ก่อนอื่นขอบอกจากใจ ก่อนว่า น้ำใจ และกำลังใจ และคำน่ะนำจากเพื่อนๆในห้องแมวนี้ เป็นพลังหล่อเลี้ยงให้สามารถ ยังยืนอยู่ได้ ยังสู้ต่อไหว ยังดำเนินชีวิตต่อไปได้ ยังมีหวัง ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกๆท่านนะครับ อ่านทุกความเห็นครับ แม้อาจจะไม่ได้ตอบรายท่าน ต้องขอโทษด้วยนะครับ
จากระทู้เดิมนะครับครับ
http://ppantip.com/topic/30004858
http://www.ppantip.com/topic/13126177
http://www.ppantip.com/cafe/jatujak/topic/J13038969/J13038969.html
http://www.ppantip.com/cafe/jatujak/topic/J13078248/J13078248.html
http://www.ppantip.com/cafe/jatujak/topic/J13083131/J13083131.html
ผ่านไปกวา 1 เดือน หลังจากรู้ว่า สงกรานต์ ที่หายไปน่าจะเพราะติดรถลูกรายหนึ่งไป และรู้ว่าลูกค้ารายนั้น คืออู่จิว อู่ซ่อมรถที่อยู่บนถนนสายเดียวกับที่บ้าน แต่ห่างไป สัก 7-800 เมตร และชักถอดใจ แต่เพื่อนๆแน่ะนำให้สู้ต่อ หาต่อ อย่าท้อ
2 คืนก่อน เกือบ ตี 1 ถนนเงียบแล้ว ออกปฎิบัติการ ตามหาสงกรานต์ต่อ โดยเอาจักรยานปั่นออกตามหา พร้อมไฟฉาย ไม้เล็กๆ ป้ายประกาศ กาว น้ำดืม เงิน 140 บาท เสื้อแจ๊คเก็ตเก่าๆ ปลาทู 1 ขันปั่นจากบ้านในทิศเข้าหาอู่ที่สงสัยว่า สงกรานต์ติดรถไปที่นั้น พอเริ่มห่างบ้านเกินระนะที่แมวจะกลับเองไม่ได้ ก็ลงจูงจักรยาน ที่เปิดไฟกะพริบๆ ไว้ให้รถมองเห็นตัวเรา
เริ่มร้องเรียก เรียกชื่อ ร้องเหมี๊ยวๆๆ อย่างที่เคยเรียกสงกรานต์ เดินๆหยุดๆ เรียกแล้วรอฟังเสียงตอบ เดิน เรียก และแปะใบประกาศ เลี้ยวเข้าซอยที่อยู่ระหว่างทางไปสักระยะนึ่ง ก็ย้อนกลับเข้าทางหลัก เดินๆ เรียกๆ มุ่งเข้าหาอู่...................หมาเยอะจริงๆ พอได้ยินเสียงผมร้องเรียกแมว เห่ากันขร่มไปเลย ก่อนถึงอู่ มี 4 แยก ก็เลี้ยวซ้าย เข้าไปเป็นป่ารกๆ ที่รกร้างตลอดทาง มีบ้านห่างๆกัน 2-3 หลังเอง แถมมีหมาเยอะมาก เปลี่ยวและเงียบมาก หากเป็นคนกลัวผี คงสยองน่าดู แต่ผมกลับรู้สึกไม่กลัว เพราะรู้ว่าถึงมีเขาก็ไม่มายุ่งกับเราหรอก เพราะเราอ่อนน้อมถ่อมตนกับเขา เขาคงมีแต่สงสารเรามากกว่า
