โทรไปสอบถามวงเงินผ่อนสินค้าของบัตรเครดิตยี่ห้อหนึ่ง
มีระบบตอบรับอัตโนมัติให้เลือกเบ็ดเสร็จว่า ต้องการตรวจสอบวงเงินอะไร เครดิต วงเงินสด หรือวงเงินผ่อน แล้วก็กดเลือก ใส่ข้อมูลบัตรประชาชน วันเกิด
จากนั้นก็ให้เลือกว่าจะซื้อผ่อนอะไร แล้วก็กดเลือก
เสร็จแล้วก็ตัดไปที่พนักงานอีกที แล้วก็มาถามเลขบัตร วันเกิด ที่อยู่ เบอร์โทรศัพทือีกที
ปรากฎว่าพนักงานแจ้งว่าไม่สามารถตรวจสอบวงเงินได้เนื่องจากลูกค้ามีการเปลี่ยนชื่อนามสกุล(เกี่ยวเหรอ)
ก็เลยถามว่าแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ามีวงเงินผ่อนอยู่เท่าไร ต้องไปวัดดวงยื่นสัญญาเอาเองงั้นเหรอ ถ้าไม่ผ่านมันเสียเวลานะ
พนักงานแจ้งว่าต้องไปที่ร้านค้าแล้วให้ร้านยื่นหน้าสัญญาผ่อนเข้ามาตรวจสอบอีกทีค่ะ
ผมก็แจ้งว่า เอ้า ถ้าอย่างนั้นคุณมีระบบตรวจสอบวงเงินทางโทรศัพท์ไว้ทำไมในเมื่อมันใช้ไม่ได้ แล้วคุณบอกว่าตรวจสอบให้ไม่ได้เนื่องจากมีการเปลี่ยนชื่อนามสกุล เอกสารเปลี่ยนชื่อนามสกุลตอนเปลี่ยนเป็นบัตรเครดิตคุณก็ได้รับไปหมดแล้วตอนที่ผมยื่นเอกสารของทำบัตรเครดิต คุณมีข้อมูลหมดแล้ว คุณจะมาอ้างแบบนี้ไม่ได้ หรือคุณต้องการเอกสารอะไรเพิ่มอีกก็แจ้งผมมาจะได้จัดส่งให้
ซักไปซักมาพนักงานก็ยืนยันอย่างเดิมประมาณสามรอบ ผมก็ยืนยันว่ามันต้องตรวจสอบได้ในเมื่อคุณมีระบบตรวจสอบทางโทรศัพท์ และการเปลี่ยนชื่อนามสกุลคุณก็ได้เอกสารไปแล้ว อนุมัติบัตรมาแล้ว
ในที่สุดเธอก็ขอไปตรวจสอบอีกครั้ง
แล้วสายตัดกลับมาก็ปรากฎว่า"ตรวจสอบวงเงินผ่อนสินค้าของลูกค้าได้แล้วค่ะ มีวงเงินผ่อนอยู่ที่XX,XXXบาทค่ะ"
ผมก็เลยแจ้งว่า ที่ผมต้องถาม เพราะก่อนหน้านี้ผมใช้บัตรสมาชิกธรรมดาผ่อนสินค้ากับคุณ สินค้าล่าสุดที่ผ่อน เป็นโน๊ตบุ๊ค ตอนไปถามร้านค้าก็เอาบัตรผมไปตรวจสอบว่ามีวงเงินเท่าไร โดยร้านก็ยังไม่ได้ให้ผมทำสัญญาซื้อสินค้าอะไรสักอย่าง ถ้าอย่างนั้นหมายความว่าขนาดผมอัพบัตรเป็นบัตรเครดิตแล้ว ลูกค้าอย่างผมยังมีสิทธิน้อยกว่าพนักงานของร้านค้าอย่างนั้นหรือ???
บทสรุปคือ...ตรวจสอบวงเงินได้ แต่ไม่ตรวจ ไม่รู้ว่าขี้เกียจตรวจหรือเปล่า ต้องบี้ถึงจะตรวจสอบวงเงินให้ เหอๆ....ปีนี้เปลี่ยนผู้ให้บริการดีกว่า ใช้บริการกันมาตั้งนาน
การสอบถามวงเงินผ่อนสินค้ากับบัตรเครดิตยี่ห้อหนึ่ง????
