ประสบการณ์หฤโหดในการสอบใบขับขี่ที่อเมริกา ตอนสอง

ต่อจากตอนที่แล้ว
“ เอ ดี……เค….. (ตัวไรฟะ พยายามหรี่ตามอง)…….”
“ทำมายคูนต้องหรี่ตาคะ”
“เอิ่ม จริงๆแล้ว ชั้นสั้นอยู่นิหน่อยนะค่ะ แต่ชั้นมองข้อสอบออกนะคะ”
“เอ่อ เสียใจด้วยหน่าก๊ะ คุณต้องกลับปายเอาแว่นของคูนมา เพราะนี่ถือเปนการสอบอย่างหนึ่งงง”
โอ้ว โนวววว….ด้วยความสะเพร่าของตัวเองเลยต้องกลับไปเอาแว่นแล้วรอคิวใหม่ สุดท้ายก้อผ่านเจ๊แกมาได้ เสียเวล่ำเวลาซะจริงเชียว

นั่งรอสักพักเค้าก็เรียกไปสอบ เป็นการยืนสอบแบบตู้จิ้มๆ photohunt อ่ะแหละ จะมีข้อสอบแบ่งเป็น 2 part, partแรก สอบเกี่ยวกับเครื่องหมายสัญสักษณ์ มี10ข้อ ใน part นี้ห้าม!!ผิดแม้แต่ข้อเดียว ไม่เช่นนั้นคุณจะตกรอบทันที ไม่มีสิทธิ์ในการสอบ part ต่อไปด้วย…..ไอ่เราก็ยืนทำข้อสอบแบบตุ๊มๆต่อมๆโอ้ยใจเต้น (นึกเพลงของ girly berry อยู่ในใจ) ข้อสอบก็เหมือนที่ทำในตัวอย่างเด๊ะจนในที่สุดก็ฝ่าฟันผ่านมาได้ทั้งสิบข้อ เยี่ยม!

ต่อมา part 2 เกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปในการขับรถ มี 25 ข้อ ผิดได้ไม่เกิน 4 ข้อ โอ้วว part นี้มันไม่หมูนะนี่ เพราะมันไม่ได้เหมือนกับตัวอย่างซะทีเดียว คำตอบคำถามอาจจะคล้าย แต่ก็จะมีหลอกลวงอำพรางเราอยู่บ้าง เลยไม่ชัวร์ไปซะเจ็ดข้อ แต่ก็มั่วอย่างมีหลักการ นี่เป็นไงหล่ะ สุดท้ายก็ผ่านจนได้ ฮูเร่ ผิดไปสองข้อ ซึ่งเป็นข้อที่ไม่ได้อ่านมา และไม่รู้จริงๆ…. โฮะๆความมั่นใจเริ่มสถิตในร่าง พร้อมแล้วที่จะ road test ต่อทันทีแต่พี่สาวเบรกไว้ซะก่อน บอกให้ไปฝึกถนนให้ชินแล้วค่อยมาสอบอาทิตย์หน้า…. โอเค อาทิตย์หน้าก็อาทิตย์หน้า แล้วเจอกัน DMV road test!!

เอาหล่ะ อาทิตย์นึงผ่านไป หลังจากฝึกขับบนถนนมาแล้วอย่างโชกโชน เราก็พกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม เอกสารพร้อม เตรียมตัวขับพร้อม แว่นตาพร้อม แต่งหน้าพร้อม(อันนี้ไม่เคยลืม) มาถึงเป้าหมายในเวลาเดิม แต่ว่าวันนี้คนเยอะชะมัดกว่าจะรอเรียกคิว ตรวจเอกสาร(เอกสารเหมือนเดิม แต่เพิ่มเอกสารของรถที่เราจะใช้สอบด้วย) ทดสอบสายตา กว่าจะเรียกไปทดสอบขับก็ประมาณ 3 ชั่วโมงกว่า ในที่สุด เจ๊ผิวสีผมหยิกคนนึงก็มาเรียกไป เซ็นเอกสารนิดหน่อย แล้วก็เดินตามเจ๊แกไป อุตส่าห์เปิดประตูให้ แต้งกิ้วซักคำก็ไม่มี ชิ แล้วก็พาเจ๊เค้าไปที่รถของเรา

