มีใครคิดถึงหนอชะเง้อแล..

กระทู้สนทนา
..เสียงเพลงชาติท่อนสุดท้ายจบไปแล้ว
เด็กยืนแถวแดดเผาเอาเต็มที่
ต่อด้วยสวดมนต์จำคำบาลี
อะระหังสัมมาฯมี ในทุกเช้า

..ฉันเป็นครูน้อยอยู่เมืองกรุง
หาได้รุ่งพุ่งไวเหมือนใครเขา
แหงนมองปลายเสาธงผืนเก่า
กว่าสิบปีนับเอาเราอยู่มา

..ครั้งแรกเริ่มร่ำเรียนได้เขียนอ่าน
ณ ถิ่นฐานบ้านไร่ไกลไฟฟ้า
กันดารความเจริญเกินหน้าตา
หากแต่ความกรุณาหากันดาร

..พ่อกับแม่แปลงดินเป็นถิ่นทอง
เกษตรกรนำร่องจำต้องหาญ
ไร้สำนักใดหนาวิชาการ
ยึดเพียงคำว่ากร้านกับทานทน

..ปลูกแตงโมแฟงฟักหลักสิบไร่
มะพร้าวพอเก็บได้ก็หลายต้น
แต่ค่าเงินสมัยก่อนมันกร่อนจน
แลกค่าข้นขื่นคลั่กไม่ยักพอ

..ต่อเรียนจบในกรุงมุ่งบรรจุ
สำเร็จครุฯไม่นานผ่านพอศอ
ได้สมหวังซะทีที่ฉันรอ
มีใครคิดถึงหนอชะเง้อแล

..เสียงรถไฟสายใต้ในคราวก่อน
หวูดหอนคนยืนเฝ้าเราชะแง้
ไหนล่ะพี่,น้องอยู่ไหนไหนพ่อแม่
เข้าแถวแห่รับขวัญฉันกลับมา

..โอบแม่ผิวสัมผัสรอยหยาบกร้าน
กอดสะท้านพันผูกสุขอย่าหา
เหลือบมองพ่อยืนเผลอเอ่อน้ำตา
ลูกคือความหวังค่าของพรุ่งนี้

..พร้าวที่บ้านต้นเก่าแต่สูงกว่า
ฟ้าเคยคล้ำเปลี่ยนค่าเป็นฟ้าสี
นกกามาทักทายหมายพาที
ไม่เหลือใครแล้วที่นี่ ที่ยังทุกข์

..บางคนเปรียบครูไว้ว่าเรือจ้าง
คอยคัดง้างกลางคลองต้องปล้ำปลุก
จะพ้นไหมคลื่นทรามที่ลามรุก
คอยเคล้าคลุกโยนทาบเทียบกราบเรือ

..บ้างให้เป็นแบบพิมพ์แม่พิมพ์กด
จับชอล์กจดจารสอนหมั่นป้อนเหยื่อ
เจอพิมพ์กร่อนร่อนสึกอาจลึกเชื้อ
จะไม่เหลือต้นแบบใหม่ให้วัฒนา

..ยิ่งนักวิชาเกินเดินกันเต็ม
ตรี โท เอก เข้มเข็มศึกษา
ชี้ไปทางไหนกันละวา
ถึงยังอยู่คราบน้ำตาผู้ยากจน

..แม่ไม่ต้องหามหาบต่อไปแล้ว
พ่อชรามุ่งหาแนวพระธรรมผล
ส่งไม้ต่อลูกหลานคงว่ายวน
แสวงหามรรคผลบนทางยาว

..จะเด็กเมืองเรืองลานหรือบ้านนอก
ใครต่างกรอกบอกมาว่าผ้าขาว
เห็นเติมแต่งแท่งสีบ้างแท่งคาว
ทั้งเด็กชายเด็กสาวหลายคราวไป...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่