วันนี้ไปพบและสนทนากับพระคุณเจ้าที่คุ้นเคยกันรูปหนึ่ง ซึ่งท่านเคยฝากข้อเขียนมาลงที่พันทิปห้องศาสนา (เวอร์ชั่นเก่า) อยู่บางครั้ง ชื่อท่านภิกขุวีรวังสะ
คุยกันไปกันมา ช่วงหนึ่ง ท่านก็บ่นทำนองตัดพ้อว่า "สงสัยอาตมาคงต้องไปเรียนวิชาหมอดูบ้างเสียแล้ว"
ผมฟังแล้วก็รู้สึกแปลกใจ เพราะท่านเป็นผู้ที่ไม่ชอบศาสตร์ที่ไม่ใช่หลักพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก และเป็นพระนักศึกษาพระไตรปิฎก ยึดหลักหลักพระธรรมวินัยมาโดยตลอด (หลัง ๆ นี่ เห็นว่าไม่ขอรับถวายเงินปัจจัยที่โยมมาถวายสังฆทาน โดยให้ญาติโยมนำเอาปัจจัยนั้นไปหยอดตู้บริจาคของวัดแทนเพื่อเป็นส่วนกลางของสงฆ์)
ผมก็เลยถามท่านว่า "พระคุณเจ้าเป็นอะไรไปแล้วหรือถึงมีความคิดแบบนี้"
ท่านเล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ท่านศึกษาพระไตรปิฎก และตั้งใจจะให้ธรรมเป็นหลัก ยืนยันสิ่งที่ถูกต้องมาเป็นเวลาหลายปี แต่ญาติโยมก็ไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าใดนัก แต่ในวัดมีพระที่เป็นหมอดูอยู่รูปหนึ่ง มีญาติโยมมาหาทุกวันตั้งแต่เช้ายันเย็น และล่าสุดนี่ เห็นว่ามีญาติโยมผู้ศรัทธา ได้นิมนต์พระรูปดังกล่าว ไปสังเวชนียสถานที่อินเดียด้วย
ท่านบ่นให้ผมฟังว่า ตัวท่านเองมีความปรารถนาจะไปสังเวชนียสถานสี่มานานแล้ว แต่ก็ไม่มีโอกาสเพราะไม่มีกำลังจะไปได้ อยากจะไปกราบพระบาทพระศาสดาสักครั้งก็ไม่มีโอกาส แต่พระภิกษุอีกรูปหนึ่งซึ่งประพฤติไม่ถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัย กลับมีโอกาสเช่นนั้น
ท่านก็เลยบ่นว่า "อาตมาคิดว่า สงสัยญาติโยมคงไม่สนใจธรรมะที่สู้อุตส่าศึกษามาเพื่อเผยแผ่แก่คนทั่วไป คงสนใจในการดูหมอเป็นหลัก ส่วนพระอย่างอาตมาคงเป็นเพียงหัวหลักหัวตอเฝ้าวัดเท่านั้นกระมัง"
แล้วท่านก็สรุปว่า "สงสัยอาตมาเองก็คงต้องไปเรียนวิชาหมอดูบ้างเสียแล้ว"
ผมได้บอกพระคุณเจ้าท่านไปว่า
"พระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้านั้นไม่ได้ศึกษาไปเพื่อลาภสักการะ หรือเพื่อให้คนศรัทธา หรือเพื่อให้ได้โน่นได้นี่แต่อย่างใด หลวงพี่มั่นคงในพระธรรมวินัย ก็เป็นการดีอยู่แล้ว ทำไมจะต้องไปคิดอย่างนั้นด้วยเล่า แบบนั้นต่อไปจะมีพระที่ไหนคอยศึกษาธรรม ให้ธรรมะแก่ประชาชนเล่า ถ้ามามัวท้อแท้ง่าย ๆ อย่างนี้"
ก็เลยอยากถามเพื่อนสมาชิกว่า ถ้าคุณเป็นผม แล้วมีพระคุณเจ้าบ่นให้ฟังอย่างนี้ จะบอกกับท่านว่าอย่างไรครับ?
