เช้านี้ได้รับข่าวที่สะเทือนใจทั้ง 2 ข่าว และน้ำอยากนำมาเล่าต่อเป็นอุทาหรณ์ให้ทุกๆ ครอบครัว และทุกๆท่าน ได้พึงระวังการใช้ชีวิต เพราะความตายเปรียบเหมือนเงาตามตัว เมื่อถึงจังหวะและเวลาอันสมควร ความตายก็พร้อมจะพรากชีวิตของเราและคนที่เรารักไปทุกเวลาค่ะ
.......................................................................

ผู้หญิงที่โชคร้าย คนแรก

เธอเป็นพี่ที่เคยร่วมงานในบริษัทเดียวกันกับน้ำ ลาออกไปได้สักระยะนึงแล้วค่ะ เช้านี้น้ำได้รับข่าวว่า เธอสูญเสียหัวหน้าครอบครัว สามีของเธอไปแล้วอย่างกระทันหัน ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ ไม่ได้เกิดจากความเจ็บป่วย แต่เป็นความโชคร้ายที่ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวที่อบอุ่นครอบครัวนี้เลย

สามีพี่เขาออกไปช่วยพ่อตารับงานนอก พวกเดินสายไฟ และงานช่าง เมื่อเหนื่อยมากๆก็เข้าไปนอนในรถ ด้วยการติดเครื่องยนต์ไว้ ปิดกระจกและเปิดแอร์ แต่เคราะห์ร้าย เครื่องยนต์ดับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ ทำให้ขาดอากาศหายใจ และสามีพี่เขาเสียชีวิตในที่สุด ด้วยวัยที่ไม่ถึง 40 ปี ไม่ได้ร่ำลาครอบครัวและคนที่รัก ไม่มีโอกาสได้อยู่กับภรรยา หรือแม้แต่ดูแลลูกๆ ทั้งสองอีกต่อไป

เศร้านะคะ พี่เขาคงช็อคมาก ขนาดน้ำเองเป็นคนนอกที่แค่รับฟังเรื่องราว ยังสะเทือนใจ และเสียใจไปกับพี่เขาเลย พี่เขาบอกว่าไม่มีลางสังหรณ์ไม่มีลางบอกเหตุใดๆ ทั้งนั้น มันกระทันหันจริงๆค่ะ

น้ำก็ขอให้สามีพี่เขาไปสู่สุขคติ ขอให้พี่เขาเข้มแข็ง มีแรงใจต่อสู้เพื่อลูกๆของเขาอีกสองคน วันนี้ไร้หัวหน้าครอบครัว พี่เขาต้องขึ้นเป็นหัวหน้าครอบครัว รับหน้าที่ ซิงเกิ้ลมัม แม้จะทำใจได้ยากสักหน่อย แต่เชื่อค่ะว่าเวลาและกำลังใจจากทุกคนรอบข้าง จะช่วยให้พี่เขาผ่านเวลาเลวร้ายตรงนั้นมาได้

เรื่องของผู้หญิงที่โชคร้ายคนที่ 2 อยู่ในความเห็นที่ 3 นะคะ

...................................................................................................