กูรูลุ้น"ทอง"ขึ้นเหนือ1,660ดอลล์ แนะสะสมทองแท่ง-ชี้ช่องเล่นสั้นโกลด์ฟิวเจอร์ส
10 ม.ค. 2556 เวลา 08:55:13 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
นักค้าทองลุ้นราคาทองยืนเหนือ 1,660 เหรียญ บ่งชี้สัญญาณตลาดขาขึ้นอีกครั้ง หลังราคาร่วงแรงสัปดาห์แรกของปีนี้ ถูกกองทุน-รายย่อยเทขายฟันกำไรกดราคาหลุดค่าเฉลี่ย 200 วัน แนะนักลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์สลงทุนระยะสั้น จับตาปัจจัยเสี่ยงต่างประเทศ-ขยายเพดานหนี้สหรัฐ ส่วนทองแท่งเน้นทยอยสะสมช่วงราคาทองดิ่ง
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวถึงราคาทองในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (1 ม.ค.-6 ม.ค. 2556) ว่า มีลักษณะปรับตัวลดลงต่อเนื่องตั้งแต่กลางสัปดาห์ หลังจากที่คณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บางรายให้ความเห็นว่าควรยุติการใช้มาตรการทางการเงินเชิงปริมาณครั้งที่ 3 (QE3) ส่งผลให้ตลาดเกิดความกังวลว่ามาตรการผ่อนคลายทางการเงินของเฟดอาจจบลงเร็วกว่าที่คาด ทำให้กองทุนและนักลงทุน
เทขายทองออกมาทำกำไรค่อนข้างมาก จนราคาหลุดจากระดับ 1,660 เหรียญ ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยราคาทองช่วง 200 วัน และถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนักต่อการลงทุน
"ในช่วงสัปดาห์แรก ๆ ของการซื้อขายในตลาดทองคำ พบว่าราคาทองคำเจอแรงเทขายค่อนข้างมากจากความกังวลที่ว่าสหรัฐจะยุติใช้มาตรการทางการเงิน จึงทำให้กองทุนเทขายออกมา ขณะที่นักลงทุนรายย่อยเองก็ขายด้วย เพราะต้องการทำกำไร จนราคาหลุดจากค่าเฉลี่ย 200 วัน หรือที่ระดับ 1,660 เหรียญ จากนี้ไปนักลงทุนต้องใช้ความระมัดระวังในการซื้อขายให้มากขึ้น" นางสาวฐิภากล่าว
นางฐิภากล่าวอีกว่า สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ หากเป็นนักลงทุนในสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (โกลด์ฟิวเจอร์ส) ให้ลงทุนตามกรอบ 1,620-1,680 เหรียญต่อออนซ์ (ประมาณ 23,300-24,300 บาท ต่อน้ำหนักทองคำ 1 บาท) ส่วน
นักลงทุนที่ลงทุนทองคำแท่ง แนะนำ "ทยอยสะสม" เมื่อราคาปรับตัวลดลง ขณะที่การลงทุนในช่วงเดือนมกราคม ประเมินว่าหากราคาทองไม่สามารถปรับตัวขึ้นมายืนเหนือ 1,700 เหรียญได้ ก็มีแนวโน้มปรับตัวลดลงสูง ซึ่งเป็นไปตามจิตวิทยาการลงทุนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
นายธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า สำหรับการลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์สในช่วงเดือนมกราคมนี้ แนะนำให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวัง และเน้นลงทุนระยะสั้นเพื่อจำกัดความเสี่ยง โดยประเมินกรอบแนวต้านที่ 1,660-1,665 เหรียญ และแนวรับ
ที่ 1,635 เหรียญ เนื่องจากประเมินว่ายังมีความเสี่ยงที่อาจกดดันราคาทองได้หลังจากนี้ เช่น การแก้ไขปัญหาเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ และความชัดเจนของการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ซึ่งต้องรอติดตามผลการประชุมของเฟดในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนว่าจะมีความเห็นอย่างไร
"ปีนี้ต้องยอมรับว่าราคาทองจะขึ้นแบบฝืน ๆ คล้าย ๆ ปีก่อน ดังนั้นนักลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์สต้องเล่นสั้นตามกรอบเทคนิคเท่านั้น และที่สำคัญคือให้จับตาตัวเลข 1,660 เหรียญไว้ ถ้าราคาเกินกว่านี้ขึ้นไปแบบมั่นคงได้ ตลาดจะมีทิศทางบวก แต่ถ้าหลุด 1,630 เหรียญ ก็ถือเป็นขาลง ไปเจอกันอีกทีที่ 1,590 เหรียญเลย" นายธนรัชต์กล่าว
นายธนรัชต์กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนตลาดทองคำแท่งกลับมาคึกคักอีกครั้ง เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่านักลงทุนส่วนหนึ่งได้ใช้โอกาสที่ราคาทองปรับตัวลดลงเข้ามาทยอยซื้อสะสมมากขึ้น ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ดีสำหรับนักลงทุนระยะยาว
