นกกระเต็นอกขาว (White-throated kingfisher) นกกระเต็นอกขาวเป็นนกในวงศ์นกกระเต็น หรือนกกินปลา (Alcedinidae) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Halcyon smyrnensis เป็นนกขนาดเล็ก ลำตัวยาวประมาณ 24 เซนติเมตร หัวใหญ่ คอสั้น ปากยาวใหญ่สีแดงสด ปลายปากแหลม ขาสั้นและไม่แข็งแรง ขนด้านหลังสีแดงและขนปีกสีฟ้าสด หัวด้านหลังคอและท้องสีน้ำตาลแดง ตัดกับคอด้านหน้าและอกซึ่งเป็นสีขาว
นกกระเต็นอกขาวมีแหล่งกระจายพันธุ์อยู่ในตะวันออกกลาง อินเดีย จีนตอนใต้ เกาะไหหลำ ไต้หวัน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฟิลิปปินส์ และหมู่เกาะอันดามัน
นกกระเต็นอกขาวเป็นนกประจำถิ่นที่พบได้ทั่วไปตามที่โล่งใกล้ แหล่งน้ำทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม เช่น ทุ่งโล่ง ป่าละเมาะ ป่าชายเลน และพื้นที่ เกษตรกรรม ตามสายไฟฟ้าสองฟากถนน และตามป่าโปร่ง เช่น ป่าเต็งรัง และป่าดิบแล้ง มักพบหากินเดี่ยวๆ หรือเป็นคู่ เกาะอยู่ตามสายไฟฟ้า กิ่งไม้ หรือตอไม้ ในลักษณะตัวตั้งเกือบตรงคอยจ้องจับแมลง และสัตว์ขนาดเล็ก เช่น ปลา กุ้ง กบ เขียด และสัตว์อื่นๆ เมื่อเห็นเหยื่อมันจะบินเข้าจับอย่าง รวดเร็ว แล้วนำกลับมากินยังที่เดิมหรือบริเวณใกล้เคียง ผสมพันธุ์ในช่วง ฤดูร้อนระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม ทั้งนกตัวผู้และนกตัวเมีย จะช่วยกันขุดดินริมฝั่งแม่น้ำที่สูงชัน เพื่อทำเป็นโพรงลึกเข้าไปประมาณ 40-50 เซนติเมตร ปากโพรงกว้าง 40-50 เซนติเมตร ด้านในสุดของโพรง จะกว้างที่สุด เพื่อใช้เป็นที่วางไข่ กกไข่ และให้ลูกนกเจริญเติบโต ทั้งพ่อนก และแม่นกจะช่วยกันกกไข่และเลี้ยงลูก วางไข่ครั้งละ 4-6 ฟอง ใช้เวลาฟักไข่ 19-21 วัน
ภาพวาดสีน้ำ พัลลภ อนุสนธิ์พรเพิ่ม
ข้อมูลดีดี จากอินเตอร์เน็ต
ขิงแดง
ข้อมูลดีดีจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ภาพวาดสีน้ำ พัลลภ อนุสนธิ์พรเพิ่ม
ขิงแดง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Alpinia purpurata (Vielle.) Schum.;อังกฤษ: Red Gingerหรือ Ostrich Plume และ Pink Cone Ginger)เป็นพืชพื้นเมืองของมาเลเซียที่มีดอกสวยงาม ส่วนที่เป็นมีสีสดใสเป็นกาบหุ้มช่อดอก ส่วนดอกจริงมีขนาดเล็กอยู่ข้างบน แบ่งเป็นสองสายพันธุ์คือ Jungle King และ Jungle Queen ขิงแดงสามารถพบได้ในฮาวาย เปอร์โตริโก และหลายประเทศในอเมริกากลาง รวมทั้งเบลิซ พบได้ในซามัวซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติของซามัว มีชื่อเรียกในท้องถิ่นว่า "teuila" นอกจากนั้น ยังพบในทางใต้ของฟลอริดา บริเวณที่ไม่มีหิมะปกคลุม ชอบอากาศที่มีร่มเงาและชุ่มชื้น ทนต่อแสงแดดจัดได้ แต่ไม่ชอบอากาศแล้ง สามารถปลูกเป็นไม้ในบ้านได้ และเป็นไม้ตัดดอกได้เช่นกัน
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Plantae ดิวิชั่น: Magnoliophyta ชั้น: Liliopsida อันดับ: Zingiberales
วงศ์: Zingiberaceae สกุล: Alpinia สปีชีส์: purpurata
ภาพวาดสีน้ำปักน้อย คู่ขวัญหมาปั๊ก Puggy ตูบหน้าบี้