เข้าไป3-400 เมตร ถึงบ้านสวนลุงริน ที่เขาโทรมาบอกว่าแมวเราเข้าไปตายในสวนเขา ก็ย้อนกลับ ไม่มีแมวเลย น่าจะเพราะหมาเยอะมาก เดินย้อนกลับจูงจักรยานด้วย เจอหมาหมู่ฮืออกมา ก็เอาไม้เรียวขู่ ย้อยกลับก็ร้องเรียกแล้วหยุดฟัง จนกลับถุง 1 แยก ก็เลี้ยวซ้ายเดินไปหาอู่ ที่ห่างไปสัก 2-300 เมตร มีบ้านไม่กี่หลังเอง ถึงบริเวณอู่ ที่กว้างมากๆ สัก10 ไร่ได้มั่ง มีแต่หญ้ารกๆ ชัยภูมิดีมาก สำหรับแมว ที่จะหลบภัย เพราะอู่มีหมา แค่ตัวเดียว แถมไม่ค่อยดุด้วย ฝั่งครงข้ามเป็นตึกแถวเงียบๆ ตรงหัวตึกแถว ที่ตรงกันข้ามกับรถคันต้องสงสัยจอดพอดี เป็นร้านของฝากก๋งชัย มีลักษณะเป็เหมือนโกดังกว้างๆ มีลานจอดรถกว้าง โล่ง เงียบ และไม่มีหมาสักตัวเดียว แหมชัยภูมิดีเหลือเกินสำหรับแมวที่จะหลบภัย ใช้เวลากับตรงนี้ขาไป นานพอดู เรียกแล้วเรียกอีก จนที่สุดต้องเดินต่อไป จากตรงอู่เลยไปไม่มีบ้านคนแล้ว มีแต่ป่ารกๆ ทั้ง 2 ฝั่ง พยามเดินเรียกต่อไป กว่าจะมีบ้านคนก็ห่างไปสัก 400 เมตร เพื่อความแน่ใจก็เดินร้องเรียกจนคิดว่าไม่น่าที่เขาจะมาถึงนี้ ก็เลี้ยวกลับ
เดินเลียบถนนอีกฝั่ง ย้อนกลับมาถึง บริเวณอู่ และร้านก๋งชัย ไม่รู้ทำไมคิดใจที่นี้จัง รู้สึกว่า วงกรานต์หากติดรถมาจริงก้อาจจะวิ่งข้ามฝั่งมาหลบแถวร้านของฝากนี้ก็ได้ เพราะกว้าง ดีแถมไม่มีหมา ด้านหลังร้านยังมี่ซอกมุมให้ ให้หลบ และบริเวณนี้ ยังใกล้บ้าน...........................................เจ๊แมว ด้วย เจ๊แมว(ที่ผมแอบเรียก)หรือ เจ๊มัทร เป็นคนรักแมวมาก เลี้ยงแมวกว่า 20 ตัวละมั่ง เป็นคนที่ใครๆก็รู้จัก ในเรื่องเกี่ยวกับแมวครับ เจ๊มัทร ก็รู้เรื่องที่สงกรานต์หายไป และตอนได้ตัวผิดคืนมาแกก็รู้ว่าได้แมวคืนแล้ว แต่ตอนที่รู้ว่าผิดตัวเนี้ย เจ๊แมวยังไม่รู้เรื่อง
หลังบ้านเจ๊แมว ติดกับร้านก๋งชัย เพราะตึกแถวเดียวกัน แต่เป็นด้านที่เลี้ยวไปใน 4 แยก คือตึกมันเป็นรูปตัว L ครับ อาจจะเป็นไปได้ที่สงกรานต์อาจจะหลบแถวนี้ปะปนกับแมว ของเจ๊แมวก็ได้ แต่ดึกขนาดนี้ไม่รู้จะถามใคร ได้แต่พยามร้องเรียกอยู่นานจนแน่ใจว่าไม่มีเสียงตอบแน่ ก็เดินกลับเข้าหา 4 แยก พอถึงก็เลี้ยวศ้ายไปทางแยกที่ยังไม่ได้เข้าไป เดินผ่านหน้าบ้านเจ๊แมว ติดประกาศตรงที่คราวก่อนมาดึงออกไปแล้ว
แถวนี้มืดมาก มืดจริงๆ ไฟไม่มีเปิดเลยสักบ้าน ไฟถนนก็ไม่มี แต่ล่ะบ้านเปิดแค่ไฟสีแดงๆดวงเล็กๆ มองเข้าไปในแต่ล่ะบ้าน มีน้องนางหน้าแฉล่ม ซุ่มตัวมองมาเงียบๆ ออลืมบอก แถวนี้คือย่านสุขสำราญของพวกผู้ชายซุกซน แหมยังกับแดนลี้ลับ ชวนให้ค้นหาจริงๆ แต่ผมไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นร้องเรียกหาแมว ย่านถิ่นราตรี
