ขอปรึกษาหน่อยครับ เมื่อกลางปีที่ผ่านมา (2012) มีอาการเจ็บหน้าอกจึงได้ไปตรวจที่ศูนย์โรคหัวใจของรพ.เอกชนแห่งหนึ่ง
ผลการตรวจเลือด คลอเรสตอโรล 147 ไตรกรี 170 (ผมอายุ40ต้นๆ  สูง 174 หนัก 80กก.) จากนั้นก็ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจวิ่งสายพาน ซึ่งคุณหมอก็บอกว่าปกติ ผมน่าจะเจ็บหน้าอกจากสาเหตุอื่นมากกว่า

จากนั้นก็กลับมาหาหมอที่รพ.ประจำ ก็วินิจฉัยว่าเกิดจากกรดไหลย้อนก็ทานยา อาการก็ดูเหมือนจะดีขึ้น แต่เมื่อเดือนธันวาทื่ผ่านอาการปวดหน้าอกเริ่มลามไปที่ไหล่และต้นแขนด้านซ้ายก็รีบไปหาคุณหมอที่รพ.ประจำ คุณหมอท่านก็ให้ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ซึ่งท่านก็บอกว่าปกติ

-อาการปวดไหล่และต้นแขนนี่จะเป็นซ้ายบ้างขวาบ้าง แต่ส่วนมากจะเกิดที่ด้านซ้ายมากกว่า บางทีจะลามขึ้นไปที่บริเวณคอและกรามด้านซ้าย
-อาการปวดไหล่ช่วงหลังจะรู้สึกได้ชัดเจนกว่าปวดแน่นหน้าอก
-อาการเจ็บหน้าอกจะเป็นตอนท้องว่าง และตามด้วยการเรอ
-อาการเจ็บเหมือนจะไม่สัมพันธ์กับการออกกำลัง บางทีนั่งทำงานก็เป็นขึ้นมาเอง เวลาออกกำลังก็เป็นบ้างในบางครั้งแต่พอออกกำลังหนักๆอาการก็ไม่ได้เจ็บมากขึ้น

จึงอยากจะขอคำแนะนำด้วยครับ ญาติก็บอกให้ไปขอฉีดสีหัวใจเลยจะได้รู้ว่าเป็นโรคหัวใจหรือไม่ แต่บางคนก็บอกว่าไม่จำเป็นก็ไม่ควรฉีดเพราะมีอันตรายเหมือนกัน และคุณหมอที่รักษาประจำก็บอกว่าอาการของผมไม่ใช่โรคหัวใจ (คุณหมอท่านเป็นอายุรแพทย์ปกตินะครับไม่ใช่แพทย์เฉพาะทาง)

ตอนนี้ก็ค่อนข้างกังวลกับเรื่องนี้ครับ ทำให้ไม่กล้าไปวิ่งออกกำลังตามปกติ