ธุรกิจ : BizWeek
วันที่ 7 มกราคม 2556 09:00
โดย : ชาลินี กุลแพทย์
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เปิดคำพยากรณ์ตลาดหุ้นปีมะเส็ง ทั้งมุม'โหราศาสตร์ 'อาจารย์ช้าง' ทศพร ศรีตุลา กับอีกสองเซียนหุ้นรายใหญ่ พร้อมใจฟันธงดัชนีมุ่งหน้าขาขึ้น
นับว่าเหนือความคาดหมายอย่างยิ่งสำหรับตลาดหุ้นไทยปีมะโรง (2555)หักปากกาบรรดา "เซียนหุ้น" ที่ออกมาตั้งโต๊ะทำนายว่า SET Index ปีที่ผ่านมา "ไม่น่าจะรุ่ง" จากปัจจัยวิกฤติหนี้สาธารณะในกลุ่มประเทศยูโรโซนที่ยืดเยื้อ เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกายังไม่ฟื้นตัว และเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง
แต่ตลาดหุ้นไทยกลับสร้างสถิติครั้งใหม่ในรอบ 16 ปี ทะยานจาก 1,025 จุด ขึ้นไปยืนเหนือ 1,300 จุดได้สำเร็จ ดัชนีย้อนกลับไปในปี 2539 และเป็นการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องติดต่อกันถึง 4 ปีเต็ม (2552-2555) ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ในปี 2555 นักโหรศาสตร์ทำนายว่า ปีมะโรง ธาตุน้ำ ตามคำทำนายอาจเกิดเหตุการณ์ "น้ำท่วมใหญ่" ซ้ำรอยในปี 2554 มีเพียง “อาจารย์ช้าง” ทศพร ศรีตุลา เจ้าของฉายา “ซินแสไฮโซ” ที่ออกมาทำนายว่า เมืองไทยควรระมัดระวังเรื่อง "ไฟ" มากกว่า "น้ำ"
ย้อนดูคำทำนาย "ซินแสไฮโซ" เมื่อปีที่แล้ว เจ้าตัวเคยพยากรณ์ไว้ว่า ในวันที่ 7 กันยายน 2555 ดาวเสาร์จะย้ายตำแหน่ง ฉะนั้นมีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 1,500-1,600 เหรียญต่อออนซ์ เป็น 1,700 เหรียญต่อออนซ์ และยังทำนายอีกว่า ราคาหุ้น Facebook ของ Mark Zuckerberg จะปรับตัวลดลง นักลงทุนจะ “เจ๊ง” กันถ้วนหน้า เพราะเจ้าของโดนดาวเสาร์ครอบงำ
สุดท้ายคำนายล้วนเป็นความจริง !
“เดี๋ยวนี้นักลงทุนและนักวิเคราะห์นิยมนำหลักโหรศาสตร์มาผสมผสานกับการลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น เห็นได้จากตลอดปีงูใหญ่ มีบริษัทหลายแห่งเชิญผมไปพูดเกี่ยวกับเรื่องหุ้นมากมาย” อาจารย์ช้าง..ทศพร ศรีตุลา กล่าวทักทายกรุงเทพธุรกิจ BizWeek ก่อนเปิดตำราทำนายตลาดหุ้น และเศรษฐกิจปีมะเส็ง (งูเล็ก) ให้ฟัง