มืดก็มืด แถมยังเงียบอีก แปลกจัง ไอ้เราก็ตาไม่ค่อยดี เดินอย่างระวังช้าๆ ขณเดินร้องเรียก รู้สึกเหมือนมีตัวอะไรวิ่งเข้ามาหาครับ พอมาใกล้ก็เห็นว่าเป็นแมวตัวโต ตกใจมือไม้สั่นรีบคว้าไฟฉายมาส่องดู โถ่ ดันกลายเป็นไอ้เสือดำเสียนี้ ตัวดำมิดหมี ทั้งตัว นึกว่า สงกรานต์เสียอีก แถมยังเดินตามต้อยๆอีก สงสัยหอมปลาทู ต้องบอกว่าหาสงกรานต์ไม่ได้หาดำ สักพักเจ้าดำเลยเดินสะบัดหางจากไป
เสียดายตอนนั้นยังไม่ได้อ่านคำแน่ะนำของคุณmatinman ที่บอกว่าน้องสาวคุณออกตามหาแมวที่หายไป เวลาเจอหมาแมวกลางทาง ก็ฝากบอกไปถึงแมวของเราว่าให้กลับบ้านด้วย ให้บอกทางกลับบ้านให้ด้วย เดียวคืนนี้จะลองออกไปหาอีกจะใช้วิธีนี้ดู รวมถึงเจอศาลเจ้าที่ พะถูมิ ก็จะบอกให้ท่านบอกทางกลับบ้านให้ สงกรานต์ด้วย
เดินเรียกไป น้องๆก็ถามว่ายังไม่เจอแมวอีกเหรอพี่ เลยแวะคุย แวะเล่า แจกใบปลิว ทั้งฝากฝั่งด้วยว่ากากเจอให้บอกด้วยนะ และมีรางวัลให้ด้วยหาแถวนี้ไม่มีก็เริ่มย้อนทางกลับบ้าน ร้องเรียกไปตลอดทาง จนใกล้ถึงบ้านก็ปั่นกลับมาด้วยความท้อแท้
อัพเด็ท การตามหา พ่อสกรานต์ แมวที่หายไปครับ มาดูน้ำใจของตนเพ และน้ำใจของคนรักแมวกันครับ
ก่อนอื่นขอบอกจากใจ ก่อนว่า น้ำใจ และกำลังใจ และคำน่ะนำจากเพื่อนๆในห้องแมวนี้ เป็นพลังหล่อเลี้ยงให้สามารถ ยังยืนอยู่ได้ ยังสู้ต่อไหว ยังดำเนินชีวิตต่อไปได้ ยังมีหวัง ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกๆท่านนะครับ อ่านทุกความเห็นครับ แม้อาจจะไม่ได้ตอบรายท่าน ต้องขอโทษด้วยนะครับ
จากระทู้เดิมนะครับครับ
http://ppantip.com/topic/30004858
http://www.ppantip.com/topic/13126177
http://www.ppantip.com/cafe/jatujak/topic/J13038969/J13038969.html
http://www.ppantip.com/cafe/jatujak/topic/J13078248/J13078248.html
http://www.ppantip.com/cafe/jatujak/topic/J13083131/J13083131.html
ผ่านไปกวา 1 เดือน หลังจากรู้ว่า สงกรานต์ ที่หายไปน่าจะเพราะติดรถลูกรายหนึ่งไป และรู้ว่าลูกค้ารายนั้น คืออู่จิว อู่ซ่อมรถที่อยู่บนถนนสายเดียวกับที่บ้าน แต่ห่างไป สัก 7-800 เมตร และชักถอดใจ แต่เพื่อนๆแน่ะนำให้สู้ต่อ หาต่อ อย่าท้อ
