ถอดชิ้นที่สิบเอ็ดมาแล้วค่ะ หวังว่าทุกท่านจะสนุกไปกับการอ่านะคะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
ถอด...ชิ้นที่สิบเอ็ด ห่วงใย
“คุณง่วงก็หลับไปก่อนไม่ต้องฝืน”
“หนูมิลค์ไม่ง่วงค่ะ หนูมิลค์จะนั่งเป็นเพื่อนคุณธีรักษ์ขาค่ะ” คนไม่ง่วงนั่งตาปรือหาวหวอดๆเป็นระยะ
ธีรักษ์มองคนที่ยืนยันว่าไม่ง่วงนั่งคอพับคออ่อนเป็นระยะอย่างอ่อนใจ ยังไม่ทันที่สัญญานไฟแดงจะเปลี่ยนสีคนไม่ง่วงก็ผล็อยหลับไปเรียบร้อย
สุดท้ายคุณหมอหนุ่มก็ทนเห็นคนไม่ง่วงนอนขดคู้ตัวเป็นลูกแมวถูกทิ้งกลางอากาศหนาวๆไม่ได้ จึงลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ แต่ถ้าท่าทางของลูกแมวยังไม่ดีขึ้นคนที่ขับรถอยู่อดบ่นเบาๆไม่ได้ “แล้วดูแต่งตัวเข้า ผ้าก็บางคว้านอกซะลึก” แม้ปากจะบ่นแต่สุดท้ายคุณหมอหนุ่มก็ทนไม่ได้ จึงสละเสื้อสูทมาห่มให้ คนขี้หนาวส่งเสียงอื้ออาจับเสื้อเขามาห่อตัวเองยิ้มอย่างมีความสุขจนคนมองอดหมั่นไส้ไม่ได้
ครู่ใหญ่รถของธีรักษ์ก็เลี้ยวเข้าสู่ตัวบ้าน
“คุณ ถึงบ้านแล้ว” พอเห็นคนที่ยืนยันว่าไม่ง่วงลืมตาขึ้น คนปลุกก็ก้าวลงจากรถเดินอ้อมไปเปิดประตูรถให้ คนเพิ่งตื่นทำหน้างงใส่ ธีรักษ์ที่เปิดประตูรถรออยู่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ
“ขอโทษนะ” จบคำคุณหมอหนุ่มก็โน้มตัวไปช่วยคนที่ยังไม่ตื่นดีปลดเข็มขัดนิรภัย
คนงัวเงียตาสว่างก็คราวนี้ เมื่ออกล่ำในฝัน แถมหน้าเนียนๆของคุณธีขาอยู่ชิดแค่ลมหายใจ ชวนเอาคนที่นั่งอยู่ใจละลายร่ำๆจะไปซบอกแกร่งเสียให้ได้ แต่ยังไม่ทันที่มนต์อัปสรจะได้ทำอย่างใจคิด คุณหมอหนุ่มก็ยืดตัวขึ้น แล้วถอยห่างจากประตูรถ คนเพิ่งตื่นแสนจะขัดใจ ได้แต่ทำหน้ายู่ก้าวลงจากรถมายืนเคียงกัน
ธีรักษ์มองคนหน้าตายับยู่ยี่ราวกับขัดใจที่ถูกปลุกขึ้นมาจากการนอนอันแสนสุขของคนตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจ
“ขอโทษนะ” จบคำคุณหมอหนุ่มก็ฉวยข้อศอกของคนที่เขาเข้าใจไปเองว่ายังไม่ตื่นดีนักเพราะปกติแม่ลูกแมวเจ็ดสีจอมป่วนจะยิ้มหวานเจื้อยส่งสายตาโลมเลียและส่งเสียงคะๆขาๆให้เขาตลอดเวลา
ภาพคุณหมอหนุ่มจูงมือหญิงสาวเข้าบ้านมาด้วยกัน ทำดารินแทบจะลุกขึ้นเต้นด้วยความดีใจ ‘ต้าย หนูมิลค์ของคุณพี่ก้าวหน้าจริงๆ นี่ขนาดให้ไปรอแค่วันเดียวยังจูงไม้จูงมือเข้ามาด้วยกันขนาดนี้’
“ลูกธีกลับมาแล้วหรือลูก อ้าวแล้วน้องเป็นอะไร”