มีระบบตอบรับอัตโนมัติให้เลือกเบ็ดเสร็จว่า ต้องการตรวจสอบวงเงินอะไร เครดิต วงเงินสด หรือวงเงินผ่อน แล้วก็กดเลือก ใส่ข้อมูลบัตรประชาชน วันเกิด
จากนั้นก็ให้เลือกว่าจะซื้อผ่อนอะไร แล้วก็กดเลือก
เสร็จแล้วก็ตัดไปที่พนักงานอีกที แล้วก็มาถามเลขบัตร วันเกิด ที่อยู่ เบอร์โทรศัพทือีกที
ปรากฎว่าพนักงานแจ้งว่าไม่สามารถตรวจสอบวงเงินได้เนื่องจากลูกค้ามีการเปลี่ยนชื่อนามสกุล(เกี่ยวเหรอ)
ก็เลยถามว่าแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ามีวงเงินผ่อนอยู่เท่าไร ต้องไปวัดดวงยื่นสัญญาเอาเองงั้นเหรอ ถ้าไม่ผ่านมันเสียเวลานะ
พนักงานแจ้งว่าต้องไปที่ร้านค้าแล้วให้ร้านยื่นหน้าสัญญาผ่อนเข้ามาตรวจสอบอีกทีค่ะ
ผมก็แจ้งว่า เอ้า ถ้าอย่างนั้นคุณมีระบบตรวจสอบวงเงินทางโทรศัพท์ไว้ทำไมในเมื่อมันใช้ไม่ได้ แล้วคุณบอกว่าตรวจสอบให้ไม่ได้เนื่องจากมีการเปลี่ยนชื่อนามสกุล เอกสารเปลี่ยนชื่อนามสกุลตอนเปลี่ยนเป็นบัตรเครดิตคุณก็ได้รับไปหมดแล้วตอนที่ผมยื่นเอกสารของทำบัตรเครดิต คุณมีข้อมูลหมดแล้ว คุณจะมาอ้างแบบนี้ไม่ได้ หรือคุณต้องการเอกสารอะไรเพิ่มอีกก็แจ้งผมมาจะได้จัดส่งให้
ซักไปซักมาพนักงานก็ยืนยันอย่างเดิมประมาณสามรอบ ผมก็ยืนยันว่ามันต้องตรวจสอบได้ในเมื่อคุณมีระบบตรวจสอบทางโทรศัพท์ และการเปลี่ยนชื่อนามสกุลคุณก็ได้เอกสารไปแล้ว อนุมัติบัตรมาแล้ว
ในที่สุดเธอก็ขอไปตรวจสอบอีกครั้ง
แล้วสายตัดกลับมาก็ปรากฎว่า"ตรวจสอบวงเงินผ่อนสินค้าของลูกค้าได้แล้วค่ะ มีวงเงินผ่อนอยู่ที่XX,XXXบาทค่ะ"
ผมก็เลยแจ้งว่า ที่ผมต้องถาม เพราะก่อนหน้านี้ผมใช้บัตรสมาชิกธรรมดาผ่อนสินค้ากับคุณ สินค้าล่าสุดที่ผ่อน เป็นโน๊ตบุ๊ค ตอนไปถามร้านค้าก็เอาบัตรผมไปตรวจสอบว่ามีวงเงินเท่าไร โดยร้านก็ยังไม่ได้ให้ผมทำสัญญาซื้อสินค้าอะไรสักอย่าง ถ้าอย่างนั้นหมายความว่าขนาดผมอัพบัตรเป็นบัตรเครดิตแล้ว ลูกค้าอย่างผมยังมีสิทธิน้อยกว่าพนักงานของร้านค้าอย่างนั้นหรือ???
บทสรุปคือ...ตรวจสอบวงเงินได้ แต่ไม่ตรวจ ไม่รู้ว่าขี้เกียจตรวจหรือเปล่า ต้องบี้ถึงจะตรวจสอบวงเงินให้ เหอๆ....ปีนี้เปลี่ยนผู้ให้บริการดีกว่า ใช้บริการกันมาตั้งนาน