2 คืนก่อน เกือบ ตี 1 ถนนเงียบแล้ว ออกปฎิบัติการ ตามหาสงกรานต์ต่อ โดยเอาจักรยานปั่นออกตามหา พร้อมไฟฉาย ไม้เล็กๆ ป้ายประกาศ กาว น้ำดืม เงิน 140 บาท เสื้อแจ๊คเก็ตเก่าๆ ปลาทู 1 ขันปั่นจากบ้านในทิศเข้าหาอู่ที่สงสัยว่า สงกรานต์ติดรถไปที่นั้น พอเริ่มห่างบ้านเกินระนะที่แมวจะกลับเองไม่ได้ ก็ลงจูงจักรยาน ที่เปิดไฟกะพริบๆ ไว้ให้รถมองเห็นตัวเรา
เริ่มร้องเรียก เรียกชื่อ ร้องเหมี๊ยวๆๆ อย่างที่เคยเรียกสงกรานต์ เดินๆหยุดๆ เรียกแล้วรอฟังเสียงตอบ เดิน เรียก และแปะใบประกาศ เลี้ยวเข้าซอยที่อยู่ระหว่างทางไปสักระยะนึ่ง ก็ย้อนกลับเข้าทางหลัก เดินๆ เรียกๆ มุ่งเข้าหาอู่...................หมาเยอะจริงๆ พอได้ยินเสียงผมร้องเรียกแมว เห่ากันขร่มไปเลย ก่อนถึงอู่ มี 4 แยก ก็เลี้ยวซ้าย เข้าไปเป็นป่ารกๆ ที่รกร้างตลอดทาง มีบ้านห่างๆกัน 2-3 หลังเอง แถมมีหมาเยอะมาก เปลี่ยวและเงียบมาก หากเป็นคนกลัวผี คงสยองน่าดู แต่ผมกลับรู้สึกไม่กลัว เพราะรู้ว่าถึงมีเขาก็ไม่มายุ่งกับเราหรอก เพราะเราอ่อนน้อมถ่อมตนกับเขา เขาคงมีแต่สงสารเรามากกว่า
เข้าไป3-400 เมตร ถึงบ้านสวนลุงริน ที่เขาโทรมาบอกว่าแมวเราเข้าไปตายในสวนเขา ก็ย้อนกลับ ไม่มีแมวเลย น่าจะเพราะหมาเยอะมาก เดินย้อนกลับจูงจักรยานด้วย เจอหมาหมู่ฮืออกมา ก็เอาไม้เรียวขู่ ย้อยกลับก็ร้องเรียกแล้วหยุดฟัง จนกลับถุง 1 แยก ก็เลี้ยวซ้ายเดินไปหาอู่ ที่ห่างไปสัก 2-300 เมตร มีบ้านไม่กี่หลังเอง ถึงบริเวณอู่ ที่กว้างมากๆ สัก10 ไร่ได้มั่ง มีแต่หญ้ารกๆ ชัยภูมิดีมาก สำหรับแมว ที่จะหลบภัย เพราะอู่มีหมา แค่ตัวเดียว แถมไม่ค่อยดุด้วย ฝั่งครงข้ามเป็นตึกแถวเงียบๆ ตรงหัวตึกแถว ที่ตรงกันข้ามกับรถคันต้องสงสัยจอดพอดี เป็นร้านของฝากก๋งชัย มีลักษณะเป็เหมือนโกดังกว้างๆ มีลานจอดรถกว้าง โล่ง เงียบ และไม่มีหมาสักตัวเดียว แหมชัยภูมิดีเหลือเกินสำหรับแมวที่จะหลบภัย ใช้เวลากับตรงนี้ขาไป นานพอดู เรียกแล้วเรียกอีก จนที่สุดต้องเดินต่อไป จากตรงอู่เลยไปไม่มีบ้านคนแล้ว มีแต่ป่ารกๆ ทั้ง 2 ฝั่ง พยามเดินเรียกต่อไป กว่าจะมีบ้านคนก็ห่างไปสัก 400 เมตร เพื่อความแน่ใจก็เดินร้องเรียกจนคิดว่าไม่น่าที่เขาจะมาถึงนี้ ก็เลี้ยวกลับ