ในปัจจุบัน คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักสุนัขสายพันธุ์ปั๊กเป็นแน่ เนื่องด้วยกระแสความนิยมในสุนัขสายพันธุ์นี้ที่เริ่มมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะด้วยอุปนิสัยน่ารักน่าเลี้ยงก็ดี หรือจะด้วยรูปร่างหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ มองอย่างไรก็ไม่เบื่อ ชวนให้หัวเราะแล้วอารมณ์ดีทุกคราที่มองปั๊กน้อย สิ่งเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นเหตุผลที่ทำให้คนไทยหันมาเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้มากขึ้นตามลำดับ ด้วยความร่าเริงที่ไม่เหมือนใคร หน้าตาแลดูฉงนปนทะเล้น และอารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลา ทำให้ปั๊กไม่เพียงแต่เป็นที่นิยมเลี้ยงในประเทศไทยเท่านั้น หากแต่ยังแพร่หลายมากขึ้นทั่วโลกอีกด้วย
มาตรฐานสายพันธุ์
ถิ่นกำเนิด ประเทศจีน
กลุ่ม Toy
หัว หัวกะโหลกมีลักษณะกลม ขนาดใหญ่ หนังบริเวณหน้าผากมีรอยย่นมาก
หู ขนาดเล็ก ใบหูค่อนข้างบาง มีหู 2 ชนิด คือหูตูบแบบบูลด็อก และหูพับแบบลูกกระดุม แต่จะนิยมหูพับมากกว่า
ตา ดวงตากลมโต สีเข้ม
ปากสั้น รูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส กรามล่างจะยื่นออก
จมูก สั้น สีด
ฟัน ขบกันแบบกรรไกร
ลำตัว สั้น หลังตรง ล่ำสัน และมีกล้ามเนื้อแข็งแรง
คอ สั้น โค้งเล็กน้อย
อก กว้าง
ขา ขาหน้าเหยียดตรง เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ความยาวปานกลาง เท้าไม่กลมเหมือนเท้าแมว เล็บสีดำ
หาง หางชี้ขึ้นด้านบน แต่ลักษณะม้วนเป็นวงจนติดบั้นเอว หากม้วนได้ 2 รอบ ถือว่าเป็นลักษณะที่สมบูรณ์
ขน สั้นละเอียดเป็นประกาย ไม่ปุกปุย
สี สีน้ำตาลแบบลูกวัว สีเงิน หรือสีดำ มีาร์คกิ้งสีดำที่หน้าและใบหู
ขนาด สูง 10-11 นิ้ว น้ำหนัก 6.5 - 8.2 กิโลกรัม
การเดิน และการวิ่ง คล่องแคล่ว ปราดเปรียว
ลักษณะที่ถือว่าบกพร่อง หัวกะโหลกเล็ก ช่วงปากยาว ตาเล็ก รอยย่นเห็นไม่ชัด
ช่วยชีวิตเฉลี่ย 12 - 14 ปี
ข้อมูลดีดีจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ภาพวาดสีน้ำ พัลลภ อนุสนธิ์พรเพิ่ม นางแบบ น้องสาคูล แมวทางเหนือ
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Animalia ไฟลัม: Chordata ชั้น: Mammalia อันดับ: Carnivora วงศ์: Felidae สกุล: Felis
สปีชีส์: F. catus ชื่อทวินาม Felis catus Linnaeus, 1758 ชื่อพ้อง Felis catus domestica (ชื่อพ้องผิด)Felis silvestris catus
แมว หรือ แมวบ้าน(ชื่อภาษาอังกฤษ:Cat, ภาษาญี่ปุ่น:neko,)(ชื่อวิทยาศาสตร์: Felis catus) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม อยู่ในตระกูล Felidae ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับสิงโตและเสือดาว ต้นตระกูลแมวมาจากเสือไซบีเรียน (Felis tigris altaica) ซึ่งมีช่วงลำตัวตั้งแต่จมูกถึงปลายหางยาวประมาณ 4 เมตร แมวที่เลี้ยงตามบ้าน จะมีรูปร่างขนาดเล็ก ขนาดลำตัวยาว ช่วงขาสั้นและจัดอยู่ในกลุ่มของประเภทสัตว์กินเนื้อเป็นอาหาร มีเขี้ยวและเล็บแหลมคมสามารถหดซ่อนเล็บได้เช่นเดียวกับเสือ สืบสายเลือดมาจากแมวป่าที่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งลักษณะบางอย่างของแมวยังคงพบเห็นได้ในแมวบ้านปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นแมวพันธุ์แท้หรือแมวพันทาง