อาจารย์ช้าง กล่าวว่า ปี 2556 ตามตำราจะตรงกับนักษัตร "ปีมะเส็ง" ธาตุน้ำ ซึ่งจะ "ปะทะ" (ชง) กับนักษัตร "ปีกุน" (หมู) มากที่สุด ส่วนปีมะเส็ง ปีวอก (ลิง) ปีขาล (เสือ) จะเป็น "ปีร่วมชง" แม้ปีนี้จะเป็นธาตุน้ำ แต่ยังควรระมัดระวังเรื่องไฟเหมือนปีก่อน โอกาสเกิดเหตุเพลิงไหม้ใหญ่ๆ ยังมีให้เห็นอยู่
ถ้าจะดู “ดวงเมือง” แบบไทยจะเริ่มในช่วงวันสงกรานต์ โดยตำแหน่งการเปลี่ยนแปลงของดวงดาวจะเริ่มตั้งแต่กลางปี 2556 ผมให้คำนิยามปีมะเส็งว่าเป็น “ปีคูณสอง” เพราะดาวเสาร์กับดาวราหูมาเจอกันในวันที่ 10 ธันวาคม 2555 ซึ่งใช้เวลาเป็นร้อยปีกว่าจะมาเจอกัน ดาวเสาร์กับดาวราหู ต่างมีความรุนแรงด้วยกันทั้งคู่
ทำให้พลังทุกอย่างมัน "คูณสอง"
แต่ถ้าดูในแบบจีนจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2556 ตำแหน่งของดวงดาวมาทับตำแหน่งเดิมทั้งหมด ทำให้ฮวงจุ้ย “คูณสอง” เหมือนกัน ด้านดีก็ดีสุดๆ มุมแย่ก็ร้ายสุดๆ ฉะนั้นในปี 2556 จะเป็นปีแห่ง “ความไม่พอดี”
ถ้าในแง่ของการลงทุนจะเป็น “ปีแห่งความผันผวนอย่างรุนแรง” จะผันผวนมากน้อยแค่ไหนให้เทียบกับปีที่ผ่านมา
โหรช้าง เปิดกระเป๋าหยิบ iPad ส่วนตัวขึ้นมาเพื่อบอกเล่าว่า ในปี 2556 ปัจจัยที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หรืออาจตลอดทั้งปี 2556 คือ ข้อ 1.เรื่องการเมืองจะไม่เรียบง่าย ไม่หมูเหมือนปีมะโรง การเมืองจะวุ่นวายจะเกิดการสับสน หรือมีการเปลี่ยนแปลง ทุกคนจะเริ่มเห็นตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 2 หรือประมาณเดือน พฤษภาคม-กรกฎาคม ช่วง 3 เดือนนี้
ข้อ 2.ยักษ์ใหญ่ระดับโลกจะมีปัญหา อาจเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา แม้วันนี้จะได้ผู้นำคนเดิม และดวงชะตาของ บารัก โอบามา ประธานาธิบดีคนที่ 44 จะอยู่ในเกณฑ์ดี (บารัก โอบามา เกิดวันที่ 4 สิงหาคม 1961) แต่เชื่อว่าบุคคลที่ทำหน้าที่ดูแลนโยบายการเงินของสหรัฐจะมีการเปลี่ยนแปลง
โดยเฉพาะ เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โอกาสที่เขาจะตกงานมีสูงมาก เพราะดวงชะตาของเขาชงเต็มๆ เขาเกิดราศีพิจิก นักษัตรปีมะเส็ง วันที่ 13 ธันวาคม 2496 ดวงในแง่ของราศีก็ไม่ดี ในด้านนักษัตรยิ่งแย่ใหญ่ ฉะนั้นหากเขายังเป็นประธานเฟด “บารัก โอบามา” น่าเป็นห่วง แต่ถ้าเปลี่ยนตัวแล้วก็ต้องมาดูดวงชะตาคนใหม่อีกครั้งว่าจะเข้ากันได้หรือไม่
