นายสกล วรรณพงษ์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์เปิดเผยว่า กีฬาอาชีพ 13 กีฬาที่ กกท. ให้การสนับสนุนอยู่ ได้แก่ ฟุตบอล, แบดมินตัน, สนุ้กเกอร์, โบว์ลิ่ง, กีฬาแข่งรถยนต์, กอล์ฟ, กีฬาแข่งรถจักรยานยนต์, ตะกร้อ, เทนนิส, วอลเลย์บอล, เทเบิลเทนนิส, มวยไทย รวมถึง บาสเกตบอลที่เข้ามาใหม่นั้น ทางกกท.ได้ประเมินผลงานของทุกๆ กีฬาว่าสามารถเลี้ยงตัวเองในฐานะกีฬาอาชีพได้หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นเงินรางวัล, เงินอุดหนุนทีมที่เข้าแข่งขัน, เงินที่จะใช้ในการแข่งขัน, การสร้างรายได้, การหาสปอนเซอร์เข้ามาสนับสนุน, การสร้างแฟนคลับ, การพัฒนาสถานที่แข่งขัน และได้ข้อสรุปว่าจะตัดแบดมิน ตัน, เทเบิลเทนนิส, โบว์ลิ่ง ออกจากการเป็นกีฬาอาชีพที่กกท.จะให้งบสนับสนุนในปี 2556



"การตัดออกไปนั้นไม่ได้เป็นการตัดขาด แต่จะตัดในส่วนเซอร์กิตภายในประเทศที่ไม่สามารถเป็นอาชีพได้ เพราะที่ผ่านมาเป็นการจัดกันเองดูกันเอง ไม่สื่อถึงความเป็นกีฬาอาชีพ เหมือนเป็นการแข่งขันรายการชิงแชมป์ประเทศไทยปีละ 7-8 รายการ ซึ่งไปทับซ้อนกับงบประมาณของฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ อย่างไรก็ตาม งบประมาณในส่วนนี้กว่า 10 ล้านบาท ก็จะนำไปเสริมการส่งแข่งขันในต่างประเทศ หรือส่งเสริมการจัดการแข่งขันระดับนานาชาติภายในประเทศไทยทดแทน



ขณะเดียวกัน นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการ กกท. เป็นประธานในการแถลงข่าวและลงนามสัญญาการให้บริการรักษาพยาบาลเป็นเงินเชื่อระหว่าง กกท.และคลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา ที่อาคารบวรเวชรักษ์ ชั้น 4 คลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา โดยผู้ว่าการ กกท.เผยว่า การลงนามสัญญาในครั้งนี้ กกท.ได้ประสานงานกับคลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา ซึ่งเป็นคลินิกขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมในด้านการวินิจฉัยโรค การรักษาผู้ป่วยทั่วไป และเฉพาะโรค โดยในแต่ละปีมีพนักงาน กกท. และบุคคลในครอบครัวไปใช้บริการค่อนข้างมาก ซึ่งกกท.เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลระหว่างหน่วยงานกับคลินิก จึงถือเป็นโครงการลดขั้นตอนการเบิกจ่ายของพนักงาน

ที่มา จาก เดลินิวส์