"พงศพัศ" หอบเอกสารแจง กกต.เคลียร์ปม "ลักทรัพย์-เปลี่ยนชื่อ" ยันบริสุทธิ์ โอดถูกให้ร้ายมาเป็นสิบๆ ปี
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 16 มกราคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชกากรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้เข้ายื่นเอกสารเกี่ยวกับผลการสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กรณีเคยถูกกล่าวหาว่าต้องคดีขโมยวิทยุ ที่สหรัฐอเมริกา และเอกสารเกี่ยวกับการได้รับพระราชทานยศ พล.ต.ต.รวมทั้งเอกสารการเปลี่ยนชื่อจาก “ไพรัช” เป็น “พงศพัศ” ต่อ พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า กรณีที่เป็นข่าวว่าตนมีปัญหาในเรื่องของคุณสมบัติการลงสมัครจาก 2 ประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นความเข้าใจที่คาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง โดยในเรื่องที่กล่าวหาว่าเคยต้องคดีขโมยวิทยุนั้น ข้อเท็จจริงมีการกล่าวหาเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 2541 และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนจนแล้วเสร็จในปี 2543 โดยสั่งให้ยุติเรื่องทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2543 ซึ่งผลสรุปว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนที่กล่าวหาว่าเปลี่ยนชื่อเพื่อขอรับพระราชทานยศ พล.ต.ต.นั้น ตนติดยศ พ.ต.อ.ตั้งแต่ปี 2538 ในชื่อ พ.ต.อ.ไพรัช พงษ์เจริญ และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง พล.ต.ต. ในปี 2540 ซึ่งก็ยังใช้ชื่อเดิมอยู่ จนปี 2541 เห็นว่าเรื่องร้ายที่เจอได้ผ่านพ้นไปแล้วภรรยาจึงได้ขอให้เปลี่ยนชื่อ จึงเปลี่ยนมาเป็นชื่อ พงศพัศ ดังนั้นที่กล่าวหาว่าเปลี่ยนชื่อเพื่อขอรับพระราชทานยศพล.ต.ต. จึงไม่เป็นความจริง
"ผมถูกให้ร้ายมานับสิบๆ ปี แต่ก็ไม่เคยคิดอะไรมาก ถือว่าให้มันผ่านๆ ไปแต่เผอิญขณะนี้มีการเลือกตั้ง ฝ่ายกฎหมายของพรรคก็พิจารณาอยู่ว่ามีจุดอยู่บ้างที่เป็นปัญหา ผมก็ขอว่าไม่ให้พิจารณาเรื่องนี้เพราะจะนำมาให้กับ กกต.เอง เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะเป็นห่วงสื่อมวลชน และน้องๆ ที่ไปโพสต์ข้อความในโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าอาจจะถูกดำเนินคดีได้ เพราะมาตรา 57 ของพ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น ใช้คำว่าห้าม “ผู้ใด” กระทำการใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จ อีกทั้งขณะนี้มีประกาศให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.แล้วเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา จึงไม่อยากให้ทุกคนมีความผิด" พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าว
พล.ต.อ.พงศ์พัศ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวไม่มีเจตนาที่จะไปฟ้องร้องใคร เพราะคิดว่าเรื่องผ่านไปนานแล้ว และไม่มีมูล อีกทั้งแนวนโยบายการหาเสียงก็เป็นเชิงบวก ไม่อยากใส่ร้ายใคร แต่หลังจากนี้หากมีผู้นำเรื่องนี้มาพุด หรือเขียนถึง ก็จะรวบรวมไว้ เพราะพรรคก็ถือว่ามีส่วนเสียหาย
ด้าน พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ กล่าวว่า หลังปิดรับสมัครแล้วทางกกต.ท้องถิ่นประจำกรุงเทพมหานครก็จะทำการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครให้แล้วเสร็จภายใน 7 วันดังนั้นไม่เกินวันที่ 31 ม.ค. ปลัดกรุงเทพมหานครในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งท้องถิ่นประจำกรุงเทพมหานครก็จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้นขออย่าได้กังวล เพราะจะเป็นการตรวจสอบคุณสมบัติทั่วๆ ไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีผู้นำเรื่องดังกล่าวขึ้นมากล่าวหา พล.ต.อ.พงศ์พัศอีก จะถือเป็นความผิดตามมาตรา 57 ของพ.ร.บ.เลือกตั้งแล้วใช่หรือไม่ พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ กล่าวว่า ถือว่าผิดแล้วเพราะขณะนี้มีประกาศให้มีการเลือกตั้งแล้ว แม้ขณะนี้จะยังไม่มีการเปิดรับสมัครแต่พล.ต.อ.พงศ์พัศ ก็ได้เปิดตัวแล้ว อีกทั้งมีผลสอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ยุติเรื่องนี้
ที่มา : มติชน สื่อที่พวกสลิ่มไม่ค่อยจะอยากอ่าน
************************
จะว่ายังไงต่อ จะยังกินขรี้อี้นอน เอามาพูดซ้ำซากๆ หรือจะมามุข "แม้วซื้อกกตไว้แล้ว" ก็เชิญนะครับ