ข้อ 3.ประเทศจีน ซึ่งถือเป็นยักษ์ใหญ่ของโลก อาจมีปัญหาเกิดขึ้นเช่นกัน เพราะ สี จิน ผิง ผู้นำคนใหม่ของจีน ดวงชะตาไม่ค่อยดี เขาเกิดราศีกุมภ์ นักษัตรปีมะเส็ง วันที่ 1 มีนาคม 2496 แม้ราศีกุมภ์ในปีนี้จะเป็น 1 ใน 3 ของราศีที่มีโชคของตำแหน่ง (ราศีเมถุน ราศีกุมภ์ และราศีธนู) แต่ด้วยความแรงของดวงดาว ทำให้เขามีอุปสรรคมากมาย ยิ่งอดีตผู้นำไม่มาช่วยเป็นเทนเนอร์อาจทำให้การทำงานของเขามีปัญหา แม้ “สี จิน ผิง” จะเป็นคนที่มองการณ์ไกล ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีของเขา แต่หากคนรอบตัวไม่สามารถสนองนโยบายได้ประเทศจีนมีปัญหาแน่นอน
ส่วนข้อ 4.ดวงชะตาของประเทศอินเดียจะมาแรงแซงแถบยุโรป แรงในมุมไม่ดีนะ! เพราะ มานโมฮัน ซิงห์ นายกรัฐมนตรีดวงชะตาไม่ดีเท่าไร เขาเกิดวันที่ 26 กันยายน 2479 นักษัตรปีวอก ซึ่งก็อยู่ในขบวนการชงของเรา (หัวเราะ) ถ้าคนนี้ยังอยู่ในตำแหน่ง ปัญหาในประเทศอินเดียจะหนัก ซึ่งเศรษฐกิจการลงทุนที่มีมูลค่ามหาศาล อาจมีการพลิกผันได้ง่าย
สุดท้าย คือ แถบยุโรปอาจเกิดปัญหาหนัก เพราะ มาริโอ้ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ดวงชะตาไม่ดี เขาเกิดวันที่ 3 กันยายน 2490 นักษัตรปีกุน เรียกได้ว่าเป็นเจ้าภาพของการชงในปีมะเส็ง (หัวเราะ)
จากปัจจัยทั้งหมดจะทำให้โลกเกิดความวุ่นวาย ซึ่งเมืองไทยก็จะโดนไปด้วย แต่เราโชคดีนิดหน่อยตรงที่เรื่องส่งออกสินค้าเกษตรกรรมของเรายังดีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นข้าว หรือยางพาราง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ฉะนั้นหากเราจัดการปัญหาภายในได้ โดยเฉพาะความขัดแย้งทางการเมืองภาวะเศรษฐกิจคงไปต่อได้ จริงๆ ห่วงเรื่องนี้มากเลย ถ้ามวลชนรวมตัวกันเมื่อไร เงินลงทุนจะไหลเข้าประเทศเพื่อนบ้านแน่นอน
ถามว่าปัจจัยทั้งหมดจะส่งผลให้ตลาดหุ้นเมืองไทยเป็นอย่างไร “หมอช้าง” ตอบว่า SET Index ปีมะเส็งยังคงเป็น “ขาขึ้น” เพียงแต่ว่าจะไม่ขึ้นตลอด สิ่งที่นักลงทุนต้องระวังมากที่สุด คือ ความผันผวนที่อาจรุนแรงมากในช่วงต้นปี 2556 โดยไตรมาส 2 จะออกแนว “พุ่งสุด-ต่ำสุด” เรียกได้ว่า กราฟหุ้นเป็นรูปตัวยู ถึงจะตกหนัก ก็ไม่หลุดระดับ 1,000 จุด ถ้าขึ้นสูงมีสิทธิทะลุ 1,500 จุด บนสมมติฐานไม่มีอุบัติเหตุทางการเมือง
"นักลงทุนที่ชอบเล่นระยะสั้นต้องระวังตัวมากๆ มีโอกาสขาดทุนหนักๆ ส่วนคนที่ชอบความเสี่ยงคงจะ “สนุก” เพราะมีรอบให้เล่นเยอะมาก นักลงทุนแบบอนุรักษ์นิยมจะ “ทุกข์” เพราะมีเรื่องให้เครียดบ่อยๆ ดังนั้นต้องติดตามข่าวสารต่างๆ อย่างใกล้ชิด ห้ามกระพริบตาอย่างเด็ดขาด"