“ เข้าปายที่รถ แล้วเปิดเครื่อง แต่อย่าเพิ่งสาต๊าดโรดนา” เจ๊แกสั่ง
“โอเคค่า” จัดแจงเปิดรถ แล้วเปิดเครื่อง
จากนั้นเจ๊แกก็ให้เปิด สัญญาณไฟเลี้ยวซ้าย ขวา ไฟฉุกเฉิน ไฟหน้า กดแตร เหยียบเบรก จนมาถึง……
“ พุช เดอะ คาร์ รวีเว๊อซ”

“?????” อึ้งอยู่สามวิ คิดๆอยู่ว่านี่เจ๊แกพูดอะไรห๊ะ ว๊อททท??
“ พุช เดอะ คาร์ รวีเว๊อซ” เจ๊แกเสียงดังขึ้น เอาละไงตรู ซวยแล้วตรู พี่สาวไม่ได้เทรนท่านี้มานี่หว่า นึกๆๆแปลว่าไรแปลว่าไร สำเนียงเจ็แกเราฟังไม่ออก เรามันโง่ววว เรามันก้อแค่ความรู้ภาษาอังกฤษด๊อกด๋อย ทำไงดีๆพยายามลองทำทุกอย่างที่ยังไม่ได้ทำ เหยียบคันเร่ง ปรับนู่นนี่ หมุนพวงมาลัย นู่นนี่ แอร้ยยย เจ๊แกมองเราด้วยความละเหี่ยเปลียใจ คงคิดว่าอีนี่มันทำอะไรของมัน

“คูน ม่ายข้าวจายที่ฉานพูด ช่ายม๊าย ฉานคงห้ายคุณขับม่ายด้ายนา”
“พลีส คือชั้นขอถามพี่สาวของฉันได้ไหมคะ คือฉันไม่ค่อยเก่งภาษาอังกฤษอ่ะค่ะ T T” หน้าตาวิงวอนสุดพลัง

“ม่ายด้าย โคนสอบคือคูนม่ายช่ายพี่สาวคูน ปิดเครื่อง แล้วกลับ ชานไม่ให้คูนออกถนน”
“……………….” เดินคอตกออกจากรถ ความมั่นใจที่จะมาสอบขับวันนี้มลายหายไปหมดสิ้น อุส่าห์รอคิวตั้งนาน ได้ขึ้นรถยังไม่ถึงห้านาทีเลย ต้องกลับเข้ามาละ ฮือ ไหนๆก็ไหนแล้ว ก็เลยถามเจ๊แกว่า คำนั้นมันสะกดยังไง เจ๊แกเลยเขียนให้ดูสรุปว่าคือ REVERSE โอ้วววว บ้านตูอ่านรีเวิส รีเวิส เฟ้ยยยสำเนียงตรูเป็นแบบนี้ เห็นใจตรูหน่อยยย

แต่มีแวบนึงที่คิดจะลองถอยหลังเหมือนกัน กำลังเตรียมจะสตาร์ทเครื่อง แต่เจ๊แกไม่ให้สตาร์ท บอกแค่ให้เหยียบเบรกแล้วรวีเว๊อซ คือเค้าให้เปลี่ยนเป็นเกียร์ R เพื่อที่จะเช็กดูว่าเบรกใช้งานได้ป่าวหรืออะไรซักอย่างไม่แน่ใจ แต่พี่สาวจำไม่ได้ว่าตอนเค้าสอบต้องมีทำแบบนี้ด้วยก็เลยไม่ได้เทรนมา โอเคคคคค ตรูมันโง่วววว โอเคคคค สอบใหม่พรุ่งนี้ก็ได้ชิ

การสอบ road test นี้เค้าให้สอบได้แค่สามครั้ง ถ้าตกสามครั้งต้องไปลงเรียนขับรถแล้วมาสอบใหม่ แต่ครั้งนี้ชั้นยังไม่ได้แม้กระทั่งสตาร์ทรถ เค้าเลยไม่นับเป็นตก จึงยังเหลืออีกสามครั้งเพียวๆ…..โอเคชั้นไม่ยอมแพ้ง่ายๆร็อก…เจอกันใหม่พรุ่งนี้ DMV

