยได้นาน และผลงานต่อไปนั้นอาจจะดีกว่ายิ่งกว่าที่เคยทำเคยเป็น ตราบที่คนรักหนังยังสนับสนุน เชื่อมั่น ไว้ใจเสมอ
คิดถึงกันบ้างไหม.. สวัสดี