โหรทศพร พยากรณ์ว่า ช่วงต้นปี 2556 จะเกิดการ “นิวไฮ” ในหลายๆ เรื่อง อาทิเช่น ดัชนีมีโอกาส “นิวไฮ” จะได้เห็นช่วงเดือนมกราคม 2556 นอกจากนั้นราคาทองคำจะมีความผันผวนมากมีโอกาสพุ่งไปแตะ 1,800 เหรียญต่อออนซ์ ซึ่งก็ใกล้จะถึงแล้ว ส่วนราคาน้ำมันยังไม่มั่นใจ เพราะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทำให้การใช้น้ำมันไม่คึกคักเท่าไร ฉะนั้นอาจไม่โดดเด่นเหมือนทองคำ
ถามว่าหุ้นกลุ่มไหนโดดเด่นในปี 2556 เขาทำท่าคิดก่อนตอบว่า หุ้นกลุ่มอาหาร โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ถือเป็นกลุ่มที่มาแรงมาก เพราะราคาอาหารและสินค้าเกษตรมีโอกาสเพิ่มขึ้นทุกปี แถมปี 2556 อาจสูงมากเป็นพิเศษ เพราะความต้องการและกำลังการผลิตมันไม่สมดุลกัน ถ้าเป็นเช่นนั้นนักลงทุนที่รอปันผลมีลุ้น
ในปี 2556 ดาวเสาร์และราหู จะเดินทางไปอยู่ใน "ธาตุลม" ฉะนั้นหุ้นที่ต้องระวัง คือ กลุ่มสื่อสาร แม้จะมีเรื่องระบบ 3G มาสนับสนุน แต่คงไม่ราบรื่นอย่างที่คิด ผลประกอบการจะไม่คึกคักเหมือนที่คาดการณ์ไว้ เพราะดวงไม่ได้ส่งให้ดี
หุ้นกลุ่มไอที ก็ต้องระวังเช่นกัน น่าจะยังมีปัญหาต่อเนื่อง เพราะยังอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวของวิกฤติดอทคอม ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงรอยต่อของปีมะโรงและปีมะเส็ง (ปี 2543-2544) นี่ก็ใกล้จะครบรอบ 12 ปีแล้ว ตอนทำทายเรื่องราคาหุ้น Facebook ก็ใช้หลักการนี้ในการทำนาย มันเป็นสถิติเมื่อใดที่เหตุการณ์ต่างๆ ครบรอบ 12 ปี มันจะเกิดซ้ำอีกครั้ง ทุกอย่างมันมีวัฎจักร
อาจารย์ช้าง ทิ้งท้ายว่า ใครอยากลงทุน แนะนำครึ่งปีแรกลุยเลย ยาวสั้นแล้วแต่สไตล์ การพยากรณ์เรื่องตลาดหุ้นเหมือนพยากรณ์อากาศ เมื่อได้ยินคำแนะนำแล้วจงลงทุนอย่างมีสติ ใครที่ดวงชะตาปะทะก็ให้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อเพิ่มพลังใจให้กับตัวเอง
"จงเปลี่ยนตัวเองก่อนที่ดวงชะตาจะเปลี่ยนเรา ไม่ว่าจะเปลี่ยนการแต่งตัวและของใช้ใหม่ๆ หรือจัดโต๊ะทำงานใหม่ อย่านำของมาวางจนโต๊ะรก โต๊ะทำงานไม่ใช่ตู้กับข้าว พยายามอย่าเอาของมาบังภูเขา ที่ผ่านมาคนชงรวยเยอะนะ เป็นเพราะเขาเปลี่ยนตัวเอง" อาจารย์ช้าง ตั้งข้อสังเกต
---------------------------------------
ต่อ..