ธีรักษ์มองคนที่ขยับฐานะมาเป็นน้องด้วยความอ่อนใจ “เค้าเพิ่งตื่นน่ะครับคุณแม่” มือเรียวสวยของคุณหมอหัวใจจึงคลายออกจากการจับจูงเมื่อเห็นว่ามีคนลูบหลังลูบไหล่ลูกแมวขี้เซาแล้ว
“แล้วนี่ทานข้าวกันหรือยังคะลูก”
“ยังค่ะ หนูมิลค์หิ้วหิว” ว่าแล้วแล้วเจ้าตัวก็ทำหน้าออดอ้อนใส่ดารินสุดฤทธิ์
“ไปค่ะไปทานข้าวกัน แม่ให้เด็กตั้งโต๊ะให้” ว่าแล้วคนชวนก็จูงมือมนต์อัปสรและควงแขนลูกชายเดินเข้าไปในห้องอาหาร ธีรักษ์มองมนต์อัปสรอย่างหมั่นไส้ ทีเมื่อกี้ทำท่าไม่อยากจะตื่นแต่พอได้ยินคำว่ากินข้าวเท่านั้นล่ะ เคล้าเคลียประจบประแจงคุณแม่เค้าซะไม่เหลือเค้าคนง่วง
“ว่าแต่ลูกธีจะอาบน้ำอาบท่าก่อนไหมคะลูก” คนเป็นแม่ถามด้วยความเป็นห่วง
ธีรักษ์นิ่งไปนิด ก่อนเหลือบมองคนที่ทำตัวเป็นลูกแมวหิวข้าวประจบคลอเคลียแม่ของเขาอยู่ไม่ห่าง “ไม่ดีกว่าครับคุณแม่ ผมขอไปล้างมืออย่างเดียวก็พอ”
“ดีจ้ะจะได้ไม่ดึกมาก งั้นมาหนูมิลค์เดี๋ยวคุณพี่พาไปล้างมือนะคะ”
ยังไม่ทันที่ดารินจะพูดจบดี เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือของธีรักษ์ก็ดังขึ้น เจ้าตัวจึงผงกศีรษะเป็นเชิงขอตัว ก่อนรับสายและเดินแยกไปอีกทางหนึ่ง
“ว่าไงกร มีอะไร...อืม กลับมาได้สักพักแล้ว”
_____^^ A Little Strip To Tease Your Heart...ถอดทีละนิดพิชิตใจ (ถอด...ชิ้นที่สิบเอ็ด ห่วงใย)
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
ถอด...ชิ้นที่สิบเอ็ด ห่วงใย
“คุณง่วงก็หลับไปก่อนไม่ต้องฝืน”
“หนูมิลค์ไม่ง่วงค่ะ หนูมิลค์จะนั่งเป็นเพื่อนคุณธีรักษ์ขาค่ะ” คนไม่ง่วงนั่งตาปรือหาวหวอดๆเป็นระยะ
ธีรักษ์มองคนที่ยืนยันว่าไม่ง่วงนั่งคอพับคออ่อนเป็นระยะอย่างอ่อนใจ ยังไม่ทันที่สัญญานไฟแดงจะเปลี่ยนสีคนไม่ง่วงก็ผล็อยหลับไปเรียบร้อย
สุดท้ายคุณหมอหนุ่มก็ทนเห็นคนไม่ง่วงนอนขดคู้ตัวเป็นลูกแมวถูกทิ้งกลางอากาศหนาวๆไม่ได้ จึงลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ แต่ถ้าท่าทางของลูกแมวยังไม่ดีขึ้นคนที่ขับรถอยู่อดบ่นเบาๆไม่ได้ “แล้วดูแต่งตัวเข้า ผ้าก็บางคว้านอกซะลึก” แม้ปากจะบ่นแต่สุดท้ายคุณหมอหนุ่มก็ทนไม่ได้ จึงสละเสื้อสูทมาห่มให้ คนขี้หนาวส่งเสียงอื้ออาจับเสื้อเขามาห่อตัวเองยิ้มอย่างมีความสุขจนคนมองอดหมั่นไส้ไม่ได้
ครู่ใหญ่รถของธีรักษ์ก็เลี้ยวเข้าสู่ตัวบ้าน
“คุณ ถึงบ้านแล้ว” พอเห็นคนที่ยืนยันว่าไม่ง่วงลืมตาขึ้น คนปลุกก็ก้าวลงจากรถเดินอ้อมไปเปิดประตูรถให้ คนเพิ่งตื่นทำหน้างงใส่ ธีรักษ์ที่เปิดประตูรถรออยู่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ
“ขอโทษนะ” จบคำคุณหมอหนุ่มก็โน้มตัวไปช่วยคนที่ยังไม่ตื่นดีปลดเข็มขัดนิรภัย
คนงัวเงียตาสว่างก็คราวนี้ เมื่ออกล่ำในฝัน แถมหน้าเนียนๆของคุณธีขาอยู่ชิดแค่ลมหายใจ ชวนเอาคนที่นั่งอยู่ใจละลายร่ำๆจะไปซบอกแกร่งเสียให้ได้ แต่ยังไม่ทันที่มนต์อัปสรจะได้ทำอย่างใจคิด คุณหมอหนุ่มก็ยืดตัวขึ้น แล้วถอยห่างจากประตูรถ คนเพิ่งตื่นแสนจะขัดใจ ได้แต่ทำหน้ายู่ก้าวลงจากรถมายืนเคียงกัน
ธีรักษ์มองคนหน้าตายับยู่ยี่ราวกับขัดใจที่ถูกปลุกขึ้นมาจากการนอนอันแสนสุขของคนตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจ
“ขอโทษนะ” จบคำคุณหมอหนุ่มก็ฉวยข้อศอกของคนที่เขาเข้าใจไปเองว่ายังไม่ตื่นดีนักเพราะปกติแม่ลูกแมวเจ็ดสีจอมป่วนจะยิ้มหวานเจื้อยส่งสายตาโลมเลียและส่งเสียงคะๆขาๆให้เขาตลอดเวลา
ภาพคุณหมอหนุ่มจูงมือหญิงสาวเข้าบ้านมาด้วยกัน ทำดารินแทบจะลุกขึ้นเต้นด้วยความดีใจ ‘ต้าย หนูมิลค์ของคุณพี่ก้าวหน้าจริงๆ นี่ขนาดให้ไปรอแค่วันเดียวยังจูงไม้จูงมือเข้ามาด้วยกันขนาดนี้’
“ลูกธีกลับมาแล้วหรือลูก อ้าวแล้วน้องเป็นอะไร”
ธีรักษ์มองคนที่ขยับฐานะมาเป็นน้องด้วยความอ่อนใจ “เค้าเพิ่งตื่นน่ะครับคุณแม่” มือเรียวสวยของคุณหมอหัวใจจึงคลายออกจากการจับจูงเมื่อเห็นว่ามีคนลูบหลังลูบไหล่ลูกแมวขี้เซาแล้ว
“แล้วนี่ทานข้าวกันหรือยังคะลูก”
“ยังค่ะ หนูมิลค์หิ้วหิว” ว่าแล้วแล้วเจ้าตัวก็ทำหน้าออดอ้อนใส่ดารินสุดฤทธิ์
“ไปค่ะไปทานข้าวกัน แม่ให้เด็กตั้งโต๊ะให้” ว่าแล้วคนชวนก็จูงมือมนต์อัปสรและควงแขนลูกชายเดินเข้าไปในห้องอาหาร ธีรักษ์มองมนต์อัปสรอย่างหมั่นไส้ ทีเมื่อกี้ทำท่าไม่อยากจะตื่นแต่พอได้ยินคำว่ากินข้าวเท่านั้นล่ะ เคล้าเคลียประจบประแจงคุณแม่เค้าซะไม่เหลือเค้าคนง่วง
“ว่าแต่ลูกธีจะอาบน้ำอาบท่าก่อนไหมคะลูก” คนเป็นแม่ถามด้วยความเป็นห่วง
ธีรักษ์นิ่งไปนิด ก่อนเหลือบมองคนที่ทำตัวเป็นลูกแมวหิวข้าวประจบคลอเคลียแม่ของเขาอยู่ไม่ห่าง “ไม่ดีกว่าครับคุณแม่ ผมขอไปล้างมืออย่างเดียวก็พอ”
“ดีจ้ะจะได้ไม่ดึกมาก งั้นมาหนูมิลค์เดี๋ยวคุณพี่พาไปล้างมือนะคะ”
ยังไม่ทันที่ดารินจะพูดจบดี เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือของธีรักษ์ก็ดังขึ้น เจ้าตัวจึงผงกศีรษะเป็นเชิงขอตัว ก่อนรับสายและเดินแยกไปอีกทางหนึ่ง
“ว่าไงกร มีอะไร...อืม กลับมาได้สักพักแล้ว”