เมื่อพระคุณเจ้ารูปหนึ่งบ่นกับผมว่า "อาตมาคงต้องไปเรียนวิชาหมอดูบ้างเสียแล้ว"
คุยกันไปกันมา ช่วงหนึ่ง ท่านก็บ่นทำนองตัดพ้อว่า "สงสัยอาตมาคงต้องไปเรียนวิชาหมอดูบ้างเสียแล้ว"
ผมฟังแล้วก็รู้สึกแปลกใจ เพราะท่านเป็นผู้ที่ไม่ชอบศาสตร์ที่ไม่ใช่หลักพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก และเป็นพระนักศึกษาพระไตรปิฎก ยึดหลักหลักพระธรรมวินัยมาโดยตลอด (หลัง ๆ นี่ เห็นว่าไม่ขอรับถวายเงินปัจจัยที่โยมมาถวายสังฆทาน โดยให้ญาติโยมนำเอาปัจจัยนั้นไปหยอดตู้บริจาคของวัดแทนเพื่อเป็นส่วนกลางของสงฆ์)
ผมก็เลยถามท่านว่า "พระคุณเจ้าเป็นอะไรไปแล้วหรือถึงมีความคิดแบบนี้"
ท่านเล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ท่านศึกษาพระไตรปิฎก และตั้งใจจะให้ธรรมเป็นหลัก ยืนยันสิ่งที่ถูกต้องมาเป็นเวลาหลายปี แต่ญาติโยมก็ไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าใดนัก แต่ในวัดมีพระที่เป็นหมอดูอยู่รูปหนึ่ง มีญาติโยมมาหาทุกวันตั้งแต่เช้ายันเย็น และล่าสุดนี่ เห็นว่ามีญาติโยมผู้ศรัทธา ได้นิมนต์พระรูปดังกล่าว ไปสังเวชนียสถานที่อินเดียด้วย
ท่านบ่นให้ผมฟังว่า ตัวท่านเองมีความปรารถนาจะไปสังเวชนียสถานสี่มานานแล้ว แต่ก็ไม่มีโอกาสเพราะไม่มีกำลังจะไปได้ อยากจะไปกราบพระบาทพระศาสดาสักครั้งก็ไม่มีโอกาส แต่พระภิกษุอีกรูปหนึ่งซึ่งประพฤติไม่ถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัย กลับมีโอกาสเช่นนั้น
ท่านก็เลยบ่นว่า "อาตมาคิดว่า สงสัยญาติโยมคงไม่สนใจธรรมะที่สู้อุตส่าศึกษามาเพื่อเผยแผ่แก่คนทั่วไป คงสนใจในการดูหมอเป็นหลัก ส่วนพระอย่างอาตมาคงเป็นเพียงหัวหลักหัวตอเฝ้าวัดเท่านั้นกระมัง"
แล้วท่านก็สรุปว่า "สงสัยอาตมาเองก็คงต้องไปเรียนวิชาหมอดูบ้างเสียแล้ว"
ผมได้บอกพระคุณเจ้าท่านไปว่า
"พระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้านั้นไม่ได้ศึกษาไปเพื่อลาภสักการะ หรือเพื่อให้คนศรัทธา หรือเพื่อให้ได้โน่นได้นี่แต่อย่างใด หลวงพี่มั่นคงในพระธรรมวินัย ก็เป็นการดีอยู่แล้ว ทำไมจะต้องไปคิดอย่างนั้นด้วยเล่า แบบนั้นต่อไปจะมีพระที่ไหนคอยศึกษาธรรม ให้ธรรมะแก่ประชาชนเล่า ถ้ามามัวท้อแท้ง่าย ๆ อย่างนี้"
ก็เลยอยากถามเพื่อนสมาชิกว่า ถ้าคุณเป็นผม แล้วมีพระคุณเจ้าบ่นให้ฟังอย่างนี้ จะบอกกับท่านว่าอย่างไรครับ?