โหราศาสตร์หุ้นปีงูเล็ก ระวังSET Index พุ่งสุด-ลงสุด
วันที่ 7 มกราคม 2556 09:00
โดย : ชาลินี กุลแพทย์
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เปิดคำพยากรณ์ตลาดหุ้นปีมะเส็ง ทั้งมุม'โหราศาสตร์ 'อาจารย์ช้าง' ทศพร ศรีตุลา กับอีกสองเซียนหุ้นรายใหญ่ พร้อมใจฟันธงดัชนีมุ่งหน้าขาขึ้น
นับว่าเหนือความคาดหมายอย่างยิ่งสำหรับตลาดหุ้นไทยปีมะโรง (2555)หักปากกาบรรดา "เซียนหุ้น" ที่ออกมาตั้งโต๊ะทำนายว่า SET Index ปีที่ผ่านมา "ไม่น่าจะรุ่ง" จากปัจจัยวิกฤติหนี้สาธารณะในกลุ่มประเทศยูโรโซนที่ยืดเยื้อ เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกายังไม่ฟื้นตัว และเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง
แต่ตลาดหุ้นไทยกลับสร้างสถิติครั้งใหม่ในรอบ 16 ปี ทะยานจาก 1,025 จุด ขึ้นไปยืนเหนือ 1,300 จุดได้สำเร็จ ดัชนีย้อนกลับไปในปี 2539 และเป็นการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องติดต่อกันถึง 4 ปีเต็ม (2552-2555) ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ในปี 2555 นักโหรศาสตร์ทำนายว่า ปีมะโรง ธาตุน้ำ ตามคำทำนายอาจเกิดเหตุการณ์ "น้ำท่วมใหญ่" ซ้ำรอยในปี 2554 มีเพียง “อาจารย์ช้าง” ทศพร ศรีตุลา เจ้าของฉายา “ซินแสไฮโซ” ที่ออกมาทำนายว่า เมืองไทยควรระมัดระวังเรื่อง "ไฟ" มากกว่า "น้ำ"
ย้อนดูคำทำนาย "ซินแสไฮโซ" เมื่อปีที่แล้ว เจ้าตัวเคยพยากรณ์ไว้ว่า ในวันที่ 7 กันยายน 2555 ดาวเสาร์จะย้ายตำแหน่ง ฉะนั้นมีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 1,500-1,600 เหรียญต่อออนซ์ เป็น 1,700 เหรียญต่อออนซ์ และยังทำนายอีกว่า ราคาหุ้น Facebook ของ Mark Zuckerberg จะปรับตัวลดลง นักลงทุนจะ “เจ๊ง” กันถ้วนหน้า เพราะเจ้าของโดนดาวเสาร์ครอบงำ
สุดท้ายคำนายล้วนเป็นความจริง !