แมวเริ่มเข้ามาเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของมนุษย์ตั้งแต่เมื่อประมาณ 9,500 ปีก่อน ซึ่งจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของแมวคือการทำมัมมี่แมวที่ค้นพบในสมัยอียิปต์โบราณ หรือในพิพิธภัณฑ์อังกฤษในกรุงลอนดอน มีการแสดงสมบัติที่นำออกมาจากปิรามิดโบราณแห่งอียิปต์ ซึ่งรวมถึงมัมมี่แมวหลายตัว ซึ่งเมื่อนำเอาผ้าพันมัมมี่ออกก็พบว่า แมวในสมัยโบราณทุกตัวมีลักษณะใกล้เคียงกัน คือเป็นแมวที่มีรูปร่างเล็ก ขนสั้นมีแต้มสีน้ำตาล มีความคล้ายคลึงกับพันธุ์ในปัจจุบัน ที่เรียกว่าแมวอะบิสสิเนียน
ภาพวาดจากสมุดวิชา พาราไซโตโลจิ วาดในวิชาเรียนแลป เพื่อใช้อ่านสอบ และให้สามารถบอกตำแหน่งส่วนประกอบพาราไซชนิดต่าง ๆ ได้
เป็นการผสานความรู้ทางการแพทย์ ผสมผสานการศึกษาเรียนรู้และทักษะการวาดภาพ ผมมีความเชื่อว่าถ้าวาดภาพได้ ก็น่าจะตอบคำถามสิ่งที่เรียนรู้ได้ง่ายขึ้น ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านที่มอบความรู้ อบรมสั่งสอนครับ วิชานี้วาดครบทุกตัวครับ และอาจเอาสมุดฮิตโตโลจิ เอมปริโอ มาให้ชมกันครับ
ภาพวาดวิชาการพร้อมความรู้ดีดี ทางวิชาการ
นกกระเต็นอกขาว (White-throated kingfisher) นกกระเต็นอกขาวเป็นนกในวงศ์นกกระเต็น หรือนกกินปลา (Alcedinidae) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Halcyon smyrnensis เป็นนกขนาดเล็ก ลำตัวยาวประมาณ 24 เซนติเมตร หัวใหญ่ คอสั้น ปากยาวใหญ่สีแดงสด ปลายปากแหลม ขาสั้นและไม่แข็งแรง ขนด้านหลังสีแดงและขนปีกสีฟ้าสด หัวด้านหลังคอและท้องสีน้ำตาลแดง ตัดกับคอด้านหน้าและอกซึ่งเป็นสีขาว
นกกระเต็นอกขาวมีแหล่งกระจายพันธุ์อยู่ในตะวันออกกลาง อินเดีย จีนตอนใต้ เกาะไหหลำ ไต้หวัน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฟิลิปปินส์ และหมู่เกาะอันดามัน
นกกระเต็นอกขาวเป็นนกประจำถิ่นที่พบได้ทั่วไปตามที่โล่งใกล้ แหล่งน้ำทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม เช่น ทุ่งโล่ง ป่าละเมาะ ป่าชายเลน และพื้นที่ เกษตรกรรม ตามสายไฟฟ้าสองฟากถนน และตามป่าโปร่ง เช่น ป่าเต็งรัง และป่าดิบแล้ง มักพบหากินเดี่ยวๆ หรือเป็นคู่ เกาะอยู่ตามสายไฟฟ้า กิ่งไม้ หรือตอไม้ ในลักษณะตัวตั้งเกือบตรงคอยจ้องจับแมลง และสัตว์ขนาดเล็ก เช่น ปลา กุ้ง กบ เขียด และสัตว์อื่นๆ เมื่อเห็นเหยื่อมันจะบินเข้าจับอย่าง รวดเร็ว แล้วนำกลับมากินยังที่เดิมหรือบริเวณใกล้เคียง ผสมพันธุ์ในช่วง ฤดูร้อนระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม ทั้งนกตัวผู้และนกตัวเมีย จะช่วยกันขุดดินริมฝั่งแม่น้ำที่สูงชัน เพื่อทำเป็นโพรงลึกเข้าไปประมาณ 40-50 เซนติเมตร ปากโพรงกว้าง 40-50 เซนติเมตร ด้านในสุดของโพรง จะกว้างที่สุด เพื่อใช้เป็นที่วางไข่ กกไข่ และให้ลูกนกเจริญเติบโต ทั้งพ่อนก และแม่นกจะช่วยกันกกไข่และเลี้ยงลูก วางไข่ครั้งละ 4-6 ฟอง ใช้เวลาฟักไข่ 19-21 วัน