สลิ่มครับ พงศพัศ เขาออกมาชี้แจงเรื่องเปลี่ยนชื่อแล้วนะครับ
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 16 มกราคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชกากรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้เข้ายื่นเอกสารเกี่ยวกับผลการสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กรณีเคยถูกกล่าวหาว่าต้องคดีขโมยวิทยุ ที่สหรัฐอเมริกา และเอกสารเกี่ยวกับการได้รับพระราชทานยศ พล.ต.ต.รวมทั้งเอกสารการเปลี่ยนชื่อจาก “ไพรัช” เป็น “พงศพัศ” ต่อ พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า กรณีที่เป็นข่าวว่าตนมีปัญหาในเรื่องของคุณสมบัติการลงสมัครจาก 2 ประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นความเข้าใจที่คาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง โดยในเรื่องที่กล่าวหาว่าเคยต้องคดีขโมยวิทยุนั้น ข้อเท็จจริงมีการกล่าวหาเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 2541 และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนจนแล้วเสร็จในปี 2543 โดยสั่งให้ยุติเรื่องทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2543 ซึ่งผลสรุปว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนที่กล่าวหาว่าเปลี่ยนชื่อเพื่อขอรับพระราชทานยศ พล.ต.ต.นั้น ตนติดยศ พ.ต.อ.ตั้งแต่ปี 2538 ในชื่อ พ.ต.อ.ไพรัช พงษ์เจริญ และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง พล.ต.ต. ในปี 2540 ซึ่งก็ยังใช้ชื่อเดิมอยู่ จนปี 2541 เห็นว่าเรื่องร้ายที่เจอได้ผ่านพ้นไปแล้วภรรยาจึงได้ขอให้เปลี่ยนชื่อ จึงเปลี่ยนมาเป็นชื่อ พงศพัศ ดังนั้นที่กล่าวหาว่าเปลี่ยนชื่อเพื่อขอรับพระราชทานยศพล.ต.ต. จึงไม่เป็นความจริง
"ผมถูกให้ร้ายมานับสิบๆ ปี แต่ก็ไม่เคยคิดอะไรมาก ถือว่าให้มันผ่านๆ ไปแต่เผอิญขณะนี้มีการเลือกตั้ง ฝ่ายกฎหมายของพรรคก็พิจารณาอยู่ว่ามีจุดอยู่บ้างที่เป็นปัญหา ผมก็ขอว่าไม่ให้พิจารณาเรื่องนี้เพราะจะนำมาให้กับ กกต.เอง เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะเป็นห่วงสื่อมวลชน และน้องๆ ที่ไปโพสต์ข้อความในโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าอาจจะถูกดำเนินคดีได้ เพราะมาตรา 57 ของพ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น ใช้คำว่าห้าม “ผู้ใด” กระทำการใส่ร้ายด้วยข้อความอันเป็นเท็จ อีกทั้งขณะนี้มีประกาศให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.แล้วเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา จึงไม่อยากให้ทุกคนมีความผิด" พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าว
พล.ต.อ.พงศ์พัศ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวไม่มีเจตนาที่จะไปฟ้องร้องใคร เพราะคิดว่าเรื่องผ่านไปนานแล้ว และไม่มีมูล อีกทั้งแนวนโยบายการหาเสียงก็เป็นเชิงบวก ไม่อยากใส่ร้ายใคร แต่หลังจากนี้หากมีผู้นำเรื่องนี้มาพุด หรือเขียนถึง ก็จะรวบรวมไว้ เพราะพรรคก็ถือว่ามีส่วนเสียหาย
ด้าน พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ กล่าวว่า หลังปิดรับสมัครแล้วทางกกต.ท้องถิ่นประจำกรุงเทพมหานครก็จะทำการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครให้แล้วเสร็จภายใน 7 วันดังนั้นไม่เกินวันที่ 31 ม.ค. ปลัดกรุงเทพมหานครในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งท้องถิ่นประจำกรุงเทพมหานครก็จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้นขออย่าได้กังวล เพราะจะเป็นการตรวจสอบคุณสมบัติทั่วๆ ไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีผู้นำเรื่องดังกล่าวขึ้นมากล่าวหา พล.ต.อ.พงศ์พัศอีก จะถือเป็นความผิดตามมาตรา 57 ของพ.ร.บ.เลือกตั้งแล้วใช่หรือไม่ พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ กล่าวว่า ถือว่าผิดแล้วเพราะขณะนี้มีประกาศให้มีการเลือกตั้งแล้ว แม้ขณะนี้จะยังไม่มีการเปิดรับสมัครแต่พล.ต.อ.พงศ์พัศ ก็ได้เปิดตัวแล้ว อีกทั้งมีผลสอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ยุติเรื่องนี้
ที่มา : มติชน สื่อที่พวกสลิ่มไม่ค่อยจะอยากอ่าน
************************
จะว่ายังไงต่อ จะยังกินขรี้อี้นอน เอามาพูดซ้ำซากๆ หรือจะมามุข "แม้วซื้อกกตไว้แล้ว" ก็เชิญนะครับ