“เดี๋ยวนี้นักลงทุนและนักวิเคราะห์นิยมนำหลักโหรศาสตร์มาผสมผสานกับการลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น เห็นได้จากตลอดปีงูใหญ่ มีบริษัทหลายแห่งเชิญผมไปพูดเกี่ยวกับเรื่องหุ้นมากมาย” อาจารย์ช้าง..ทศพร ศรีตุลา กล่าวทักทายกรุงเทพธุรกิจ BizWeek ก่อนเปิดตำราทำนายตลาดหุ้น และเศรษฐกิจปีมะเส็ง (งูเล็ก) ให้ฟัง
อาจารย์ช้าง กล่าวว่า ปี 2556 ตามตำราจะตรงกับนักษัตร "ปีมะเส็ง" ธาตุน้ำ ซึ่งจะ "ปะทะ" (ชง) กับนักษัตร "ปีกุน" (หมู) มากที่สุด ส่วนปีมะเส็ง ปีวอก (ลิง) ปีขาล (เสือ) จะเป็น "ปีร่วมชง" แม้ปีนี้จะเป็นธาตุน้ำ แต่ยังควรระมัดระวังเรื่องไฟเหมือนปีก่อน โอกาสเกิดเหตุเพลิงไหม้ใหญ่ๆ ยังมีให้เห็นอยู่
ถ้าจะดู “ดวงเมือง” แบบไทยจะเริ่มในช่วงวันสงกรานต์ โดยตำแหน่งการเปลี่ยนแปลงของดวงดาวจะเริ่มตั้งแต่กลางปี 2556 ผมให้คำนิยามปีมะเส็งว่าเป็น “ปีคูณสอง” เพราะดาวเสาร์กับดาวราหูมาเจอกันในวันที่ 10 ธันวาคม 2555 ซึ่งใช้เวลาเป็นร้อยปีกว่าจะมาเจอกัน ดาวเสาร์กับดาวราหู ต่างมีความรุนแรงด้วยกันทั้งคู่
ทำให้พลังทุกอย่างมัน "คูณสอง"
แต่ถ้าดูในแบบจีนจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2556 ตำแหน่งของดวงดาวมาทับตำแหน่งเดิมทั้งหมด ทำให้ฮวงจุ้ย “คูณสอง” เหมือนกัน ด้านดีก็ดีสุดๆ มุมแย่ก็ร้ายสุดๆ ฉะนั้นในปี 2556 จะเป็นปีแห่ง “ความไม่พอดี”
ถ้าในแง่ของการลงทุนจะเป็น “ปีแห่งความผันผวนอย่างรุนแรง” จะผันผวนมากน้อยแค่ไหนให้เทียบกับปีที่ผ่านมา
โหรช้าง เปิดกระเป๋าหยิบ iPad ส่วนตัวขึ้นมาเพื่อบอกเล่าว่า ในปี 2556 ปัจจัยที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หรืออาจตลอดทั้งปี 2556 คือ ข้อ 1.เรื่องการเมืองจะไม่เรียบง่าย ไม่หมูเหมือนปีมะโรง การเมืองจะวุ่นวายจะเกิดการสับสน หรือมีการเปลี่ยนแปลง ทุกคนจะเริ่มเห็นตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 2 หรือประมาณเดือน พฤษภาคม-กรกฎาคม ช่วง 3 เดือนนี้
ข้อ 2.ยักษ์ใหญ่ระดับโลกจะมีปัญหา อาจเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา แม้วันนี้จะได้ผู้นำคนเดิม และดวงชะตาของ บารัก โอบามา ประธานาธิบดีคนที่ 44 จะอยู่ในเกณฑ์ดี (บารัก โอบามา เกิดวันที่ 4 สิงหาคม 1961) แต่เชื่อว่าบุคคลที่ทำหน้าที่ดูแลนโยบายการเงินของสหรัฐจะมีการเปลี่ยนแปลง