ภาพวาดสีน้ำ พัลลภ อนุสนธิ์พรเพิ่ม
ข้อมูลดีดี จากอินเตอร์เน็ต
ขิงแดง
ข้อมูลดีดีจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ภาพวาดสีน้ำ พัลลภ อนุสนธิ์พรเพิ่ม
ขิงแดง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Alpinia purpurata (Vielle.) Schum.;อังกฤษ: Red Gingerหรือ Ostrich Plume และ Pink Cone Ginger)เป็นพืชพื้นเมืองของมาเลเซียที่มีดอกสวยงาม ส่วนที่เป็นมีสีสดใสเป็นกาบหุ้มช่อดอก ส่วนดอกจริงมีขนาดเล็กอยู่ข้างบน แบ่งเป็นสองสายพันธุ์คือ Jungle King และ Jungle Queen ขิงแดงสามารถพบได้ในฮาวาย เปอร์โตริโก และหลายประเทศในอเมริกากลาง รวมทั้งเบลิซ พบได้ในซามัวซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติของซามัว มีชื่อเรียกในท้องถิ่นว่า "teuila" นอกจากนั้น ยังพบในทางใต้ของฟลอริดา บริเวณที่ไม่มีหิมะปกคลุม ชอบอากาศที่มีร่มเงาและชุ่มชื้น ทนต่อแสงแดดจัดได้ แต่ไม่ชอบอากาศแล้ง สามารถปลูกเป็นไม้ในบ้านได้ และเป็นไม้ตัดดอกได้เช่นกัน
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Plantae ดิวิชั่น: Magnoliophyta ชั้น: Liliopsida อันดับ: Zingiberales
วงศ์: Zingiberaceae สกุล: Alpinia สปีชีส์: purpurata
ภาพวาดสีน้ำปักน้อย คู่ขวัญหมาปั๊ก Puggy ตูบหน้าบี้
ในปัจจุบัน คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักสุนัขสายพันธุ์ปั๊กเป็นแน่ เนื่องด้วยกระแสความนิยมในสุนัขสายพันธุ์นี้ที่เริ่มมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะด้วยอุปนิสัยน่ารักน่าเลี้ยงก็ดี หรือจะด้วยรูปร่างหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ มองอย่างไรก็ไม่เบื่อ ชวนให้หัวเราะแล้วอารมณ์ดีทุกคราที่มองปั๊กน้อย สิ่งเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นเหตุผลที่ทำให้คนไทยหันมาเลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้มากขึ้นตามลำดับ ด้วยความร่าเริงที่ไม่เหมือนใคร หน้าตาแลดูฉงนปนทะเล้น และอารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลา ทำให้ปั๊กไม่เพียงแต่เป็นที่นิยมเลี้ยงในประเทศไทยเท่านั้น หากแต่ยังแพร่หลายมากขึ้นทั่วโลกอีกด้วย
มาตรฐานสายพันธุ์
ถิ่นกำเนิด ประเทศจีน
กลุ่ม Toy
หัว หัวกะโหลกมีลักษณะกลม ขนาดใหญ่ หนังบริเวณหน้าผากมีรอยย่นมาก
หู ขนาดเล็ก ใบหูค่อนข้างบาง มีหู 2 ชนิด คือหูตูบแบบบูลด็อก และหูพับแบบลูกกระดุม แต่จะนิยมหูพับมากกว่า
ตา ดวงตากลมโต สีเข้ม
ปากสั้น รูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส กรามล่างจะยื่นออก
จมูก สั้น สีด
ฟัน ขบกันแบบกรรไกร
ลำตัว สั้น หลังตรง ล่ำสัน และมีกล้ามเนื้อแข็งแรง
คอ สั้น โค้งเล็กน้อย
อก กว้าง