กลับมาอีกครั้งในวันต่อมา วันนี้นั่งรอด้วยความมั่นใจที่ลดลงมาจากวันแรก จากประสบการณ์ครั้งแรกที่สอบไม่ผ่านเลยเปิดหาศัพท์นู่นนี่ที่คิดว่าเกี่ยวกับการขับรถให้มากที่สุดมาอ่าน ดู youtube ว่าเค้ามีอะไรเพิ่มเติมอีกไม๊ แต่ก็ยังไม่ค่อยมั่นใจอยู่ดี พอเค้ามาเรียกตรวจเอกสาร ปรากฏว่าเจอเจ๊ผิวสีเมื่อวานที่ให้ชั้นตก เป็นคนตรวจ บร๊ะ ดวงเราช่างสมพงษ์ซะจริงเชียว เจ๊แกก็เหมือนจะจำเราได้ เราก็เลยถามว่ามีอะไรที่เราควรจะรู้อีกไม๊ เจ๊เค้าก็บอกว่า ก็ที่สอบไปเมื่อวานก็แค่นั้น แล้วเวลาสอบขับบนถนนขับก็แค่บอกซ้าย ขวา ตรง เปลี่ยนเลนส์ หยุด โว๊ะ เหลือแค่ศัพท์หมูๆแค่เนี้ย ใครๆก็รู้ฟะ วันนี้แหละชั้นต้องผ่านให้ได้!!

ตรวจเอกสารเสร็จก็รอเรียกคราวนี้เป็นเจ๊แหม่มอ้วน ที่ค่อนข้างมีอายุหน่อยเป็นคนสอบ เซ็นเอกสารเสร็จก็เดินตามเจ๊แกไปแล้วก็เปิดประตูให้เจ๊แกตามเสตป ไม่มีคำขอบคุณเหมือนเดิม เอ๊ะ คนที่นี่เค้ายังไงกันนะหยิ่งซะจริงเชียว แต่ชั่งเหอะ ชั้นไม่แคร์(สะบัดบ๊อบแล้วเดินไปที่รถเรา)จากนั้นก็ตามสอบตามเสตปเมื่อวานมาจนถึง…..รวีเว๊อซ เชอะชั้นรู้แล้วย่ะว่าทำยังไง ยิ้มกริ่มอยู่ในใจ แล้วก็ผ่านมาได้จนถึงเจ๊แกหอบร่างขึ้นมาบนรถ (จำได้ว่าตอนนั้นรถมันยุบลงมากอย่างเห็นได้ชัด) แล้วบอกให้สตารท์รถ เยี่ยม ตรูได้สตาร์ทรถแล้วเฟ้ย

“Set defrost ” เจ๊แหม่มพูดขึ้นมา

“เอ่อ พาร์ด๊อนน” ในใจคิดว่าชิหายละ ศัพท์ห่าไรอีกฟะเนี่ยยยย จิตใจตอนนี้เต้นตุบๆเหมือนเต้นแอโรบิกอยู่กลางสวนลุม พยายามลองคิด set default ป้ะว๊า แบบsetกระจกข้าง กระจกหลังให้เป็นแบบของเรา (จำมาจากเวลาเซตค่าในคอม) ก็เลยลองทำท่าปรับๆกระจกนู่นนี่ดู

“Set defrost ” เจ๊แหม่มพูดดังขึ้น เวรละตรู ตามเสตปเหมือนวานเป๊ะ นี่ตรูต้องเจอกะอะไรอีกเนี่ยยย โอวมายก๊อดดด
“เอ่อ ฉานไม่เข้าใจคำศัพท์นั้น อธิบายให้ฉานหน่อยได้ม๊ายค๊า” เสียงออดอ้อนพร้อมทำตาเศร้า

ถ้ายังอ่านไหวอยู่ สามารถอ่านเต็มๆ ทางนี้ได้ค่า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่