โดยเฉพาะ เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โอกาสที่เขาจะตกงานมีสูงมาก เพราะดวงชะตาของเขาชงเต็มๆ เขาเกิดราศีพิจิก นักษัตรปีมะเส็ง วันที่ 13 ธันวาคม 2496 ดวงในแง่ของราศีก็ไม่ดี ในด้านนักษัตรยิ่งแย่ใหญ่ ฉะนั้นหากเขายังเป็นประธานเฟด “บารัก โอบามา” น่าเป็นห่วง แต่ถ้าเปลี่ยนตัวแล้วก็ต้องมาดูดวงชะตาคนใหม่อีกครั้งว่าจะเข้ากันได้หรือไม่
ข้อ 3.ประเทศจีน ซึ่งถือเป็นยักษ์ใหญ่ของโลก อาจมีปัญหาเกิดขึ้นเช่นกัน เพราะ สี จิน ผิง ผู้นำคนใหม่ของจีน ดวงชะตาไม่ค่อยดี เขาเกิดราศีกุมภ์ นักษัตรปีมะเส็ง วันที่ 1 มีนาคม 2496 แม้ราศีกุมภ์ในปีนี้จะเป็น 1 ใน 3 ของราศีที่มีโชคของตำแหน่ง (ราศีเมถุน ราศีกุมภ์ และราศีธนู) แต่ด้วยความแรงของดวงดาว ทำให้เขามีอุปสรรคมากมาย ยิ่งอดีตผู้นำไม่มาช่วยเป็นเทนเนอร์อาจทำให้การทำงานของเขามีปัญหา แม้ “สี จิน ผิง” จะเป็นคนที่มองการณ์ไกล ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีของเขา แต่หากคนรอบตัวไม่สามารถสนองนโยบายได้ประเทศจีนมีปัญหาแน่นอน
ส่วนข้อ 4.ดวงชะตาของประเทศอินเดียจะมาแรงแซงแถบยุโรป แรงในมุมไม่ดีนะ! เพราะ มานโมฮัน ซิงห์ นายกรัฐมนตรีดวงชะตาไม่ดีเท่าไร เขาเกิดวันที่ 26 กันยายน 2479 นักษัตรปีวอก ซึ่งก็อยู่ในขบวนการชงของเรา (หัวเราะ) ถ้าคนนี้ยังอยู่ในตำแหน่ง ปัญหาในประเทศอินเดียจะหนัก ซึ่งเศรษฐกิจการลงทุนที่มีมูลค่ามหาศาล อาจมีการพลิกผันได้ง่าย
สุดท้าย คือ แถบยุโรปอาจเกิดปัญหาหนัก เพราะ มาริโอ้ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ดวงชะตาไม่ดี เขาเกิดวันที่ 3 กันยายน 2490 นักษัตรปีกุน เรียกได้ว่าเป็นเจ้าภาพของการชงในปีมะเส็ง (หัวเราะ)
จากปัจจัยทั้งหมดจะทำให้โลกเกิดความวุ่นวาย ซึ่งเมืองไทยก็จะโดนไปด้วย แต่เราโชคดีนิดหน่อยตรงที่เรื่องส่งออกสินค้าเกษตรกรรมของเรายังดีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นข้าว หรือยางพาราง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ฉะนั้นหากเราจัดการปัญหาภายในได้ โดยเฉพาะความขัดแย้งทางการเมืองภาวะเศรษฐกิจคงไปต่อได้ จริงๆ ห่วงเรื่องนี้มากเลย ถ้ามวลชนรวมตัวกันเมื่อไร เงินลงทุนจะไหลเข้าประเทศเพื่อนบ้านแน่นอน
ถามว่าปัจจัยทั้งหมดจะส่งผลให้ตลาดหุ้นเมืองไทยเป็นอย่างไร “หมอช้าง” ตอบว่า SET Index ปีมะเส็งยังคงเป็น “ขาขึ้น” เพียงแต่ว่าจะไม่ขึ้นตลอด สิ่งที่นักลงทุนต้องระวังมากที่สุด คือ ความผันผวนที่อาจรุนแรงมากในช่วงต้นปี 2556 โดยไตรมาส 2 จะออกแนว “พุ่งสุด-ต่ำสุด” เรียกได้ว่า กราฟหุ้นเป็นรูปตัวยู ถึงจะตกหนัก ก็ไม่หลุดระดับ 1,000 จุด ถ้าขึ้นสูงมีสิทธิทะลุ 1,500 จุด บนสมมติฐานไม่มีอุบัติเหตุทางการเมือง