ขา ขาหน้าเหยียดตรง เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ความยาวปานกลาง เท้าไม่กลมเหมือนเท้าแมว เล็บสีดำ
หาง หางชี้ขึ้นด้านบน แต่ลักษณะม้วนเป็นวงจนติดบั้นเอว หากม้วนได้ 2 รอบ ถือว่าเป็นลักษณะที่สมบูรณ์
ขน สั้นละเอียดเป็นประกาย ไม่ปุกปุย
สี สีน้ำตาลแบบลูกวัว สีเงิน หรือสีดำ มีาร์คกิ้งสีดำที่หน้าและใบหู
ขนาด สูง 10-11 นิ้ว น้ำหนัก 6.5 - 8.2 กิโลกรัม
การเดิน และการวิ่ง คล่องแคล่ว ปราดเปรียว
ลักษณะที่ถือว่าบกพร่อง หัวกะโหลกเล็ก ช่วงปากยาว ตาเล็ก รอยย่นเห็นไม่ชัด
ช่วยชีวิตเฉลี่ย 12 - 14 ปี
ข้อมูลดีดีจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ภาพวาดสีน้ำ พัลลภ อนุสนธิ์พรเพิ่ม นางแบบ น้องสาคูล แมวทางเหนือ
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Animalia ไฟลัม: Chordata ชั้น: Mammalia อันดับ: Carnivora วงศ์: Felidae สกุล: Felis
สปีชีส์: F. catus ชื่อทวินาม Felis catus Linnaeus, 1758 ชื่อพ้อง Felis catus domestica (ชื่อพ้องผิด)Felis silvestris catus
แมว หรือ แมวบ้าน(ชื่อภาษาอังกฤษ:Cat, ภาษาญี่ปุ่น:neko,)(ชื่อวิทยาศาสตร์: Felis catus) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม อยู่ในตระกูล Felidae ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับสิงโตและเสือดาว ต้นตระกูลแมวมาจากเสือไซบีเรียน (Felis tigris altaica) ซึ่งมีช่วงลำตัวตั้งแต่จมูกถึงปลายหางยาวประมาณ 4 เมตร แมวที่เลี้ยงตามบ้าน จะมีรูปร่างขนาดเล็ก ขนาดลำตัวยาว ช่วงขาสั้นและจัดอยู่ในกลุ่มของประเภทสัตว์กินเนื้อเป็นอาหาร มีเขี้ยวและเล็บแหลมคมสามารถหดซ่อนเล็บได้เช่นเดียวกับเสือ สืบสายเลือดมาจากแมวป่าที่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งลักษณะบางอย่างของแมวยังคงพบเห็นได้ในแมวบ้านปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นแมวพันธุ์แท้หรือแมวพันทาง
แมวเริ่มเข้ามาเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของมนุษย์ตั้งแต่เมื่อประมาณ 9,500 ปีก่อน ซึ่งจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของแมวคือการทำมัมมี่แมวที่ค้นพบในสมัยอียิปต์โบราณ หรือในพิพิธภัณฑ์อังกฤษในกรุงลอนดอน มีการแสดงสมบัติที่นำออกมาจากปิรามิดโบราณแห่งอียิปต์ ซึ่งรวมถึงมัมมี่แมวหลายตัว ซึ่งเมื่อนำเอาผ้าพันมัมมี่ออกก็พบว่า แมวในสมัยโบราณทุกตัวมีลักษณะใกล้เคียงกัน คือเป็นแมวที่มีรูปร่างเล็ก ขนสั้นมีแต้มสีน้ำตาล มีความคล้ายคลึงกับพันธุ์ในปัจจุบัน ที่เรียกว่าแมวอะบิสสิเนียน
ภาพวาดจากสมุดวิชา พาราไซโตโลจิ วาดในวิชาเรียนแลป เพื่อใช้อ่านสอบ และให้สามารถบอกตำแหน่งส่วนประกอบพาราไซชนิดต่าง ๆ ได้
เป็นการผสานความรู้ทางการแพทย์ ผสมผสานการศึกษาเรียนรู้และทักษะการวาดภาพ ผมมีความเชื่อว่าถ้าวาดภาพได้ ก็น่าจะตอบคำถามสิ่งที่เรียนรู้ได้ง่ายขึ้น ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านที่มอบความรู้ อบรมสั่งสอนครับ วิชานี้วาดครบทุกตัวครับ และอาจเอาสมุดฮิตโตโลจิ เอมปริโอ มาให้ชมกันครับ