เดินเลียบถนนอีกฝั่ง ย้อนกลับมาถึง บริเวณอู่ และร้านก๋งชัย ไม่รู้ทำไมคิดใจที่นี้จัง รู้สึกว่า วงกรานต์หากติดรถมาจริงก้อาจจะวิ่งข้ามฝั่งมาหลบแถวร้านของฝากนี้ก็ได้ เพราะกว้าง ดีแถมไม่มีหมา ด้านหลังร้านยังมี่ซอกมุมให้ ให้หลบ และบริเวณนี้ ยังใกล้บ้าน...........................................เจ๊แมว ด้วย เจ๊แมว(ที่ผมแอบเรียก)หรือ เจ๊มัทร เป็นคนรักแมวมาก เลี้ยงแมวกว่า 20 ตัวละมั่ง เป็นคนที่ใครๆก็รู้จัก ในเรื่องเกี่ยวกับแมวครับ เจ๊มัทร ก็รู้เรื่องที่สงกรานต์หายไป และตอนได้ตัวผิดคืนมาแกก็รู้ว่าได้แมวคืนแล้ว แต่ตอนที่รู้ว่าผิดตัวเนี้ย เจ๊แมวยังไม่รู้เรื่อง
หลังบ้านเจ๊แมว ติดกับร้านก๋งชัย เพราะตึกแถวเดียวกัน แต่เป็นด้านที่เลี้ยวไปใน 4 แยก คือตึกมันเป็นรูปตัว L ครับ อาจจะเป็นไปได้ที่สงกรานต์อาจจะหลบแถวนี้ปะปนกับแมว ของเจ๊แมวก็ได้ แต่ดึกขนาดนี้ไม่รู้จะถามใคร ได้แต่พยามร้องเรียกอยู่นานจนแน่ใจว่าไม่มีเสียงตอบแน่ ก็เดินกลับเข้าหา 4 แยก พอถึงก็เลี้ยวศ้ายไปทางแยกที่ยังไม่ได้เข้าไป เดินผ่านหน้าบ้านเจ๊แมว ติดประกาศตรงที่คราวก่อนมาดึงออกไปแล้ว
แถวนี้มืดมาก มืดจริงๆ ไฟไม่มีเปิดเลยสักบ้าน ไฟถนนก็ไม่มี แต่ล่ะบ้านเปิดแค่ไฟสีแดงๆดวงเล็กๆ มองเข้าไปในแต่ล่ะบ้าน มีน้องนางหน้าแฉล่ม ซุ่มตัวมองมาเงียบๆ ออลืมบอก แถวนี้คือย่านสุขสำราญของพวกผู้ชายซุกซน แหมยังกับแดนลี้ลับ ชวนให้ค้นหาจริงๆ แต่ผมไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นร้องเรียกหาแมว ย่านถิ่นราตรี
มืดก็มืด แถมยังเงียบอีก แปลกจัง ไอ้เราก็ตาไม่ค่อยดี เดินอย่างระวังช้าๆ ขณเดินร้องเรียก รู้สึกเหมือนมีตัวอะไรวิ่งเข้ามาหาครับ พอมาใกล้ก็เห็นว่าเป็นแมวตัวโต ตกใจมือไม้สั่นรีบคว้าไฟฉายมาส่องดู โถ่ ดันกลายเป็นไอ้เสือดำเสียนี้ ตัวดำมิดหมี ทั้งตัว นึกว่า สงกรานต์เสียอีก แถมยังเดินตามต้อยๆอีก สงสัยหอมปลาทู ต้องบอกว่าหาสงกรานต์ไม่ได้หาดำ สักพักเจ้าดำเลยเดินสะบัดหางจากไป
เสียดายตอนนั้นยังไม่ได้อ่านคำแน่ะนำของคุณmatinman ที่บอกว่าน้องสาวคุณออกตามหาแมวที่หายไป เวลาเจอหมาแมวกลางทาง ก็ฝากบอกไปถึงแมวของเราว่าให้กลับบ้านด้วย ให้บอกทางกลับบ้านให้ด้วย เดียวคืนนี้จะลองออกไปหาอีกจะใช้วิธีนี้ดู รวมถึงเจอศาลเจ้าที่ พะถูมิ ก็จะบอกให้ท่านบอกทางกลับบ้านให้ สงกรานต์ด้วย
เดินเรียกไป น้องๆก็ถามว่ายังไม่เจอแมวอีกเหรอพี่ เลยแวะคุย แวะเล่า แจกใบปลิว ทั้งฝากฝั่งด้วยว่ากากเจอให้บอกด้วยนะ และมีรางวัลให้ด้วยหาแถวนี้ไม่มีก็เริ่มย้อนทางกลับบ้าน ร้องเรียกไปตลอดทาง จนใกล้ถึงบ้านก็ปั่นกลับมาด้วยความท้อแท้