กูรูลุ้น"ทอง"ขึ้นเหนือ1,660ดอลล์ แนะสะสมทองแท่ง-ชี้ช่องเล่นสั้นโกลด์ฟิวเจอร์ส
10 ม.ค. 2556 เวลา 08:55:13 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
นักค้าทองลุ้นราคาทองยืนเหนือ 1,660 เหรียญ บ่งชี้สัญญาณตลาดขาขึ้นอีกครั้ง หลังราคาร่วงแรงสัปดาห์แรกของปีนี้ ถูกกองทุน-รายย่อยเทขายฟันกำไรกดราคาหลุดค่าเฉลี่ย 200 วัน แนะนักลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์สลงทุนระยะสั้น จับตาปัจจัยเสี่ยงต่างประเทศ-ขยายเพดานหนี้สหรัฐ ส่วนทองแท่งเน้นทยอยสะสมช่วงราคาทองดิ่ง
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวถึงราคาทองในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (1 ม.ค.-6 ม.ค. 2556) ว่า มีลักษณะปรับตัวลดลงต่อเนื่องตั้งแต่กลางสัปดาห์ หลังจากที่คณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บางรายให้ความเห็นว่าควรยุติการใช้มาตรการทางการเงินเชิงปริมาณครั้งที่ 3 (QE3) ส่งผลให้ตลาดเกิดความกังวลว่ามาตรการผ่อนคลายทางการเงินของเฟดอาจจบลงเร็วกว่าที่คาด ทำให้กองทุนและนักลงทุน
เทขายทองออกมาทำกำไรค่อนข้างมาก จนราคาหลุดจากระดับ 1,660 เหรียญ ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยราคาทองช่วง 200 วัน และถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนักต่อการลงทุน
"ในช่วงสัปดาห์แรก ๆ ของการซื้อขายในตลาดทองคำ พบว่าราคาทองคำเจอแรงเทขายค่อนข้างมากจากความกังวลที่ว่าสหรัฐจะยุติใช้มาตรการทางการเงิน จึงทำให้กองทุนเทขายออกมา ขณะที่นักลงทุนรายย่อยเองก็ขายด้วย เพราะต้องการทำกำไร จนราคาหลุดจากค่าเฉลี่ย 200 วัน หรือที่ระดับ 1,660 เหรียญ จากนี้ไปนักลงทุนต้องใช้ความระมัดระวังในการซื้อขายให้มากขึ้น" นางสาวฐิภากล่าว
นางฐิภากล่าวอีกว่า สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ หากเป็นนักลงทุนในสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (โกลด์ฟิวเจอร์ส) ให้ลงทุนตามกรอบ 1,620-1,680 เหรียญต่อออนซ์ (ประมาณ 23,300-24,300 บาท ต่อน้ำหนักทองคำ 1 บาท) ส่วน
นักลงทุนที่ลงทุนทองคำแท่ง แนะนำ "ทยอยสะสม" เมื่อราคาปรับตัวลดลง ขณะที่การลงทุนในช่วงเดือนมกราคม ประเมินว่าหากราคาทองไม่สามารถปรับตัวขึ้นมายืนเหนือ 1,700 เหรียญได้ ก็มีแนวโน้มปรับตัวลดลงสูง ซึ่งเป็นไปตามจิตวิทยาการลงทุนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
นายธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า สำหรับการลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์สในช่วงเดือนมกราคมนี้ แนะนำให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวัง และเน้นลงทุนระยะสั้นเพื่อจำกัดความเสี่ยง โดยประเมินกรอบแนวต้านที่ 1,660-1,665 เหรียญ และแนวรับ
ที่ 1,635 เหรียญ เนื่องจากประเมินว่ายังมีความเสี่ยงที่อาจกดดันราคาทองได้หลังจากนี้ เช่น การแก้ไขปัญหาเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ และความชัดเจนของการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ซึ่งต้องรอติดตามผลการประชุมของเฟดในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนว่าจะมีความเห็นอย่างไร
"ปีนี้ต้องยอมรับว่าราคาทองจะขึ้นแบบฝืน ๆ คล้าย ๆ ปีก่อน ดังนั้นนักลงทุนโกลด์ฟิวเจอร์สต้องเล่นสั้นตามกรอบเทคนิคเท่านั้น และที่สำคัญคือให้จับตาตัวเลข 1,660 เหรียญไว้ ถ้าราคาเกินกว่านี้ขึ้นไปแบบมั่นคงได้ ตลาดจะมีทิศทางบวก แต่ถ้าหลุด 1,630 เหรียญ ก็ถือเป็นขาลง ไปเจอกันอีกทีที่ 1,590 เหรียญเลย" นายธนรัชต์กล่าว
นายธนรัชต์กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนตลาดทองคำแท่งกลับมาคึกคักอีกครั้ง เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่านักลงทุนส่วนหนึ่งได้ใช้โอกาสที่ราคาทองปรับตัวลดลงเข้ามาทยอยซื้อสะสมมากขึ้น ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ดีสำหรับนักลงทุนระยะยาว