สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 42
มันพูดลำบากโดยภาพรวมนะครับ เพราะแต่ละครอบครัวก็จะไม่เหมือนกัน
แต่อย่างหนึ่งที่เราทุกคนควรรู้ไว้คือ "เราให้กำเนิดลูก แต่ไม่ใช่เจ้าของชีวิตของลูก"
อย่าคาดหวังว่า "เมื่อลูกโตขึ้นมาจะต้องมาตอบแทนคุณเลี้ยงดูพ่อแม่ ไม่อย่างนั้นถือว่าอกตัญญู"
เพราะอันที่จริง การให้กำเนิดมนุษย์ มันไม่ใช่เกิดจากความกรุณาปราณี แต่เกิดจาก "ความอยาก"
"อยาก" มีลูก "อยาก" เติมเต็มครอบครัว "อยาก" มีคนสืบตระกูล "อยาก" มีเซ็กส์จนลืมป้องกัน
"อยาก" มีลูกไว้อวดเพื่อน "อยาก" เห็นลูกโตเป็นเจ้าคนนายคน ฯลฯ
มันเป็นเหตุผลความ "อยาก" ที่ลูกที่เกิดมาไม่ได้รับรู้ด้วย แต่ในที่สุดลูกทุกคนก็ต้องมาแบกเอาไว้
แม้ว่าพ่อแม่หลายคนก็ไม่ได้คาดหวังอะไร แต่เมื่อแรกคิดอยากจะมีลูก มันก็เริ่มด้วย "ความอยาก" แล้ว
เพราะการมีลูก มันเหมือนสัญชาตญาณดำรงเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ มากกว่าจะมีด้านดีจริงๆในตัวเอง
ที่พูดมานี่ ไม่ใช่อกตัญญู หรือไม่เห็นบุญคุณพ่อแม่นะครับ เราก็ควรจะดูแลพ่อแม่ของตัวเองให้ดี
แต่ก็ไม่ใช่ดูแลจนท่านทำอะไรไม่เป็น ต้องรอให้ลูกทำให้ตลอด อย่างนั้นก็จะกลายเป็นทุกข์ทั้งสองฝ่าย
พ่อแม่หลายคนก็รอแต่ลูกจะทำอะไรให้ จะเลี้ยงดูตัวเอง จนไม่เป็นอันทำอะไร อย่างนี้ก็ไม่พอดี
ลูกบางคน พอโตเลี้ยงดูตัวเองได้แล้ว ก็ลืมพ่อแม่ ไม่กลับไปหาหรือติดต่อบ้างเลย อย่างนี้ก็ไม่พอดี
คนเป็นพ่อแม่ ก็ต้องรู้จักที่จะดูแลตัวเองด้วย เพื่อนบ้านเพื่อนฝูงรู้จักติดต่อไว้ให้ดูแลกันและกันได้
ไม่ใช่รอแต่หวังพึ่งลูกจะกลับมาดูแล ควรหาอะไรทำเพื่อทำให้ตัวเองมีคุณค่า จะได้ไม่รู้สึกไร้ค่าเบื่อหน่ายชีวิต
เพราะพ่อแม่หลายคนพอแก่ตัว ก็ไม่ยอมทำอะไรอีก รอแต่ลูก รอแต่คนมาดูแลอย่างเดียว
ยิ่งทำให้ตัวเองรู้สึกไร้ค่าในชีวิต พาลทำให้ลูกโดนต่อว่าไปด้วยว่าอกตัญญู ไม่มาดูแลพ่อแม่บ้าง
ทั้งที่บางทีลูกบางคนเค้าก็มีภาระชีวิตของตัวเองเหมือนกัน ไม่ใช่จะอยู่ติดบ้านพ่อแม่ได้ตลอดเวลา
หลายคนเค้าก็ยังกลับมาหาพ่อแม่ ดูแลพ่อแม่ แต่พ่อแม่ที่บางคนกลับไม่ทำอะไรเอาแต่รอลูก ก็ต่อว่าลูกก็มี
ทั้งที่ลูกตัวเองไม่ได้อกตัญญูซะหน่อย แต่เขาก็มีชีวิตของเขา ตัวพ่อแม่ก็ต้องรู้จักมีชีวิตของตัวเองด้วย
คุณค่าของมนุษย์คือ การทำให้ตัวเองมีค่าด้วยการทำอะไรเพื่อตัวเอง เพื่อคนอื่น ไม่ใช่รอคนอื่นมาช่วย
เพราะเราเป็นเจ้าชีวิตเราเองเท่านั้น ไม่ใช่เป็นเจ้าของชีวิตคนอื่นไปด้วย แม้กระทั่งลูกของตัวเอง
จะไปหวังให้เขาต้องมาดูแลเราตลอดไม่ได้ เราก็ต้องรู้จักดูแลตัวเองให้เป็นด้วย
ถ้าเราสอนลูกดี ไม่ต้องไปกลัว เขาไม่ลืมบุญคุณของเรา แต่ถ้าไม่ มันก็คงเป็นชะตาที่ต้องเป็นไปเช่นนั้น
เพราะเราไม่ใช่เจ้าของชีวิตใคร รักลูกแต่ก็อย่าลืมรักตัวเองด้วย นั่นสำคัญกว่าครับ