"นักลงทุนที่ชอบเล่นระยะสั้นต้องระวังตัวมากๆ มีโอกาสขาดทุนหนักๆ ส่วนคนที่ชอบความเสี่ยงคงจะ “สนุก” เพราะมีรอบให้เล่นเยอะมาก นักลงทุนแบบอนุรักษ์นิยมจะ “ทุกข์” เพราะมีเรื่องให้เครียดบ่อยๆ ดังนั้นต้องติดตามข่าวสารต่างๆ อย่างใกล้ชิด ห้ามกระพริบตาอย่างเด็ดขาด"
โหรทศพร พยากรณ์ว่า ช่วงต้นปี 2556 จะเกิดการ “นิวไฮ” ในหลายๆ เรื่อง อาทิเช่น ดัชนีมีโอกาส “นิวไฮ” จะได้เห็นช่วงเดือนมกราคม 2556 นอกจากนั้นราคาทองคำจะมีความผันผวนมากมีโอกาสพุ่งไปแตะ 1,800 เหรียญต่อออนซ์ ซึ่งก็ใกล้จะถึงแล้ว ส่วนราคาน้ำมันยังไม่มั่นใจ เพราะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทำให้การใช้น้ำมันไม่คึกคักเท่าไร ฉะนั้นอาจไม่โดดเด่นเหมือนทองคำ
ถามว่าหุ้นกลุ่มไหนโดดเด่นในปี 2556 เขาทำท่าคิดก่อนตอบว่า หุ้นกลุ่มอาหาร โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ถือเป็นกลุ่มที่มาแรงมาก เพราะราคาอาหารและสินค้าเกษตรมีโอกาสเพิ่มขึ้นทุกปี แถมปี 2556 อาจสูงมากเป็นพิเศษ เพราะความต้องการและกำลังการผลิตมันไม่สมดุลกัน ถ้าเป็นเช่นนั้นนักลงทุนที่รอปันผลมีลุ้น
ในปี 2556 ดาวเสาร์และราหู จะเดินทางไปอยู่ใน "ธาตุลม" ฉะนั้นหุ้นที่ต้องระวัง คือ กลุ่มสื่อสาร แม้จะมีเรื่องระบบ 3G มาสนับสนุน แต่คงไม่ราบรื่นอย่างที่คิด ผลประกอบการจะไม่คึกคักเหมือนที่คาดการณ์ไว้ เพราะดวงไม่ได้ส่งให้ดี
หุ้นกลุ่มไอที ก็ต้องระวังเช่นกัน น่าจะยังมีปัญหาต่อเนื่อง เพราะยังอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวของวิกฤติดอทคอม ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงรอยต่อของปีมะโรงและปีมะเส็ง (ปี 2543-2544) นี่ก็ใกล้จะครบรอบ 12 ปีแล้ว ตอนทำทายเรื่องราคาหุ้น Facebook ก็ใช้หลักการนี้ในการทำนาย มันเป็นสถิติเมื่อใดที่เหตุการณ์ต่างๆ ครบรอบ 12 ปี มันจะเกิดซ้ำอีกครั้ง ทุกอย่างมันมีวัฎจักร
อาจารย์ช้าง ทิ้งท้ายว่า ใครอยากลงทุน แนะนำครึ่งปีแรกลุยเลย ยาวสั้นแล้วแต่สไตล์ การพยากรณ์เรื่องตลาดหุ้นเหมือนพยากรณ์อากาศ เมื่อได้ยินคำแนะนำแล้วจงลงทุนอย่างมีสติ ใครที่ดวงชะตาปะทะก็ให้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อเพิ่มพลังใจให้กับตัวเอง
"จงเปลี่ยนตัวเองก่อนที่ดวงชะตาจะเปลี่ยนเรา ไม่ว่าจะเปลี่ยนการแต่งตัวและของใช้ใหม่ๆ หรือจัดโต๊ะทำงานใหม่ อย่านำของมาวางจนโต๊ะรก โต๊ะทำงานไม่ใช่ตู้กับข้าว พยายามอย่าเอาของมาบังภูเขา ที่ผ่านมาคนชงรวยเยอะนะ เป็นเพราะเขาเปลี่ยนตัวเอง" อาจารย์ช้าง ตั้งข้อสังเกต
---------------------------------------
ต่อ..