แต่อย่างหนึ่งที่เราทุกคนควรรู้ไว้คือ "เราให้กำเนิดลูก แต่ไม่ใช่เจ้าของชีวิตของลูก"
อย่าคาดหวังว่า "เมื่อลูกโตขึ้นมาจะต้องมาตอบแทนคุณเลี้ยงดูพ่อแม่ ไม่อย่างนั้นถือว่าอกตัญญู"
เพราะอันที่จริง การให้กำเนิดมนุษย์ มันไม่ใช่เกิดจากความกรุณาปราณี แต่เกิดจาก "ความอยาก"
"อยาก" มีลูก "อยาก" เติมเต็มครอบครัว "อยาก" มีคนสืบตระกูล "อยาก" มีเซ็กส์จนลืมป้องกัน
"อยาก" มีลูกไว้อวดเพื่อน "อยาก" เห็นลูกโตเป็นเจ้าคนนายคน ฯลฯ
มันเป็นเหตุผลความ "อยาก" ที่ลูกที่เกิดมาไม่ได้รับรู้ด้วย แต่ในที่สุดลูกทุกคนก็ต้องมาแบกเอาไว้
แม้ว่าพ่อแม่หลายคนก็ไม่ได้คาดหวังอะไร แต่เมื่อแรกคิดอยากจะมีลูก มันก็เริ่มด้วย "ความอยาก" แล้ว
เพราะการมีลูก มันเหมือนสัญชาตญาณดำรงเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ มากกว่าจะมีด้านดีจริงๆในตัวเอง
ที่พูดมานี่ ไม่ใช่อกตัญญู หรือไม่เห็นบุญคุณพ่อแม่นะครับ เราก็ควรจะดูแลพ่อแม่ของตัวเองให้ดี
แต่ก็ไม่ใช่ดูแลจนท่านทำอะไรไม่เป็น ต้องรอให้ลูกทำให้ตลอด อย่างนั้นก็จะกลายเป็นทุกข์ทั้งสองฝ่าย
พ่อแม่หลายคนก็รอแต่ลูกจะทำอะไรให้ จะเลี้ยงดูตัวเอง จนไม่เป็นอันทำอะไร อย่างนี้ก็ไม่พอดี
ลูกบางคน พอโตเลี้ยงดูตัวเองได้แล้ว ก็ลืมพ่อแม่ ไม่กลับไปหาหรือติดต่อบ้างเลย อย่างนี้ก็ไม่พอดี
คนเป็นพ่อแม่ ก็ต้องรู้จักที่จะดูแลตัวเองด้วย เพื่อนบ้านเพื่อนฝูงรู้จักติดต่อไว้ให้ดูแลกันและกันได้
ไม่ใช่รอแต่หวังพึ่งลูกจะกลับมาดูแล ควรหาอะไรทำเพื่อทำให้ตัวเองมีคุณค่า จะได้ไม่รู้สึกไร้ค่าเบื่อหน่ายชีวิต
เพราะพ่อแม่หลายคนพอแก่ตัว ก็ไม่ยอมทำอะไรอีก รอแต่ลูก รอแต่คนมาดูแลอย่างเดียว
ยิ่งทำให้ตัวเองรู้สึกไร้ค่าในชีวิต พาลทำให้ลูกโดนต่อว่าไปด้วยว่าอกตัญญู ไม่มาดูแลพ่อแม่บ้าง
ทั้งที่บางทีลูกบางคนเค้าก็มีภาระชีวิตของตัวเองเหมือนกัน ไม่ใช่จะอยู่ติดบ้านพ่อแม่ได้ตลอดเวลา
หลายคนเค้าก็ยังกลับมาหาพ่อแม่ ดูแลพ่อแม่ แต่พ่อแม่ที่บางคนกลับไม่ทำอะไรเอาแต่รอลูก ก็ต่อว่าลูกก็มี
ทั้งที่ลูกตัวเองไม่ได้อกตัญญูซะหน่อย แต่เขาก็มีชีวิตของเขา ตัวพ่อแม่ก็ต้องรู้จักมีชีวิตของตัวเองด้วย
คุณค่าของมนุษย์คือ การทำให้ตัวเองมีค่าด้วยการทำอะไรเพื่อตัวเอง เพื่อคนอื่น ไม่ใช่รอคนอื่นมาช่วย
เพราะเราเป็นเจ้าชีวิตเราเองเท่านั้น ไม่ใช่เป็นเจ้าของชีวิตคนอื่นไปด้วย แม้กระทั่งลูกของตัวเอง
จะไปหวังให้เขาต้องมาดูแลเราตลอดไม่ได้ เราก็ต้องรู้จักดูแลตัวเองให้เป็นด้วย
ถ้าเราสอนลูกดี ไม่ต้องไปกลัว เขาไม่ลืมบุญคุณของเรา แต่ถ้าไม่ มันก็คงเป็นชะตาที่ต้องเป็นไปเช่นนั้น
เพราะเราไม่ใช่เจ้าของชีวิตใคร รักลูกแต่ก็อย่าลืมรักตัวเองด้วย นั่นสำคัญกว่าครับ
แสดงความคิดเห็น
ลูกหลานไปทำงานไกลๆต้องไปมีครอบครัวทิ้งให้คนแก่ต้องอยู่บ้านตามลำพัง คุณอยากให้ลูกมาอยู่ไกล้ๆยามคุณแก่เฒ่าหรือป่าว